ธรรมลิขิตบาไฮสำหรับชีวิตประจำวัน

จงสวดวจนะของพระผู้เป็นเจ้าทุกเช้าค่ำ ผู้ที่ไม่สวดเท่ากับไม่ปฏิบัติตามสัญญาต่อพระปฏิญญาและพินัยกรรมของพระองค์ และใครที่เมินพระปฏิญญาในยุคนี้เท่ากับเมินพระผู้เป็นเจ้ามาแต่โบราณกาล ดูกร คนรับใช้ของเรา จงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า

จงอ่านวจนะที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยทุกวัน พระพรจงมีแด่ผู้ที่สวดวจนะและใคร่ครวญดูความหมาย ความจริงแล้วเขาคือผู้ที่จะได้ดี

จงอ่านวจนะของเราด้วยความเบิกบานหรรษา แท้จริงแล้ววจนะเหล่านี้จะดึงดูดเจ้าเข้ามาหาพระผู้เป็นเจ้า และจะช่วยให้เจ้าตัดความผูกพันจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์ ดังนี่คือคำตักเตือนที่อยู่ในธรรมลิขิตของพระผู้เป็นเจ้าและในธรรมจารึกนี้

พระบาฮาอุลลาห์

มีนาคม

21 มีนาคม

ฉลองวันนอว์รูซ

ปีใหม่บาไฮ

ดูกร บุตรแห่งอาณาจักรสวรรค์! นี้คือวันปีใหม่กล่าวคือ เป็นวันบรรจบครบรอบปี หนึ่งปีคือครบรอบวัฏจักร (ของดวงอาทิตย์) และบัดนี้คือจุดเริ่มต้นของวัฏจักรแห่งความเป็นจริง เป็นวัฏจักรใหม่ ยุคใหม่ ศตวรรษใหม่ เวลาใหม่และปีใหม่ ดังนั้นจึงมีพรมาก

เราปรารถนาให้พรนี้มาปรากฏในใบหน้าและลักษณะนิสัยของบาไฮ เพื่อว่าพวกเขาจะกลายเป็นประชาชนใหม่ด้วยเช่นกัน พบชีวิตใหม่และได้รับการชำระด้วยไฟและวิญญาณ ทำโลกนี้ให้เป็นโลกใหม่ จนพิภพนี้หายไปและพิภพใหม่ปรากฏขึ้นมา ความคิดเก่าจากไปและความคิดใหม่เข้ามา เสื้อผ้าเก่าทิ้งไปและสวมเสื้อผ้าใหม่ เลิกการเมืองโบราณที่อยู่บนรากฐานของสงคราม และการเมืองสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่บนสันติชูธงชัยขึ้น ดาวดวงใหม่เรืองแสงเป็นประกาย ตะวันใหม่ส่องรัศมี ดอกไม้ใหม่เบ่งบาน วสันตฤดูใหม่มาถึง สายลมใหม่พัดมา พระพรใหม่หลั่งมา ต้นไม้ใหม่ออกผลใหม่ น้ำเสียงใหม่เปล่งขึ้นและไปถึงหู เพื่อว่าสิ่งใหม่ๆ จะตามกันมา เครื่องตกแต่งเก่าถูกทิ้งไปและแทนด้วยเครื่องประดับใหม่ๆ

พระอับดุลบาฮา (DR 18)

วันนี้คือวันที่ได้รับพรอย่างแท้จริง เพราะเป็นเริ่มต้นของฤดูที่อบอุ่น เป็นการเริ่มต้นวสันตฤดูในซีกโลกตอนเหนือ ทุกสรรพสิ่งบนโลกไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สัตว์หรือมนุษย์ กลับสดชื่นขึ้นใหม่ และได้รับพลังชีวิตใหม่จากสายลมที่ให้ชีวิต เกิดการฟื้นคืนชีพ และเพราะว่าเป็นวสันตฤดู จึงมีความตื่นตัวเป็นพิเศษในทุกชีวิต…

…ทุกชาติมีวันที่เป็นวันหยุดที่พวกเขาฉลองด้วยความหรรษา ในกฎศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ในทุกยุควัฏจักรและทุกยุคศาสนา มีงานฉลอง วันหยุด วันหยุดงาน ในวันดังกล่าว งานทุกชนิด พาณิชย์ อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ฯลฯ ไม่เป็นที่อนุญาต…ทุกคนต้องมาสนุกสนาน ชุมนุมกัน…เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันที่ได้รับพร จึงไม่ควรเป็นที่ละเลยจนปราศจากผลและจำกัดอยู่ที่ความเพลิดเพลินเท่านั้น…ดังนั้น ผู้ที่ฉลาดต้องแสวงหาและไต่สวนความจริงเพื่อดูว่า กิจการอะไรที่สำคัญ สถาบันเพื่อมนุษยธรรมอะไรที่จำเป็นที่สุด และควรวางรากฐานอะไรสำหรับชุมชนในวันพิเศษนี้ เพื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะได้รับการก่อตั้ง ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเขาพบว่าชุมชนขาดศีลธรรม ก็ให้วางรากฐานของศีลธรรมในวันนี้ ถ้าชุมชนขาดการแพร่กระจายศาสตร์และขยายวงความรู้ ขอให้พวกเขาเริ่มดำเนินการในวันนี้ กล่าวคือให้ชักนำความคิดของประชาชนทั้งปวงมายังความมุ่งหมายเพื่อมนุษยธรรมนี้ อย่างไรก็ตาม หากชุมชนขาดการขยายวงศ์พาณิชย์หรืออุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม พวกเขาควรริเริ่มวิธีการ เพื่อจะได้บรรลุเป้าประสงค์ หากชุมชนขาดการคุ้มครอง ค้ำจุนและดูแลเด็กกำพร้าอย่างเหมาะสม พวกเขาควรลงมือในเรื่องความผาสุกของเด็กกำพร้า ฯลฯ ภารกิจที่เป็นประโยชน์ต่อคนยากไร้ คนอ่อนแอและหมดหนทาง ควรดำเนินไป เพื่อว่าในวันนี้ โดยอาศัยความสามัคคีของทุกคน และโดยการประชุมอันยิ่งใหญ่ จะมีผลบังเกิดขึ้น ความรุ่งโรจน์และพระพรของวันนี้จะประกาศออกไปให้เป็นที่ประจักษ์

ทำนองเดียวกันในยุคศาสนาที่น่าพิศวงนี้ วันนี้ (นอว์รูซ) คือวันที่ได้รับพร มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าควรหนักแน่นในการรับใช้ พวกเขาต้องปรองดองรักใคร่และเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากที่สุด พนมมือ และสาละวนอยู่กับการรำลึกถึงพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร และคิดถึงผลอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดจากวันที่ได้รับพรนี้

ปัจจุบันนี้ไม่มีผลใดยิ่งใหญ่กว่าการนำทางประชาชน เพราะประชาชนที่หมดหนทางเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเปอร์เซีย ยังคงไม่ได้รับส่วนแบ่งจากพระพรของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีข้อสงสัยว่าในวันนี้ มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าต้องทิ้งร่องรอยแห่งมนุษยธรรมที่ควรไปถึงมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่เพียงแต่ที่เกี่ยวกับบาไฮเท่านั้น

พระอับดุลบาฮา (DR 18-21)

ณ ช่วงเวลานี้ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่จุดสูงสุด เวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน ขั้วโลกเหนืออยู่ในความมืดมาจนกระทั่งวันนี้ที่ดวงอาทิตย์ปรากฏให้เห็นบนขอบฟ้า วันนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่เส้นศูนย์สูตร และซีกโลกทั้งสองได้รับแสงสว่างเท่ากัน วันศักดิ์สิทธิ์นี้ที่ดวงอาทิตย์ส่องสว่างทั้งโลกเท่ากันเรียกว่าอีไควนอกซ์ และอีไควนอกซ์ คือสัญลักษณ์ของพระศาสดา ของพระผู้เป็นเจ้า ธรรมาทิตย์ขึ้นมาบนขอบฟ้าแห่งความปรานีสวรรค์และแผ่รังสีออกไป วันนี้ให้ไว้สำหรับการรำลึกถึงสิ่งนี้ อีไควนอกซ์คือจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขึ้นมาที่อีไควนอกซ์ ดวงอาทิตย์ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในสิ่งมีชีวิตทั้งปวง แร่ธาตุเริ่มเคลื่อนไหว พืชเริ่มงอกงาม ทะเลทรายกลายเป็นทุ่งหญ้า ต้นไม้แตกหน่อ และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดตอบสนอง รวมทั้งสัตว์และมนุษย์

การที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมาที่อีไควนอกซ์คือสัญลักษณ์แห่งชีวิต และทำนองเดียวกันก็เป็นสัญลักษณ์ของพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้า เพราะการขึ้นมาของธรรมาทิตย์บนนภาแห่งความอารีสวรรค์คือสัญญาณแห่งชีวิตสำหรับโลก สภาวะที่แท้จริงของมนุษย์เริ่มมีชีวิตความคิดของเราเปลี่ยนไป และสติปัญญาของเราแข็งขันขึ้น ธรรมาทิตย์ประสาทชีวิตนิรันดร์เฉกเช่นดวงอาทิตย์เป็นเหตุแห่งชีวิตบนพิภพ

พระอับดุลบาฮา (DR 21-22)

22 มีนาคม

ยุคนี้คือราชันแห่งยุคทั้งหลาย คือยุคที่ได้เห็นการเสด็จมาของพระผู้เป็นที่รักยิ่ง พระผู้ได้รับการต้อนรับมาตลอดนิรันดรกาลว่าเป็นยอดปรารถนาของโลก สรรพภาวะในยุคนี้เรืองรัศมีของการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งนี้ ทุกสรรพสิ่งร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีคุณประโยชน์ของยุคนี้ จักรวาลอิ่มเอิบด้วยความเบิกบานสุขหรรษา คัมภีร์ทั้งหลายของยุคศาสนาในอดีตสรรเสริญงานที่ต้องเฉลิมฉลองยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ของพระผู้เป็นเจ้า ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้มีชีวิตอยู่และยอมรับสถานะของยุคนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 107)

23 มีนาคม

เป็นที่ประจักษ์ว่า ในทุกยุคที่พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ถูกสวรรค์กำหนดไว้ และนัยหนึ่งอาจถือว่าเป็นยุคที่กำหนดไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า อย่างไรก็ตามในยุคนี้เป็นยุคที่พิเศษและต่างจากยุคก่อนๆ ฉายา ?ตราประทับของพระศาสดา? เปิดเผยสถานะอันสูงส่งของตนอย่างบริบูรณ์แล้ว วัฏจักรแห่งคำทำนายได้สิ้นสุดแล้ว พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์เสด็จมาแล้ว พระองค์ทรงชูธงแห่งอานุภาพ และบัดนี้กำลังสาดรัศมีอันเจิดจ้าแห่งการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์มายังพิภพ ในการเปิดเผยพระธรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ ยุคศาสนาทั้งปวงในอดีตได้ก้าวมาถึงจุดสมบูรณ์สุดของตน สิ่งที่ปรากฏในการเปิดเผยพระธรรมที่ล้ำเลิศและประเสริฐสุดครั้งนี้ หาที่เปรียบไม่ได้ในประวัติการณ์ในอดีต แม้ยุคอนาคตก็ไม่มีเสมอเหมือน

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 167)

24 มีนาคม

ดูกร ประชาชน พระผู้เป็นเจ้าคือพยานของเรา ขณะที่เราหลับอยู่บนบรรถร ดูซิ สายลมของพระผู้เป็นเจ้าพัดมายังเรา และปลุกเราให้ตื่นจากความหลับใหล พระวิญญาณของพระองค์ฟื้นชีวิตให้เรา และชิวหาของเราเปล่งเสียงร้องเรียกของพระองค์ อย่ากล่าวหาว่าเราละเมิดพระผู้เป็นเจ้า อย่ามองดูเราด้วยตาของเจ้าแต่จงมองด้วยตาของเรา ดังนี้คือคำตักเตือนเจ้าจากพระผู้เป็นผู้ทรงกรุณา พระผู้ทรงรอบรู้ ดูกร ประชาชน เจ้าคิดว่าเราควบคุมพระประสงค์และเจตนาของพระผู้เป็นเจ้าไว้ในกำมือของเราหรือ?…หากชะตาของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ในมือของเรา เราจะไม่มีวันแสดงตัวเราให้ปรากฏต่อเจ้าแม้เพียงชั่วขณะ ไม่ยินยอมให้แม้แต่วจนะเดียวหลุดจากริมฝีปากของเรา แท้จริงแล้ว พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานต่อสิ่งนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 90-91)

25 มีนาคม

แสงสว่างของมนุษย์คือความยุติธรรม จงอย่าดับแสงนี้ด้วยวายุแห่งการกดขี่หรือการใช้อำนาจบาตรใหญ่ จุดประสงค์ของความยุติธรรมคือการบังเกิดขึ้นของเอกภาพในหมู่มนุษย์ มหาสมุทรแห่งเมธาสวรรค์สาดซัดอยู่ในวจนะอันประเสริฐ ขณะที่ตำราทั้งหลายของโลกไม่สามารถบรรจุความหมายของวจนะ หากมนุษยชาติสวมภูษานี้ พวกเขาย่อมได้เห็นดวงตะวันแห่งวาทะ ?ในวันนั้นพระผู้เป็นเจ้าจะประทานความอุดมของพระองค์ให้แก่ทุกคน? เรืองแสงสว่างไสวอยู่บนขอบฟ้าของพิภพ

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 66-67)

26 มีนาคม

ในทุกยุคศาสนา การนำทางสวรรค์ได้รวมแสงมายังหัวข้อสำคัญหนึ่งข้อ…ในการเปิดเผยพระธรรมอันน่าพิศวงครั้งนี้ ในศตวรรษอันรุ่งโรจน์นี้ รากฐานของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและลักษณะเด่นของกฎของพระองค์คือ ความสำนึกในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติ

จงดูซิว่า แสงสว่างนี้กำลังรุ่งอรุณขึ้นมาบนขอบฟ้าที่มืดมนของโลกอย่างไร เทียนอันแรกคือเอกภาพของการปกครอง ซึ่งแสงริบหรี่ของเอกภาพนี้เริ่มปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน เทียนอันที่สองคือเอกภาพของความคิดเกี่ยวกับภารกิจของโลก ซึ่งจะบังเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในไม่ช้า เทียนอันที่สามคือเอกภาพของอิสรภาพซึ่งจะมาถึงอย่างแน่นอน เทียนอันที่สี่คือเอกภาพของศาสนาซึ่งเป็นศิลาหลักของรากฐานของเอกภาพเอง และอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าจะเปิดเผยความสว่างไสวทั้งหมดของเอกภาพนี้ออกมา เทียนอันที่ห้าคือเอกภาพของชาติทั้งหลายซึ่งจะสถาปนาอย่างมั่นคงในศตวรรษนี้ และจะทำให้ประชาชาติทั้งปวงบนโลกถือว่าตนเป็นพลเมืองของปิตุภูมิเดียวกัน เทียนอันที่หกคือเอกภาพของเชื้อชาติ ซึ่งจะทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกเป็นประชาชนและวงศ์ตระกูลเดียวกัน เทียนอันที่เจ็ดคือเอกภาพของภาษา กล่าวคือ การเลือกภาษาสากลหนึ่งภาษาซึ่งจะนำมาสอนประชาชาติทั้งปวงและใช้สนทนาเอกภาพทั้งหมดนี้จะมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องด้วยอานุภาพของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยให้บังเกิดขึ้น

พระอับดุลบาฮา (WOB 36, 39)

27 มีนาคม

วาทะของพระผู้เป็นเจ้าคือตะเกียง และแสงของตะเกียงคือวจนะเหล่านี้: พวกเจ้าคือผลไม้บนต้นเดียวกันและใบไม้บนกิ่งเดียวกัน จงปฏิบัติต่อกันและกันด้วยความรักใคร่ปรองดองที่สุด ด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพ พระผู้เป็นดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรมเป็นพยานให้เรา! แสงแห่งความสามัคคีนั้นมีอานุภาพมากและสามารถส่องทั่วพิภพให้สว่างไสว พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว พระผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่งทรงยืนยันสัจธรรมของวจนะเหล่านี้ด้วยพระองค์เอง จงพยายาม เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้บรรลุถึงสถานะอันประเสริฐสุดนี้ เป็นสถานะที่สามารถรับประกันความคุ้มครองและความปลอดภัยให้แก่มวลมนุษยชาติ…

ความผาสุกของมนุษยชาติ สันติภาพและความปลอดภัย ไม่สามารถบรรลุได้ ?นอกจากความสามัคคีของมนุษยชาติจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง ความสามัคคีนี้จะสัมฤทธิ์ผลไม่ได้ ตราบใดที่คำแนะนำที่ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งเปิดเผยไว้ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่

โดยอาศัยอานุภาพของวจนะที่พระองค์เปล่ง มวลมนุษยชาติสามารถเรืองรองด้วยแสงแห่งความสามัคคี และการระลึกถึงพระนามของพระองค์สามารถจุดไฟขึ้นในหัวใจของมวลมนุษย์ และเผาม่านที่กั้นระหว่างพวกเขาและความรุ่งโรจน์ของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 288, 286)

28 มีนาคม

จุดหมายของการมาปรากฏของพระผู้ทรงความสมบูรณ์อันอุดมพร ขอให้ชีวิตของเราสละเพื่อบรรดาผู้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์ คือความสามัคคีลงรอยของประชาชนทั้งปวงบนโลก ดังนั้นความปรารถนาสูงสุดของเราประการแรกคือ ความปรองดอง ความสามัคคี และความรักใคร่ในหมู่บาไฮ และหลังจากนั้นในหมู่ประชาชนทั้งปวงบนโลก…

แต่ละคนมองเห็นความงามของพระผู้เป็นเจ้าสะท้อนอยู่ในวิญญาณของกันและกัน และด้วยพบจุดที่คล้ายคลึงกันนี้ พวกเขาจึงดึงดูดเข้าหากันและกันด้วยความรัก ความรักนี้จะทำให้มวลมนุษย์เป็นคลื่นในทะเลเดียวกัน เป็นดวงดาราบนนภาเดียวกัน เป็นผลไม้บนต้นเดียวกัน ความรักนี้จะบันดาลให้เกิดความปรองดอง ซึ่งเป็นรากฐานของความสามัคคีที่แท้จริง

พระอับดุลบาฮา (BWF 402, PT 180)

29 มีนาคม

?ขอให้เจ้าห่วงใยที่จะช่วยเหลือผู้ที่ศีลธรรมตกต่ำเป็นสำคัญ เพื่อมิให้เขาจมลงไปในปลักจนดับสูญ และจงช่วยให้เขายอมรับศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าที่มีมาแต่โบราณกาล เจ้าควรประพฤติตนต่อเพื่อนบ้านในลักษณะที่ สัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวจะเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน เพราะเจ้าคือคนแรกในหมู่มนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยพระวิญญาณของพระองค์ คือคนแรกที่บูชาและคุกเข่าต่อพระองค์ คือคนแรกที่รายล้อมบัลลังก์แห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์?…?จงเปล่งวาจาและประกาศศาสนาของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งนี้ดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติทั้งปวงในอดีตหรืออนาคต หากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจสัจธรรมนี้?…?จงแข่งกันรับใช้พระผู้เป็นเจ้าและศาสนาของพระองค์ แท้จริงแล้วนี้คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าทั้งในโลกนี้และโลกหน้า พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นเจ้าแห่งความปรานี คือพระผู้ทรงรับทราบทุกอย่าง พระผู้ทรงรอบรู้?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 70)

30 มีนาคม

ดูกร สหาย! อย่าได้เฉยเมยต่อคุณค่าที่เจ้าได้รับการประสาท หรือละเลยจุดหมายอันสูงส่งของเจ้า อย่าให้ความอุตสาหะของเจ้าละลายไปกับจินตนาการอันไร้สาระที่บางคนคิดขึ้นมาเอง พวกเจ้าคือดวงดาราบนนภาแห่งปัญญา คือสายลมยามอุษา คือธาราไหลริน อันเป็นที่พึ่งแห่งชีวิตของมวลมนุษย์ คืออักษรที่จารึกอยู่ในม้วนพระธรรมของพระองค์ จงพยายามด้วยความสามัคคีที่สุด และด้วยดวงจิตแห่งมิตรภาพอันไพบูลย์ เพื่อว่าเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือให้บรรลุสิ่งที่คู่ควรกับยุคของพระผู้เป็นเจ้านี้ แท้จริงแล้วการทะเลาะวิวาทและการพิพาท และสิ่งใดก็ตามที่จิตใจรังเกียจไม่คู่ควรกับฐานะของมนุษย์ จงทุ่มพลังงานในการเผยแพร่ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ใครที่คู่ควรกับงานอันสูงส่งนี้ ขอให้เขาลุกขึ้นและส่งเสริมศาสนา ใครที่ทำไม่ได้มีหน้าที่แต่งตั้งผู้ที่จะประกาศพระธรรมนี้แทนเขา ซึ่งอานุภาพของการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ได้ทำให้รากฐานของโครงสร้างมหึมาต้องสั่นสะเทือน ภูเขาทุกลูกถูกบดเป็นธุลี และวิญญาณทุกดวงงงจนพูดไม่ออก

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 196-7)

31 มีนาคม

ความรุ่งโรจน์ของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้านั้นสว่างไสวมาก จนแม้แต่คนตาบอดก็รับรู้ได้ เช่นนั้นแล้วผู้ที่มีสายตาแหลมคมและพิสุทธิ์จะมองเห็นได้ดีกว่าเพียงไหน คนตาบอดถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็นแสงอาทิตย์ ก็ยังรู้สึกถึงความร้อนของดวงอาทิตย์ได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่หัวใจบอดในหมู่ประชาชนแห่งคัมภีร์บายัน และพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานให้เรา ไม่ว่าดวงอาทิตย์จะส่องแสงมายังพวกเขานานเท่าไร ก็ไม่สามารถมองเห็นความรุ่งโรจน์อันสว่างไสวหรือรู้สึกถึงความอบอุ่นของรังสีของดวงอาทิตย์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 106)

เมษายน

1 เมษายน

อย่าทำให้ลิ้นของเจ้าสกปรกโดยการพูดไม่ดีเกี่ยวกับผู้อื่น จงถือว่าศัตรูคือมิตร และผู้ที่คิดร้ายคือผู้หวังดี เจ้าต้องไม่มองความชั่วร้ายว่าเป็นความชั่วร้ายแล้วกลบกลืนไว้ในความคิด เพราะการปฏิบัติอย่างนุ่มนวลและเมตตาต่อผู้ที่เจ้าถือว่าชั่วร้ายหรือเป็นศัตรู คือการเสแสร้ง เป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรหรืออนุญาต เจ้าต้องถือว่าศัตรูของเจ้าคือมิตร ผู้คิดร้ายคือผู้หวังดี และปฏิบัติต่อเขาตามนั้น จงประพฤติตนด้วยหัวใจที่เป็นอิสระจากความเกลียดชัง อย่าให้หัวใจของเจ้าขุ่นเคืองผู้ใด หากใครประทุษร้ายหรือกระทำสิ่งผิดพลาดต่อเจ้า เจ้าต้องให้อภัยเขาทันที จงอย่าบ่นว่าคนอื่น จงละเว้นจากการต่อว่าพวกเขา และเมื่อเจ้าต้องการให้คำตักเตือนหรือแนะนำ จงให้อย่างที่ไม่ทำให้ผู้ฟังหนักใจ จงมุ่งคิดแต่จะทำให้หัวใจทั้งหลายเบิกบาน

พระอับดุลบาฮา (PUP 453)

2 เมษายน

ผู้แสวงหาที่แท้จริงไม่ค้นหาสิ่งใดนอกจากจุดหมายที่เขาแสวงหา และคนรักไม่ปรารถนาอื่นใดนอกจากกลับมาอยู่ร่วมกับผู้ที่เขารัก ผู้แสวงหาจะไปไม่ถึงจุดหมายนอกจากว่าเขาจะเสียสละทุกสิ่ง นั่นคือ สิ่งใดก็ตามที่เขาได้เห็น ได้ยินและเข้าใจมา เขาต้องไม่ปักใจเชื่อ เพื่อว่าเขาจะได้เข้าไปในอาณาจักรของวิญญาณซึ่งเป็นนครของพระผู้เป็นเจ้า เราจำเป็นต้องบากบั่นหากจะแสวงหาพระองค์ จำเป็นต้องกระตือรือร้นหากเราจะดื่มน้ำผึ้งแห่งการกลับมาอยู่ร่วมกับพระองค์ และหากเราได้ลิ้มถ้วยน้ำนี้ เราจะสลัดโลกทิ้งไป

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 7)

3 เมษายน

จงบูชาพระผู้เป็นเจ้าอย่างที่หากการบูชานั้นนำเจ้าไปสู่ไฟ เจ้าก็ไม่ผันแปรในการบูชา และก็ไม่ผันแปรเช่นกันหากเจ้าได้รับสวรรค์เป็นการตอบแทน ดังนี้และดังนี้เท่านั้นคือการบูชาที่คู่ควรกับพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว หากเจ้าบูชาพระองค์เพราะความกลัว สิ่งนี้ไม่คู่ควรกับราชสำนักอันวิสุทธิ์ซึ่งเป็นที่สถิตของพระองค์ และไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นการกระทำที่อุทิศต่อความเป็นหนึ่งของพระองค์ หรือหากเจ้าจ้องไปยังสวรรค์และบูชาพระองค์ด้วยความหวังดังกล่าว เจ้าย่อมทำให้สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างมาตีเสมอกับพระองค์ แม้ว่ามนุษย์ทุกคนปรารถนาสวรรค์ก็ตาม

ไฟและสวรรค์ต่างน้อมคำนับและหมอบลงต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่คู่ควรกับสาระของพระองค์คือการบูชาพระองค์เพื่อเห็นแก่พระองค์ โดยไม่กลัวไฟหรือคาดหวังสวรรค์

พระบ๊อบ (SWB 77-78)

4 เมษายน

การอธิษฐานอันเป็นที่ยอมรับมากที่สุดคือการอธิษฐานด้วยใจที่บริสุทธิ์และผ่องใส การอธิษฐานที่ยืดยาวไม่เป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า การอธิษฐานด้วยใจบริสุทธิ์และไม่ยึดมั่นมากเท่าไร ย่อมเป็นที่ยอมรับต่อเบื้องพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้ามากเท่านั้น

พระบ๊อบ (SWB 77-8)

ในการอธิษฐานขั้นสูงสุด มนุษย์จะอธิษฐานเพื่อความรักของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น มิใช่ว่าเพราะกลัวพระองค์หรือกลัวนรก มิใช่เพราะหวังจะได้พรหรือได้ขึ้นสวรรค์

พระอับดุลบาฮา (IPMAD 27)

5 เมษายน

ดูกร ประชาชนแห่งคัมภีร์บายัน!…จงดูซิว่าทันใดที่เราเปิดเผยตนเอง เจ้าได้ปฏิเสธสัจธรรมของเราและเมินเราอย่างไร และเป็นพวกที่ถือว่าเครื่องหมายของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องเล่นยามว่าง!

ความงามของเราเป็นพยาน! ในยุคนี้ไม่มีสิ่งใดจากเจ้าเป็นที่ยอมรับ แม้ว่าเจ้าจะบูชาและหมอบลงต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดอาณาจักรนิรันดรกาลของพระองค์ เพราะทุกสิ่งขึ้นกับพระประสงค์ของพระองค์ และคุณค่าของการกระทำทุกอย่างขึ้นกับการยอมรับ และเป็นที่ยินดีของพระองค์ ทั้งจักรวาลเป็นเพียงดินในกำมือของพระองค์ นอกเสียจากว่าผู้นั้นจะยอมรับพระผู้เป็นเจ้าและรักพระองค์ เสียงร้องของเขาในยุคนี้จะไม่ได้ยินไปถึงพระผู้เป็นเจ้า นี้คือแก่นของศาสนาของพระองค์ หากเจ้าเพียงแต่รู้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 292-3)

6 เมษายน

หน้าที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเจ้าทุกคนคือ การเลือกสิ่งที่ไม่มีใครมาล่วงล้ำหรือแย่งชิงไปได้ สิ่งนั้นและพระผู้ทรงมหิทธานุภาพเป็นพยานให้เราคือ ความรักของพระผู้เป็นเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 261)

ไม่มีสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อวิญญาณนอกจากความรักของพระผู้ทรงปรานี

พระอับดุลบาฮา (SWAB 178)

7 เมษายน

พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงหนึ่งเดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ทรงมอบการปกครองพิภพให้กับกษัตริย์ทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์จะกระทำสิ่งที่ขัดกับการพินิจพิจารณาของบรรดาผู้ที่อยู่ในอำนาจ สิ่งที่พระองค์สำรองไว้สำหรับพระองค์เองคือนครแห่งหัวใจของมนุษย์ และบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ พระผู้ทรงเป็นสัจธรรมสูงสุดในยุคนี้ คือกุญแจไขนครเหล่านี้ พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้พวกเขาทุกคนสามารถไขประตูของนครเหล่านี้ด้วยอานุภาพของพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด นี้คือความหมายของการช่วยเหลือพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ซึ่งเป็นหัวข้อที่ปากกาของพระผู้ทรงบันดาลให้รุ่งอรุณมาปรากฏ ได้พาดพิงไว้ในคัมภีร์และธรรมจารึกทั้งหมดของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 241-2)

8 เมษายน

งานฉลองบุญ ความรุ่งโรจน์

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

เราหวังว่างานฉลองบุญสิบเก้าวันจะเป็นสถาบันที่จัดตั้งอย่างมั่นคง เพื่อว่าความวิสุทธิ์ที่อยู่เบื้องหลังการประชุมนี้จะขจัดอคติและความขัดแย้งออกไป และทำให้หัวใจเป็นคลังแห่งความรัก หากแม้ว่ามีความรู้สึกไม่รักกันแม้เพียงน้อยที่สุดระหว่างบางคน ความรู้สึกนั้นต้องหายไปโดยสิ้นเชิง และเจตนาต้องบริสุทธิ์และปลอดโปร่ง

เจ้าถามเกี่ยวกับงานฉลองบุญในทุกเดือนบาไฮ งานฉลองบุญนี้จัดขึ้นเพื่อทำนุบำรุงมิตรภาพและความรัก เพื่อระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และวิงวอนพระองค์ด้วยหัวใจที่สำนึกผิด เพื่อให้กำลังใจในการดำเนินกิจที่เป็นกุศล นั่นคือมิตรสหายควรพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ สวดบทอธิษฐานและวจนะศักดิ์สิทธิ์ และปฏิบัติต่อกันและกันด้วยความเมตตาและความรักที่สุด หากมีความยุ่งยากเกิดขึ้นระหว่างมิตรสหายสองคน ขอให้เชิญทั้งสองมาเพื่อพยายามปรองดองข้อขัดแย้ง ขอให้การอภิปรายอยู่ที่การทำกุศลกิจและสิ่งที่ดีงามเพื่อว่าจะบังเกิดผลที่น่าสรรเสริญ

พระอับดุลบาฮา (NDF no. 18, 9)

9 เมษายน

ดูกร หญิงรับใช้ที่รักของพระผู้เป็นเจ้า! เราได้รับจดหมายจากเจ้าและรับทราบเนื้อหาแล้ว เจ้าถามเกี่ยวกับหลักนำทางชีวิตของเจ้า

จงเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า และตรึงสายตาไปยังอาณาจักรสวรรค์อันประเสริฐ จงหลงรักพระผู้ทรงความงามอับฮาและมั่นคงในพระปฏิญญา จงใฝ่ปรารถนาจะขึ้นไปสู่สวรรค์แห่งอาภาสากล จงตัดขาดจากโลกนี้และเกิดใหม่ด้วยสุคนธรสแห่งความวิสุทธิ์ที่โชยมาจากอาณาจักรของพระผู้ทรงความสูงส่ง จงเรียกให้ผู้คนมาหาความรักและจงเมตตาต่อมวลมนุษยชาติ จงรักบุตรหลานของมนุษย์และร่วมรับความทุกข์โศกของพวกเขา จงเป็นพวกที่ทำนุบำรุงสันติสุข จงเสนอมิตรภาพและคู่ควรที่จะได้รับความไว้วางใจ จงเป็นขี้ผึ้งสำหรับความเจ็บปวดทุกอย่าง เป็นยาสำหรับโรคภัยทุกประการ จงสมานวิญญาณทั้งหลายเข้าด้วยกัน จงสวดวจนะแห่งการนำทาง บูชาพระผู้เป็นนาย และลุกขึ้นนำประชาชนไปให้ถูกทาง จงเปล่งวาจาและสอนศาสนา และให้ใบหน้าของเจ้าสุกใสด้วยไฟแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า อย่าพักแม้ชั่วขณะหรือพยายามผ่อนลมหายใจ ดังนี้แล้วเจ้าจะกลายเป็นเครื่องหมายและสัญลักษณ์แห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า เป็นธงแห่งพระกรุณาของพระองค์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 26)

10 เมษายน

โลกนี้เป็นเพียงการแสดง ไร้สาระและว่างเปล่า เป็นเพียงศูนยภาพที่คล้ายคลึงความจริง อย่าใฝ่เสน่หาต่อโลกนี้ อย่าสลายพันธะที่เชื่อมเจ้ากับพระผู้สร้าง และอย่าเป็นพวกที่หลงผิดและหลงออกไปจากหนทางของพระองค์ แท้จริงแล้วโลกนี้เป็นเสมือนไอระเหยในทะเลทราย ซึ่งผู้กระหายฝันว่าเป็นน้ำ และพยายามไขว่คว้าด้วยพลังทั้งหมดของตน จนกระทั่งเมื่อตนมาถึง จึงพบว่าเป็นเพียงภาพลวงตา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 328)

อย่าเศร้าโศกต่อความยุ่งยากและลำบากในโลกนี้ หรือดีใจในยามสุขสบายและผ่อนคลาย เพราะทั้งสองจะผ่านไป ชีวิตนี้เป็นประหนึ่งลูกคลื่น พยับแดด หรือเงาที่เลื่อนลอย ภาพสะท้อนบนทะเลทรายจะเป็นน้ำที่ชุ่มชื้นได้หรือ? ไม่เลย พระผู้เป็นนายของนายทั้งหลายเป็นพยาน! ความจริงและสิ่งที่คล้ายคลึงความจริงไม่มีวันเป็นหนึ่งเดียวกันได้…

จงรู้ไว้ว่า อาณาจักรสวรรค์คือภพที่แท้จริง และโลกนี้เป็นเพียงเงาของภพสวรรค์ที่ยื่นออกมา เงาไม่มีชีวิตของตน การดำรงอยู่ของเงาเป็นเพียงจินตนาการไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เงาเป็นเพียงภาพที่สะท้อนอยู่ในน้ำ ดูเหมือนว่าเป็นรูปภาพ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 177-8)

11 เมษายน

วิญญาณของบุตรแห่งอาณาจักรสวรรค์ภายหลังที่แยกจากร่างกาย จะขึ้นไปสู่อาณาจักรชีวิตนิรันดร์ แต่หากเจ้าถามถึงสถานที่ จงรู้ไว้ว่าภพที่ดำรงอยู่เป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าจะมีสภาวะที่เด่นต่างจากกัน ตัวอย่างเช่น แร่ธาตุดำรงอยู่ในสภาวะของตน แต่แร่ธาตุไม่ทราบเกี่ยวกับพืชเลย…

เช่นเดียวกัน ผู้ที่อยู่ในโลกนี้ไม่ทราบเกี่ยวกับภพของอาณาจักรสวรรค์เลย และปฏิเสธว่าไม่มีภพนั้น ตัวอย่างเช่น พวกเขาถามว่า ?อาณาจักรสวรรค์อยู่ที่ไหน? พระผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรสวรรค์อยู่ที่ไหน?? ประชาชนเหล่านี้เป็นเสมือนแร่ธาตุและพืชที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสภาวะของสัตว์และมนุษย์ มองก็ไม่เห็นและหาก็ไม่พบ ถึงกระนั้นแร่ธาตุและพืช สัตว์และมนุษย์ ต่างก็อาศัยอยู่ด้วยกันบนโลกนี้

…ในอีกภพหนึ่ง สภาวะของมนุษย์มิได้เป็นร่างกาย แต่เป็นร่างสวรรค์ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบของอาณาจักรสวรรค์…ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ไร้มลทินเมื่อสลายออกจากร่างกายของตน จะรีบไปยังภพของพระผู้เป็นเจ้า และภพนั้นอยู่ในภพนี้ อย่างไรก็ตามประชาชนในภพนี้ไม่ทราบเกี่ยวกับภพนั้น ดังเช่นแร่ธาตุและพืชไม่รู้เกี่ยวกับสัตว์และมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 193-5)

12 เมษายน

เมื่อวิญญาณของมนุษย์เหินจากกองธุลีชั่วคราวนี้ขึ้นไปสู่ภพของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อนั้นม่านทั้งหลายจะหายไป ธรรมะจะเป็นที่ประจักษ์ ทุกสิ่งที่ไม่รู้มาก่อนจะเป็นที่ชัดเจน และสัจธรรมที่ซ่อนเร้นจะเป็นที่เข้าใจ จงพิจารณาดูว่าชีวิตที่อยู่ในครรภ์นั้นหูหนวก ตาบอด และเป็นใบ้อย่างไร และเขาไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย แต่เมื่อออกมาจากโลกมืดและเข้ามาสู่โลกที่สว่าง ดวงตาของเขามองเห็น หูของเขาได้ยิน ลิ้นของเขาพูดได้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อเขาจากโลกนี้ไปยังอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อนั้นวิญญาณของเขาจะได้เกิดใหม่ ดวงตาแห่งการรับรู้ของเขาจะเปิดออก หูของวิญญาณของเขาจะได้ยิน และสัจธรรมทั้งหมดที่เขาไม่รู้มาก่อนจะเป็นที่ชัดเจน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 177)

13 เมษายน

จงรู้ไว้ว่า หูที่สดับฟังหากยังบริสุทธิ์ผุดผ่องในทุกเวลาต้องเงี่ยฟังเสียงที่เปล่งวจนะเหล่านี้จากทุกทิศทาง ?แท้จริงแล้วเราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และเราจะกลับไปสู่พระองค์? ?ความลึกลับของความตายของมนุษย์และการกลับไปยังไม่ถูกเปิดเผยและยังไม่ได้เฉลย ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! หากความลึกลับนี้ถูกเปิดเผย การเปิดเผยนั้นจะก่อให้เกิดความกลัวและความทุกข์โศก จนทำให้บางคนมอดม้วย ขณะที่บางคนจะปลื้มปีติถึงกับปรารถนาความตาย และวิงวอนอย่างไม่หยุดหย่อนขอพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์เป็นพยาน ให้เร่งพวกเขาไปสู่จุดหมาย

ความตายให้ถ้วยแห่งชีวิตแก่ผู้ที่เชื่ออย่างมั่นใจทุกคน ความตายมอบความหรรษา นำความปรีดามาให้ และประทานชีวิตนิรันดร์เป็นของขวัญ

สำหรับบรรดาผู้ที่ได้ลิ้มผลไม้แห่งการดำรงชีวิตบนโลกนี้ นั่นคือการยอมรับพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ชีวิตของพวกเขาถัดจากภพนี้เราไม่สามารถพรรณนาได้ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ที่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 345-6)

14 เมษายน

ดูกร คนรับใช้ของเรา! อย่าได้ทุกข์โศกหากว่าในวันนี้สิ่งที่เป็นไปตามที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้ในภพนี้ ขัดกับความปรารถนาของเจ้า เพราะวันแห่งความสุขสันต์และปีติอนันต์รอคอยเจ้าอยู่อย่างแน่นอน ภพทั้งหลายที่รุ่งโรจน์พิสุทธิ์จะเปิดเผยต่อสายตาของเจ้า ในภพนี้และภพถัดไปพระองค์กำหนดให้เจ้าได้รับคุณประโยชน์ความหรรษา และส่วนแบ่งจากกรุณาธิคุณที่คอยค้ำจุน เจ้าจะได้รับทั้งหมดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 329)

15 เมษายน

เราขอปฏิญาณด้วยชีวิต! ไม่มีสิ่งใดบังเกิดกับผู้เป็นที่รักของเราได้นอกจากสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเขา

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 69)

บททดสอบเป็นสิ่งที่มีประโยชน์จากพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเราควรขอบคุณพระองค์ ความทุกข์โศกมิได้เกิดกับเราโดยบังเอิญ แต่ความปรานีสวรรค์ส่งมาให้เราเพื่อพัฒนาเราให้สมบูรณ์ขึ้น

พระอับดุลบาฮา (DAL 89)

16 เมษายน

อย่าได้ทุกข์โศกต่อความทุกข์ทรมานและความหายนะที่บังเกิดกับเจ้า ความหายนะและความทุกข์ทรมานทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพื่อมนุษย์ เพื่อว่ามนุษย์จะได้ไม่ใยดีต่อโลกที่ไม่จีรังนี้ที่เขายึดติดอยู่อย่างมาก เมื่อมนุษย์ประสบความทุกข์ทรมานและความยากลำบากที่สาหัส เมื่อนั้นธรรมชาติของเขาจึงจะดีดตัวออกมา และเขาจะปรารถนาอาณาจักรนิรันดร์ซึ่งวิสุทธิ์พ้นจากความทุกข์ทรมานและความหายนะทั้งปวง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 239)

บททดสอบเหล่านี้ดังที่เจ้าเขียนมา เป็นเพียงการชำระล้างรอยเปื้อนแห่งอัตตาออกจากกระจกของหัวใจ จนกระทั่งดวงอาทิตย์แห่งธรรมสามารถทอดรังสีมาบนกระจก เพราะไม่มีม่านใดปิดกั้นได้มิดกว่าอัตตา และไม่ว่าม่านแห่งอัตตาจะบางเพียงไร ในที่สุดม่านนี้จะปิดกั้นผู้นั้นจนสนิท และพรากพวกเขาจากส่วนแบ่งของพระกรุณาอนันต์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 182)

17 เมษายน

ดังนั้นจงเอาใจใส่งานของเจ้าเอง นั่นคือ นำทางและอบรมประชาชนในหนทางของพระอับดุลบาฮา ส่งมอบพระธรรมอันน่ายินดีจากอาณาจักรอับฮาได้แก่ มนุษยชาติอย่าได้พักยามกลางวันหรือกลางคืนหรือเพียงชั่วขณะ พยายามเต็มกำลังที่จะให้ข่าวดีเหล่านี้ไปเข้าหูของมวลมนุษย์ ด้วยความรักพระผู้เป็นเจ้าและด้วยความผูกพันกับพระอับดุลบาฮา จงยอมรับความทุกข์ทรมานทุกอย่างและความทุกข์โศกทุกประการ จงอดทนคำเสียดสีของผู้ก้าวร้าวและคำต่อว่าของศัตรู จงเจริญรอยตามพระอับดุลบาฮาและพระผู้ทรงความงามอับฮา จงเฝ้าปรารถนาจะสละชีวิตทุกขณะ จงเรืองแสงประดุจดวงตะวันและไม่หยุดนิ่งดังทะเล จงเป็นประหนึ่งก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่หลั่งชีวิตมาให้ทุ่งและเนินเขา และเป็นเสมือนสายลมเดือนเมษาที่พัดพาความสดชื่นมาให้พฤกษชาติแห่งความเป็นมนุษย์จนมีดอกผลิออกมา

พระอับดุลบาฮา (SWAB 245-6)

18 เมษายน

มนุษย์ต้องปรึกษาหารือในทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก เพื่อว่าตนจะได้ทราบว่าสิ่งใดดี การปรึกษาหารือทำให้มนุษย์เข้าใจเรื่องต่างๆ และช่วยให้เขาลงลึกเข้าไปในปัญหาที่ไม่รู้มาก่อน แสงแห่งสัจธรรมส่องมาจากใบหน้าของผู้ที่ร่วมปรึกษาหารือ การปรึกษาหารือดังกล่าวบันดาลให้สายธารแห่งชีวิตหลั่งไหลมาในทุ่งหญ้าแห่งสภาวะที่แท้จริงของมนุษย์ ดลให้รังสีของความรุ่งโรจน์บรมโบราณฉายมายังเขา และพฤกษาแห่งชีวิตของเขาออกผลอันน่าพิศวง อย่างไรก็ตามสมาชิกที่ปรึกษากันควรปฏิบัติด้วยความรัก ความปรองดองและความจริงใจต่อกันที่สุด หลักการปรึกษาหารือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของนวกรรมสวรรค์แม้แต่กิจการสามัญ สมาชิกในสังคมก็ควรปรึกษาหารือกัน

พระอับดุลบาฮา (BC no. 14)

19 เมษายน

สมาชิกธรรมสภาต้องปรึกษากันในลักษณะที่ไม่เปิดโอกาสให้มีความร้าวฉานหรือความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน สิ่งนี้บรรลุได้เมื่อสมาชิกทุกคนมีอิสระเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็นและเหตุผล หากใครโดนโต้แย้งเขาต้องไม่รู้สึกเจ็บใจ เพราะหนทางที่ถูกต้องจะไม่เปิดเผยจนกว่าจะมีการปรึกษากันอย่างเต็มที่ ประกายไฟแห่งสัจจะจะบังเกิดขึ้นเมื่อมีการปะทะกันของความคิดเห็นที่ต่างกัน ภายหลังจากอภิปรายกันแล้ว หากมีการตัดสินใจโดยเสียงเป็นเอกฉันท์ เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ายังมีความแตกต่างของความคิดเห็นอยู่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงห้าม ต้องถือตามเสียงส่วนใหญ่

พระอับดุลบาฮา (BC no. 9)

20 เมษายน

…จงก่อตั้งธรรมสภา เพราะธรรมสภาเหล่านี้คือรากฐานสำหรับแพร่กระจายสุคนธรสของพระผู้เป็นเจ้าเชิดชูพระวจนะของพระองค์ ชูตะเกียงแห่งกรุณาธิคุณของพระองค์ เผยแพร่ศาสนาของพระองค์ และส่งเสริมคำสอนของพระองค์ มีพรใดยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหรือ? ธรรมสภาเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือจากพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ปกป้องธรรมสภาคือพระอับดุลบาฮา พระองค์ทรงโอบแขนคุ้มครองธรรมสภา มีพรใดยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหรือ? ธรรมสภาเหล่านี้คือตะเกียงที่สว่างไสว คืออุทยานสวรรค์ที่โชยสุคนธรสแห่งความวิสุทธิ์ไปทั่วทุกภูมิภาค และสาดรัศมีแห่งความรู้ไปยังทุกสรรพสิ่ง พลังชีวิตจากธรรมสภาเหล่านี้หลั่งไหลไปทุกทิศทาง แท้จริงแล้วธรรมสภาเหล่านี้คือบ่อเกิดความก้าวหน้าของมนุษย์ในทุกเวลาและทุกสภาพการณ์ มีพรใดยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหรือ?

พระอับดุลบาฮา (SWAB 80)

21 เมษายน

วันแรกของริสวัน

จงลุกขึ้นและประกาศข่าวต่อสรรพสิ่งทั้งปวงว่า พระผู้เป็นผู้ทรงปรานีได้เสด็จไปยังริสวันและเข้าไปในอุทยานนี้แล้ว ดังนั้นจงนำทางประชาชนไปยังอุทยานแห่งความปีตินี้ที่พระผู้เป็นเจ้าบันดาลให้เป็นบัลลังก์แห่งสวรรค์ของพระองค์ เราเลือกเจ้าให้เป็นแตรอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา ซึ่งเสียงแตรนี้บ่งบอกถึงการฟื้นคืนชีพของมวลมนุษยชาติ

นี้คือสวรรค์ที่อมฤตแห่งวาทะได้พิมพ์คำประกาศไว้บนใบไม้ว่า: ?พระผู้ซ่อนเร้นจากสายตาของมนุษย์ถูกเปิดเผยแล้ว และทรงเพียบพร้อมด้วยอธิปไตยและอานุภาพ!? นี้คือสวรรค์ที่เสียงใบไม้เสียดสีประกาศว่า: ?ดูกร ผู้ที่อาศัยอยู่ในสวรรค์และบนโลก! สิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนได้ปรากฏแล้ว พระผู้ทรงปกปิดพระพักตร์ของพระองค์จากสายตาของสรรพสิ่งมาแต่นิรันดรกาลได้เสด็จมาแล้ว? เสียงสายลมที่พัดอยู่ตามกิ่งก้านร้องออกมาว่า: ?พระผู้ทรงเป็นนายสูงสุดของทุกคนปรากฏองค์แล้ว อาณาจักรเป็นของพระผู้เป็นเจ้า? ขณะที่สายธารหลั่งไหลเป็นเสียงให้ได้ยินว่า: ? นัยนาทุกดวงเบิกบาน เพราะพระผู้ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นและความลับของพระองค์ที่ไม่มีใครเคยค้นพบ ทรงเปิดม่านแห่งความรุ่งโรจน์ และเปิดเผยพักตรากฤติแห่งความงาม?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 31)

22 เมษายน

หากมิใช่เพื่อพระองค์ แล้ว จะไม่มีศาสนฑูตองค์ใดได้รับการประสาทให้ดำรงฐานะการเป็นพระศาสดา และจะไม่มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มใดถูกเปิดเผย…

เจตนาที่อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ทั้งหมด คือ การเปิดเผยพระธรรมของยุคอันประเสริฐและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นยุคของพระผู้เป็นเจ้า ดังปรากฏอยู่ในคัมภีร์ทั้งหลายของพระองค์ เป็นยุคที่พระศาสดาทุกพระองค์ ธรรมธาดาและสัตบุรุษทั้งหลายปรารถนาจะได้เห็น

พระบาฮาอุลลาห์ (GPB 99, ADJ 77)

23 เมษายน

แท้จริงแล้วไม่มีใครเข้าใจต้นกำเนิดของศาสนานี้ เป็นหน้าที่ของทุกคนในยุคนี้ที่จะมองด้วยตาของพระผู้เป็นเจ้า และฟังด้วยหูของพระองค์ ใครก็ตามที่มองดูเราด้วยตาอื่นนอกจากตาของเรา จะไม่มีวันรู้จักเรา ไม่มีพระศาสดาองค์ใดในอดีตเข้าใจการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ได้บริบูรณ์ นอกจากเท่าที่กำหนดไว้ให้

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 64)

ยุคนี้ คือ ยุคของพระผู้เป็นเจ้า ชั่วขณะเดียวของยุคนี้ ยุคและศตวรรษทั้งหลายไม่สามารถทาบรัศมี อะตอมเดียวในยุคนี้เป็นประหนึ่งดวงอาทิตย์ น้ำหยดเดียวเป็นประหนึ่งมหาสมุทร ลมปราณเดียวที่หายใจออกมาด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อรับใช้พระองค์ ได้รับการจารึกด้วยปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ว่า เป็นการกระทำที่งดงาม หากมีการบอกเล่าถึงคุณความดีของยุคนี้ ทุกคนย่อมตะลึงงันนอกจากผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าละเว้น

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 66-7)

24 เมษายน

ยุคนี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ! คำพาดพิงถึงยุคนี้ว่าเป็นยุคของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งกล่าวไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่ม ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของยุคนี้ ดวงวิญญาณของธรรมฑูตและพระศาสดาทุกพระองค์ของพระผู้เป็นเจ้าเฝ้าปรารถนายุคที่น่าพิศวงนี้…

พระศาสดาทุกพระองค์ทรงประกาศการมาถึงของยุคนี้ ธรรมฑูตทุกพระองค์โอดครวญด้วยความถวิลหาการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ ซึ่งทันใดที่เปิดเผยออกมา ทุกสรรพสิ่งร้องว่า ?พิภพเป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงประเสริฐสุด พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 11, ADJ 65)

25 เมษายน

?ศาสนานี้ช่างยิ่งใหญ่เพียงไร! พระธรรมของศาสนานี้ช่างหนักหน่วงเพียงไร! ยุคนี้คือยุคที่มีการกล่าวถึงว่า: ดูกร บุตรของเรา! แท้จริงแล้วพระผู้เป็นเจ้าจะบันดาลให้ทุกสิ่งเปิดเผยออกมา แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงน้ำหนักของเมล็ดมาสตาดที่ซ่อนอยู่ในโขดหิน ที่ซ่อนอยู่ในสวรรค์หรือโลก เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นแจ้งและรับทราบทุกสรรพสิ่ง?

?หากเราปรารถนา เราสามารถบันดาลในพริบตาให้ผงฝุ่นกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่โชติช่วงอย่างคาดไม่ถึง บันดาลให้หยดน้ำกลายเป็นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน และซึมซาบพลังเข้าไปในทุกอักษรให้คลี่คลายความรู้ทั้งหมดของยุคในอดีตและอนาคต?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 107)

26 เมษายน

?โดยการขยับปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ของเราตามบัญชาของพระผู้บัญญัติผู้ทรงอำนาจสูงสุด เราได้หายใจชีวิตใหม่เข้าไปในมนุษย์ทุกร่างและซึมซาบอานุภาพใหม่เข้าไปในทุกวจนะ ทุกสรรพสิ่งแสดงถึงหลักฐานของการฟื้นชีวิตทั่วโลก?

?วจนะที่พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวเปล่งในยุคนี้ แม้ว่าจะเป็นพจน์ที่ธรรมดาและได้ยินบ่อยๆ ก็ได้รับการประสาทด้วยความพิเศษสุด?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 107, 104)

27 เมษายน

งานฉลองบุญ ความงาม

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

เมื่อพวกเขามาชุมนุมกันในที่ประชุมนี้ ทุกคนต้องหันหน้าไปสู่อาณาจักรอับฮา วิงวอนและอ้อนวอนจากหัวใจต่อบัลลังก์อันสูงส่ง ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยข้อบกพร่องทั้งหมด อ่านคำสอนและลุกขึ้นรับใช้พระองค์

จากนั้นจัดอาหารและเครื่องดื่ม และวางใจได้ว่าจะบังเกิดผลอันยิ่งใหญ่ในที่ประชุมนี้และมีประโยชน์ทั้งทางกายและใจ ทุกคนที่นั่นจะปลื้มด้วยสายลมแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า และลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะบันดาลหัวใจด้วยอานุภาพที่ยิ่งใหญ่

หากการประชุมจัดตั้งอย่างมั่นคงเช่นนี้ ก็จะกลายเป็นอานุภาพที่จะดึงดูดอำนาจสวรรค์ เป็นหนทางให้แสงสว่างของพระผู้เป็นเจ้าส่องมา และความจริงของทุกเรื่องจะคลี่คลายออกมา การประชุมเช่นนี้จะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของพระองค์ เราหวังว่าเจ้าจะจัดการประชุมเหล่านี้เรื่อยไป และแต่ละครั้งจะยิ่งกลายเป็นศูนย์กลางของคุณธรรมทั้งปวง เป็นศูนย์แห่งความเจิดจ้าของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (NDF no. 18)

28 เมษายน

เจ้าปรารถนาจะฉลองริสวันด้วยงานเลี้ยง และให้ผู้ที่มาร่วมสวดธรรมจารึกด้วยความเบิกบานหรรษาและขอให้เราส่งจดหมายให้เจ้าสำหรับอ่านในวันนั้น จดหมายของเรา คือ ดังนี้

ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่ง บรรดาหญิงรับใช้ของพระผู้ทรงปรานี! ?วันนี้คือวันที่ดวงอาทิตย์แห่งธรรมรุ่งขึ้นมาบนขอบฟ้าแห่งชีวิต แผ่รัศมีออกไป ฉายแสงอย่างเจิดจ้าฝ่ากลุ่มเมฆที่แน่นหนา ทำให้เรืองรองไปทั่วนภา ฉะนั้นเจ้าจะได้เป็นพยานต่อพลังใหม่ที่ขับเคลื่อนสรรพสิ่งทั้งปวง

จงดูว่าในยุคนี้ ขอบเขตของวิทยาศาสตร์และศิลปะได้ขยายออกไปอย่างไร ความก้าวหน้าทางเทคนิคอันน่าพิศวงเกิดขึ้นอย่างไร ปัญญาของมนุษย์ขึ้นไปถึงระดับไหน และมีการสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่น่าฉงนใจเพียงไร

แท้จริงแล้วในยุคนี้เป็นเสมือนยุคก่อนหนึ่งร้อยยุค หากเจ้ารวบรวมผลผลิตของหนึ่งร้อยยุค แล้วนำมาเทียบกับผลผลิตที่สะสมในสมัยของเรานี้ จะชี้ให้เห็นว่า ผลผลิตของยุคนี้ยิ่งใหญ่กว่าของหนึ่งร้อยยุคที่ผ่านไป…

พระอับดุลบาฮา (SWAB 111)

29 เมษายน

วันที่เก้าของริสวัน

ดูกร คาร์เมล จะร้องเรียกไซออนและประกาศข่าวอันน่าปีติ: พระผู้ทรงซ่อนเร้นจากสายตามนุษย์เสด็จมาแล้ว! อธิปไตยพิชิตชัยของพระองค์ปรากฏชัดแล้ว ความชัชวาลของพระองค์ทอดรัศมีมายังทุกสรรพสิ่งแล้ว จงระวังอย่าได้ลังเลหรือหยุดชะงัก จงรีบไปวนรอบนครของพระผู้เป็นเจ้าที่ลงมาจากฟ้า คือคาเบสวรรค์ที่ผู้เป็นที่โปรดปรานของพระพุทธเจ้า ผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์ และหมู่เทพยดาที่ประเสริฐสุด ต่างก็มารายล้อมบูชา โอ เราอยากจะประกาศต่อทุกแห่งหนบนพื้นผิวโลกเหลือเกิน และนำข่าวดีไปบอกทุกเมืองเกี่ยวกับการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ ที่ดึงดูดหัวใจของไซนาย และพุ่มไม้ที่ลุกไหม้กำลังร้องเรียกในนามของพระธรรมนี้ว่า: ?อาณาจักรบนโลกและสวรรค์เป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งนายทั้งหลาย?แท้จริงแล้วยุคนี้คือยุคที่ทั้งแผ่นดินและทะเลปลื้มปีติต่อการประกาศนี้ คือยุคที่ได้สะสมสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดให้เปิดเผยออกมา โดยอาศัยพระพรที่เหนือความเข้าใจของปัญญาหรือหัวใจของมนุษย์ ในไม่ช้าพระผู้เป็นเจ้าจะแล่นเรือแห่งความรอดพ้นบนเจ้า และจะแสดงประชาชนแห่งบาฮาให้ปรากฏ ผู้ซึ่งถูกกล่าวถึงในคัมภีร์แห่งนาม

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 4-5)

30 เมษายน

จงดูซิว่า กรุณาธิคุณอเนกอนันต์ของพระผู้เป็นเจ้าที่กำลังหลั่งลงมาจากก้อนเมฆแห่งความรุ่งโรจน์สวรรค์ได้ห่อหุ้มพิภพในยุคนี้อย่างไร เพราะในยุคที่ผ่านมาคนรักทุกคนแสวงหาพระผู้เป็นที่รักยิ่งของตน แต่บัดนี้พระผู้เป็นที่รักยิ่งเองกำลังร้องเรียกบรรดาคนรักของพระองค์ และกำลังเรียกพวกเขาให้มาเข้าเฝ้าพระองค์ จงใส่ใจเพื่อว่าเจ้าจะไม่สูญเสียกรุณาธิคุณอันล้ำค่านี้ไป จงระวัง อย่าดูแคลนสัญลักษณ์แห่งพระกรุณาที่น่าสังเกตนี้ของพระผู้เป็นเจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 320)

พฤษภาคม

1 พฤษภาคม

?เป็นเวลาสิบสองปีที่เราอาศัยอยู่ในแบกแดด แม้ว่าเราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้มีการเรียกบรรดานักบวชและผู้ที่มีจิตใจเที่ยงธรรมมาชุมนุมกันอย่างกว้างขวาง เพื่อว่าสัจธรรมจะได้แยกจากความจอมปลอม และพิสูจน์ให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ไม่มีใครดำเนินการ?…?และทำนองเดียวกันระหว่างที่อยู่ในอิรัก เราต้องการจะมาด้วยกันกับเหล่านักบวชของเปอร์เซีย ทันใดที่พวกเขาได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาหนีไปและกล่าวว่า: ?พระองค์คือพ่อมดตัวจริง!? นี้คือคำพูดในสมัยก่อนที่มาจากปากของพวกที่เป็นเหมือนกับนักบวชเหล่านี้ และนักบวชเหล่านี้เองคัดค้านสิ่งที่พวกเขาพูดแต่ตนกลับพูดเสียเอง ในยุคนี้ และหาได้เข้าใจไม่ ชีวิตของเราเป็นพยาน! พวกเขาเป็นเสมือนขี้เถ้าในสายตาของพระผู้เป็นนายของเจ้า หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์ พายุจะพัดพวกเขาให้กลายเป็นธุลี แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าทำตามที่พระองค์ปรารถนา?

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 88)

2 พฤษภาคม

วันที่สิบสองของริสวัน

เราคิดว่า เราได้ยินสุรเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ร้องเรียกมาจากข้างหลังของเราว่า: จงเปลี่ยนทำนองและน้ำเสียงของเจ้า เพื่อมิให้หัวใจของผู้ที่จ้องพระพักตร์ของเจ้าต้องเศร้าใจ โดยอาศัยพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้าและอำนาจของพระองค์ เรามิได้แสวงหาความช่วยเหลือจากใครในอดีต และจะไม่เช่นกันในอนาคต พระองค์คือผู้ที่ช่วยเหลือเราด้วยอานุภาพแห่งสัจธรรมระหว่างที่เราถูกเนรเทศอยู่ในอิรัก พระองค์คือผู้ที่คุ้มครองเราในยามที่วงศ์ตระกูลทั้งหลายบนพิภพโต้แย้งเรา พระองค์คือผู้ที่ช่วยให้เราออกจากเมือง (แบกแดด) ด้วยราชศักดาที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ นอกจากผู้ที่ประสงค์ร้ายและไม่ยอมรับความจริง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 37)

3 พฤษภาคม

จงพิจารณาดูความกระตือรือร้นที่ประชาชาติจำนวนหนึ่งคาดหวังการเสด็จกลับมาของอิหม่าม ฮุสเซน ซึ่งบรรดาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเลือกสรร ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ได้พยากรณ์ไว้ในอดีตว่า จะเสด็จมาหลังการปรากฏองค์ของอิหม่ามกาอิม ยิ่งกว่านั้นดวงวิญญาณที่วิสุทธิ์เหล่านี้ยังประกาศอีกด้วยว่า เมื่อพระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งกรุณาธิคุณอเนกอนันต์ของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏองค์ พระศาสดาและธรรมฑูตทุกพระองค์รวมทั้งอิหม่ามกาอิม จะมาชุมนุมกันภายใต้ร่มเงาของธงอันศักดิ์สิทธิ์ที่บรมศาสดาตามพันธสัญญาจะชูขึ้น ชั่วโมงนั้นมาถึงแล้ว โลกเรืองรองด้วยความรุ่งโรจน์ชัชวาลของพักตรากฤติของพระองค์แล้ว และถึงกระนั้นก็ดี จงดูซิว่า ประชาชนบนโลกได้หลงไปจากหนทางของพระองค์อย่างไร!…ผนึกของอมฤตแห่งการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์เปิดออกแล้วในยุคนี้ ในนามของพระองค์ พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง กรุณาธิคุณนี้กำลังหลั่งมาสู่มวลมนุษย์ จงเติมให้เต็มถ้วยของเจ้าและดื่มในนามของพระองค์ พระผู้ทรงวิสุทธิ์ที่สุด พระผู้เป็นที่สรรเสริญ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 12)

4 พฤษภาคม

หัวใจของมนุษย์ช่างบอดเหลือเกิน จนแม้เมืองจะถูกตัดขาด ภูเขาจะทลายเป็นฝุ่น หรือแผ่นดินจะแยก ก็ไม่สามารถขจัดความเฉื่อยชาของมนุษย์ได้ คำพาดพิงในคัมภีร์ทั้งหลายถูกเปิดเผยแล้ว เสียงร้องของคำพยากรณ์เปล่งขึ้นแล้ว และถึงกระนั้นก็ตาม ทุกคนก็ยังงงงวยด้วยความมึนเมาอย่างไม่เอาใจใส่ ยกเว้นผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าโปรดนำทางให้

?วันทั้งหลายกำลังใกล้เข้าไปสู่อวสาน และกระนั้นประชาชนบนพิภพยังจมอยู่ในความไม่เอาใจใส่อย่างร้ายเหลือ และหลงผิดอย่างจะแจ้ง?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 39, ADJ 68)

5 พฤษภาคม

?ดูกร บรรดาผู้ที่ไม่เอาใจใส่! แม้ความปรานีอันน่าพิศวงของเราได้ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่งทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น และแม้การเปิดเผยพระกรุณาและความอารีของเราได้ซึมเข้าไปในทุกอะตอมในจักรวาล กระนั้นก็ตาม ไม้เรียวที่เราสามารถใช้ลงโทษผู้ชั่วร้ายนั้นร้ายเหลือ และความดุร้ายที่เราพิโรธพวกเขานั้นน่าสยอง?

?อย่าเศร้าโศกต่อบรรดาผู้ที่หมกมุ่นอยู่กับโลกนี้แล้วลืมการระลึกถึงของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์เป็นพยาน! วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่ความพิโรธของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพจะเล่นงานพวกเขา แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงอำนาจสูงสุด พระผู้ทรงกำราบ พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด พระองค์จะชำระล้างความทุจริตอันโสมมให้หมดไปจากพิภพ แล้วให้พิภพนี้เป็นมรดกสำหรับบรรดาคนรับใช้ที่อยู่ใกล้พระองค์?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 68-9)

6 พฤษภาคม

?ในตอนเริ่มต้นของการเปิดเผยพระธรรมทุกครั้งมีแต่ความยากลำบาก ซึ่งต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่?

?ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า! จงระวังอย่าให้อิทธิพลบนพิภพทำให้เจ้าวิตก หรืออำนาจของชาติทั้งหลายทำให้เจ้าอ่อนแอ หรือการเอะอะของประชาชนผู้ร้าวฉานยับยั้งเจ้า หรือตัวแทนของความรุ่งเรืองทางโลกทำให้เจ้าเศร้าใจ จงเป็นประดุจภูผาในศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอยู่นอกเหนืออำนาจบังคับใดๆ?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 69)

7 พฤษภาคม

ในศาสนานี้มีอานุภาพ เป็นอานุภาพลึกลับที่ไกลเกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์และเทพยดา อานุภาพที่มองไม่เห็นนี้คือเหตุของกิจกรรมเหล่านี้ทุกอย่าง อานุภาพนี้โน้มน้าวหัวใจ ฉีกภูเขา บริหารกิจการที่ซับซ้อนของศาสนา บันดาลใจมิตรสหาย ทำลายอำนาจต่อต้านทั้งปวงออกเป็นพันเสี่ยง สร้างภพธรรมะใหม่ นี้คือความลึกลับของอาณาจักรอับฮา!

พระอับดุลบาฮา (COV 5 Nov.)

8 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม พลังงานเหล่านี้ที่ดวงตะวันแห่งความอารีและบ่อเกิดของการนำทางจากสวรรค์ประสาทให้กับมนุษย์ แฝงอยู่ในตัวเขาประดุจเปลวไฟแฝงอยู่ในเทียน รัศมีแฝงอยู่ในตะเกียง ความโชติช่วงของพลังงานเหล่านี้อาจถูกบดบังโดยกิเลส ประดุจแสงอาทิตย์ถูกบดบังโดยคราบธุลีบนกระจก เทียนและตะเกียงไม่สามารถติดไฟขึ้นมาเองโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ และเป็นไปไม่ได้ที่กระจกจะขจัดคราบออกไปจากตัวเอง เป็นที่ประจักษ์และชัดเจนว่า จนกว่าจะมีการจุดไฟตะเกียงจะไม่ลุก และนอกจากว่าคราบจะถูกขจัดออกไปจากผิวกระจก กระจกจะไม่แสดงภาพของดวงอาทิตย์ไม่สะท้อนแสงสว่างและความโชติช่วงของดวงอาทิตย์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 65-66)

9 พฤษภาคม

และเนื่องด้วยไม่มีการปฏิสัมพันธ์โดยตรงที่จะเชื่อมพระผู้เป็นเจ้ากับสิ่งสร้างสรรค์ของพระองค์ และไม่มีความคล้ายคลึงดำรงอยู่ได้ระหว่างสิ่งที่ไม่จีรังและพระผู้ทรงอนันต์ ระหว่างสังขารและพระผู้ทรงสภาวะสูงสุด พระองค์จึงบัญญัติไว้ว่าในทุกสมัยและทุกยุคศาสนา ดวงวิญญาณที่วิมลบริสุทธิ์จะถูกแสดงให้ปรากฏในอาณาจักรแห่งโลกและสวรรค์ พระองค์ทรงให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในสภาวะลึกลับนี้มีธรรมชาติสองลักษณะคือ ทางกายซึ่งเกี่ยวพันกับธาตุ และทางวิญญาณซึ่งเกิดจากสาระของพระผู้เป็นเจ้าเอง นอกจากนี้พระองค์ยังทรงประสาทพระศาสดาด้วยสองสถานะ สถานะแรกสัมพันธ์กับสภาวะที่เป็นแก่นของพระองค์ และทำให้พระองค์เป็นตัวแทนของสุรเสียงจากพระผู้เป็นเจ้า ดังที่ยืนยันโดยวาทะที่ว่า ?ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระผู้เป็นเจ้านั้นลึกลับและอเนกอนันต์ เราคือพระองค์และพระองค์คือเรา เว้นแต่ว่าเราคือเราเองและพระองค์คือพระองค์เอง?…สถานะที่สองคือสถานะของความเป็นมนุษย์ ซึ่งยกตัวอย่างให้เห็นได้จากวจนะต่อไปนี้: ?เราเป็นเพียงมนุษย์เหมือนเจ้า?…พระศาสดาเหล่านี้ผู้เป็นสาระแห่งความไม่ยึดมั่นและอยู่ในสภาวะอันเรืองรองคืออานนของกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า ได้รับการนำทางโดยอาภาที่ส่องแสงอยู่ตลอดเวลา และประสาทด้วยปรมาธิปไตย พระศาสดาทั้งหลายจึงได้รับมอบอำนาจให้ใช้แรงดลใจของพระวจนะ การหลั่งไหลของกรุณามัยที่ไร้ความผิดพลาด และสายลมแห่งธรรมวิวรณ์ เพื่อประทินหัวใจที่ปรารถนาและดวงจิตที่เปิดรับ ให้ปลอดจากภัสมธุลีของความพะวงและข้อจำกัดทางโลก เมื่อนั้นและเพียงเมื่อนั้น ของฝากอันล้ำค่าจากพระผู้เป็นเจ้าที่แฝงอยู่ในความเป็นมนุษย์จะปรากฏออกมาจากม่านกำบัง และเรืองรองประดุจรุ่งอรุณของทินกรแห่งการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ และปักธงแห่งความรุ่งโรจน์บนขั้วหัวใจของมนุษย์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 66-7)

10 พฤษภาคม

จากวรรคและคำพาดพิงที่กล่าวมา เป็นที่ชัดเจนไร้ข้อกังขาว่า ในอาณาจักรแห่งโลกและสวรรค์ จำเป็นต้องมีพระศาสดามาจุติ ผู้ซึ่งเป็นสาระที่จะปฏิบัติการเป็นตัวแทนและพาหนะของกรุณาธิคุณจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน โดยอาศัยคำสอนของดวงตะวันแห่งสัจธรรมนี้ มนุษย์ทุกคนจะก้าวหน้าและพัฒนาจนกระทั่งบรรลุถึงสถานะที่เขาสามารถแสดงพลังทั้งหมดที่เป็นศักยภาพแฝงอยู่ในแก่นแท้ของเขา เพื่อจุดประสงค์นี้เองที่ในทุกสมัยและทุกยุคศาสนา พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและผู้ที่พระองค์เลือกสรรจึงมาปรากฏต่อมนุษย์ พร้อมกับแสดงอานุภาพที่ก่อกำเนิดจากพระผู้เป็นเจ้า และแสดงอำนาจที่พระผู้ทรงอนันต์เท่านั้นสามารถเปิดเผยได้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 67-8)

11 พฤษภาคม

ผู้ที่มีจิตปกติ เมื่อพิจารณาถึงวจนะบางคำที่ตนไม่เข้าใจความหมาย จะคิดหรือว่าอานนแห่งการนำทางอันไม่รู้สิ้นของพระผู้เป็นเจ้า จะถูกปิดต่อหน้ามนุษย์? เขาจะคิดได้อย่างไรว่า พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นอาภาที่ชัชวาลเหล่านี้ มีการเริ่มต้นหรือสิ้นสุด? การหลั่งไหลใดหรือจะเปรียบได้กับการหลั่งไหลของพระกรุณาที่ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่งของพระองค์ และพรใดหรือจะล้ำเลิศกว่าหลักฐานของความปรานีที่ยิ่งใหญ่ไพศาลนี้? ไม่มีข้อสงสัยว่า หากความปรานีและพระกรุณาของพระองค์หยุดโปรดโลกเพียงขณะเดียว โลกย่อมมลายสิ้น ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่เริ่มต้นที่ไม่มีจุดเริ่มต้นอานนแห่งความปรานีสวรรค์ได้เปิดต่อทุกสรรพสิ่งมาตลอด และตราบจนอวสานที่ไม่มีจุดจบ เมฆแห่งสัจธรรมจะหลั่งกรุณาธิคุณและพระพรมาช่วยพัฒนาความสามารถสภาวะและบุคลิกภาพของมนุษย์ ดังกล่าวนี้คือวิธีของพระผู้เป็นเจ้าที่เป็นมาตั้งแต่นิรันดรกาลตราบจนนิรันดรกาล

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 68-9)

12 พฤษภาคม

ดูกร คนรับใช้ของเรา! การเปิดเผยพระธรรมอันวิสุทธิ์ของเราตามที่สวรรค์กำหนด อาจเปรียบได้กับมหาสมุทรที่มีไข่มุกแพรวพราวและล้ำค่าซ่อนอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน เป็นหน้าที่ของผู้แสวงหาทุกคนที่จะต้องตื่นตัวและพยายามไปให้ถึงฝั่งมหาสมุทรนี้ เพื่อว่าเขาจะได้รับประโยชน์สมกับที่กระตือรือร้นและพยายามตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในธรรมจารึกของพระผู้เป็นเจ้าที่เร้นลับและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากไม่มีใครเต็มใจจะก้าวมายังฝั่งมหาสมุทรนี้ หากทุกคนไม่ลุกขึ้นและไม่พบพระองค์ มหาสมุทรนี้จะสูญเสียพลังหรือมีทรัพย์สมบัติน้อยลงหรือ? ดูกร คนรับใช้ของเรา! จินตนาการที่หัวใจของเจ้าคิดเอาเองและยังคงคิดอยู่ ช่างไร้สาระและน่ารังเกียจเช่นไร! พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวเป็นพยานให้เรา! มหาสมุทรที่สาดซัดด้วยความยิ่งใหญ่และหยั่งไม่ถึงนี้อยู่ใกล้กับเจ้า ใกล้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จงดูซิว่าใกล้ยิ่งกว่าเส้นโลหิตของเจ้าเอง!

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 326)

13 พฤษภาคม

ดูกร คนรับใช้ของเรา! หากเจ้าเข้าใจความโอบอ้อมอารีอันน่าพิศวงที่เราฝากไว้กับวิญญาณของเจ้า เจ้าย่อมตัดความผูกพันจากทุกสรรพสิ่ง และเข้าถึงความรู้ที่แท้จริงเกี่ยวกับตัวเจ้าเอง ซึ่งเป็นความรู้เดียวกันกับความเข้าใจในตัวเรา เจ้าย่อมพบว่าตัวเจ้าเองไม่ขึ้นกับสิ่งใดนอกจากเรา ทั้งวิญญาณและร่างกายของเจ้าย่อมมองเห็นทะเลแห่งความอารีและความเมตตารักใคร่ของเราสาดซัดอยู่ในตัวเจ้าอย่างชัดเจน ประดุจการเปิดเผยพระนามอันโชติช่วงของเรา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 326-7)

14 พฤษภาคม

เพราะในมนุษย์มีศักยภาพของคุณลักษณะและพระนามทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้าถึงขั้นที่ว่า ไม่มีสรรพสิ่งใดล้ำเลิศหรือเหนือกว่า นามและคุณลักษณะทั้งปวงเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ดังที่พระองค์ทรงกล่าวว่า: ?มนุษย์คือความลึกลับของเรา และเราคือความลึกลับของมนุษย์? มีวจนะมากมายที่เปิดเผยไว้ในคัมภีร์สวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มเป็นการแสดงถึงหัวข้อที่ลึกซึ้งและสูงส่งนี้ ดังที่พระองค์ทรงกล่าวว่า: ?เราจะแสดงต่อพวกเขาด้วยสัญลักษณ์ของเราในโลกและในตัวพวกเขาเอง? และพระองค์ทรงกล่าวอีกว่า: ?และในตัวเจ้าเองเช่นกัน เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมองไม่เห็นสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าหรือ?? และอีกครั้งเช่นกันพระองค์เปิดเผยไว้ว่า: ?จงอย่าเป็นเช่นพวกที่ลืมพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์จะทำให้พวกเขาลืมตัวเอง? เป็นการพาดพิงถึงตอนนี้ พระองค์ผู้ทรงเป็นราชันนิรันดร์ ขอให้วิญญาณของทุกคนที่อาศัยอยู่ในเทพมณเทียรอันลึกลับสละเพื่อพระองค์ ทรงตรัสไว้ว่า: ?ผู้ที่รู้จักพระผู้เป็นเจ้าคือผู้ที่รู้จักตัวเอง?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 177-8)

15 พฤษภาคม

สิ่งที่มนุษย์ยืนยันเกี่ยวกับพระองค์หรืออ้างมายังพระองค์ หรือคำสรรเสริญที่มนุษย์ใช้สดุดีพระองค์ หาใช่ความรุ่งโรจน์ของพระองค์ไม่ หน้าที่ที่พระองค์กำหนดให้คนรับใช้สรรเสริญราชศักดาและความรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นเพียงสัญลักษณ์ของกรุณาธิคุณของพระองค์ต่อพวกเขา เพื่อว่าพวกเขาจะบรรลุถึงสถานะที่ประสาทไว้ให้วิญญาณและขั้นปัญญาที่หยั่งรู้ตนเอง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 4-5)

16 พฤษภาคม

งานฉลองบุญ ความโอฬาร

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

วิญญาณที่บริสุทธิ์ดวงเดียวดีกว่าวิญญาณอื่นพันดวง หากวิญญาณไม่กี่ดวงชุมนุมอยู่ด้วยกันในที่ประชุมด้วยความรัก ด้วยความรู้สึกที่ถวิลหาอาณาจักรสวรรค์ ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ และด้วยความวิสุทธิ์อันไพบูลย์คบหาสมาคมกันด้วยดวงจิตอันอบอวล การชุมนุมนั้นจะส่งผลไปทั่วพิภพ คำพูด การกระทำและบรรยากาศในที่ชุมนุมนั้นจะนำโลกไปสู่ความสุขนิรันดร์ และจะเป็นหลักฐานของกรุณาธิคุณจากอาณาจักรสวรรค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสริมพลังพวกเขา กองทัพเทวินทร์จะนำชัยมาให้ และเทพยดาอับฮาจะทยอยกันมา

พระอับดุลบาฮา (SWAB 81)

17 พฤษภาคม

อย่าพูดเกี่ยวกับการเมือง งานของเจ้าเกี่ยวข้องกับชีวิตของวิญญาณ เพราะแท้จริงแล้วสิ่งนี้นำไปสู่ความปีติของมนุษย์ในภพของพระผู้เป็นเจ้า อย่ากล่าวถึงกษัตริย์และรัฐบาลทั้งหลาย นอกเสียจากว่าเจ้าจะพูดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับพวกเขา เจ้าควรใช้วาจาแพร่กระจายข่าวอันน่าอภิรมย์จากอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า สาธิตอานุภาพของพระวจนะและความวิสุทธิ์ของศาสนาของพระองค์เท่านั้น จงบอกเล่าเกี่ยวกับความปีติอนันต์ ความอิ่มใจ คุณลักษณะแห่งสวรรค์ และธรรมาทิตย์ได้รุ่งอรุณขึ้นมาเหนือขอบฟ้าบนพิภพอย่างไร จงบอกเล่าเกี่ยวกับลมหายใจของพระวิญญาณที่เติมพลังชีวิตให้แก่โลก

พระอับดุลบาฮา (SWAB 92-3)

18 พฤษภาคม

ดูกร กองทัพของพระผู้เป็นเจ้า! จงระวังอย่าทำร้ายผู้ใด หรือทำให้ใครทุกข์โศกในหัวใจ อย่าใช้วาจาทำอันตรายผู้ใดไม่ว่าจะเป็นคนที่รู้จักหรือคนแปลกหน้า เป็นมิตรหรือศัตรู จงอธิษฐานให้ทุกคน จงวิงวอนขอให้ทุกคนได้รับพรและการอภัย จงระวัง จงระวัง อย่าทำให้ใครรู้สึกเจ็บใจ แม้ว่าเขาจะเป็นคนชั่วร้ายและปรารถนาร้ายต่อเจ้า อย่ามองดูที่ประชาชนแต่จงหันไปหาพระผู้สร้างของพวกเขา อย่ามองดูประชาชนที่ไม่เคยยอมใคร จงมองดูแต่พระผู้เป็นนายแห่งกองทัพสวรรค์ อย่าพิศดูธุลีเบื้องล่าง แต่จงมองขึ้นไปยังดวงอาทิตย์ที่ส่องความสว่างไสวมาให้พื้นโลกที่มืดมิดทุกบริเวณ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 73)

19 พฤษภาคม

?ดูกร คนรับใช้! ชัยชนะของศาสนานี้ขึ้นกับดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ ขึ้นกับการกระทำที่ดีงาม และการใช้ถ้อยคำที่สุขุมรอบคอบ?…?ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า! สิ่งที่สามารถรับประกันชัยชนะของพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์ กองทัพและผู้ช่วยเหลือของพระองค์บนพิภพ ได้ลิขิตไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อย่างชัดเจนและประจักษ์แจ้งประดุจดวงตะวัน กองทัพเหล่านี้คือการกระทำที่ชอบธรรม ความประพฤติและอุปนิสัยใจคออันเป็นที่ยอมรับในสายตาของพระองค์ ในยุคนี้ใครก็ตามที่ลุกขึ้นช่วยศาสนาของเรา และเรียกกองทัพแห่งอุปนิสัยใจคอที่น่าสรรเสริญและความประพฤติที่ซื่อตรงมาคอยช่วยเหลือ อิทธิพลจากการกระทำเช่นนี้จะแพร่กระจายไปทั่วพิภพแน่นอน?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 70, 20)

20 พฤษภาคม

หากคนเรานอนหลับ ไม่ควรหลับเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ควรหลับเพื่อพักผ่อนร่างกาย เพื่อว่าจะได้ทำให้ดีกว่าเดิม พูดได้ดีกว่าเดิม อธิบายได้สวยงามกว่าเดิม รับใช้คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าและพิสูจน์สัจธรรม ขณะที่ตื่น เขาควรเอาใจใส่ รับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และเสียสละสถานะของตนเพื่อสถานะของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเขาบรรลุถึงสถานะนี้ อานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาค้ำจุนเขาแน่นอน และมนุษย์ที่มีอานุภาพนี้สามารถต้านทานทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลก

พระอับดุลบาฮา (BR 25 May)

21 พฤษภาคม

พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งพระศาสดาทั้งหลายของพระองค์มารับช่วงต่อจากพระโมเสสและพระเยซู และพระองค์จะทำเช่นนี้ต่อไปตราบจนอวสานที่ไม่มีจุดจบ เพื่อว่าพระกรุณาของพระองค์จากนภาแห่งความอารีสวรรค์จะหลั่งมายังมนุษยชาติอย่างไม่ขาดสาย

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 116)

พระผู้เป็นนายแห่งจักรวาลไม่เคยให้พระศาสดาองค์ใดมาจุติ หรือประทานคัมภีร์เล่มใดมาให้ นอกเสียจากว่าพระองค์ได้สถาปนาพระปฏิญญาของพระองค์ไว้กับมวลมนุษย์ เป็นการร้องเรียกให้พวกเขายอมรับ การเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งต่อไปพร้อมกับคัมภีร์เล่มใหม่ เนื่องด้วยการหลั่งพระพรของพระองค์นั้นไม่มีสิ้นสุดและไม่มีขีดจำกัด

พระบ๊อบ (SWB 87)

22 พฤษภาคม

เป็นที่ชัดเจนและประจักษ์ว่า วัตถุประสงค์ของทุกยุคศาสนาที่นำมาก่อนคือ เพื่อปูทางสำหรับการเสด็จมาของพระโมฮัมหมัด ผู้เป็นอัครสาวกของพระผู้เป็นเจ้า วัตถุประสงค์ของยุคศาสนาเหล่านี้รวมทั้งของพระโมฮัมหมัดคือ การเปิดเผยพระธรรมโดยอิหม่ามกาอิม (พระบ๊อบ) เจตนาที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยพระธรรมนี้ เช่นเดียวกับการเปิดเผยพระธรรมที่มาก่อนคือเพื่อประกาศการมาของศาสนาของบรมศาสดาที่พระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ และศาสนานี้ นั่นคือศาสนาของบรมศาสดาที่พระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ รวมทั้งการเปิดเผยพระธรรมทุกครั้งที่มาก่อน มีวัตถุประสงค์คือ การเปิดเผยองค์พระศาสดาครั้งถัดไป… ดังนี้การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรมจะดำเนินไปอย่างไม่มีสิ้นสุด ซึ่งเป็นขบวนการที่ไม่มีการเริ่มต้นและไม่มีจุดจบ

พระบ๊อบ (WOB 117)

23 พฤษภาคม

วันประกาศศาสนาของพระบ๊อบ

เราคือ เราคือ เราคือพระศาสดาตามพันธสัญญา! เราคือพระศาสดาที่เจ้าวิงวอนพระนามของเรามาเป็นเวลาพันปี เมื่อมีการเอ่ยชื่อของเราเจ้าได้ลุกขึ้น การเสด็จมาของเราเจ้าปรารถนาจะได้เห็น และชั่วโมงแห่งการเปิดเผยพระธรรมของเรา เจ้าได้อธิษฐานขอพระผู้เป็นเจ้าบันดาลให้มาถึงโดยเร็ว แท้จริงแล้วเป็นหน้าที่ของประชาชนทั้งในประเทศตะวันออกและตะวันตกที่จะต้องเชื่อฟังวจนะของเรา และปฏิญาณความจงรักภักดีต่อเรา

พระบ๊อบ (GPB 21)

?ความรู้คือพยัญชนะยี่สิบเจ็ดตัว ทั้งหมดที่พระศาสดาทั้งหลายเปิดเผยไว้มีสองพยัญชนะ ตราบจนบัดนี้ไม่มีมนุษย์คนใดรู้มากกว่าสองพยัญชนะนี้ แต่เมื่ออิหม่ามกาอิมปรากฏองค์ พระองค์จะสำแดงพยัญชนะที่เหลืออีกยี่สิบห้าตัวให้ปรากฏ? ?จงดูซิว่าสถานะของพระองค์ยิ่งใหญ่และสูงส่งเพียงไร! ตำแหน่งของพระองค์ล้ำเลิศกว่าตำแหน่งของพระศาสดาทุกพระองค์ และการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์อยู่เหนือกว่าความเข้าใจของทุกคนที่พระศาสดาเหล่านั้นเลือกสรร?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 125)

24 พฤษภาคม

?เหตุที่การเปิดเผยพระธรรมที่ยิ่งใหญ่และวิเศษสุดครั้งและการเปิดเผยพระธรรมของเราเองครั้งก่อ มีช่วงเวลาห่างกันน้อยมาก คือความลับที่ไม่มีใครคลี่คลายได้ และเป็นความลึกลับที่ไม่มีปัญญาใดหยั่งถึงช่วงเวลานี้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า และไม่มีใครค้นพบเหตุผลนอกจากว่าเขาจะได้รับทราบพระธรรมคัมภีร์เร้นลับของเรา?

หมายถึงการเปิดเผยพระธรรมของพระบาฮาอุลลาห์

พระบาฮาอุลลาห์พาดพิงถึงการเปิดเผยพระธรรมของพระบ๊อบว่าเป็นการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์เอง

?หากพระผู้เป็นปฐมภูมิ (พระบ๊อบ) คือผู้อื่นที่มิใช่เราดังที่เจ้าอ้าง และได้เข้าเฝ้าเรา พระองค์ย่อมไม่ยอมพรากจากเรา และเรากับพระองค์จะมีความปีติร่วมกันในยุคของเรา?

?ไม่มีปัญญาใดสามารถเข้าใจการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์ (พระบ๊อบ) ไม่มีความรู้ใดเข้าถึงศาสนาของพระองค์ได้บริบูรณ์?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 124, 138, 125)

25 พฤษภาคม

จากสารถึงนักบวชมุสลิมคนหนึ่ง

สายตาของเจ้าถูกบดบังด้วยความเชื่อที่ว่า การเปิดเผยพระธรรมสิ้นสุดที่การเสด็จมาของพระโมฮัมหมัด และเราได้เป็นพยานในเรื่องนี้ในสารฉบับแรกของเราที่แท้จริงแล้วพระผู้เปิดเผยวจนะให้แก่พระโมฮัมหมัดผู้เป็นธรรมเทศกของพระผู้เป็นเจ้า ทรงเปิดเผยวจนะให้แก่อาลี โมฮัมหมัดเช่นกัน เพราะใครหรือนอกจากพระผู้เป็นเจ้า ที่สามารถเปิดเผยวจนะที่ประจักษ์แจ้งและชัดเจนให้บุรุษคนหนึ่งพิชิตผู้รอบรู้ทั้งปวง? เนื่องด้วยเจ้ายอมรับการเปิดเผยพระธรรมของพระโมฮัมหมัดผู้เป็นเทศกของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่มีหนทางอื่นใดนอกจากจะยืนยันว่า สิ่งใดก็ตามที่เปิดเผยโดยพระผู้เป็นปฐมภูมิก็มาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงช่วยเหลือในภยันตราย พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเองมิใช่ความจริงหรือว่า พระผู้เป็นเจ้าประทานคัมภีร์กุรอ่านมาให้ และมวลมนุษย์สิ้นท่าต่อการเปิดเผยคัมภีร์นี้? ทำนองเดียวกัน วจนะเหล่านี้ก็เปิดเผยโดยพระผู้เป็นเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ อะไรในคัมภีร์บายัน หรือที่ทำให้เจ้าไม่ยอมรับว่า วจนะเหล่านี้มาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ที่เราเข้าไม่ถึง พระผู้ทรงปฏิเสธ พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์?…

หากเจ้าซื่อสัตย์และเชื่อฟังประกาศิตของพระผู้เป็นเจ้า ทุกคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนของเจ้าย่อมจะเชื่อตามเจ้า และได้เข้าไปยังพิมานสวรรค์ด้วยความพอใจในอภิรดีของพระผู้เป็นเจ้าตลอดไป อย่างไรก็ตามในวันนั้นเจ้าจะปรารถนาว่า พระผู้เป็นเจ้ามิได้สร้างเจ้าขึ้นมา

เจ้าได้วางตัวว่าเป็นหนึ่งในผู้รอบรู้ในศาสนาอิสลามเพื่อจะช่วยเหลือศาสนิกชนให้รอดพ้น แต่เจ้ากลับพาสาวกของเจ้าลงไปในกองไฟ เพราะเมื่อวจนะของพระผู้เป็นเจ้าหลั่งลงมา เจ้าพรากตัวเองจากวจนะเหล่านี้แล้วยังมาถือว่าตนเองเป็นพวกที่ชอบธรรม…

พระบ๊อบ (SWB 31-2)

26 พฤษภาคม

จากสารถึงกษัตริย์โมฮัมหมัด ชาห์

หากมนุษย์ก่อสร้างคฤหาสถ์มากมายบนโลก บูชาพระผู้เป็นเจ้าด้วยการกระทำที่ดีงามทุกอย่างที่พระองค์ทราบ และได้เข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้า และหากหัวใจของเขามีร่องรอยของความประสงค์ร้ายต่อเรา ถึงแม้จะเล็กน้อยจนไม่ต้องชี้แจงต่อพระผู้เป็นเจ้า การกระทำทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นศูนย์ และเขาจะถูกพรากจากความเอ็นดูที่พระผู้เป็นเจ้าทอดสายตามา จะกลายเป็นจุดหมายของความพิโรธของพระองค์ และจะมลายสิ้นอย่างแน่นอน เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า การเชื่อฟังเราจะนำไปสู่สิ่งดีงามทั้งปวงที่อยู่ในคลังแห่งความรู้ของพระองค์ และการไม่เชื่อฟังเราจะนำไปสู่ไฟทุกอย่างที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ของพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 11)

27 พฤษภาคม

จากสารถึงกษัตริย์โมฮัมหมัด ชาห์

พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานให้เรา เรามิใช่ผู้มีวิชาเพราะเราได้รับการอบรมมาเป็นพ่อค้า ในปีหกสิบ พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดซึมซาบวิญญาณของเราด้วยหลักฐานที่แน่ชัดและความรู้ที่มีน้ำหนัก ซึ่งเป็นลักษณะของพระผู้เป็นพยานหลักฐานของพระผู้เป็นเจ้า ขอสันติสุขจงมีแด่พระองค์ จนในที่สุดในปีนั้น เราได้ประกาศศาสนาที่ซ่อนเร้นของพระผู้เป็นเจ้า และเปิดให้เห็นเสาหลักของศาสนาที่อภิบาลไว้อย่างดี จนไม่มีใครแย้งได้…

…เราขอปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้า! เรามิได้แสวงหาประโยชน์ทางโลกจากเจ้าแม้เท่าเพียงเมล็ดมาสตาดแท้จริงแล้วในสายตาของเรานั้น การครอบครองสิ่งใดในโลกนี้หรือโลกหน้าเท่ากับหมิ่นศาสนาอย่างโจ่งแจ้ง เพราะผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้าไม่ควรหันไปมองสิ่งอื่นใด และไม่ควรยิ่งกว่าเพียงไหนที่จะครอบครองสิ่งเหล่านั้น เรารู้เป็นแน่แท้ว่า เนื่องด้วยเรามีพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมีชีวิตอยู่เสมอ พระผู้เป็นที่บูชา เราจึงเป็นผู้ครอบครองทุกสรรพสิ่งทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม…

พระบ๊อบ (SWB 12, 15-6)

28 พฤษภาคม

จากสารถึงกษัตริย์นาเซริดิน ชาห์

ดูกร กษัตริย์! เราเป็นเพียงมนุษย์เหมือนคนอื่นขณะนิทราอยู่บนบรรถร ดูซิ สายลมของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์พัดมายังเรา และสอนความรู้เกี่ยวกับทุกสรรพสิ่งแก่เรา สิ่งนี้มิได้มาจากเรา แต่มาจากพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงรอบรู้ และพระองค์ทรงบัญชาให้เราเปล่งเสียงระหว่างโลกและสวรรค์ และเพราะสิ่งนี้จึงมีเหตุการณ์บังเกิดขึ้นกับเราซึ่งทำให้ผู้มีปัญญาทุกคนน้ำตาไหล วิชาที่มนุษย์มีอยู่เราหาได้เล่าเรียนไม่ โรงเรียนของพวกเขาเรามิได้เข้าไป จงถามถึงเมืองที่เราอาศัยอยู่ เพื่อเจ้าจะแน่ใจว่าเรามิได้เป็นพวกพูดเท็จ นี้เป็นเพียงใบไม้เดียวที่วายุแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ ได้กระพือขึ้น ใบไม้นี้จะอยู่นิ่งได้หรือขณะที่พายุกำลังพัดมา? ไม่เพียงเท่านั้น ขอพระผู้ทรงเป็นนายของพระนามและคุณลักษณะทั้งปวงเป็นพยาน พายุพัดใบไม้ไปตามที่ต้องการ…มีใครหรือที่เต็มใจพูดสิ่งที่จะทำให้มวลมนุษย์ทั้งผู้สูงศักดิ์และต่ำต้อยต่อต้านเขา? ไม่มี…นอกจากผู้ที่กรุณาธิคุณของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอานุภาพ เสริมพลังให้…

พระบาฮาอุลลาห์ (ESW 11-2)

29 พฤษภาคม

ปรินิพพานของพระบาฮาอุลลาห์

ดูกร ประชาชน อย่าได้หวั่นใจเมื่อชีวิตที่เรืองรองของเราอำลาโลกนี้ไป และมหาสมุทรแห่งวจนะของเราสงบนิ่ง การที่เราอยู่กับเจ้ามีข้อดีอย่างหนึ่ง และการที่เราไม่อยู่มีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครหยั่งรู้ได้นอกจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ไม่มีเปรียบปาน พระผู้ทรงรอบรู้ เรามองเห็นเจ้าจากอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ของเราและจะช่วยผู้ที่ลุกขึ้นเพื่อชัยชนะของศาสนาของเราด้วย กองทัพเทวัญเบื้องบนและหมู่เทพธิดาที่เราโปรดปราน

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 139)

ธรรมาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งครั้งหนึ่งเรืองรองต่อมนุษยชาติได้ลับฟ้าไปแล้ว เพื่อส่องแสงนิรันดร์จากขอบฟ้าอับฮา ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์อนันต์ของพระองค์ เป็นการสาดรัศมีจากเบื้องบนมายังบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ และพัดลมหายใจแห่งชีวิตนิรันดร์เข้าไปในหัวใจและวิญญาณของพวกเขา…

ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นนาย! จงระวัง จงระวัง อย่าได้ลังเลหรือหวั่นไหว อย่าให้ความกลัวครอบงำเจ้า อย่าได้หนักใจหรือละเหี่ยใจ จงตั้งสติมิฉะนั้นวันแห่งความหายนะนี้จะกลบเปลวไฟแห่งความศรัทธาและดับความหวังของเจ้า วันนี้คือวันแห่งความมั่นคงไม่ผันแปร ขอพรจงมีแด่บรรดาผู้ที่มั่นคงไม่หวั่นไหวประดุจโขดหิน และฝ่าพายุและความตึงเครียดของชั่วโมงมรสุมนี้ แท้จริงแล้วพวกเขาจะเป็นผู้รับกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า จะได้รับความช่วยเหลือจากพระองค์และมีชัยอย่างแท้จริง…

ธรรมาทิตย์ผู้เป็นอาภาที่ชัชวาลที่สุดนั้น ได้ลับขอบฟ้าของโลกไป เพื่อรุ่งขึ้นมาด้วยความโชติช่วงอมรในอาณาจักรของพระผู้ทรงไร้ข้อจำกัด ในคัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด พระองค์ทรงเรียกบรรดาสหายที่มั่นคงและหนักแน่นว่า: ?ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลกอย่าได้หวั่นไหวเมื่อดวงตะวันแห่งความงามของเราลาลับไป และนภาแห่ง มณเทียรของเรามืดไปจนมองไม่เห็น จงลุกขึ้นเพื่อส่งเสริมศาสนาและเชิดชูพระวจนะของเราในหมู่มนุษย์?

พระอับดุลบาฮา (SWAB 17-8)

30 พฤษภาคม

พระผู้ทรงความงามอับฮา ขอให้วิญญาณของทุกสรรพสิ่งสละเพื่อบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ ทรงทนการทดสอบทุกรูปแบบ และเต็มใจรับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่มีการทรมานใดที่วรกายของพระองค์ไม่ได้รับ ไม่มีความทุกข์ใดที่มิได้บังเกิดกับพระองค์ เป็นเวลากี่คืนที่พระองค์ถูกล่ามโซ่และบรรทมไม่ได้เพราะน้ำหนักของปลอกคอเหล็ก เป็นเวลากี่วันที่โซ่ตรวนล่ามข้อเท้าของพระองค์อย่างปวดแสบจนพักผ่อนไม่ได้แม้เพียงชั่วขณะ พระองค์ผู้เป็นพรหมกายของวิญญาณและคุ้นเคยกับการพักผ่อนบนเบาะไหมประดับ ถูกพวกเขาบังคับให้วิ่งจากนียาวารานไปยังเตหะราน โดยถูกล่ามโซ่ เท้าเปล่า ไม่มีอะไรคลุมศีรษะ และลงไปใต้ดินอันมืดมิดในคุกแคบๆ พวกเขาขังพระองค์ไว้กับเหล่าฆาตกร กบฏและขโมย ทำร้ายพระองค์ด้วยวิธีทรมานใหม่ๆ อย่างไม่ขาดสาย ทุกคนแน่ใจว่า ทุกขณะที่ผ่านไป พระองค์จะต้องพบจุดจบของชีวิต หลังจากนั้นพวกเขาเนรเทศพระองค์ออกจากดินแดนบ้านเกิดไปยังต่างแดนที่ห่างไกล ช่วงเวลาหลายปีในอิรัก ทุกขณะที่ผ่านไปทิ่มแทงหัวใจอันบริสุทธิ์ของพระองค์อย่างปวดร้าว ทุกลมหายใจของพระองค์มีภัยคุกคาม ไม่มีเวลาใดที่พระองค์หวังจะได้พักผ่อนในความปลอดภัย เหล่าศัตรูโจมตีพระองค์จากรอบด้านอย่างไม่คลายความเกลียดชัง และพระองค์ต้านทานพวกเขาทั้งหมดโดยลำพัง หลังจากความทุกข์ทรมานทั้งหมดนี้ หลังจากการโจมตีเหล่านี้พวกเขาขับพระองค์ออกจากอิรัก ออกจากทวีปเอเชียไปยังยุโรป และที่นั่นซึ่งเป็นสถานที่เนรเทศที่ขมขื่นและแร้นแค้นอย่างน่าสังเวช การประทุษร้ายที่ประชาชนแห่งคัมภีร์กุรอ่านโหมมายังพะองค์ ได้สมทบกับการประหัตประหารอันร้ายเหลือ การโจมตีที่รุนแรง การวางอุบาย การใส่ร้าย ความเป็นศัตรูอยู่เป็นนิจ ความชิงชังและคิดร้าย จากประชาชนแห่งคัมภีร์บายัน ปากกาของเราไม่สามารถเล่าได้ทั้งหมด แต่เจ้ารับทราบแล้วแน่นอน และหลังจาก 24 ปีในคุกที่หฤโหดที่สุดนี้ ซึ่งปวดร้าวและทุกข์ทรมานชีวิตของพระองค์จึงอำลาโลกไป

สรุปคือ ระหว่างที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ชั่วคราว พระผู้ทรงความงามจิรันดรเป็นนักโทษที่ถูกล่ามโซ่ มีชีวิตอยู่ภายใต้การถูกคุกคาม หรือไม่ก็ทนทุกข์และถูกทรมานอย่างแสนสาหัส หรือถูกกักขังอยู่ในคุกที่หฤโหดที่สุด เพราะว่าสุขภาพที่อ่อนแอที่เป็นผลมาจากการทนทุกข์ทรมาน วรกายของพระองค์จึงสึกหรอจนเหลือเพียงลมหายใจ และเบาประดุจใยแมงมุมเพราะทุกข์โศกมายาวนาน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 262-3)

31 พฤษภาคม

สุคนธรสของภูษาขจรออกมาจากกฎของเรา และกฎเหล่านี้จะช่วยปักธงชัยบนยอดสูงสุด จากนภาแห่งอำนาจอันรุ่งโรจน์ ชิวหาแห่งอานุภาพของเราตรัสต่อสรรพสิ่งทั้งปวงว่า: ?จงปฏิบัติตามบัญญัติด้วยรักในความงามของเรา? ความสุขจงมีแต่คนรักที่ได้สูดสุคนธรสของพระผู้เป็นที่รักยิ่งจากวจนะเหล่านี้ ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของพระกรุณาที่ไม่มีวจีใดพรรณนาได้ ชีวิตของเราเป็นพยาน! ผู้ที่ได้ดื่มอมฤตแห่งความเที่ยงธรรมจากพระหัตถ์ที่โอบอ้อมอารีของเรา จะรายล้อมบัญญัติที่เรืองรองอยู่เหนืออรุโณทัยแห่งสรรพภาวะ

อย่าได้คิดว่าเราเพียงแต่เปิดเผยกฎชุดหนึ่งสำหรับเจ้า ไม่เลย ที่จริงแล้วเราได้เปิดผนึกของอมฤตธรรมด้วยองคุลีแห่งอำนาจและอานุภาพ วจนะจากปากกาแห่งการเปิดเผยพระธรรมเป็นพยานต่อสิ่งนี้ ดูกร มนุษย์ผู้มีปัญญา! จงใคร่ครวญดู

พระบาฮาอุลลาห์ (Kit?b-i-Aqdas no. 4-5)

มิถุนายน

1 มิถุนายน

เมื่อใดที่กฎของเราปรากฏขึ้นมาเสมือนสุริยันบนนภาแห่งวาทะ ทุกคนต้องซื่อสัตย์และเชื่อฟังกฎเหล่านี้แม้ว่าประกาศิตของเราจะทำให้นภาของทุกศาสนาขาดสะบั้นก็ตาม พระองค์กระทำตามที่พระองค์ปรารถนา พระองค์ตัดสินใจและไม่มีใครจะมาตั้งข้อสงสัย อะไรก็ตามที่พระองค์ พระผู้เป็นที่รักยิ่งบัญญัติ สิ่งนั้นก็เป็นที่รักยิ่งเช่นกัน พระผู้ทรงเป็นนายของสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นพยานให้เรา ใครก็ตามที่ได้สูดสุคนธรสของพระผู้ทรงปรานี และยอมรับพระผู้เป็นบ่อเกิดของวาทะนี้ จะต้อนรับคมอาวุธของศัตรูด้วยตาของเขาเอง เพื่อว่าเขาจะได้พิสูจน์สัจธรรมในกฎของพระผู้เป็นเจ้าต่อมวลมนุษย์ ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่หันมาและเข้าใจความหมายของประกาศิตที่เฉียบขาดของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (Kit?b-i-Aqdas no. 7)

2 มิถุนายน

จงรู้ไว้ว่า สาระและบ่อเกิดของความยุติธรรมก่อร่างอยู่ในบัญญัติของบรมศาสดาผู้เป็นธรรมกายของพระผู้เป็นเจ้าในหมู่มนุษย์ หากเจ้าเป็นพวกที่ยอมรับสัจธรรมนี้ แท้จริงแล้วพระองค์ทรงกำหนดมาตรฐานสูงสุดของความยุติธรรมที่ไม่มีผิดพลาดสำหรับสรรพสิ่งทั้งปวง หากกฎของพระองค์ทำให้หัวใจของทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลกต้องหวาดผวา กฎนั้นมิใช่อื่นใดนอกจากความยุติธรรมอันประจักษ์แจ้ง ความกลัวและวุ่นวายใจที่การเปิดเผยกฎนี้ก่อให้เกิดในหัวใจ ที่จริงแล้วควรเปรียบได้กับการร้องของทารกที่หย่านมมารดาหากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจ หากมนุษย์ค้นพบเจตนาที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยพระธรรมของพระผู้เป็นเจ้า แน่ใจได้ว่าพวกเขาย่อมสลัดความกลัวทิ้งไป และจะปีติอย่างเหลือล้นด้วยความรู้คุณในหัวใจ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 175)

3 มิถุนายน

ตามกฎมูลฐานที่เราเปิดเผยไว้ในคัมภีร์คีตาบีอัคดัส และธรรมจารึกอื่นๆ ก่อนหน้านี้ กิจการทั้งหมดตกอยู่ในความดูแลของกษัตริย์และประธานาธิบดีที่ยุติธรรมทั้งหลาย และสมาชิกสภายุติธรรมสากล เมื่อได้ตรึกตรองสิ่งที่เราแถลงไว้ มนุษย์ทุกคนที่เที่ยงธรรมและหลักแหลม จะมองเห็นความสว่างไสวที่ส่องมาจากดวงตะวันแห่งความยุติธรรม

ระบบการปกครองที่ชาวอังกฤษนำมาใช้ในลอนดอนดูเข้าท่า เพราะประดับด้วยแสงของทั้งกษัตริย์และการปรึกษาหารือของประชาชน

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 93)

4 มิถุนายน

งานฉลองบุญ แสงสว่าง

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

ในทุกวัฏจักรและทุกยุคศาสนา งานฉลองเป็นที่รักและโปรดปราน และการปูโต๊ะเพื่อบรรดาคนรักของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการพิจารณาว่า เป็นการกระทำที่น่าสรรเสริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ ในยุคศาสนาที่ไม่มีเปรียบและเป็นยุคที่โอบอ้อมอารีที่สุดนี้ งานฉลองได้รับการต้อนรับอย่างสูง เพราะได้รับการพิจารณาว่าเป็นการชุมนุมที่จัดขึ้นเพื่อบูชาและสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ในงานนี้มีการสวดวจนะศักดิ์สิทธิ์ บทกลอนและคำสดุดี หัวใจตื่นตัวขึ้นและล่องลอยไป

เจตนาเบื้องต้นคือการปลุกพลังชีวิตเหล่านี้ในวิญญาณ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นไปตามปกติวิสัยที่ผู้มาชุมนุมควรร่วมรับอาหาร เพื่อว่าภพของร่างกายจะสะท้อนให้เห็นภาพของวิญญาณ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 90-1)

5 มิถุนายน

สรรพสิ่งทั้งปวงมีขีดหรือระยะของความสมบูรณ์สุด ช่วงเวลาที่สมบูรณ์สุดของต้นไม้คือเวลาที่ออกผล…และสำหรับมนุษย์นี้ มนุษย์บรรลุถึงความสมบูรณ์สุดเมื่อประทีปแห่งปัญญาของเขาเรืองรัศมีอย่างเจิดจ้าที่สุด…ทำนองคล้ายกัน มนุษยชาติโดยส่วนรวมมีช่วงเวลาและระยะต่างๆ ช่วงหนึ่งอยู่ในวัยเด็ก อีกช่วงหนึ่งอยู่ในวัยรุ่น และปัจจุบันนี้เข้ามาสู่ระยะของวุฒิภาวะที่ทำนายกันมานาน ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่ทุกแห่งหน…บัดนี้มนุษย์ต้องซึมซาบคุณธรรมและพลังใหม่ มาตรฐานศีลธรรมใหม่ ความสามารถใหม่ พระพรใหม่อันล้ำเลิศกำลังรอคอยและหลั่งมายังมนุษย์แล้ว พรสวรรค์และพระพรที่เหมาะสมและเพียงพอในระหว่างวัยรุ่น บัดนี้ไม่เพียงพอสำหรับวัยผู้ใหญ่ของมนุษยชาติ

พระอับดุลบาฮา (WOB 164-5)

6 มิถุนายน

พระผู้ทรงปรานีทรงประสาทมนุษย์ด้วยความสามารถในการมองเห็นและได้ยิน บางคนพรรณนามนุษย์ว่าเป็น ?ภพน้อย? ในเมื่อความเป็นจริงนั้น มนุษย์ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็น ?ภพใหญ่? ศักยภาพทั้งหลายที่มีอยู่ในธรรมชาติของมนุษย์ ความเจริญขั้นสูงสุดของมนุษย์บนโลก และความสมบูรณ์เลิศที่แฝงอยู่ในตัวเขา จะต้องปรากฏออกมาในยุคแห่งพันธสัญญานี้ของพระผู้เป็นเจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 340)

7 มิถุนายน

พระพรจงมีแด่ผู้ที่ลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นนายแห่งการเริ่มต้นและอวสานขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มซึ่งเป็นวัยที่กระปรี้กระเปร่า และประดับหัวใจของตนด้วยความรักพระองค์ พระกรุณาดังกล่าวยิ่งใหญ่กว่าการสร้างสวรรค์และโลก พระพรและความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่มั่นคง

พระบาฮาอุลลาห์ (LG 1988 no. 2139)

8 มิถุนายน

?การเคลื่อนไหวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในตัวเองเมื่อกระทำเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า มีอิทธิพลเสมอมาและสามารถมีอิทธิพลต่อโลกในปัจจุบัน คัมภีร์ในอดีตได้ประกาศและลิขิตฐานะของบรรดาผู้ที่เดินทางใกล้หรือไกลเพื่อนำทางคนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า?…?ใครที่เปิดริมฝีปากในยุคนี้และกล่าวถึงพระนามของพระผู้เป็นเจ้าของเขา กองทัพแห่งแรงบันดาลใจสวรรค์จากนภาแห่งพระนามของเรา พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพจะลงมาเยี่ยมเขา หมู่เทวัญเบื้องบนซึ่งต่างก็ชูถ้วยแห่งแสงสว่างอันพิสุทธิ์ จะลงมาหาเขาเช่นกัน ดังนี้คือสิ่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในอาณาจักรแห่งการเปิดเผยพระธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ตามโองการของพระผู้เป็นผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 70-1)

9 มิถุนายน

?ในยุคนี้ประตูเปิดกว้างกว่าสวรรค์และโลก ความปรานีของพระผู้เป็นยอดปรารถนาของภพทั้งปวงทอดสายตามายังมวลมนุษย์ การกระทำที่แม้จะน้อยนิดเพียงไร เมื่อส่องด้วยกระจกแห่งความรู้ของพระผู้เป็นเจ้า จะยิ่งใหญ่กว่าภูเขา ทุกหยดที่สละในวิถีของพระองค์เป็นประดุจดังแม่น้ำในกระจกนั้น เพราะยุคนี้คือยุคที่พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระองค์ ทรงประกาศไว้ในคัมภีร์ทุกเล่มต่อพระศาสดาและธรรมฑูตทั้งหลาย? ?ในการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ หากมนุษย์หลั่งเลือดเพียงหยดเดียวเพื่อเห็นแก่ศาสนานี้ เขาจะได้รับมหาสมุทรสุดคณานับเป็นการตอบแทน?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 65-6)

?หมู่เทวัญที่วิสุทธิ์บนสวรรค์อันประเสริฐสุด ปรารถนากลับมายังโลกในยุคนี้ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือในการรับใช้ ณ ธรณีประตูของพระผู้ทรงความงามอับฮา และลุกขึ้นสาธิตความเป็นทาสรับใช้ ณ ธรณีประตูศักดิ์สิทธิ์นั้น?

พระอับดุลบาฮา (ADJ 39)

10 มิถุนายน

จงแน่ใจได้ว่า ดังที่เจ้าเชื่อมั่นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ คงอยู่นิรันดร์ เจ้าต้องเชื่อมั่นอย่างไร้ข้อสงสัยเช่นกันว่าความหมายของพระวจนะไม่มีสิ้นสุด อย่างไรก็ตามบรรดาผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ตีความ บรรดาผู้ที่มีหัวใจเป็นคลังแห่งความลับของพระวจนะเท่านั้น คือผู้ที่สามารถเข้าใจอัจฉริยภาพอเนกอนันต์ของพระวจนะ ใครก็ตามขณะที่อ่านคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ แล้วใคร่จะเลือกแต่สิ่งที่ตนจะนำมาใช้ท้าทายอำนาจของพระผู้เป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าในหมู่มนุษย์ แท้จริงแล้วเขาเป็นเสมือนคนตาย แม้ดูภายนอกเขาอาจเดินและสนทนากับเพื่อนบ้าน แบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มกับเพื่อนบ้าน

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 175-6)

11 มิถุนายน

โอ ขอให้โลกเชื่อเราเถอะ! หากทุกสิ่งที่ถนอมอยู่ในหัวใจของบาฮา และทุกสิ่งที่พระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของพระองค์ พระผู้เป็นนายแห่งนามทั้งปวงได้สอนพระองค์ ถูกเปิดเผยต่อมนุษยชาติ มนุษย์ทุกคนบนพิภพจะต้องตะลึงงัน

สัจธรรมมากมายเพียงไรที่ภูษาแห่งวจนะไม่มีทางบรรจุ! หลักธรรมไพศาลเพียงไรที่ไม่มีคำอธิบายใดพรรณนาได้เพียงพอ ซึ่งความหมายของหลักธรรมเหล่านี้ไม่มีทางคลี่คลายได้ และไม่มีทางจะพาดพิงถึงแม้แต่น้อย! สัจธรรมอเนกอนันต์เพียงไรที่ยังไม่ได้เอ่ยออกมาจนกว่าจะถึงกำหนดเวลา! ดังที่มีการกล่าวไว้ว่า: ?ทุกสิ่งที่มนุษย์ทราบจะเปิดเผยออกมาทั้งหมดไม่ได้ และทุกสิ่งที่มนุษย์เปิดเผยได้ก็ใช่จะเหมาะกับเวลาเสมอไป และวาจาที่เหมาะกับเวลาก็ใช่ว่าผู้ฟังทุกคนจะได้รับ?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 176)

12 มิถุนายน

ควรรอบคอบอย่างยิ่งมิให้ข้อความที่เขียนขึ้นมาก่อให้เกิดการพิพาทในยุคนี้ หรือเปิดโอกาสให้ประชาชนคัดค้าน ถ้อยคำใดก็ตามที่มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวเอ่ยออกมาในยุคนี้ ประชาชนบนโลกจะเงี่ยหูฟัง ในโลเฮเฮคมาทได้เปิดเผยไว้ว่า: ?บรรดาผู้ที่ไม่เชื่อได้เงี่ยหูฟังเราเพื่อคอยจับสิ่งที่พวกเขาจะใช้หาเรื่องพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงช่วยเหลือในภยันตราย พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง? การเขียนสิ่งใดก็ตามควรใช้ไหวพริบและความรอบคอบ และถ้อยคำที่ใช้ควรมีคุณค่าเหมือนน้ำนม เพื่อจะได้หล่อเลี้ยงบุตรหลานบนพิภพให้เติบโตเป็นพยาน เราได้กล่าวไว้ในอดีตว่าถ้อยคำหนึ่งมีอิทธิพลเหมือนวสันตฤดูที่ทำให้หัวใจสดชื่นและเขียวขจี ขณะที่อีกถ้อยคำหนึ่งเป็นเสมือนความเฉาที่ทำให้ดอกไม้ร่วงโรย พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้มิตรสหายที่เป็นนักประพันธ์เขียนด้วยลักษณะที่ผู้มีจิตใจเที่ยงธรรมสามารถยอมรับได้ และไม่ให้ประชาชนมาหาเรื่องได้

พระบาฮาอุลลาห์ (COC NO. 2212)

13 มิถุนายน

หากเราต้องการอธิษฐาน เราต้องมีจุดหมายบางอย่างที่เราจะเพ่งสมาธิไปสู่ หากเราตั้งจิตสู่พระผู้เป็นเจ้า เราต้องมุ่งใจไปสู่ที่ศูนย์กลางหนึ่ง ?หากมนุษย์บูชาพระผู้เป็นเจ้านอกเหนือไปจากผ่านทางพระผู้แสดงธรรมของพระองค์ ประการแรกมนุษย์ต้องสร้างความนึกคิดเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า และความนึกคิดนั้นเกิดขึ้นจากจิตใจของเขาเอง เนื่องด้วยสิ่งที่มีขีดจำกัดไม่สามารถเข้าใจพระผู้ทรงไร้ขีดจำกัด ดังนั้นจึงเข้าใจพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ด้วยวิธีนี้ สิ่งที่มนุษย์นึกคิดด้วยจิตใจของตนเองคือสิ่งที่มนุษย์เข้าใจ สิ่งที่มนุษย์สามารถเข้าใจไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้า ความนึกคิดเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าที่มนุษย์คิดขึ้นมาเองเป็นเพียงภาพหลอน มโนภาพ จินตนาการ หรือภาพลวง ไม่มีความเกี่ยวเนื่องระหว่างความนึกคิดเช่นนี้กับพระผู้ทรงความยิ่งใหญ่ที่สุด

พระอับดุลบาฮา (BNE 101-2)

14 มิถุนายน

บทอธิษฐานบังคับนี้จำเป็นต้องสวด เพราะทำให้ผู้สวดถ่อมตัวและยอมจำนน หันหน้าไปหาพระผู้เป็นเจ้าและอุทิศตนต่อพระองค์ มนุษย์ได้สนทนากับพระผู้เป็นเจ้าโดยการอธิษฐานนี้ พยายามเข้าใกล้พระองค์สนทนากับพระผู้เป็นที่รักยิ่งของหัวใจ และบรรลุถึงสภาวธรรม

จงรู้ไว้ว่าในทุกวจนะและทุกจังหวะของบทอธิษฐานบังคับ มีนัย ความลึกลับและอัจฉริยภาพที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจ อีกทั้งอักษรและม้วนพระธรรมไม่สามารถบรรจุได้

พระอับดุลบาฮา (IPMDA 18, 20)

15 มิถุนายน

หลังการอธิษฐานแต่ละครั้ง คนรับใช้ควรวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าขอทรงปรานีและให้อภัยบิดามารดาของตน ครั้นแล้วเสียงร้องเรียกของพระผู้เป็นเจ้าจะเปล่งขึ้นมาว่า: ?เจ้าจะได้รับการตอบแทนนับพันเท่าสำหรับสิ่งที่เจ้าขอให้บิดามารดา!? พระพรจงมีแด่ผู้ที่ระลึกถึงบิดามารดาของตนขณะสนทนากับพระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้วไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้เป็นที่รักยิ่ง

พระบ๊อบ (SWB 94)

16 มิถุนายน

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า! หากไม่พบว่ามีผู้หลงไปจากวิถีธรรมของพระองค์ ธงแห่งความปรานีจะคลี่ออกหรือธงแห่งกรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นของพระองค์จะสาวขึ้นได้อย่างไร หากไม่พบผู้ใดกระทำความอยุติธรรม สิ่งใดเล่าจะสามารถประกาศว่าพระองค์คือผู้ปกปิดบาปของมนุษย์ พระผู้ทรงอภัยเสมอ พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ? ขอให้วิญญาณของข้าพเจ้าสละเพื่ออกุศลกรรมของบรรดาผู้ทำบาปต่อพระองค์ เพราะอกุศลกรรมเหล่านี้มีสุคนธรสโชยมาจากความเมตตาปรานีของพระนามของพระองค์ พระผู้ทรงเห็นใจ พระผู้ทรงปรานี ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าสละเพื่อความผิดของผู้ที่ละเมิดพระองค์ เพราะโดยความผิดนี้ ลมหายใจแห่งพระกรุณาและสุคนธรสแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์จึงเป็นที่รู้จักและแพร่ไปในหมู่มนุษย์ ขอให้วิญญาณของข้าพเจ้าสละเพื่อบาปของผู้ที่ทำบาปต่อพระองค์ เพราะบาปเหล่านี้เอง ดวงตะวันแห่งกรุณาธิคุณของพระองค์จึงรุ่งอรุณขึ้นมาบนขอบฟ้าแห่งความอารี และเมฆแห่งการบริบาลไม่รู้สิ้นของพระองค์จึงหลั่งพรมาให้ทุกสรรพสิ่ง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 310-11)

17 มิถุนายน

ในทุกยุคและทุกวัฏจักร พระองค์ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งใหม่ด้วยแสงธรรมที่เรืองรัศมีมาจากพระผู้แสดงสาระอัศจรรย์ของพระองค์ เพื่อว่าสิ่งใดก็ตามที่สะท้อนเครื่องหมายแห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์ในสวรรค์และบนโลก จะไม่ถูกพรากจากความปรานีหรือสิ้นหวังต่อการหลั่งกรุณาธิคุณของพระองค์ ความพิศวงของพระกรุณาอันไร้ขอบเขตของพระองค์ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่งเช่นไร! จงดูว่าความพิศวงนี้ได้ซึมซาบสรรพสิ่งทั้งปวงอย่างไร ดังกล่าวคือความพิศวงอันล้ำเลิศที่ไม่มีแม้แต่อะตอมเดียวในจักรวาลที่มิได้ประกาศหลักฐานของอำนาจของพระองค์ มิได้สรรเสริญพระนามอันศักดิ์สิทธิ์หรือแสดงถึงแสงสว่างแห่งเอกภาพของพระองค์ การสร้างสรรค์ของพระองค์นั้นสมบูรณ์และกว้างขวางจนไม่มีปัญญาหรือหัวใจใดไม่ว่าจะหลักแหลมหรือบริสุทธิ์เพียงไหน จะสามารถเข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุดของพระองค์ และไหนเลยจะหยั่งถึงความลึกลับของพระผู้เป็นดวงตะวันแห่งธรรมะ ผู้เป็นสาระที่มองไม่เห็นและอยู่เหนือญาณทัสนะ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 62)

18 มิถุนายน

ความนึกคิดของผู้ที่มีญาณแก่กล้าที่สุด ความรู้ของผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คำสรรเสริญสูงสุดที่วจีหรือปากกาของมนุษย์สามารถสดุดีได้ ล้วนเป็นผลผลิตของปัญญาที่จำกัดของมนุษย์และอยู่ภายใต้ข้อจำกัดนี้ พระศาสดาหนึ่งหมื่นองค์ แต่ละองค์เป็นเช่นพระโมเสสบนไซไนแห่งการแสวงหา พรั่นใจต่อสุรเสียงที่น่าเกรงขามของพระองค์ ?เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นเรา!? ขณะที่ธรรมฑูตมากมายซึ่งแต่ละพระองค์ยิ่งใหญ่เหมือนพระเยซูอยู่บนบัลลังก์สวรรค์ ละเหี่ยใจต่อคำปราม ?เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจสาระของเรา!? ตั้งแต่โบราณกาลพระองค์ซ่อนเร้นอยู่ในความวิสุทธิ์ของอัตภาพอันประเสริฐเกินกว่าจะพรรณนาได้ และจะคงอยู่ในความลึกลับของสาระของพระองค์ที่อยู่เหนือญาณทัสนะ ความพยายามทุกอย่างที่จะเข้าใจสภาวะที่เข้าไม่ถึงของพระองค์ได้ลงเอยที่ความสับสนอย่างสิ้นท่า ความอุตสาหะทุกประการที่จะเข้าหาอัตภาพอันประเสริฐหรือมองให้เห็นสาระของพระองค์ ลงเอยที่ความสิ้นหวังและล้มเหลว

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 62-3)

19 มิถุนายน

อย่างไรก็ตามที่อยู่ในสวรรค์หรือบนโลกคือหลักฐานโดยตรงของการเปิดเผยคุณลักษณะและพระนามของพระผู้เป็นเจ้าในสิ่งนั้น เนื่องด้วยในทุกอะตอมมีสัญลักษณ์ที่เป็นพยานหลักฐานถึงอาภาที่ชัชวาลที่สุดนี้ เราคิดว่าหากมิใช่เพราะอานุภาพนี้ ย่อมไม่มีชีวิตดำรงอยู่แสงสว่างแห่งความรู้ที่เรืองอยู่ในอะตอมนั้นช่างโชติช่วงเพียงไร มหาสมุทรแห่งอัจฉริยภาพที่สาดซัดอยู่ในหยดน้ำช่างไพศาลเพียงไร! ระดับสูงสุดของอานุภาพนี้แฝงอยู่ในมนุษย์ผู้ได้รับการสวมเสื้อคลุมแห่งพระพร และได้รับความรุ่งโรจน์เป็นพิเศษดังกล่าวเพียงผู้เดียว เพราะในมนุษย์มีศักยภาพของคุณลักษณะและพระนามทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้าถึงขั้นที่ว่า ไม่มีสรรพสิ่งใดล้ำเลิศหรือเหนือกว่า…และในบรรดามนุษย์ทั้งหมด ผู้ที่ปรีชาที่สุด เป็นเอกและล้ำเลิศที่สุด คือพระศาสดาทั้งหลายผู้เรืองแสงจากดวงอาทิตย์แห่งธรรม ไม่เพียงเท่านั้นมนุษย์ทุกคนดำเนินชีวิตตามปฏิบัติการของพระประสงค์ของพระองค์ เคลื่อนไหวและดำรงอยู่โดยอาศัยการหลั่งกรุณาธิคุณจากพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 177, 179)

20 มิถุนายน

จงพิจารณาว่า พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวคือผู้ทรงประเสริฐเหนือทุกสรรพสิ่ง และหาใช่สิ่งเหล่านั้น ทั้งจักรวาลสะท้อนความรุ่งโรจน์ของพระองค์ขณะที่พระองค์อยู่เหนือและไม่ขึ้นกับสิ่งใด นี้คือความหมายที่แท้จริงของเอกภาพสวรรค์ พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์คือผู้เดียวที่มีอำนาจปกครองสรรพภาวะด้วยอธิปไตยที่โต้แย้งไม่ได้ และภาวะของพระองค์สะท้อนอยู่ในสรรพสิ่งทั้งปวง ทุกสรรพสิ่งขึ้นกับพระองค์และได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระองค์ นี้คือความหมายของเอกภาพสวรรค์ นี้คือหลักธรรมมูลฐาน

บุคคลที่มองเห็นสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์ที่เปิดเผยอยู่ในทุกสรรพสิ่ง คือผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง มิใช่ผู้ที่ยืนยันว่าสิ่งที่ถูกสร้างไม่ต่างจากพระผู้สร้าง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 166, 189)

21 มิถุนายน

แก่นของความเชื่อในเอกภาพสวรรค์อยู่ที่การพิจารณาว่า พระผู้แสดงธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระผู้เป็นสาระที่มองไม่เห็น เข้าถึงไม่ได้ และอยู่เหนือญาณทัสนะ นี้หมายความว่า อะไรก็ตามที่เกี่ยวพันกับพระศาสดาและการกระทำทั้งหมดของพระองค์ อะไรก็ตามที่พระองค์บัญญัติหรือห้าม ควรได้รับการพิจารณาในทุกแง่ ทุกสภาพแวดล้อม โดยปราศจากเงื่อนไขว่า เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเอง นี้คือสถานะอันสูงส่งที่สุดที่ผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริงหวังจะบรรลุได้ พระพรจงมีแด่ผู้ที่บรรลุถึงสถานะนี้และเป็นพวกที่มีความเชื่อแน่วแน่

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 167)

22 มิถุนายน

พวกเจ้าบางคนกล่าวว่า: ?พระองค์คือผู้ที่อ้างตนเป็นพระผู้เป็นเจ้า? ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยาน! นี้คือการใส่ร้ายทั้งเพ เราเป็นเพียงคนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า เชื่อในพระองค์และเครื่องหมายของพระองค์ เชื่อในพระศาสดาและเทพยดาของพระองค์ ชิวหาและหัวใจ ร่างกายและวิญญาณของเรา ขอยืนยันว่าไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ และสิ่งอื่นทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยโองการของพระองค์ และออกแบบโดยปฏิบัติการของพระประสงค์ของพระองค์ ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ?พระผู้สร้าง พระผู้ทรงฟื้นคนตาย พระผู้ทรงกระตุ้นชีวิต พระผู้ทรงสังหาร เราคือผู้ป่าวประกาศสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดแก่เราด้วยความอารีของพระองค์ หากสิ่งนี้เป็นการละเมิดเช่นนั้นเราคือผู้ละเมิดคนแรก

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 228)

23 มิถุนายน

งานฉลองบุญความปรานี

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

เราขอฝากฝังเจ้าทุกคนให้มีหัวใจจดจ่ออยู่กับความรักและสามัคคี เมื่อสงครามเข้ามาในความคิดจงต้านด้วยความคิดถึงสันติภาพ ความรู้สึกเกลียดชังต้องถูกดับด้วยอำนาจของความรักที่เหนือกว่า ความคิดถึงสงครามนำไปสู่การทำลายล้างความปรองดอง ความผาสุก ความสงบและพึงพอใจทั้งหมด ความรักในหัวใจสร้างสรรค์ภราดรภาพ สันติภาพ มิตรภาพ และความสุข…

หากหัวใจของเจ้าปรารถนามิตรภาพกับทุกเชื้อชาติบนโลก ความคิดอันทรงคุณธรรมและสร้างสรรค์นี้จะกระจายออกไป จนกลายเป็นความปรารถนาของผู้อื่น และจะมีอิทธิพลมากขึ้นจนเข้าไปสู่จิตใจมนุษย์ทั้งมวล

พระอับดุลบาฮา (DAL 111)

24 มิถุนายน

อะไรก็ตามที่อยู่ในหัวใจของมนุษย์ ทำนองเพลงจะกระตุ้นและปลุกขึ้นมา หากหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ดีประสานกับน้ำเสียงที่บริสุทธิ์ จะก่อให้เกิดอิทธิพลอย่างใหญ่หลวง หากมีความรักในหัวใจเมื่ออาศัยทำนองเพลง ความรักนั้นจะทวีความแรงกล้าจนกระทั่งแทบจะทนไม่ไหว แต่หากมีความรู้สึกที่ไม่ดีในหัวใจ ความรู้สึกนั้นก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ ตัวอย่างเช่น ดนตรีที่ใช้ในสงครามปลุกความกระหายเลือด ความหมายคือ ทำนองเพลงกระตุ้นความรู้สึกที่มีอยู่ในหัวใจให้เพิ่มขึ้น

ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นโดยบังเอิญและบางอย่างเป็นพื้นฐานของจิตใจ ตัวอย่างเช่น บางคนเป็นคนมีเมตตา แต่อาจมีคลื่นความโกรธเข้ามากวนใจโดยบังเอิญ แต่เมื่อเขาได้ยินดนตรี ธรรมชาติที่แท้จริงจะกลับคืนมา ดนตรีปลุกธรรมชาติที่แท้จริงที่เป็นแก่นแท้ของบุคคล

เจ้าฟังดนตรีด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม จะยิ่งบังเกิดผลตามจุดประสงค์นั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการแสดงดนตรีเพื่อคนยากไร้และผู้เคราะห์ร้าย ถ้าเจ้าไปฟังด้วยใจคิดถึงจุดประสงค์นี้ ดนตรีจะยิ่งทำให้เจ้ารู้สึกเห็นอกเห็นใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นี้คือเหตุผลที่ดนตรีถูกนำมาใช้ในสงคราม

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1422)

25 มิถุนายน

ในศาสนานี้ศิลปะการดนตรีเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง พระผู้ทรงความสมบูรณ์พรเมื่อมาถึงโรงทหาร (อัคคา) ทรงกล่าวดังนี้: ?หากในหมู่สาวกมีผู้ที่สามารถเล่นเครื่องดนตรีบางชนิด ได้แก่ ฟลุทหรือฮาร์พ หรือร้องเพลงได้ ย่อมจะดึงดูดใจของทุกคน? กล่าวโดยย่อ ทำนองดนตรีมีบทบาทสำคัญต่อการสมาคม ต่ออุปนิสัยใจคอ และคุณลักษณะของมนุษย์ เพราะดนตรีคือแรงบันดาลใจและแรงจูงใจทั้งด้านวัตถุและจิตใจ และความรักช่างเป็นอานุภาพจูงใจเช่นไร เมื่อมนุษย์ผูกพันกับความรักของพระผู้เป็นเจ้า ดนตรีจะมีอิทธิพลต่อเขาอย่างมาก

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1421)

26 มิถุนายน

โดยธรรมชาตินั้น หัวใจและวิญญาณย่อมปีติยินดีต่อทุกสิ่งที่มีสัดส่วนสมดุล กลมกลืนและสมบูรณ์เลิศ ตัวอย่างเช่น บ้านที่สวยงาม สวนที่ออกแบบอย่างดี เส้นที่ได้สัดส่วน การเคลื่อนไหวที่สวยงาม หนังสือที่เขียนดี เสื้อผ้าที่น่าดู ความจริงแล้วทุกสิ่งที่มีความสง่าหรือความงามในตัวเอง ย่อมเป็นที่น่ายินดีสำหรับหัวใจและวิญญาณ ดังนั้นน้ำเสียงที่แท้ย่อมก่อให้เกิดความรื่นรมย์ยินดีเป็นแน่แท้

อะไรคือดนตรี? ดนตรีคือการผสมผสานของเสียงที่กลมกลืนกัน อะไรคือกวีนิพนธ์? กวีนิพนธ์คือการผสมผสานคำเข้าด้วยกัน ดังนั้นทั้งสองเป็นที่น่ายินดีเพราะจังหวะและความกลมกลืน กวีนิพนธ์สมบูรณ์และมีผลมากกว่าร้อยแก้ว เข้าถึงความรู้สึกได้ลึกกว่า เพราะเป็นการผูกถ้อยคำที่ละเอียดอ่อนกว่า

น้ำเสียงที่ละเอียดอ่อนเมื่อประสานกับดนตรี จะมีอิทธิพลอย่างมาก เพราะทั้งสองเป็นที่น่าปรารถนาและยินดี…

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1422)

27 มิถุนายน

ดูกร คนรับใช้ของบาฮา! ดนตรีได้รับการพิจารณา ณ ธรณีประตูของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพว่า เป็นศาสตร์ที่น่าสรรเสริญ เพื่อว่าเจ้าจะสวดบทกลอนในที่ชุมนุมอันไพศาลด้วยทำนองอันวิเศษสุด และร้องเพลงสดุดีที่มัช-เร-กล อัส-คาร์ เพื่อให้หมู่เทวัญเบื้องบนเบิกบานใจ หากเจ้าทำได้ จงพยายามใช้ทำนอง บทเพลงและน้ำเสียงที่ประเทืองจิตใจ และให้ดนตรีของโลกกลมกลืนกับทำนองเพลงสวรรค์ เมื่อนั้นเจ้าจะสังเกตเห็นว่าดนตรีมีอิทธิพลใหญ่หลวงเพียงใด ดนตรีเติมชีวิตและให้ความเบิกบานอย่างไร จงเล่นทำนองที่จะทำให้นกไนติงเกลแห่งความลึกลับสวรรค์เบิกบานหรรษา

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1419)

28 มิถุนายน

แม้ดูภายนอก มัช-เร-กล อัส-คาร์ เป็นสิ่งก่อสร้างทางวัตถุ แต่กระนั้นก็มีอิทธิพลต่อจิตใจ มัช-เร-กล อัส-คาร์ หลอมพันธะแห่งความสามัคคีระหว่างหัวใจเป็นศูนย์รวมของวิญญาณของมนุษย์ ในยุคของพระศาสดา ทุกเมืองที่มีการสร้างโบสถ์จะให้ความรู้สึกปลอดภัย มั่นคงและสันติ เพราะอาคารเหล่านี้มีไว้สำหรับการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าตลอดไป และในการระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่หัวใจจะได้พัก พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด! สักการสถานมีอิทธิพลอันใหญ่หลวงต่อทุกระยะของชีวิต ในประเทศตะวันออก ประสบการณ์แสดงให้เห็นชัดเจนว่านี้คือความจริง แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ หากมีบ้านที่ถูกระบุให้เป็นมัช-เร-กล อัส-คาร์ ก็จะมีอิทธิพลชัดเจน อิทธิพลนั้นจะยิ่งใหญ่กว่าเพียงไหนหากจงใจสร้างอาคารให้เป็นมัช-เร-กล อัส-คาร์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 95-6)

29 มิถุนายน

พระอับดุลบาฮาเฝ้าปรารถนามานานแล้วว่า จะมีการสร้างมัช-เร-กล อัส-คาร์ ในเขตนั้น ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้า ขอขอบคุณความบากบั่นพยายามของมิตรสหาย เมื่อไม่นานมานี้ข่าวอันน่ายินดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ประกาศออกไป การรับใช้นี้เป็นที่ยอมรับอย่างสูง ณ ธรณีประตูของพระผู้เป็นเจ้า เพราะมัช-เร-กล อัส-คาร์ บันดาลใจและให้ความเบิกบานใจแก่คนรักทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า และทำให้พวกเขามั่นคงหนักแน่น

เรื่องนี้มีความสำคัญที่สุด หากการสร้างสักการสถานในที่สาธารณะจะปลุกเร้าความไม่เป็นมิตรของผู้ชั่วร้าย เช่นนั้นแล้วการประชุมกันในทุกท้องถิ่นควรจัดในที่ลับ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ต้องสำรองสถานที่ไว้สำหรับมัช-เร-กล อัส-คาร์ แม้จะเป็นใต้ดินก็ตาม

พระอับดุลบาฮา (SWAB 95)

30 มิถุนายน

จงพิจารณาดูข้อสงสัยที่ผู้ตีเสมอกับพระผู้เป็นเจ้า เพราะในหัวใจของประชาชนในดินแดนนี้ พวกเขาถามว่า ?เป็นไปได้หรือที่ทองแดงจะถูกเปลี่ยนไปเป็นทอง?? จงกล่าวว่า ใช่ เป็นไปได้ พระผู้เป็นนายของข้าพเจ้าเป็นพยาน อย่างไรก็ตามความลับนี้ซ่อนเร้นอยู่ในปัญญาของเรา เราจะเปิดเผยต่อผู้ที่เราปรารถนา ใครที่สงสัยในอานุภาพของเรา ขอให้เขาถามพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเขา เพื่อว่าพระองค์จะได้เปิดเผยความลับและยืนยันความจริงข้อนี้ต่อเขา การที่ทองแดงเปลี่ยนเป็นทองได้คือข้อพิสูจน์ที่เพียงพอว่าทองถูกเปลี่ยนเป็นทองแดงได้เช่นกัน หากพวกเขาเป็นพวกที่สามารถเข้าใจความจริงนี้ ทุกแร่ธาตุสามารถรับความหนาแน่นรูปทรงและสสารของแร่ธาตุอื่นทุกชนิดเข้ามาเป็นคุณสมบัติของตน ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่กับเราในคัมภีร์เร้นลับ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 197-8)

กรกฎาคม

1 กรกฎาคม

ความเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าล้มหายตายจากในทุกดินแดน ไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากทิพยโอสถของพระองค์ที่สามารถฟื้นชีวิตให้ได้ ความไร้ศีลธรรมกำลังกัดกินลึกเข้าไปถึงหัวใจของสังคมมนุษย์ มีสิ่งใดอีกหรือนอกจากอมฤตธรรมอันทรงอำนาจของพระองค์ ที่สามารถชำระล้างและฟื้นหัวใจ? ดูกร ฮาคิม มนุษย์สามารถหรือ ที่จะทำให้องค์ประกอบของอนุภาคซึ่งเล็กมากและแบ่งแยกไม่ได้เปลี่ยนไปทั้งหมดจนธาตุนั้นกลายเป็นทอง? แม้สิ่งนี้จะดูเหมือนว่ายากและฉงนปัญญา การเปลี่ยนพลังซาตานให้เป็นอานุภาพสวรรค์เป็นงานที่ยากกว่า ซึ่งเราได้รับอำนาจที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้ อำนาจที่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่เหนืออานุภาพของอมฤตธรรมเสียอีก พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่ได้รับการประสาทด้วยอานุภาพที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ไพศาลดังกล่าว

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 200)

2 กรกฎาคม

สมโพธน์ของพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเปล่งขึ้น ได้หายใจชีวิตใหม่เข้าไปในร่างของมนุษยชาติ และซึมซาบพลังใหม่เข้าไปในสรรพสิ่งทั้งปวง ด้วยเหตุนี้โลกจึงถูกไหวไปถึงขั้ว หัวใจและมโนธรรมของมนุษย์จึงตื่นตัวในไม่ช้าหลักฐานของการฟื้นชีวิตนี้จะเปิดเผยออกมาและผู้ที่หลับใหลจะถูกปลูกให้ตื่นขึ้น

พระอับดุลบาฮา (WOB 169)

ยุคนี้คือยุคที่ไม่สามารถเห็นสิ่งใดนอกจากความโชติช่วงของแสงที่ส่องมาจากพระพักตร์ของพระผู้เป็นนายของพระองค์ พระผู้ทรงการุณย์ พระผู้ทรงอารีที่สุด แท้จริงแล้วเราได้บันดาลให้วิญญาณทุกดวงสิ้นอายุขัยด้วยอธิปไตยของเราที่ต้านทานไม่ได้และกำราบทุกสรรพสิ่ง จากนั้นเราได้สร้างสรรพสิ่งชุดใหม่ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกรุณาของเราต่อมนุษย์ แท้จริงแล้วเราคือผู้พระผู้ทรงอารี พระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 29-30)

3 กรกฎาคม

?วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าจะให้กำเนิดมนุษย์เชื้อชาติใหม่ที่ไม่มีใครหยั่งรู้นอกจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง?

?ทุกพยัญชนะที่เปล่งจากโอษฐ์ของเรา ได้รับการประสาทด้วยอานุภาพฟื้นชีวิตที่จะให้กำเนิดสรรพสิ่งชุดใหม่ที่ไม่มีใครหยั่งรู้นอกจากพระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้วพระองค์ทรงรู้ทุกสิ่ง?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 72, 67-8)

4 กรกฎาคม

ทุกวจนะที่เปล่งจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้า ได้รับการประสาทด้วยอานุภาพที่สามารถซึมซาบชีวิตใหม่เข้าไปในกายของมนุษย์ทุกคน หากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจสัจธรรมนี้ ผลงานที่น่าพิศวงทั้งปวงที่เจ้าเห็นในโลกนี้ปรากฏขึ้นโดยปฏิบัติการของพระประสงค์อันยิ่งใหญ่และประเสริฐสุด และโดยเจตนาที่แน่วแน่น่าพิศวงของพระองค์ เพียงการเปิดเผยวจนะ: ?พระผู้ทรงออกแบบ? จากริมฝีปากเป็นการเปิดเผยคุณลักษณะของพระองค์ต่อมนุษยชาติ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมานั้น เมื่ออาศัยเวลาหลายยุค สามารถก่อให้เกิดศิลปะอเนกอนันต์ทุกชนิดเท่าที่ไม่สุดวิสัยของมนุษย์ แท้จริงแล้วนี้คือความจริงที่แน่นอน ทันใดที่วจนะอำไพนี้เอ่ยออกมา พลังของวจนะที่ขับเคลื่อนอยู่ในทุกสรรพสิ่งได้เนรมิตเครื่องมือและวิธีการเพื่อรังสรรค์ศิลปะเหล่านี้ให้ไพบูลย์ ผลงานอันน่าพิศวงทั้งหมดที่เจ้าเห็นในปัจจุบัน เป็นผลโดยตรงมาจากการเปิดเผยพระนามนี้ในวันข้างหน้าที่จะมาถึง เจ้าจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนี้คือสิ่งที่ประกาศิตไว้ในธรรมจารึกของพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีใครสามารถเข้าใจยกเว้นผู้ที่มีสายตาแหลมคม ทำนองเดียวกัน ในวินาทีที่วจนะที่แสดงคุณลักษณะของเรา ?พระผู้ทรงรอบรู้? เปล่งจากโอษฐ์ของเรา ทุกสรรพสิ่งจะได้รับการประสาทตามความสามารถและขีดจำกัดของตนด้วยอานุภาพที่จะคลี่คลายความรู้ของศาสตร์ที่อัศจรรย์ที่สุดทั้งหลาย และแสดงศาสตร์เหล่านั้นให้ปรากฏเมื่อถึงเวลาที่พระผู้เป็นผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงรอบรู้ บัญชาไว้ จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า การเปิดเผยทุกพระนามจะมากับการสำแดงอานุภาพสวรรค์ที่คล้ายกัน ทุกพยัญชนะที่เปล่งจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้าที่จริงแล้วคือพยัญชนะแม่และทุกวจนะที่เอ่ยโดยพระผู้เป็นแหล่งกำเนิดของพระธรรมสวรรค์คือวจนะแม่ และธรรมจารึกของพระองค์คือพระธรรมจารึกแม่ ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่เข้าใจสัจธรรมนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 142)

5 กรกฎาคม

จงอย่ามองดูที่ตอนเริ่มต้นของกิจการต่างๆ จงผูกหัวใจไว้กับจุดหมายและผลที่จะได้ ช่วงเวลานี้เป็นเสมือนการหว่านเมล็ด จึงเต็มไปด้วยอันตรายและความยากลำบากอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ในอนาคตจะมีการเก็บเกี่ยวมากมาย ประโยชน์และผลที่จะได้จะปรากฏชัด เมื่อใครพิจารณาดูผลที่จะได้และจุดหมาย ความสุขหรรษาอันไม่รู้สิ้นจะเบ่งบาน

สิ่งสำคัญทุกอย่างในโลกนี้ จำเป็นที่ผู้แสวงหาต้องเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ผู้ที่ทุ่มเทในเรื่องใดก็ตามต้องผ่านความยากลำบากจนกว่าจะไปถึงจุดหมายและประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ นี้คือตัวอย่างของสิ่งที่เกี่ยวพันกับเรานี้ ส่วนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหมู่เทวินทร์จะยิ่งสูงส่งกว่าเพียงไร! ความมุ่งหมายนั้นเกี่ยวพันกับกรุณาธิคุณทุกประการ ความรุ่งโรจน์และความสุขอนันต์นภพของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (DAL 92)

6 กรกฎาคม

จากสารถึงกษัตริย์โมฮัมหมัด ชาห์

ขณะที่เราอยู่ในชีราซ เราถูกหยามเกียรติอย่างร้ายแรงด้วยน้ำมือของเจ้าเมืองที่เลวทรามต่ำช้า ซึ่งถ้าหากเจ้าได้ทราบแม้เพียงน้อยเดียว เจ้าย่อมใช้ความยุติธรรมลงโทษเขา ผลจากการที่เขากดขี่อย่างไม่รามือ ราชสำนักของเจ้าจึงกลายเป็นจุดหมายของความพิโรธของพระผู้เป็นเจ้าจนกว่าจะถึงวันแห่งการฟื้นคืนชีพ นอกจากนี้เขายังติดสุราอย่างงอมแงมจนไม่เคยมีสติพอที่จะใช้วิจารณญาณได้ เรารู้สึกไม่สบายใจและจำต้องออกจากชีราซเพื่อไปยังราชสำนักอันประเสริฐของฝ่าบาท จากนั้นโมทาเมดุดโดเลได้ตระหนักในสัจธรรมของศาสนาและอุทิศตนรับใช้บรรดาผู้ที่พระองค์เลือกสรร เมื่อประชาชนผู้โง่เขลาบางคนลุกขึ้นก่อความไม่สงบในเมือง เขาได้ปกป้องสัจธรรมสวรรค์โดยให้ความคุ้มครองเราชั่วระยะหนึ่งในทำเนียบส่วนตัวของเจ้าเมือง หลังจากที่บรรลุถึงอภิรดีของพระผู้เป็นเจ้า เขาก็ไปสู่ที่พำนักในพิมานชั้นสูงสุด ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดตอบแทนเขา

หลังจากที่เขาขึ้นไปสู่อาณาจักรอนันต์ เกอร์จินผู้ชั่วร้ายได้ใช้วิธีทรยศ การสาบานจอมปลอมและการบีบบังคับทุกรูปแบบ และส่งเราออกจากอิสฟาฮานพร้อมกับทหารยามที่คอยติดตามห้าคนในระหว่างการเดินทางเจ็ดวันโดยไม่ให้สิ่งยังชีพแก่เรา (อนิจจา! อนิจจา! สำหรับสิ่งที่มากระทบเรา) จนกระทั่งในที่สุด ราชโองการจากฝ่าบาทมาถึงและสั่งให้เราไปที่มาคู…

พระบ๊อบ (SWB 13-4)

7 กรกฎาคม

จากสารถึงกษัตริย์โมฮัมหมัด ชาห์

เราขอปฏิญาณต่อพระผู้เป็นนายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด! หากเจ้าได้รับการบอกเล่าว่าเราอาศัยอยู่ที่ใด บุคคลแรกที่จะปรานีเราย่อมเป็นเจ้านั่นเอง ในใจกลางภูเขาคือป้อม (มาคู)…ซึ่งมีผู้อาศัยอยู่เพียงยามสองคนและสุนัขสี่ตัว ดังนั้นจงนึกดูสภาพของเรา…เราขอปฏิญาณต่อสัจธรรมของพระผู้เป็นเจ้า! หากผู้ที่เต็มใจปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ได้รู้ว่าเขาปฏิบัติต่อใคร เขาจะไม่มีความสุขเลยในชีวิต ไม่เพียงเท่านั้นเราขอเปิดเผยให้เจ้าทราบความจริงข้อนี้ว่า สิ่งที่เขาทำเป็นเสมือนว่าเขาได้จองจำพระศาสดาทุกพระองค์ จองจำผู้มีสัจจะและผู้ที่ได้รับเลือกทุกคน…

ในภูเขานี้เราอยู่โดยลำพัง และไม่เคยมีใครทนทรมานเหมือนเรา ไม่เคยมีผู้ละเมิดคนใดทนทุกข์เหมือนเรา! เราพบว่าเราหลุดพ้นจากความทุกข์โศก เนื่องด้วยเราอาศัยอยู่ในอภิรดีของพระผู้เป็นนายและพระผู้เป็นเจ้านายของเรา เราคิดว่าเราอยู่ในสวรรค์ชั้นสูงสุดปีติต่อการสนทนากับพระผู้เป็นผู้ทรงความยิ่งใหญ่ที่สุด แท้จริงแล้วนี้คือความอารีที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เรา และพระองค์คือพระผู้เป็นนายแห่งพระพรอันล้นพ้น

เราขอปฏิญาณต่อสัจธรรมของพระผู้เป็นเจ้า! หากเจ้ารู้สิ่งที่เรารู้ เจ้าย่อมละทิ้งอธิปไตยของโลกนี้และโลกหน้า เพื่อว่าเจ้าจะได้บรรลุถึงอภิรดีของเราโดยการเชื่อฟังพระผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริง หากเจ้าปฏิเสธ พระผู้เป็นนายแห่งพิภพจะให้กำเนิดผู้ที่เชิดชูศาสนาของพระองค์ และบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าจะบังเกิดผล

พระบ๊อบ (SWB 14, 16)

8 กรกฎาคม

จากสารถึงกษัตริย์โมฮัมหมัด ชาห์

หากเจ้าไม่กลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผย และงานของพวกไร้ศีลธรรมจะกลายเป็นศูนย์ ทำไมเจ้าไม่เรียกนักบวชในดินแดนแล้วเรียกเราไป เพื่อว่าเราจะทำให้เหล่านักบวชสับสนอย่างทันใด เช่นเดียวกับผู้ไม่เชื่อเหล่านั้นที่เราทำให้สับสนก่อนหน้านี้? นี้คือพยานหลักฐานที่แน่นอนของเราต่อเจ้าและเหล่านักบวช หากพวกเขาพูดความจริง เจ้าจงเรียกนักบวชมาให้หมด หากพวกเขาสามารถเปล่งวาจาได้เหมือนสารนี้ เจ้าย่อมรู้ว่าความมุ่งหมายของพวกเขาคู่ควรที่จะเอาใจใส่ ไม่เลย ความชอบธรรมของพระผู้เป็นนายของเราเป็นพยาน! พวกเขาไม่สามารถและไม่รู้จริง พวกเขาอ้างตนว่าศรัทธามาแต่อดีตโดยที่ไม่เข้าใจความหมายนั้น และต่อมาก็ได้ปฏิเสธพระผู้เป็นสัจธรรมเพราะความตาบอด

หากเจ้าได้ตัดสินใจว่าจะหลั่งเลือดเรา เหตุไฉนเจ้าจึงรีรอ? เพราะบัดนี้เจ้ามีอำนาจ สำหรับเราสิ่งนี้จะเป็นความอารีอันไม่รู้สิ้นที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ แต่สำหรับเจ้าและพวกที่ทำกับเราเช่นนี้ จะเป็นการลงโทษที่พระผู้เป็นเจ้าแจกให้

พระพรที่รอคอยเราอยู่นั้นช่างยิ่งใหญ่เพียงไร หากเจ้าลงคำตัดสินเช่นนี้ และความปีติอันเปี่ยมล้นเพียงใดจะเป็นของเรา หากเจ้าตกลงทำดังนี้! นี้คือความอารีที่พระผู้เป็นเจ้าสำรองไว้สำหรับบรรดาผู้ที่ยินดีต่อความใกล้ชิดกับราชสำนักของพระองค์ เช่นนั้นเจ้าจงอนุญาตเถิดและอย่ารีรออีกต่อไป ความจริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าทรงอำนาจ และคือพระผู้ทรงพยาบาท

พระบ๊อบ (SWB 21-2)

9 กรกฎาคม

พระบ๊อบถูกประหารชีวิต

แม้ว่ายังหนุ่มและเยาว์วัย และแม้ว่าศาสนาที่พระองค์เปิดเผยขัดกับความปรารถนาของประชาชนทั้งปวงบนพิภพ ทั้งผู้สูงศักดิ์และผู้ต่ำต้อย ทั้งคนร่ำรวยและคนยากไร้ ทั้งผู้รุ่งเรืองและผู้ตกต่ำ ทั้งกษัตริย์และข้าแผ่นดิน ถึงกระนั้นพระองค์ก็ลุกขึ้นประกาศศาสนาอย่างแน่วแน่ ทุกคนรู้และได้ยิน พระองค์ไม่หวั่นกลัวใครและไม่คำนึงว่าจะมีผลตามมาอย่างไร สิ่งนี้เป็นไปได้หรือหากไร้อานุภาพของการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์และอำนาจของพระประสงค์ที่ยับยั้งไม่ได้ของพระผู้เป็นเจ้า? ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! หากใครเก็บเอาการเปิดเผยพระธรรมครั้งยิ่งใหญ่นี้มาคิดในหัวใจ เพียงแค่ความคิดนั้นก็จะทำให้เขาสับสนแม้ว่าหัวใจของมวลมนุษย์มารวมอยู่ในหัวใจของเขา เขาก็ยังลังเลไม่กล้าเก็บมาคิด เขาจะทำเช่นนี้ได้ก็ต่อเมื่อพระผู้เป็นเจ้าอนุญาต เมื่ออานนของหัวใจของเขาเชื่อมกับบ่อเกิดของกรุณาธิคุณจากสวรรค์ และเมื่อวิญญาณของเขานอนใจในการหล่อเลี้ยงอันไม่รู้สิ้นจากพระผู้ทรงมหิทธานุภาพเท่านั้น เราสงสัยว่า พวกเขาคิดว่าอะไรหรือที่เป็นเหตุของความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่นี้? พวกเขากล่าวหาพระองค์ว่าโง่เขลาดังที่เคยกล่าวหาพระศาสดาทั้งหลายในอดีตหรือ? หรือพวกเขายืนยันว่า แรงจูงใจของพระองค์มิใช่อื่นใดนอกจากอยากเป็นผู้นำและแสวงหาความร่ำรวยทางโลก?

พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด! ในคัมภีร์ของพระองค์ที่ทรงให้ชื่อว่า ?ไคยูมูน อัสมอร์? ซึ่งเป็นคัมภีร์แรกที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจที่สุด พระองค์ทรงพยากรณ์การสละชีวิตของตนเองด้วยวรรคนี้: ?ข้าแต่พระผู้เป็นร่องรอยของพระผู้เป็นเจ้า! ข้าพเจ้าได้สละตนเองเพื่อพระองค์เพียงผู้เดียว ข้าพเจ้ายอมรับภัยพิบัติทั้งหลายเพื่อเห็นแก่พระองค์ และไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากการสละชีวิตในวิถีแห่งความรักของพระองค์ พยานที่เพียงพอของข้าพเจ้าคือพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงความประเสริฐ พระผู้ทรงคุ้มครอง พระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย!?

ทำนองเดียวกันในการตีความพยัญชนะ ?ฮา? พระองค์ปรารถนาที่จะสละชีวิตโดยกล่าวว่า: ?เราคิดว่าเราได้ยินสุรเสียงร้องเรียกอยู่ในวิญญาณของเรา: ?เจ้าจงสละสิ่งที่เจ้ารักมากที่สุดในวิถีของพระผู้เป็นเจ้าดังที่ฮุสเซน ขอสันติสุขจงมีแต่เขา ได้สละชีวิตเพื่อเห็นแก่เรา?…?

พระบาฮาอุลลาห์ (KI 231-2)

10 กรกฎาคม

ดูกร ประชาชนแห่งเปอร์เซีย! จงเอาใจใส่คำเตือนของเรา หากเราถูกสังหารด้วยน้ำมือของเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจะให้คนใหม่มาแทนตำแหน่งที่ว่างลงเพราะความตายของเรา เพราะนี้คือวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าใช้ในอดีต และเจ้าไม่สามารถพบการเปลี่ยนแปลงในวิธีของพระองค์ เจ้าพยายามจะดับแสงของพระผู้เป็นเจ้าที่ส่องมายังพิภพของพระองค์หรือ? พระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมตามที่เจ้าปรารถนาหรอก พระองค์จะปรับแสงให้เจิดจ้า แม้ว่าเจ้าจะรังเกียจแสงนี้ในส่วนลึกของหัวใจ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 224-5)

11 กรกฎาคม

ดูกร บรรดาผู้ปรารถนาร้ายต่อเรา! เราไม่รู้ว่าเจ้าเลือกเดินในหนทางใด เราเรียกเจ้ามาหาพระผู้เป็นเจ้า เราเตือนให้เจ้าระลึกถึงยุคของพระองค์ เราประกาศข่าวการกลับมาอยู่ร่วมกับพระองค์ต่อเจ้า เรานำให้เจ้าเข้ามาใกล้ราชสำนักของพระองค์ และประทานสัญลักษณ์แห่งอัจฉริยภาพอัศจรรย์ของพระองค์ให้แก่เจ้า และถึงกระนั้นจงดูซิ ดูซิว่าเจ้าปฏิเสธเราอย่างไร วาจาที่โกหกของเจ้าประนามเราว่าเป็นผู้ไม่มีศาสนาอย่างไร เจ้าวางอุบายต่อต้านเราอย่างไร! และเมื่อเราสำแดงสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่เราด้วยกรุณาธิคุณ เจ้ากลับพูดว่า ?นั่นเป็นเพียงการเล่นกล? ประชาชนก่อนหน้าเจ้าก็เคยพูดเช่นเดียวกันนี้ และเคยเป็นเหมือนเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ การกระทำเช่นนี้ได้พรากตัวเจ้าเองจากความอารีและกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า และเจ้าจะไม่มีวันได้รับจนกว่าจะถึงวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะตัดสินระหว่างเราและเจ้า และแท้จริงแล้วพระองค์คือผู้ตัดสินที่ดีที่สุด

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 227)

12 กรกฎาคม

งานฉลองบุญ วจนะ

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

จงวางใจได้ว่า ลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะขับวาจาของเจ้าให้เปล่งออกมา ดังนั้นจงพูด จงพูดอย่างกล้าหาญในที่ประชุมทุกแห่ง เมื่อเจ้ากำลังจะเริ่มพูด ประการแรกต้องตั้งจิตสู่พระบาฮาอุลลาห์และขออำนาจค้ำจุนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จากนั้นจงเปิดริมฝีปากแล้วพูดสิ่งที่เข้ามาในหัวของเจ้า อย่างไรก็ตามต้องพูดอย่างกล้าหาญ พูดอย่างสง่าและมั่นใจที่สุด เราหวังว่าเมื่อแต่ละวันผ่านไป การชุมนุมของเจ้าจะเติบโตและเฟื่องฟู และผู้ที่แสวงหาสัจธรรมจะเงี่ยฟังการอภิปรายอย่างมีเหตุผลจากที่ชุมนุมนั้น จงแน่ใจได้ว่า เราอยู่กับหัวใจและวิญญาณของเจ้าในที่ประชุมทุกแห่ง

จงจัดงานฉลองบุญสิบเก้าวันให้มีเกียรติที่สุด

พระอับดุลบาฮา (NDF no. 16)

13 กรกฎาคม

ตามคำสอนจากสวรรค์ในยุคศาสนาอันรุ่งโรจน์นี้ เราไม่ควรดูแคลนผู้ใดและเรียกเขาว่าด้อยปัญญาโดยพูดว่า: ?คุณไม่รู้แต่ข้าพเจ้ารู้? แต่เราควรมองดูผู้อื่นด้วยความนับถือ และเมื่อพยายามจะอธิบายและสาธิต เราควรพูดราวกับว่าเรากำลังไต่สวนความจริงโดยกล่าวว่า: ?สิ่งเหล่านี้อยู่ต่อหน้าเรานี่ไง ขอให้เราไต่สวน เพื่อดูว่าจะพบสัจธรรมแบบไหนและที่ไหน?

ครูไม่ควรถือว่าตนเป็นผู้รอบรู้และคนอื่นด้อยความรู้ ความคิดเช่นนี้ก่อให้เกิดความทะนง และความทะนงไม่มีอิทธิพลโน้มน้าว ครูไม่เห็นว่าตนเหนือกว่า เขาควรพูดด้วยความเมตตา ความต่ำต้อยและถ่อมตัว เพราะการพูดเช่นนี้มีอิทธิพลโน้มน้าวและอบรมวิญญาณ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 30)

14 กรกฎาคม

?ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน หากใครลุกขึ้นโดยลำพังในนามของบาฮา และสวมเกราะแห่งความรักของพระองค์ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพจะช่วยให้เขามีชัยแม้ว่าอำนาจของโลกและสวรรค์จะตั้งแนวต่อต้านเขา? ?พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นพยาน! หากใครลุกขึ้นเพื่อชัยชนะของศาสนาของเรา พระผู้เป็นเจ้าจะช่วยให้เขามีชัยแม้ว่าศัตรูนับหมื่นจะรวมกำลังต่อต้านเขา และหากความรักของเขาที่มีต่อเราทวีขึ้น พระผู้เป็นเจ้าจะบันดาลให้เขามีอานุภาพเหนืออำนาจทั้งปวงบนโลกและสวรรค์ ดังนี้เราได้หายใจพระวิญญาณแห่งอานุภาพเข้าไปในทุกบริเวณ?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 106)

15 กรกฎาคม

แก่นแท้ของธรรมชาติ คือ ร่างของพระนามของเรานั่นคือ พระผู้ประดิษฐ์ พระผู้สร้าง ธรรมชาติแสดงออกอย่างหลากหลายด้วยเหตุต่างๆ และในความหลากหลายนี้มีสัญลักษณ์สำหรับมนุษย์ผู้หยั่งเห็น ธรรมชาติคือพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าและการแสดงออกของพระประสงค์นี้ในโลกที่ไม่จีรัง ธรรมชาติคือการจัดระเบียบของสวรรค์ที่บัญญัติไว้โดยพระผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ หากใครยืนยันว่าธรรมชาติคือพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่แสดงออกในสรรพภาวะไม่ควรมีใครสงสัยคำยืนยันนี้ ธรรมชาติได้รับการประสาทด้วยอานุภาพที่มนุษย์ผู้มีวิชาก็ไม่เข้าใจ แท้จริงแล้วมนุษย์ผู้มีธรรมทรรศนะไม่สามารถเห็นสิ่งใดในธรรมชาตินอกจากแสงสว่างอันเจิดจ้าของพระนามของเรา! คือพระผู้สร้าง นี้คือการดำรงอยู่ที่ไม่มีเสื่อมและธรรมชาติเองงงต่อการแสดงออกของตน งงต่อหลักฐานอันจับใจและความรุ่งโรจน์โชติช่วงของตนที่ห้อมล้อมจักรวาล

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 142)

16 กรกฎาคม

สิ่งที่ดำรงอยู่เคยดำรงมาก่อน แต่มิใช่ในลักษณะที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน สรรพภาวะเกิดขึ้นโดยความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างพลังและสิ่งที่รับพลังนั้น ทั้งสองเหมือนกันแต่ก็ต่างกัน ดังนี้พระผู้เป็นการประกาศครั้งยิ่งใหญ่ขอแจ้งให้เจ้าทราบเกี่ยวกับนวกรรมอันรุ่งโรจน์นี้ สิ่งที่ถ่ายทอดอานุภาพก่อกำเนิดและสิ่งที่รับพลังของอานุภาพนั้นที่จริงแล้วถูกสร้างโดยพระวจนะที่ต้านทานไม่ได้ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นเหตุของสรรพภาวะ ขณะที่ทุกสรรพสิ่งนอกจากพระวจนะของพระองค์เป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างและผลที่ตามมา แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าคือพระอรรถาธิบาย พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

นอกจากนี้จงรู้ไว้ว่า พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ อยู่เหนือและสูงส่งกว่าสิ่งที่ประสาทสัมผัสรับรู้ได้ เพราะพระวจนะบริสุทธิ์พ้นจากคุณสมบัติของสสาร อยู่เหนือขีดจำกัดของธาตุที่รู้จัก เหนือสสารที่เป็นแก่นแท้ พระวจนะเปล่งออกมาโดยปราศจากพยางค์หรือเสียง ?พระวจนะมิใช่อื่นใดนอกจากบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึมซาบสรรพสิ่งทั้งปวง และไม่เคยแยกจากโลก พระวจนะคือกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึมซาบทุกสรรพสิ่ง ซึ่งคุณทั้งปวงสืบมาจากกรุณาธิคุณนี้ พระวจนะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งที่เป็นมาและจะเป็นไป

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 140-1)

17 กรกฎาคม

ทุกสรรพสิ่งต้องมีจุดกำเนิด และทุกอาคารต้องมีผู้สร้าง แท้จริงแล้วพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าคือเหตุที่นำมาก่อนโลกที่ไม่จีรังนี้ ซึ่งเป็นโลกที่ประดับด้วยความรุ่งโรจน์ของพระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย แต่ถึงกระนั้นก็ได้รับการฟื้นฟูและฟื้นชีวิตอยู่ทุกเวลา พระผู้เป็นเจ้าแห่งอัจฉริยภาพช่างสูงส่งที่ทรงสร้างนวกรรมอันประเสริฐนี้

?พระวิญญาณบริสุทธิ์เองกำเนิดขึ้นโดยปฏิบัติการของพยัญชนะเดียวที่เปิดเผยโดยพระวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้?

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 141, WIB 109)

18 กรกฎาคม

ชีวิตของบางคนหมกมุ่นอยู่กับโลกนี้เท่านั้น จิตใจของพวกเขาจำกัดอยู่ที่ธรรมเนียมปฏิบัติและลาภยศจนมองไม่เห็นอาณาจักรอื่นใดดำรงอยู่ มองไม่เห็นธรรมะในสรรพสิ่งทั้งปวง…เป็นเสมือนสัตว์ พวกเขาไม่เคยคิดไกลไปกว่าความผาสุกทางกาย เป็นความจริงที่ว่าปัจจัยเหล่านี้ต้องจัดหามา ชีวิตคือภาระที่ต้องดำเนินต่อไปขณะที่เราอยู่บนโลก แต่ไม่ควรยอมให้สิ่งนี้มาควบคุมความคิดและความใฝ่ฝันทั้งหมดของมนุษย์ ความทะเยอทะยานของหัวใจควรมุ่งสู่เป้าหมายที่รุ่งโจน์กว่า ความนึกคิดในจิตใจควรขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่าวิญญาณของมนุษย์ควรเพ่งไปยังความสมบูรณ์เลิศทางธรรม และเตรียมที่อาศัยสำหรับความอารีอันไม่รู้สิ้นของพระวิญญาณสวรรค์

พระอับดุลบาฮา (BR JULY 3)

19 กรกฎาคม

เกี่ยวกับความสุขทางธรรม นี้คือรากฐานที่แท้จริงของชีวิตมนุษย์ เพราะชีวิตกำเนิดขึ้นมาเพื่อความสุขมิใช่เพื่อความทุกข์โศก เพื่อความยินดีมิใช่เพื่อความเศร้าโศก ความสุขคือชีวิต ความทุกข์โศกคือความตาย ความสุขทางธรรมคือชีวิตนิรันดร์ นี้คือแสงสว่างที่จะไม่ตามมาด้วยความมืด นี้คือเกียรติที่จะไม่ตามมาด้วยความอดสู นี้คือชีวิตที่จะไม่ตามมาด้วยความตาย นี้คือการดำรงอยู่ที่จะไม่ตามมาด้วยการดับสูญ มนุษย์จะได้รับพรที่ยิ่งใหญ่และของขวัญที่ล้ำค่านี้ก็โดยอาศัยการนำทางจากพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น…

การจะบรรลุถึงความสุขนิรันดร์ คนนั้นต้องผ่านควาทุกข์ทรมาน ผู้ที่เข้าถึงภาวะของการเสียสละตนเองจะมีความปีติอย่างแท้จริง ความปีติชั่วคราวจะอันตรธานหายไป

พระอับดุลบาฮา (ADL 18, PT 179)

20 กรกฎาคม

จงมุ่งคิดที่จะทำให้หัวใจทั้งหลายเบิกบาน จงระวัง! จงระวัง! อย่าได้ทำให้ผู้ใดขุ่นใจ จงช่วยเหลือมนุษยชาติให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จงเป็นผู้ปลอบใจคนเศร้าโศก จงช่วยคนอ่อนแอและให้ความช่วยเหลือคนยากไร้ จงเป็นเหตุแห่งความรุ่งโรจน์สำหรับผู้ที่ต่ำต้อย และคุ้มครองผู้ที่หวาดกลัว

กล่าวโดยย่อ ขอให้พวกเจ้าแต่ละคนเป็นประหนึ่งตะเกียงที่เรืองแสงแห่งคุณธรรมเป็นผู้ที่ไว้วางใจได้ จริงใจ รักใคร่ และบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นผู้ที่เห็นแจ้งจิตใจงาม มีธรรม รุ่งเรืองและแข็งขันด้วยพลังจากพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือเป็นบาไฮ

พระอับดุลบาฮา (PUP 453)

21 กรกฎาคม

?ภายในคลังแห่งอัจฉริยภาพของเรา มีความรู้ที่ไม่ได้เปิดเผยอยู่ ซึ่งถ้าหากเราตัดสินใจเปิดเผยวจนะเดียวจากความรู้นี้ต่อมนุษยชาติ จะทำให้มนุษย์ทุกคนยอมรับพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้า ยอมรับความรอบรู้ของพระองค์ ค้นพบความลับของศาสตร์ทั้งปวง และบรรลุถึงสถานะอันสูงส่งจนไม่ต้องอาศัยวิชาใดๆ ในอดีตและอนาคต เรามีความรู้อื่นอีกที่เราไม่สามารถเปิดเผยได้แม้แต่พยัญชนะเดียว และไม่พบว่ามนุษยชาติสามารถรับฟังการพาดพิงถึงความหมายของความรู้นี้แม้แต่น้อย ดังนี้เราขอแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความรู้ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 109)

22 กรกฎาคม

ไม่มีข้อสงสัยว่า พระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งสัจธรรมสามารถช่วยเหลือวิญญาณที่มีทิฐิและอยู่ห่างไกลให้ใกล้เข้ามายังราชสำนักและได้เข้าเฝ้าพระองค์ ?หากพระผู้เป็นเจ้าปรารถนา พระองค์สามารถบันดาลให้มวลมนุษย์เป็นประชาชาติเดียวกันเสร็จสิ้นไปแล้ว? อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของพระองค์คือ การช่วยให้ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์และหัวใจไม่ยึดมั่นได้ขึ้นไปสู่ชายฝั่งของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ที่สุดด้วยธรรมะของเขาเอง เพื่อว่าผู้ที่แสวงหาความงามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์จะแยกได้จากผู้ที่มีทิฐิและวิปริต ดังนี้คือสิ่งที่กำหนดไว้โดยปากกาที่รุ่งโรจน์อำไพ…

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 71)

23 กรกฎาคม

การที่พระผู้สำแดงความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งพระกรุณาสวรรค์ เมื่อมาปรากฏองค์ต่อมนุษย์ ทรงไร้อำนาจทางโลกเสมอและไม่มีหนทางขึ้นไปสู่อำนาจนั้น ก็เนื่องมาจากหลักการเดียวกันนี้ที่ขับเคลื่อนเจตนาสวรรค์ คือเพื่อแยกให้เห็นความแตกต่าง หากพระผู้เป็นสาระอนันต์สำแดงทุกสิ่งที่แฝงอยู่ในพระองค์ และฉายความรุ่งโรจน์ของพระองค์เต็มที่ ย่อมไม่มีใครสงสัยอานุภาพหรือปฏิเสธสัจธรรมของพระองค์ ไม่เพียงเท่านั้น ทุกสรรพสิ่งย่อมตาพร่าและตะลึงงันด้วยหลักฐานของแสงสว่างของพระองค์จนกลายเป็นศูนยภาพโดยสิ้นเชิง เช่นนั้นแล้วจะแยกผู้มีศีลธรรมจากผู้ที่วิปริตในสภาพแวดล้อมดังกล่าวได้อย่างไร?

หลักการเดียวกันนี้ปฏิบัติการในทุคยุคศาสนาที่ผ่านมา และได้รับการสาธิตอย่างเหลือพอ ด้วยเหตุผลนี้เองที่ในทุกยุค เมื่อพระศาสดาองค์ใหม่มาปรากฏและการเปิดเผยอานุภาพครั้งใหม่ของพระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้มนุษย์ ผู้ที่มีความเชื่อผิดๆ และถูกลวงเพราะความงามนิรันดร์ที่ไม่เปรียบปานปรากฏอยู่ในคราบของมนุษย์ จึงไม่ยอมรับพระองค์ พวกเขาหลงไปจากวิถีธรรมของพระองค์และหลีกหนีวงสมาคมของพระองค์ ซึ่งเป็นวงสมาคมของพระผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาถึงกับลุกขึ้นเข่นฆ่าผู้ซื่อสัตย์และขจัดผู้ที่เชื่อในพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 71-2)

24 กรกฎาคม

จงดูว่าในยุคศาสนานี้พวกที่ไร้ค่าและโง่เขลาชอบคิดว่า พวกเขาสามารถดับตะเกียงที่พระหัตถ์แห่งอานุภาพสวรรค์จุดขึ้น หรือบดบังดวงตะวันแห่งความโชติช่วงอนันต์ด้วยการสังหารหมู่ การปล้นและเนรเทศพวกเขาดูเหมือนไม่รู้ความจริงเลยว่า ความหายนะดังกล่าวคือน้ำมันที่หล่อเลี้ยงเปลวไฟของตะเกียงนี้! ดังนี้คืออานุภาพเปลี่ยนแปลงของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามที่พระองค์ปรารถนา แท้จริงแล้วพระองค์มีอานุภาพเหนือทุกสิ่ง…

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 72)

25 กรกฎาคม

จงอย่าใส่ใจต่อความอับอายที่บรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าได้รับในยุคนี้ ความอับอายนี้คือความรุ่งโรจน์ที่น่าภาคภูมิกว่าเกียรติหรือการเลื่อนฐานะใดๆ ในโลก มีเกียรติใดหรือที่ยิ่งใหญ่กว่าเกียรติที่ชิวหาของพระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัยประทานให้ เมื่อพระองค์ระลึกถึงบรรดาผู้เป็นที่รักในคุกที่หฤโหดที่สุด? วันนั้นกำลังใกล้เข้ามาคือวันที่เมฆจะแตกกระจายไปสิ้นและอาภาของวจนะ ?เกียรติทั้งปวงเป็นของพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่รักพระองค์? จะเรืองแสงอย่างเจิดจ้าประดุจดวงตะวันบนขอบฟ้าแห่งพระประสงค์ของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ…

จงขอบคุณพระผู้เป็นยอดปรารถนาของภพทั้งปวงที่ทรงสวมเกียรติอันสูงส่งนี้ให้เจ้า ในไม่ช้าโลกและทุกสรรพสิ่งในโลกจะกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืม และเกียรติทั้งหมดจะเป็นของบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอารีที่สุด

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 305-6)

26 กรกฎาคม

ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นอย่าได้เศร้าโศกเมื่อประชาชนต่อต้านเจ้า ประหัตประหารเจ้า ทรมานและรังควานเจ้า และพูดให้ร้ายเจ้าทุกอย่าง ความมืดมนจะหายไปและอาภาของเครื่องหมายอันประจักษ์แจ้งจะฉายแสงมา ม่านจะเปิดออกและดวงตะวันแห่งธรรมจะส่องแสงมาจากอาณาจักรที่มองไม่เห็นแห่งเอลอับฮา เราขอแจ้งให้เจ้าทราบก่อนที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อกองทัพประชาชนลุกขึ้นต่อต้านเจ้าเพราะความรักของเรา ก็จงอย่าได้หวั่นหรือกังวลใจ แต่จงมั่นคงประดุจภูผา เพราะการประหัตประหารและการถากถางนี้ที่พวกเขาจะกระทำต่อเจ้าถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ขอพรจงมีแด่ดวงวิญญาณที่มั่นคงในวิถีธรรม!

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1533)

27 กรกฎาคม

หากทั้งโลกถูกเปลี่ยนไปเป็นเงินและทอง ผู้ที่กล่าวได้ว่าได้ขึ้นไปถึงนภาแห่งความศรัทธาและมั่นใจ จะไม่ลดเกียรติลงมามอง ไหนเลยจะหยิบเอาไปครอบครอง… บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในเทพมณเทียรของพระผู้เป็นเจ้าและธำรงความรุ่งโรจน์อนันต์ แม้ว่ากำลังจะตายเพราะความหิว ก็จะไม่ยื่นมือไปหยิบฉวยทรัพย์สินของเพื่อนบ้านอย่างมิชอบ แม้ว่าเพื่อนบ้านนั้นจะเป็นคนต่ำช้าไร้ค่าเพียงใดก็ตาม จุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวที่ทรงสำแดงองค์คือ เพื่อเรียกมวลมนุษยชาติมาสู่ความมีวาจาสัตย์และความจริงใจ ความศรัทธา และความไว้วางใจได้ ความยอมจำนนและศิโรราบต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ความอดกลั้นและความเมตตา ความซื่อตรงและสุขุมรอบคอบ วัตถุประสงค์ของพระองค์ คือ เพื่อสวมความเป็นนักบุญให้มนุษย์ และประดับมนุษย์ทุกคนด้วยการกระทำที่ดีงามบริสุทธิ์

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 19-20)

28 กรกฎาคม

?ความทุกข์โศกที่ทรมานความงามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์เป็นพยาน!ดังกล่าวคือสถานะที่กำหนดไว้สำหรับผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริง ซึ่งถ้าหากความรุ่งโรจน์ของสถานะนี้ถูกเปิดเผยต่อมนุษยชาติเพียงเท่ารูเข็มทุกคนที่ได้เห็นต้องปรารถนาจะบรรลุถึงจนไม่คิดถึงสิ่งใด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ประกาศิตไว้ว่า ในชีวิตนี้ความรุ่งโรจน์ของผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริง ควรถูกปกปิดต่อไปไม่ให้เจ้าตัวได้เห็น? ?หากม่านเปิดออก และความรุ่งโรจน์ของสถานะของผู้ที่หันมาหาพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดหัวใจและปล่อยวางจากโลกด้วยความรักของพระองค์ เรืองรัศมีออกมาเต็มที่ สรรพสิ่งทั้งปวงย่อมตะลึงจนพูดไม่ออก?

พระบาฮาอุลลาห์ (WOB 110-11)

29 กรกฎาคม

ธรรมสภาทั้งหลายที่จะสถาปนาในยุคของพระผู้เป็นเจ้านี้ ในศตวรรษที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ หาที่เปรียบไม่ได้ในวัฏจักรทั้งหลายที่ผ่านมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะสภาเหล่านั้นมีฐานอำนาจอยู่ที่การค้ำจุนของบรรดาผู้นำที่มีอำนาจ ขณะที่ธรรมสภาทั้งหลายมีฐานอยู่ที่การค้ำจุนของพระผู้ทรงความงามอับฮา ผู้ปกป้องและอุปถัมภ์สภาอื่นคือเจ้าชาย กษัตริย์ หรือหัวหน้านักบวช หรือมวลชน แต่ธรรมสภาเหล่านี้มีผู้ที่คอยปกป้อง ค้ำจุน ช่วยเหลือ และให้แรงบันดาลใจ คือพระผู้เป็นนายผู้ทรงอานุภาพสูงสุด

…ธรรมสภาทั้งหลายคือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการสถาปนาความสามัคคีปรองดอง…

พระอับดุลบาฮา (SWAB 82, 83)

30 กรกฎาคม

เงื่อนไขแรก (สำหรับการปรึกษาหารือ) คือความรักใคร่ปรองดองอย่างแท้จริงระหว่างสมาชิกธรรมสภาพวกเขาต้องปลอดจากความหมางเมินโดยสิ้นเชิง และต้องแสดงออกซึ่งเอภาพของพระผู้เป็นเจ้า เพราะพวกเขาคือคลื่นในทะเลเดียวกัน คือหยดน้ำในชโลทรเดียวกัน คือดวงดาราในนภาเดียวกัน คือรัศมีของดวงอาทิตย์เดียวกัน คือพฤกษาในสวนเดียวกัน คือดอกไม้ในอุทยานเดียวกัน หากไร้ซึ่งความเห็นพ้องต้องกันไร้ความสามัคคีที่แท้จริง การชุมนุมนั้นจะสลายตัวและธรรมสภาจะกลายเป็นความว่างเปล่า เงื่อนไขที่สองคือ เมื่อมาร่วมชุมนุมกัน พวกเขาต้องตั้งจิตสู่เบื้องบน และขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ จากนั้นพวกเขาต้องดำเนินการประชุมด้วยความอุทิศ มารยาท เกียรติ ความรอบคอบ และความพอประมาณในการแสดงทรรศนะของตน ในทุกเรื่องพวกเขาต้องแสวงหาความจริง มิใช่ยืนกรานในความคิดเห็นของตน เพราะความดื้อดึงขืนอยู่ในทรรศนะของตนจะนำไปสู่ความร้าวฉานและวิวาทกันในที่สุด และความจริงจะยังคงซ่อนเร้นอยู่

พระอับดุลบาฮา (BC no. 10)

31 กรกฎาคม

งานฉลองบุญ ความสมบูรณ์เลิศ

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

งานฉลองบุญ คือ ผู้นำความเบิกบานมา คือ รากฐานของความสามัคคีลงรอย คือกุญแจไขความรักและไมตรีจิต งานฉลองบุญแพร่กระจายความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ

งานฉลองบุญให้ความเบิกบานแก่จิตใจและหัวใจ หากงานฉลองบุญนี้จัดขึ้นด้วยรูปแบบที่เหมาะสม มิตรสหายจะพบว่า ทุกสิบเก้าวันตนจะได้รับการฟื้นฟูจิตใจและได้รับอานุภาพที่ไม่ใช่ของโลกนี้

พระอับดุลบาฮา (NDF no. 4, 10)

สิงหาค

1 สิงหาคม

การปรึกษาหารือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง และเป็นเครื่องมือที่ทรงอำนาจที่สุดที่ชักนำไปสู่ความสงบและความสุขของประชาชน ตัวอย่างเช่น เมื่อบาไฮคนหนึ่งไม่แน่ใจเกี่ยวกับกิจการของเขา หรือเมื่อเขาพยายามจะดำเนินโครงการหรือการค้า มิตรสหายควรชุมนุมกันหาหนทางแก้ปัญหาสำหรับเขา และเขาควรปฏิบัติตามนั้น ทำนองเดียวกันกับประเด็นใหญ่ๆ เมื่อมีปัญหาหรือความยุ่งยากเกิดขึ้น ผู้ที่ฉลาดหลักแหลมควรชุมนุมปรึกษากันเพื่อหาทางแก้ปัญหา พวกเขาควรวางใจในพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว และยอมตามการบริบาลของพระองค์ไม่ว่าหนทางใดจะเปิดเผยออกมา เพราะอำนาจสวรรค์จะมาช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อสงสัย ดังนั้นการปรึกษาหารือเป็นหนึ่งในบัญญัติแน่ชัดของพระผู้เป็นนายของมนุษยชาติ

พระอับดุลบาฮา (BC no. 13)

2 สิงหาคม

?เป็นหน้าที่ของบิดามารดาที่จะเลี้ยงดูบุตรให้มีศรัทธามั่น เหตุผลคือ บุตรที่ผละจากศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า จะไม่ประพฤติตนให้เป็นที่ยินดีของบิดามารดาและพระผู้เป็นนายของเขา เพราะการกระทำที่น่าสรรเสริญทุกอย่างก่อกำเนิดมาจากแสงธรรมของศาสนาและหากขาดพระพรสูงสุดนี้ เด็กจะไม่หนีความชั่วร้าย และจะไม่เข้าหาความดีงามใดๆ?

?สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเด็กที่ต้องมาก่อนอื่นใด คือ การสอนพวกเขาเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์ เพราหากขาดสิ่งนี้ จะพร่ำสอนความกลัวพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ และเมื่อขาดความกลัวพระผู้เป็นเจ้า การกระทำที่น่ารังเกียจและน่าชังอย่างไม่มีสิ้นสุดจะตามมา และวาจาจะปล่อยออกมาตามอารมณ์จนเกินขอบเขต…

บิดามารดาต้องพยายามทุกอย่างที่จะเลี้ยงดูบุตรให้มีศาสนา เพราะหากบุตรไม่ได้ติดเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ เขาจะไม่เชื่อฟังบิดามารดา ซึ่งนัยหนึ่งหมายความว่าเขาจะไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้วเด็กเช่นนี้จะไม่เกรงใจผู้ใดและจะทำตามใจตนเอง?

พระบาฮาอุลลาห์ (BE 4)

3 สิงหาคม

ในการร่างหลักการและกฎ ส่วนหนึ่งอุทิศให้กับบทลงโทษซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับความปลอดภัยและการคุ้มครองมนุษย์ อย่างไรก็ตามความกลัวบทลงโทษยับยั้งประชาชนมิให้กระทำสิ่งที่ต่ำช้าน่ารังเกียจแต่เพียงภายนอก แต่สิ่งที่ปกป้องและรั้งมนุษย์ทั้งภายนอกและภายในใจคือความกลัวพระผู้เป็นเจ้า ความกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือผู้คุ้มครองที่แท้จริง และเป็นผู้อภิบาลวิญญาณของมนุษย์…

ความกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือการป้องกันที่แน่นอนและที่มั่นอันปลอดภัยสำหรับประชาชนทั้งปวงบนพิภพ คือเหตุสำคัญที่ให้ความคุ้มครองและคือเครื่องมืออันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับอภิรักษ์มนุษยชาติ แท้จริงแล้วในมนุษย์มีสำนึกหนึ่งที่ยับยั้งและป้องกันเขามิให้ทำสิ่งที่ไม่คู่ควรและไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าความละอายใจ อย่างไรก็ตามมีน้อยคนที่มีสำนึกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะมี

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 93, 63)

4 สิงหาคม

ความลึกลับของการเสียสละเป็นหัวข้อสำคัญที่ไม่มีจบ กล่าวโดยย่อคือ: ชีปะขาวสละตนให้เทียน น้ำพุสละตนให้ผู้กระหาย คนรักที่จริงใจสละตนให้คนที่เขารัก ความหมายคือ: เขาต้องไม่คิดถึงตนเอง…เขาต้องแสวงหาความยินดีของพระผู้เป็นเจ้า ปรารถนาพระพักตร์ของพระผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริง และเด่นในวิถีธรรมของพระองค์…นี้คือสถานะแรกของการเสียสละ

สถานะที่สองของการเสียสละคือดังนี้: มนุษย์ต้องเป็นประหนึ่งเหล็กที่ใส่ไปในเตาหลอม คุณสมบัติของเหล็ก เช่น ความดำ ความเย็น และความแข็ง ซึ่งเป็นของโลกได้หายไป ขณะที่ลักษณะเฉพาะของไฟ เช่น ความแดง การเรืองแสง และความร้อน ซึ่งเป็นของอาณาจักรสวรรค์ ปรากฏให้เห็นได้ชัด ดังนั้นเหล็กได้สละคุณสมบัติของตนให้ไฟ และรับเอาคุณสมบัติของธาตุไฟไว้

พระอับดุลบาฮา (DAL 73)

5 สิงหาคม

จนกว่าผู้นั้นจะก้าวไปสู่ระดับของการเสียสละ เขาจะไม่ได้รับกรุณาธิคุณทุกอย่าง และระดับของการเสียสละนี้คือภาวะของการตายจากตนเอง เพื่อว่ารัศมีของพระผู้เป็นเจ้าจะเรืองออกมา…

ผู้ที่อยู่ในอำนาจที่แท้จริงเป็นที่รู้จักในด้านความถ่อมตัวและเสียสละตนเอง และไม่แสดงทีท่าเหนือกว่ามิตรสหาย เมื่อแต่ก่อน ธรรมจารึกหนึ่งลิขิตขึ้นซึ่งกล่าวว่า ไม่มีใครได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจทำสิ่งใด แต่ให้รับใช้ศาสนาในฐานะที่เป็นคนรับใช้ที่แท้จริงของมิตรสหาย และเพราะเหตุนี้ไม่จำเป็นต้องมีธรรมจารึก การรับใช้ดังกล่าวที่ทำด้วยใจจริงและไม่เห็นแก่ตัว ไม่จำเป็นต้องประกาศ รอให้บอกหรือมีเอกสารรับรอง ขอให้คนรับใช้เป็นที่รู้จักในด้านการกระทำและชีวิตของตน! และควรมีจุดหมายคือ ให้พระผู้เป็นเจ้าเพียงผู้เดียวรับรอง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 7 LG 1983 no. 66)

6 สิงหาคม

ดูกร หญิงรับใช้ จงรู้ไว้ว่าในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า สตรีได้รับการพิจารณาเหมือนบุรุษ และพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมวลมนุษย์ให้เป็นรูปจำลองและความคล้ายคลึงของพระองค์ นั่นคือ บุรุษและสตรีคือผู้สำแดงพระนามและคุณลักษณะของพระองค์ และในแง่ของวิญญาณแล้วไม่มีความแตกต่างระหว่างทั้งสอง ใครที่เข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากกว่า ผู้นั้นเป็นที่โปรดปรานมากกว่าไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี หญิงรับใช้มากมายเพียงไรที่อุทิศตนด้วยความศรัทธาภายใต้ร่มเงาของบาฮา ได้พิสูจน์แล้วว่าเหนือกว่าบุรุษ และเหนือกว่าผู้มีชื่อเสียงบนพิภพ

อย่างไรก็ตาม ตามกฎที่แน่ชัดของพระผู้เป็นเจ้า สภายุติธรรมสากลจำกัดอยู่ที่บุรุษเท่านั้น ซึ่งมีเหตุผของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าแฝงอยู่ และในไม่ช้าจะปรากฏชัดประดุจดวงอาทิตย์เที่ยงวัน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 79-80)

7 สิงหาคม

…ในธรรมลิขิตประกาศไว้ชัดเจนว่า หลายศตวรรษหลายพันปีต่างหากต้องผ่านไปก่อนที่พระศาสดาเช่นองค์นี้ (พระบาฮาอุลลาห์) จะมาปรากฏอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ที่ภายหลังหนึ่งพันปี พระศาสดาบางองค์จะได้รับอำนาจให้เปิดเผยพระธรรมแต่จะไม่ใช่พระศาสดาสากล ดังนั้นแต่ละวันในวัฏจักรของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร ความจริงแล้วเท่ากับหนึ่งปี และแต่ละปีในวัฏจักรนี้เท่ากับหนึ่งพันปี…

ความหมายคือ ก่อนจะสิ้นสุดหนึ่งพันปี ไม่มีใครอวดอ้างได้ว่าตนเปล่งพระวจนะ ทุกคนต้องพิจารณาตนเองว่าเป็นข้าแผ่นดินที่ยอมจำนนและเชื่อฟังบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและกฎของสภายุติธรรมสากล หากใครบิดพลิ้วไปจากประกาศิตของสภายุติธรรมสากลแม้เพียงเท่าปลายเข็ม หรือลังเลที่จะปฏิบัติตาม เขาจะเป็นพวกที่สังคมรังเกียจและถูกปฏิเสธ

เกี่ยวกับวัฏจักรของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพรช่วงเวลาของพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด มิได้จำกัดอยู่ที่พันปีหรือสองพันปี…

เมื่อมีการกล่าวว่า ช่วงเวลาหนึ่งพันปีเริ่มต้นด้วยการปรากฏองค์ของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร และแต่ละวันในช่วงเวลานี้คือหนึ่งพันปี เป็นการพาดพิงถึงวัฏจักรของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร ซึ่งในที่นี้หมายความว่า จะกินเวลานานหลายยุคในอนาคตกาล

พระอับดุลบาฮา (SWAB 68)

8 สิงหาคม

พระศาสดาทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้ามีสองสภาวะ หนึ่ง คือ สภาวะทางกาย อีกสภาวะหนึ่งคือทางวิญญาณ กล่าวคือ สภาวะหนึ่งเป็นสภาวะของมนุษย์ และอีกสภาวะหนึ่งเป็นของพระผู้เป็นเจ้า หากพระศาสดาถูกทดสอบ นั่นเป็นการทดสอบสภาวะของความเป็นมนุษย์เท่านั้น มิใช่สภาวะอันรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นเจ้า

นอกจากนี้ การทดสอบเหล่านี้สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์เท่านั้น กล่าวคือ เมื่อดูภายนอกสภาวะของมนุษย์ในตัวพระศาสดาถูกทดสอบ และเมื่อความเข้มแข็งและความอดทนของพระองค์ขึ้นถึงขีดสุดโดยผ่านการทดสอบเหล่านี้ มนุษย์จึงได้รับการสั่งสอนและตระหนักว่า ความมั่นคงและความอดทนของพวกเขาภายใต้การทดสอบความเข้มแข็งเพียงไร เพราะผู้อบรมจากสวรรค์ต้องสอนด้วยคำพูดและการกระทำ เพื่อเปิดเผยหนทางแห่งสัจธรรมต่อทุกคน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 55-6)

9 สิงหาคม

จิตใจและวิญญาณของมนุษย์พัฒนาเมื่อเขาถูกทดสอบด้วยความทรมาน ดินยิ่งถูกพรวนมากเท่าไรเมล็ดก็ยิ่งเติบโตดีและเก็บเกี่ยวได้มาก เฉกเช่นคันไถที่ไถดินลึกลงไปเพื่อขจัดวัชพืชและไม้หนาม ความทรมานและความยากลำบากปลดมนุษย์ให้เป็นอิสระจากกิจการของชีวิตทางโลก จนกระทั่งเขามาถึงภาวะของการตัดความผูกพันโดยสมบูรณ์ เจตคติของเขาในโลกนี้จะเป็นความสุขทางธรรม กล่าวคือมนุษย์ยังไม่สุก ความร้อนของไฟแห่งความทรมานจะทำให้เขาพัฒนาขึ้น บุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดผ่านความทุกข์ทรมานมามากที่สุด…

จนกว่ามนุษย์จะถูกทดสอบ ทองบริสุทธิ์จึงจะแยกจากขี้โลหะได้ชัด ความทรมานคือไฟแห่งการทดสอบที่เผาทองบริสุทธิ์ให้เรืองแสงเปล่งปลั่ง และไหม้สิ่งเจือปนให้ดำไป

พระอับดุลบาฮา (PT 178, SWAB 120-1)

10 สิงหาคม

ผู้ที่ตัดขาดจากโลก ตัดขาดจากความปรารถนา ตัดขาดจากกิจการและสภาพของมนุษย์มากเท่าไรก็ยิ่งไม่สะเทือนต่อบททดสอบของพระผู้เป็นเจ้า บททดสอบคือวิธีการวัดความแข็งแกร่งของวิญญาณ และการกระทำที่ออกมาคือการพิสูจน์วิญญาณนั้น พระผู้เป็นเจ้ารู้ความแข็งแกร่งและความไม่พร้อมของวิญญาณมาก่อน แต่อัตตาของมนุษย์ไม่เชื่อว่าตนไม่แข็งแกร่งจนกว่าจะได้ข้อพิสูจน์ ผลที่ตามมาคือมนุษย์ได้รับข้อพิสูจน์ว่าเขายังมีจุดอ่อนที่ไม่ดีอยู่เมื่อถูกทดสอบ และบททดสอบยังดำเนินต่อไปจนกว่าวิญญาณนั้นจะตระหนักในความไม่แข็งแกร่งของตน จากนั้นความสำนึกผิดและความเสียใจมักจะขจัดความอ่อนแอ

การทดสอบเดิมมาอีกซึ่งรุนแรงขึ้น จนกว่าจะแสดงให้เห็นว่าความอ่อนแอครั้งก่อนกลายเป็นความแข็งแกร่ง และพลังที่เอาชนะความชั่วร้ายอยู่ตัวแล้ว

พระอับดุลบาฮา (LG 1983 no. 1350)

11 สิงหาคม

เจ้าถามเกี่ยวกับการทดสอบ ความหายนะและความทุกข์ทรมานว่ามาจากพระผู้เป็นเจ้า หรือเป็นผลมาจากกรรมชั่วของมนุษย์ จงรู้ไว้ว่าความทุกข์ทรมานมีสองชนิด หนึ่งคือเป็นการทดสอบ อีกชนิดหนึ่งเป็นการลงโทษกรรมชั่ว ชนิดที่เป็นการทดสอบคือการอบรมและพัฒนามนุษย์ และชนิดที่เป็นการลงโทษคือกรรมสนองที่รุนแรง

บางครั้งบิดาและครูเมตตาต่อเด็กๆ และบางเวลาเข้มงวดกับพวกเขา ความเข้มงวดนี้เป็นไปเพื่อการอบรมเป็นความเมตตาและกรุณาธิคุณที่แท้จริง แม้ว่าดูภายนอกจะเป็นความพิโรธ แต่ในความเป็นจริงคือความเมตตา แม้ดูภายนอกจะเป็นความทุกข์ทรมานแต่ที่จริงเป็นกระแสลมที่เยือกเย็น

ในทั้งสองกรณีควรอธิษฐานและวิงวอน ณ ธรณีประตูศักดิ์สิทธิ์ เพื่อว่าเจ้าจะได้มั่นคงเมื่อถูกทดสอบและอดทนต่อความทุกข์ทรมาน

พระอับดุลบาฮา (DAL 85)

12 สิงหาคม

การอธิษฐานผ่านทางพระศาสดาสากลของพระผู้เป็นเจ้าจะบังเกิดผล กระนั้นก็ตามหากเป็นความปรารถนาทางวัตถุ และแม้จะเกี่ยวข้องกับผู้ที่ไม่เอาใจใส่ หากพวกเขาวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าอย่างถ่อมตัว การอธิษฐานของพวกเขาก็มีผล…

บทอธิษฐานที่เปิดเผยสำหรับการรักษา ใช้กับการรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นจงสวดบทอธิษฐานเหล่านี้เพื่อรักษาทั้งวิญญาณและร่างกาย หากการรักษาเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ป่วย ก็จะบังเกิดผลแน่นอน แต่สำหรับคนเจ็บป่วยบางคน การรักษาจะเป็นเพียงสาเหตุของโรคภัยอื่นๆ อีก ดังนั้นผลที่ได้จึงไม่เป็นไปตามที่อธิษฐาน

…อานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์รักษาความเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 161-2)

13 สิงหาคม

พระผู้เป็นเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของคนรับใช้ทุกคน หากการอธิษฐานนั้นด่วน ความปรานีของพระองค์นั้นไพศาลและไร้ขีดจำกัด…

แต่เราขอสิ่งที่อัจฉริยภาพสวรรค์ไม่ต้องการให้จึงไม่เป็นไปตามที่เราอธิษฐาน อัจฉริยภาพของพระองค์ไม่อนุมัติสิ่งที่เราต้องการ เราอธิษฐานว่า ?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า! โปรดบันดาลให้ข้าพเจ้าร่ำรวย? หากทุกคนอธิษฐานเช่นนี้แล้วเป็นไปตามนั้น กิจการของมนุษย์ย่อมหยุดชะงัก จะไม่มีใครทำงานบนท้องถนน ไม่มีใครพรวนดิน ไม่มีใครก่อสร้าง ไม่มีใครเดินรถไฟ ดังนั้นเป็นที่ประจักษ์ว่า ย่อมไม่เป็นสิ่งดีสำหรับเราหากคำอธิษฐานทุกอย่างได้ตามที่ขอ…แต่ถ้าเราขอสิ่งที่สอดคล้องกับเมธาสวรรค์ พระผู้เป็นเจ้าจะตอบแน่นอน!

ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่อิดโรยอาจขอแพทย์ให้อาหารที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสภาพร่างกายของเขา เขาอาจขอเนื้อย่าง แพทย์เป็นผู้เมตตาและฉลาด แพทย์รู้ว่าเนื้อเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยจึงไม่ให้ ด้วยความเมตตาของแพทย์นี้ ผู้ป่วยจึงฟื้นและรอดชีวิต กระนั้นก็ตามผู้ป่วยอาจร้องว่าแพทย์ใจร้าย ไม่ดี เพราะไม่ยอมให้ตามที่ขอ

พระอับดุลบาฮา (PUP 246-7)

14 สิงหาคม

จงวิงวอนกรุณาธิคุณอันไม่รู้สิ้นของพระผู้เป็นเจ้าขอสิ่งที่เจ้าปรารถนา แต่ถ้าหากเจ้าเอาใจใส่คำแนะนำของเรา เจ้าย่อมไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากการเข้าไปในอาณาจักรอับฮา และไม่แสวงหาสิ่งใดนอกจากพระพรจากความงามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ ขอให้ชีวิตของเราสละเพื่อบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ นี้คือคำแนะนำของเราต่อเจ้า…

จงอธิษฐานขอให้พระผู้เป็นเจ้าพัฒนาคุณธรรมของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้เป็นประหนึ่งเทพยดาในโลกนี้เป็นแสงสว่างที่เปิดเผยความลึกลับของอาณาจักรสวรรค์ให้แก่ผู้ที่มีหัวใจกระจ่าง

พระอับดุลบาฮา (DAL 49, 50)

15 สิงหาคม

เมื่อใดก็ตามที่แสงธรรมของพระผู้สำแดงองค์ราชันแห่งความเป็นหนึ่ง ส่องมายังบัลลังก์ของหัวใจและวิญญาณ รัศมีของพระองค์จะปรากฏให้เห็นในทุกแขนขาและอวัยวะ ในเวลานั้นความลึกลับของคำสอนที่เก่าแก่โด่งดังประกายแสงออกมาจากความมืด: ?คนรับใช้เข้ามาหาเราในการอธิษฐานจนกระทั่งเราตอบเขา; และเมื่อเราตอบเขาแล้ว เรากลายเป็นหูที่เขาใช้ฟัง…? ดังนี้พระผู้เป็นเจ้านายมาปรากฏในบ้านของตนเอง และเสาบ้านเรืองด้วยแสงของพระองค์ อานุภาพและอิทธิพลของแสงนั้นมาจากพระผู้ให้แสง ดังนั้นทั้งหมดเคลื่อนไหวโดยพระองค์และลุกขึ้นโดยพระประสงค์ของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 22)

16 สิงหาคม

ดูกร คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า เราขอรับรองว่าหากจิตใจของเจ้าว่างเปล่าและบริสุทธิ์ปลอดจากคำพูดและความคิดทุกอย่าง และทั้งหัวใจของเจ้าถวิลหาอาณาจักของพระผู้เป็นเจ้า ลืมทุกสิ่งนอกจากพระองค์และสนทนากับพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยเหลือเจ้าด้วยอานุภาพที่จะทำให้เจ้าหยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง และด้วยประกายอันเจิดจ้าที่ส่องสว่างรอบด้าน เปลวไฟที่สว่างไสวอยู่กลางฟ้าจะสอนสิ่งที่เจ้าไม่รู้เกี่ยวกับจักรวาลและคำสอนจากสวรรค์ แท้จริงแล้ววิญญาณทุกดวงในปัจจุบันที่ลุกขึ้นนำทางผู้อื่นมาสู่หนทางแห่งความปลอดภัย และซึมซาบพระวิญญาณแห่งชีวิตให้แก่พวกเขา พระวิญญาณบริสุทธิ์จะดลใจวิญญาณนั้นด้วยหลักฐาน ข้อพิสูจน์ และข้อเท็จจริง และอาภาจากอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าจะฉายแสงมายังเขา

พระอับดุลบาฮา (DAL 46-7)

17 สิงหาคม

หากเขาลุกด้วยไฟแห่งความรักของพระองค์ หากเขาละทิ้งทุกสรรพสิ่ง วาจาของเขาจะทำให้ผู้ที่ได้ยินลุกเป็นไฟ

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 42)

ขณะที่สอน ตัวครูเองต้องลุกเป็นไฟอย่างแท้จริง เพื่อว่าวาจาของเขาซึ่งเป็นประหนึ่งเปลวไฟ จะมีอิทธิพลและเผาผลาญม่านแห่งอัตตาและกิเลส ครูต้องถ่อมตัวและเจียมตัวเพื่อจะปลูกฝังธรรมะให้คนอื่นได้ ครูต้องไม่อวดตนเพื่อว่าเขาจะได้สอนด้วยทำนองของหมู่เทวัญเบื้องบน ไม่เช่นนั้นแล้วการสอนของเขาจะไม่มีผล

พระอับดุลบาฮา (SWAB 270)

18 สิงหาคม

จงเจริญรอยตามพระผู้เป็นนายของเจ้า และอย่าพูดสิ่งที่หูทนฟังไม่ได้ เพราะการพูดเช่นนั้นเป็นเสมือนอาหารโอชะที่ป้อนให้เด็กน้อย แม้ว่าอาหารนั้นจะถูกปาก ล้ำเลิศและโอชารส อวัยวะย่อยอาหารของทารกที่ยังไม่อดนมก็ดูดซึมไม่ได้ ดังนั้นสำหรับทุกคนที่มีสิทธิ์ให้เขาได้รับตามเกณฑ์

?ทุกสิ่งที่มนุษย์ทราบจะเปิดเผยออกมาทั้งหมดไม่ได้ และทุกสิ่งที่มนุษย์เปิดเผยได้ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับเวลาเสมอไป และวาจาที่เหมาะกับเวลาก็ใช่ว่าผู้ฟังทุกคนจะรับได้? นี้คืออัจฉริยภาพอันล้ำเลิศที่เจ้าควรยึดเป็นหลักปฏิบัติ และอย่าลืมเสียหากเจ้าปรารถนาจะเป็นนักปฏิบัติในทุกสภาพการณ์ ประการแรกจงวินิจฉัยโรคแล้วค้นหาความเจ็บป่วย จากนั้นจึงสั่งการรักษา เพราะดังกล่าวนี้คือวิธีที่สมบูรณ์เลิศของแพทย์ผู้ชำนาญ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 628-9)

19 สิงหาคม

งานฉลองบุญ พระนาม

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

จงสามัคคีกันอย่างพร้อมเพรียง อย่าได้โกรธกันและกัน…จงรักเพื่อนมนุษย์เพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า มิใช่เพื่อมนุษย์เอง เจ้าจะไม่มีวันโกรธหรือหมดความอดทน หากเจ้ารักพวกเขาเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ทุกคนมีข้อบกพร่อง และเจ้าจะไม่มีความสุขหากเจ้ามองที่ประชาชน แต่หากเจ้ามองไปที่พระผู้เป็นเจ้า เจ้าจะรักและมีเมตตาต่อเขา เพราะภพของพระผู้เป็นเจ้าคือภพที่ดีพร้อมและมีความปรานีอันไพบูลย์ ดังนั้นอย่ามองที่ข้อบกพร่องของใคร จงมองด้วยสายตาที่ให้อภัย ตาที่บกพร่องมองเห็นสิ่งที่บกพร่อง ตาที่ปกปิดข้อบกพร่องมองที่พระผู้สร้างวิญญาณทั้งหลาย พระองค์สร้างพวกเขา อบรมและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขา ประสาทพวกเขาด้วยความสามารถและชีวิต ด้วยสายตาและการได้ยิน ดังนั้นพวกเขาคือสัญลักษณ์แห่งความโอฬารของพระองค์

พระอับดุลบาฮา (PUP 93)

20 สิงหาคม

จงรู้ไว้ว่าวิญญาณทุกดวงถอดแบบมาจากลักษณะของพระผู้เป็นเจ้า และเกิดมาอย่างบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแต่ละคนแตกต่างกันไปตามความดีความชั่วที่พวกเขาก่อในโลกนี้ แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาในระดับที่ต่างกัน ถึงกระนั้นแต่ละคนเกิดมาอย่างบริสุทธิ์ และจะมีมลทินก็หลังจากนั้น

นอกจากนี้ แม้ว่าระดับของชีวิตนั้นต่างกัน แต่ทุกชีวิตก็มีความดี จงสังเกตร่างกายของมนุษย์ แขนขา และอวัยวะ ตา หู อวัยวะรับกลิ่น รับรส มือ เล็บ แม้ว่าอวัยวะทั้งหมดนี้แตกต่างกัน แต่ละอวัยวะก็มีบทบาทต่อร่างกายตามขีดจำกัดของตน หากอวัยวะใดล้มเหลวก็ต้องรักษา และหากรักษาไม่ได้ผลก็ต้องตัดส่วนนั้นออก

พระอับดุลบาฮา (SWAB 190)

21 สิงหาคม

ความตายของเยาวชนที่รักผู้ที่พรากจากเจ้าไปยังความเศร้าโศกยิ่งนัก เพราะเขาได้บินขึ้นไปสู่ที่พักพิงเบื้องบนขณะที่ยังอยู่ในวัยที่แย้มบานสดใส แต่เขาเป็นอิสระจากที่พักอันทุกข์โศกนี้ และหันหน้าไปยังที่พักพิงนิรันดร์ในอาณาจักรสวรรค์ เป็นอิสระจากโลกที่มืดมนและคับแคบนี้ และได้รีบไปยังอาณาจักรอาภาอันวิสุทธิ์เหล่านี้คือสิ่งที่ปลอบโยนหัวใจของเรา

เมธาสวรรค์ที่ไม่อาจหยั่งรู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ที่ปวดร้าวใจเช่นนี้ สิ่งที่เป็นราวกับว่าคนสวนที่เมตตาได้ย้ายต้นอ่อนที่เขียวสดจากบริเวณที่คับแคบไปไว้ในที่โล่งแจ้ง การย้ายนี้มิได้เป็นเหตุให้ต้นอ่อนร่วงโรย ไม่โตหรือตาย ไม่เลย แต่กลับทำให้ต้นอ่อนเติบโตงอกงาม สดชื่น เขียวขจีและออกผล ความลับนี้คนสวนทราบดี แต่คนที่ไม่ทราบความอารีนี้คิดว่าคนสวนถอนรากต้นอ่อนไปเพราะความโกรธ แต่สำหรับผู้ที่ทราบ ความลับนี้เป็นที่ประจักษ์ชัด และประกาศิตที่กำหนดไว้ล่วงหน้านี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นพระพร ดังนั้นอย่าได้เศร้าโศกหรือสลดใจต่อการจากไปของวิหคที่ซื่อสัตย์นี้ ไม่เพียงเท่านั้น ในทุกสภาพแวดล้อมจงอธิษฐานเพื่อเยาวชนผู้นี้ วิงวอนขอให้เขาได้รับการอภัยและพัฒนาไป

พระอับดุลบาฮา (SWAB 199-200)

22 สิงหาคม

ดูกร หญิงรับใช้ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า แม้ว่าการสูญเสียบุตรนั้นแสนจะปวดร้าวใจและเกินกว่าที่มนุษย์จะทนได้ ถึงกระนั้น ผู้ที่รู้และเข้าใจจะนอนใจว่าบุตรมิได้สูญไปแต่ได้จากภพนี้ไปสู่อีกภพหนึ่ง และเธอจะได้พบเขาในอาณาจักรสวรรค์ การกลับมาอยู่ร่วมกันในภพนั้นจะยั่งยืนชั่วนิรันดร์ แต่ในภพนี้การพรากจากกันนั้นเลี่ยงไม่ได้และยังความเศร้าโศกอย่างปวดร้าว

ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้าที่เจ้ามีความศรัทธา และกำลังหันหน้ามาสู่อาณาจักรอนันต์ และเชื่อว่าภพสวรรค์มีจริง ดังนั้นอย่าได้สลดใจ อย่าเพลียใจหรือถอนหายใจ อย่าคร่ำครวญหรือร่ำไห้ เพราะความกังวลและความเศร้าโศกจะกระทบวิญญาณของเขาอย่างมากในอาณาจักรสวรรค์

บุตรที่รักคนนี้กล่าวต่อเจ้าจากภพที่เร้นลับว่า: ดูกร มารดาผู้เมตตา จงขอบคุณการบริบาลจากสวรรค์ที่ข้าพเจ้าได้เป็นอิสระจากกรงที่มืดมนและคับแคบนี้ และเป็นเสมือนวิหคในทุ่งหญ้า ถ้าข้าพเจ้าได้เหินไปสู่ภพสวรรค์ ซึ่งเป็นภพที่กว้างใหญ่ไพศาล เรืองรองและเบิกบานหรรษาอนันต์ ดูกร มารดาผู้เมตตา ดังนั้นอย่าได้เศร้าโศกหรือเสียใจ ข้าพเจ้าไม่ได้สูญไป มิได้หายไปหรือดับสิ้นไป ข้าพเจ้าได้สลัดรูปกายทิ้งไปและได้ชูธงในภพแห่งวิญญาณนี้ การพรากจากกันนี้จะตามมาด้วยการอยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์ ท่านจะพบข้าพเจ้าในทะเลแสงในสวรรค์ของพระผู้เป็นนาย

พระอับดุลบาฮา (SWAB 201)

23 สิงหาคม

จงใคร่ครวญดูสิ่งที่กวีเขียนไว้: ?อย่าแปลกใจหากพระผู้เป็นที่รักยิ่งอยู่ใกล้กับข้าพเจ้ามากกว่าตัวข้าพเจ้าเอง แต่จงแปลกใจได้ว่า แม้จะใกล้เช่นนี้ ข้าพเจ้าก็ยังอยู่ห่างไกลจากพระองค์?…จงพิจารณาดูวจนะที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยไว้ว่า ?เราอยู่ใกล้กับมนุษย์มากกว่าเส้นโลหิตของมนุษย์เอง? ในการพาดพิงถึงวจนะนี้กวีได้กล่าวว่า แม้การสำแดงองค์ของพระผู้เป็นที่รักยิ่งได้ซึมซาบชีวิตของข้าพเจ้า จนพระองค์อยู่ใกล้กับข้าพเจ้ามากกว่าเส้นโลหิตของข้าพเจ้าเอง แม้ว่าข้าพเจ้ามั่นใจในความจริงนี้และยอมรับสถานะของตนเอง ข้าพเจ้าก็ยังคงอยู่ไกลจากพระองค์ ดังนี้กวีหมายความว่า หัวใจของเขาซึ่งเป็นคฤหาสถ์ของพระผู้ทรงปรานีและเป็นบัลลังก์สำหรับการเปิดเผยอาภาของพระองค์ กลับลืมพระผู้สร้าง หลงไปจากหนทางของพระองค์ ปิดกั้นตนเองจากความรุ่งโรจน์ของพระองค์ และเปื้อนมลทินของกิเลส

ควรระลึกไว้ ณ ที่นี้ว่า พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวทรงความประเสริฐเหนือความใกล้ชิดและความห่างไกล สภาวะของพระองค์อยู่เหนือข้อจำกัดเหล่านี้ ความสัมพันธ์ที่พระองค์มีต่อมนุษย์นั้นวัดไม่ได้ การที่บางคนอยู่ใกล้และคนอื่นอยู่ไกล เป็นเรื่องของสภาวะของพวกเขา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 185-6)

24 สิงหาคม

การที่หัวใจคือบัลลังก์ที่เป็นจุดหมายของการปรากฏองค์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงปรานี ได้รับการยืนยันโดยวาทะศักดิ์สิทธิ์ที่เราเปิดเผยไว้ก่อนนี้ หนึ่งในวาทะเหล่านี้คือ: ?โลกและสวรรค์ไม่สามารถบรรจุเรา สิ่งเดียวที่สามารถบรรจุเราคือหัวใจของผู้ที่เชื่อในเราและซื่อสัตย์ต่อศาสนาของเรา? บ่อยแค่ไหนที่หัวใจของมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้รับแสงธรรมของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นคฤหาสถ์แห่งการปรากฏองค์ของพระผู้ทรงปรานี ได้หลงไปจากพระผู้เป็นแหล่งกำเนิดของแสงนั้นและเป็นที่มาของการมาปรากฏนั้น ทิฐิในหัวใจคือตัวพาหัวใจไกลไปจากพระผู้เป็นเจ้า และทิ้งให้หัวใจนั้นไกลห่างจากพระองค์ อย่างไรก็ตามหัวใจที่ตระหนักว่าพระองค์สถิตอยู่ ได้อยู่ใกล้พระองค์ และถือว่าหัวใจนั้นได้เข้ามาใกล้บัลลังก์ของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 186)

25 สิงหาคม

นอกจากนี้จงพิจารณาดูว่า บ่อยแค่ไหนที่มนุษย์ลืมตนเอง ขณะที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบผู้ที่พระองค์สร้างขึ้นมาเสมอ เพราะความรู้ของพระองค์ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่ง และทรงสาดรัศมีอันรุ่งโรจน์มายังมนุษย์เรื่อยไป ดังนั้นจึงเป็นที่ประจักษ์ว่าในสภาวะเช่นนี้พระองค์อยู่ใกล้กับมนุษย์มากกว่าตัวเขาเอง แท้จริงแล้วพระองค์จะอยู่ใกล้เช่นนี้ตลอดไป เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวทรงรู้ทุกสิ่ง เห็นทุกสิ่ง และเข้าใจทุกสิ่ง แต่มนุษย์มีแนวโน้มจะหลงผิด และไม่รู้ความลึกลับที่อยู่ในตัวเขา…

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 186)

26 สิงหาคม

?เวลาสำหรับทำลายโลกและประชาชนบนโลกมาถึงแล้ว? ?ชั่วโมงนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือชั่วโมงที่ความโกลาหลอันใหญ่หลวงจะบังเกิดขึ้น? ?วันแห่งพันธสัญญามาถึงแล้ว คือวันที่การทดสอบอันทรมานจะสาดซัดเหนือศีรษะและใต้ฝ่าเท้าของเจ้า และกล่าวว่า: ?จงลิ้มรสสิ่งที่มือของเจ้าได้กระทำ!?? ?ในไม่ช้าพายุแห่งการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้าจะพัดกระโชกเจ้าและธุลีจากนรกจะปกคลุมเจ้า? ?และเมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนดจะปรากฏอย่างทันใดในสิ่งที่จะทำให้แขนขาของมนุษยชาติสั่นสะท้าน? ?วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่เปลวไฟของอารยธรรมจะเผาผลาญเมืองทั้งหลาย และชิวหาของความโอฬารจะประกาศว่า: ?อาณาจักรเป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ!?? ?วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า คือวันที่เจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือและจะไม่ได้รับคำตอบ?

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 1-2)

27 สิงหาคม

?ดูกร ประชาชน จงตื่นตัวขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันแห่งความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า เพราะชั่วโมงที่สัญญาไว้มาถึงแล้ว? ?จงละทิ้งสิ่งที่เจ้าครอบครอง และยึดสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้โน้มคอมนุษย์ให้ต่ำลง ทรงนำมา จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า หากเจ้าไม่เลิกสิ่งที่เจ้าได้กระทำ การลงโทษจะตามเล่นงานเจ้าจากรอบด้าน และเจ้าจะได้เห็นสิ่งที่สาหัสกว่าที่เจ้าเคยเห็น? ?ดูกร ประชาชน! เราได้กำหนดเวลาไว้สำหรับเจ้าแล้ว เมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนด หากเจ้ายังไม่หันมาหาพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะใช้ความรุนแรงกับเจ้าแน่ และจะบันดาลให้ความทรมานอันสาหัสมาโจมตีเจ้าจากทุกทิศทาง การลงโทษที่พระผู้เป็นเจ้าจะใช้ลงโทษเจ้าในตอนนั้นช่างรุนแรงเพียงใด!?

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 3)

28 สิงหาคม

?จงรู้ความจริงไว้ว่า การกดขี่อันใหญ่หลวงเหล่านี้ที่บังเกิดกับโลก กำลังเตรียมพิภพสำหรับการมาถึงของความยุติธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุด? ?พระองค์ทรงเสด็จมากับความยุติธรรมที่เคยประดับมนุษยชาติ และถึงกระนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังคงหลับใหล?…?วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่ผู้ซื่อสัตย์จะได้เห็นดวงตะวันแห่งความยุติธรรมฉายแสงอย่างเจิดจ้าจากอรุโณทัยแห่งความรุ่งโรจน์? ?ความอับอายที่เรารับมาได้เปิดเผยความรุ่งโรจน์ที่เคยอาบทุกสรรพสิ่ง และความทารุณที่เราทนมาทำให้ดวงตะวันแห่งความยุติธรรมปรากฏขึ้นมาและสาดรัศมีมายังมนุษย์?

พระบาฮาอุลลาห์ (ADJ 23)

29 สิงหาคม

ทำนองเดียวกันเจ้าถามว่าในยุคศาสนาบาไฮนี้ ผู้มีธรรมจะมีชัยในที่สุดหรือไม่ เป็นที่แน่นอนว่าธรรมะย่อมชนะวัตถุนิยม เทพจะกำราบมนุษย์ และโดยอาศัยการศึกษาของสวรรค์ มวลมนุษย์ชาติจะก้าวหน้าไปไกลในทุกระดับของชีวิต เว้นแต่บรรดาผู้ที่ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้และไร้ชีวิต บุคคลเช่นพวกเขาจะเข้าใจแสงสว่างได้อย่างไร? แม้ว่ารังสีของดวงอาทิตย์ให้ความสว่างทุกซอกมุมที่มืดมิดบนโลก คนตาบอดก็ไม่ได้รับความสว่างนี้ และแม้ว่าฝนแห่งความปรานีสวรรค์ตกมาอย่างหนัก ก็ไม่มีต้นอ่อนหรือดอกไม้ใดบานขึ้นมาจากดินที่ไม่ดีได้

พระอับดุลบาฮา (SWAB 191-2)

30 สิงหาคม

หน้าที่สองประการตกอยู่กับผู้ที่ยอมรับอรุโณทัยแห่งเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า และยอมรับสัจธรรมของพระผู้แสดงความเป็นหนึ่งของพระองค์ หน้าที่ประการแรกคือมั่นคงในความรักของพระองค์ มั่นคงอย่างที่ไม่ว่าศัตรูจะโห่ร้องหรือผู้อวดอ้างที่ไร้สาระจะส่งเสียง ก็ไม่สามารถยับยั้งเขามิให้ยึดเหนี่ยวพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์หรือทำให้เขาใส่ใจต่อสิ่งเหล่านี้ ประการที่สองคือการเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎที่พระองค์บัญญัติ ซึ่งพระองค์บัญญัติไว้เสมอมา และจะบัญญัติต่อไปสำหรับมนุษย์ และกฎเหล่านี้จะแยกให้เห็นสัจธรรมและความจอมปลอม

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 289-90)

31 สิงหาคม

ทาจาลี (ความโชติช่วง) ข้อที่สอง

คือความมั่นคงในศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ และไม่ผันแปรไปจากความรักของพระองค์ ซึ่งจะบรรลุไม่ได้นอกจากจะยอมรับพระองค์อย่างสุดหัวใจ และการยอมรับนี้จะเป็นไปไม่ได้นอกจากจะมีศรัทธาในวจนะที่อุดมพร: ?พระองค์กระทำตามที่พระองค์ปรารถนา? ใครก็ตามที่ยึดมั่นในวจนะอันประเสริฐและดื่มสายธารแห่งวาทะที่อยู่ในวจนะนั้น จะเปี่ยมไปด้วยความไม่ผันแปรอย่างที่ตำราทั้งหมดบนโลกก็ไม่สามารถกั้นเขาจากคัมภีร์แม่บท

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 51)

กันยายน

1 กันยายน

ดูกร ประชาชน หน้าที่ประการแรกคือการยอมรับพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์เป็นที่สรรเสริญ หน้าที่ประการที่สองคือความไม่ผันแปรในศาสนาของพระองค์ และหลังจากนี้ หน้าที่ของผู้นั้นคือการชำระความร่ำรวยและสมบัติของตนให้บริสุทธิ์ตามที่พระผู้เป็นเจ้าบัญญัติไว้ ดังนั้นควรที่เจ้าจะสำเร็จหน้าที่ที่มีต่อสิทธิของพระผู้เป็นเจ้าก่อน แล้วจึงมุ่งไปยังบ้านที่อุดมพรของพระองค์ นี้คือสัญลักษณ์แห่งกรุณาธิคุณที่บอกให้เจ้ารู้ไว้

บัญญัตินี้ (ฮุคุคุลลาห์) ผูกมัดทุกคน และเมื่อปฏิบัติตามผู้นั้นจะได้รับเกียรติ เพราะสิ่งนี้ช่วยชำระสมบัติของตนให้บริสุทธิ์ อีกทั้งนำพรและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ อย่างไรก็ตามประชาชนยังไม่รู้ความสำคัญของเรื่องนี้ หากพวกเขาพยายามอยู่เสมอที่จะกอบโกยความร่ำรวยด้วยวิธีที่ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อว่าจะให้เป็นมรดกแก่ทายาท และสิ่งนี้มีข้อดีอะไรไม่มีใครบอกได้ ในยุคนี้ทายาทที่แท้จริงคือพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า เนื่องด้วยเจตนาที่อยู่เบื้องหลังของการสืบมรดกคือเพื่อจะสงวนชื่อและร่องรอยของมนุษย์ เป็นที่ชัดเจนไร้ข้อกังขาว่า เวลาหลายศตวรรษและหลายยุคที่หมุนเวียนไปจะลบร่องรอยเหล่านี้ ขณะที่ทุกวจนะที่ปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ลิขิตไว้เป็นเกียรติกับผู้ใดก็จะคงอยู่ตราบเท่าที่อาณาจักรสวรรค์และโลกยังอยู่

พระบาฮาอุลลาห์ (HQ no. 31, 42)

2 กันยายน

เราขอปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้า! ในสายตาของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ไม่มีใครน่ารังเกียจเพราะความจน แต่กลับจะได้รับการยกย่องถ้าเขาเป็นพวกที่อดทน พระพรจงมีแด่ผู้ที่อดทนอย่างแน่วแน่ ความหายนะบังเกิดกับคนร่ำรวยที่ตีจากฮุคุคุลลาห์ และไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่บัญญัติไว้สำหรับพวกเขาในธรรมจารึกที่พระองค์อภิรักษ์ไว้

เจ้าเขียนมาว่า พวกเขาได้ปฏิญาณตนที่จะใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ที่สุดเพื่อจะส่งรายได้ที่เหลือมาให้พระองค์ เรื่องนี้ถูกกล่าวถึง ณ ราชสำนักอันวิสุทธิ์ของพระองค์ พระองค์กล่าวว่า: ขอให้พวกเขาเดินสายกลางและอย่าสุมความแร้นแค้นให้กับตนเอง เราอยากให้ทั้งสองคนนั้นได้ใช้ชีวิตที่น่าอภิรมย์

พระบาฮาอุลลาห์ (HQ no. 25, 57)

3 กันยายน

บาไฮควรดำเนินงานสอนศาสนาอย่างแข็งขันในทุกสภาพการณ์ เพราะอำนาจค้ำจุนจากสวรรค์ขึ้นกับการสอน หากบาไฮละเว้นจากการมีส่วนร่วมในงานสอนอย่างสุดหัวใจ อย่างแข็งขันและเต็มที่ ไม่มีข้อสงสัยว่าเขาจะถูกพรากจากพระพรของอาณาจักรอับฮา ถึงกระนั้น กิจกรรมนี้ควรใช้ความรอบคอบมิใช่ความรอบคอบที่ให้ผู้นั้นเงียบแล้วลืมหน้าที่ แต่ให้เขาอดกลั้น มีความรัก เมตตาและอดทน มีอุปนิสัยใจคอที่ดีและการกระทำที่บริสุทธิ์ กล่าวโดยย่อ จงให้กำลังใจมิตรสหายแต่ละคนให้สอนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และชักนำพวกเขาให้หันมาสนใจความหมายของความรอบคอบนี้ที่กล่าวไว้ในธรรมลิขิต ซึ่งเป็นแก่นของการสอนศาสนา แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำด้วยความอดกลั้นอย่างยิ่ง เพื่อว่าอำนาจค้ำจุนจากสวรรค์จะมาช่วยเหลือมิตรสหาย

พระอับดุลบาฮา (SWAB 268)

4 กันยายน

เกี่ยวกับมูลฐานของการสอนศาสนา: ?จงรู้ไว้ว่าการมอบพระธรรมจะสำเร็จได้ก็ต้องอาศัยคุณธรรมและการ กระทำที่ดีงาม วาจาที่กระจ่างชัด และความสุขที่สะท้อนจากใบหน้าของผู้อรรถาธิบายคำสอน จำเป็นที่การกระทำของครูควรเป็นข้อยืนยันสัจธรรมในคำพูดของตน นี้คือสถานะของผู้ที่แพร่กระจายสุคนธรสของพระผู้เป็นเจ้าและคุณสมบัติของผู้ที่ศรัทธาอย่างจริงใจ

เมื่อพระผู้เป็นนายช่วยให้เจ้าบรรลุถึงสถานะนี้แล้ว จงวางใจได้ว่าพระองค์จะดลใจเจ้าด้วยวาทะแห่งสัจธรรม และจะทำให้เจ้าพูดด้วยลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 175)

5 กันยายน

ใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าที่ลุกขึ้นสอนศาสนาของพระผู้เป็นนายของเขา ก่อนอื่นใดขอให้เขาสอนตัวเองเพื่อว่าวาจาของเขาจะดึงดูดหัวใจของผู้ที่ได้ยิน นอกจากว่าเขาสอนตัวเองเสียก่อน ถ้อยคำของเขาจะไม่โน้มน้าวหัวใจของผู้แสวงหา ดูกร ประชาชน จงมีสติอย่าเป็นพวกที่ให้คำแนะนำที่ดีต่อผู้อื่น แต่ตนลืมทำเสียเอง วจนะดังเช่นที่กล่าวมานี้ ถัดมาคือทุกสรรพสิ่งและถัดมาคือเทพยดาที่อยู่ใกล้พระผู้เป็นเจ้า ต่างกล่าวหาพวกเขาว่าจอมปลอม

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 277)

6 กันยายน

ดูกร ผู้ที่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า! กล่าวโดยย่อ พระธรรมในคัมภีร์สวรรค์คือดังนี้: หากวิญญาณสองดวงทะเลาะและโต้เถียงกันเกี่ยวกับปัญหาธรรม เห็นไม่ตรงกันและโต้แย้งกัน ทั้งคู่เป็นฝ่ายผิด ข้อดีของกฎที่โต้แย้งไม่ได้นี้ของพระผู้เป็นเจ้าคือ: จะไม่มีการโต้เถียงหรือโต้แย้งกันระหว่างวิญญาณสองดวงที่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ทั้งสองจะพูดกันด้วยมิตรภาพและความรักอย่างไม่รู้เลือน หากดูเหมือนจะมีการโต้แย้งกันเพียงเล็กน้อย ทั้งคู่ต้องเงียบและไม่อภิปรายกันต่อ แต่ให้ถามความจริงเกี่ยวกับปัญหาจากผู้ตีความที่ได้รับแต่งตั้งนี้คือบัญชาที่แย้งไม่ได้!

ขอบาฮา เอลอับฮา สถิตอยู่กับเจ้า!

พระอับดุลบาฮา (TDP 53)

7 กันยายน

งานฉลองบุญ อำนาจ

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

จงเป็นประหนึ่งภราดรที่แท้จริงในศาสนาเดียวกันที่แบ่งแยกไม่ได้ของพระผู้เป็นเจ้า โดยไม่มีใครเป็นอื่นเพราะแท้จริงแล้วพระผู้เป็นเจ้าปรารถนาให้หัวใจของเจ้ากลายเป็นกระจกสำหรับภราดรร่วมศาสนา เพื่อว่าเจ้าจะพบตนเองสะท้อนอยู่ในพวกเขา และพวกเขาสะท้อนอยู่ในตัวเจ้า นี้คือวิถีธรรมที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า ??พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ แท้จริงแล้วพระองค์คอยเฝ้าดูการกระทำของเจ้า

พระบ๊อบ (SWB 56)

8 กันยายน

ดูกร คนรักของพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้! จงชำระดวงตาของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่เห็นผู้ใดแตกต่างจากตัวเจ้าเอง อย่ามองใครเป็นคนแปลกหน้า แต่จงมองมนุษย์ทุกคนว่าเป็นเพื่อน เพราะความรักและสามัคคีเกิดขึ้นได้ยากหากเจ้ามองว่าเขาเป็นอื่น และในยุคใหม่ที่น่าพิศวงนี้ ธรรมลิขิตกล่าวไว้ว่า เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันกับประชาชนทุกคน เราต้องไม่มองความหยาบหรือความอยุติธรรม ไม่มองความประสงค์ร้ายหรือความเป็นศัตรูหรือความเกลียดชัง แต่ควรมองไปยังนภาแห่งความรุ่งโรจน์จิรันดร เพราะแต่ละคนคือสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า และมาเกิดในโลกนี้โดยกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นนายและอานุภาพของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่เป็นคนในครอบครัว ไม่ใช่คนต่างแดนแต่เป็นเพื่อน และควรได้รับการปฏิบัติตามนั้น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 24)

9 กันยายน

ยุคนี้คือยุคที่พระผู้ทรงปรานีเสด็จลงมาในเมฆาแห่งความรู้พร้อมด้วยอธิปไตยอันประจักษ์แจ้ง พระองค์ทราบการกระทำของมนุษย์เป็นอย่างดี พระองค์คือผู้ซึ่งไม่มีใครจำความรุ่งโรจน์ของพระองค์ไม่ได้ หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ นภาของทุกศาสนาฉีกออกและวสุธาแห่งความเข้าใจของมนุษย์แยกออก และเทพยดาของพระผู้เป็นเจ้ากำลังลงมา ยุคนี้คือยุคที่มีแต่การหลอกลวงกัน แล้วเจ้าจะหนีไปไหนได้? ภูเขาทลายลงแล้วและท้องฟ้าพับเข้ามาหากัน และทั้งพิภพอยู่ในเงื้อมมือของพระองค์ ใครหรือที่คุ้มครองเจ้าได้? ไม่มี พระผู้เป็นผู้ทรงปรานีเป็นพยาน! ไม่มีใครนอกจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงเมตตา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 45)

10 กันยายน

ความบริสุทธิ์และมีธรรมในทุกเรื่องคือคุณลักษณะหนึ่งของดวงวิญญาณที่เคร่งศาสนา และเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นของจิตใจที่อิสระ ความสมบูรณ์ที่ล้ำเลิศที่สุดคือความไม่มีด่างพร้อยและการแก้ไขข้อบกพร่องทุกอย่างเมื่อใครมีความสะอาดและบริสุทธิ์ในทุกแง่ เขาจะเป็นศูนย์กลางสะท้อนอาภาสวรรค์

ในแนวทางดำเนินชีวิตของมนุษย์ ประการแรกต้องมีความบริสุทธิ์ จากนั้นต้องมีความสดชื่น ความสะอาดและจิตใจที่อิสระ ประการแรกก้นลำธารต้องสะอาดก่อน จากนั้นจึงให้ลำน้ำบริสุทธิ์ไหลเข้ามา ดวงตาที่บริสุทธิ์ยินดีต่อจินตภาพอันเกษมสันต์ของพระผู้เป็นนาย และรู้ว่าการประสบนี้มีความหมายว่าอย่างไร ประสาทสัมผัสที่บริสุทธิ์สูดสุคนธรสที่โชยมาจากสวนกุหลาบแห่งกรุณาธิคุณของพระองค์ หัวใจที่ผุดผ่องจะสะท้อนใบหน้าอันสดใสของสัจธรรม

พระอับดุลบาฮา (SWAB 146)

11 กันยายน

ความหมายของเราคือ ในทุกแง่ของชีวิต ความบริสุทธิ์และมีธรรม ความสะอาดและละเอียดอ่อน ยกสภาวะของมนุษย์และพัฒนาวิญญาณของมนุษย์ แม้จะเป็นทางกาย ความสะอาดก็นำไปสู่การยกระดับจิตใจ ดั่งที่ธรรมลิขิตกล่าวไว้ชัดเจน และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิญญาณ เสมือนน้ำเสียงที่หวานเสนาะหรือทำนองเพลง แม้ว่าเสียงจะเป็นเพียงการสั่นสะเทือนในอากาศซึ่งมีผลต่อเส้นประสาทหู และการสั่นสะเทือนเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่ไปตามอากาศ กระนั้นจงดูซิว่า เสียงนั้นไหวความรู้สึกเช่นไร ทำนองเสนาะคือปีกสำหรับจิตใจ และทำให้วิญญาณสั่นไหวด้วยความปีติ ใจความก็คือความสะอาดทางกายมีผลต่อวิญญาณของมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (SWAB 146-7)

12 กันยายน

แต่มีสิ่งต้องห้ามอื่นๆ อีกที่มิได้ก่อให้เกิดอันตรายทันที และผลร้ายของมันเกิดขึ้นทีละน้อย การแตะต้องสิ่งเหล่านี้เป็นที่รังเกียจสำหรับพระผู้เป็นนาย น่าตำหนิในสายตาของพระองค์ และน่าขยะแขยง อย่างไรก็ตามในพระธรรมมิได้ระบุสิ่งเหล่านี้ไว้แน่ชัดว่าเป็นข้อห้ามอย่างเด็ดขาด แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะจำเป็นต่อความบริสุทธิ์ ความสะอาด การรักษาสุขภาพและปลอดจากการเสพติด

หนึ่งในสิ่งเหล่านี้คือการสูบบุหรี่ซึ่งสกปรก เหม็น น่ารังเกียจ และเป็นนิสัยที่ไม่ดี ซึ่งภัยของบุหรี่ค่อยๆ ปรากฏชัดต่อทุกคน…

…ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า การสูบบุหรี่นั้นโสมม น่ารังเกียจและควรปรามอย่างยิ่ง และเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพแม้จะเป็นไปทีละน้อยก็ตาม การสูบบุหรี่ยังเป็นการเสียเงินและเสียเวลา และทำให้ผู้สูบเป็นเหยื่อของการเสพติดที่เป็นภัย ดังนั้นสำหรับผู้ที่มั่นคงในพระปฏิญญา การติดบุหรี่เป็นที่น่าตำหนิด้วยเหตุผลและประสบการณ์ และการเลิกบุหรี่จะทำให้จิตใจของทุกคนสงบและผ่อนคลาย นอกจากนี้การเลิกบุหรี่จะทำให้เราสามารถมีปากที่สดชื่น มีนิ้วที่ไม่เปื้อน และผมที่ไม่มีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 147-8)

13 กันยายน

ดูกร กองทัพแห่งชีวิต! ประเทศตะวันออกและตะวันตกได้ร่วมกันบูชาดวงดาวที่ริบหรี่ และหันไปหาขอบฟ้าที่มืดมนเพื่ออธิษฐาน…พวกเขาถือธรรมเนียมและประเพณีนิยมบางอย่างว่าเป็นรากฐานที่ไม่มีเปลี่ยนแปลงของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และสถาปนาตนเองอย่างมั่นคงอยู่ในนั้น พวกเขาคิดว่าตนได้บรรลุถึงสุดยอดของความสำเร็จและเจริญรุ่งเรือง แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาจมลงไปในก้นบึ้งของความลืมสติ เพราะพรากตนเองจากพระพรของพระผู้เป็นเจ้าโดยสิ้นเชิง

รากฐานของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าคือการบรรลุความสมบูรณ์เลิศทางธรรม และการได้รับพระพรอเนกอนันต์จากพระองค์ จุดประสงค์สำคัญของความศรัทธาและความเชื่อคือ การช่วยให้วิญญาณของมนุษย์เจริญขึ้นด้วยกรุณาธิคุณที่หลั่งลงมาจากเบื้องบน หากไม่บรรลุจุดประสงค์นี้ก็เท่ากับเป็นการพรากวิญญาณนั้นและเป็นไฟนรกที่ทรมาน

ดังนั้นเป็นหน้าที่ของบาไฮทุกคนที่จะต้องตรึกตรองเรื่องที่ละเอียดและสำคัญนี้ในหัวใจ เพื่อว่าพวกเขาจะไม่หลงพอใจกับเสียงเอะอะโห่ร้องและคำสอนที่ไร้แก่นสารเหมือนในศาสนาอื่น…เพราะในยุคศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งเป็นความรุ่งโรจน์ขั้นสมบูรณ์ของยุคและศตวรรษทั้งหลายที่ผ่านมา ความศรัทธาที่แท้จริงมิใช่เพียงการยอมรับเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า แต่ต้องดำเนินชีวิตที่จะสำแดงความสมบูรณ์เลิศและคุณธรรมทุกอย่างที่แสดงนัยอยู่ในความเชื่อนั้น

พระอับดุลบาฮา (DAL 24-5)

14 กันยายน

แท้จริงแล้วสิ่งจำเป็นที่สุดคือความพอใจในทุกสภาพแวดล้อม เมื่อเป็นได้ดังนี้ ผู้นั้นจะปลอดภัยจากความหดหู่และความเหนื่อยหน่าย อย่าให้ความเศร้าโศกและความทุกข์ครอบงำเจ้า ความริษยาเผาผลาญร่างกายและความโกรธเผาตับ จงหลีกเลี่ยงสองสิ่งนี้เหมือนกับที่เจ้าหลีกหนีสิงโต

พระบาฮาอุลลาห์ (BNE 108)

15 กันยายน

ดูกร สหายทางธรรม! ความไม่ผันแปรของเจ้าต้องเป็นอย่างที่หากผู้ปรารถนาร้ายสังหารบาไฮไปหมดและเหลือเพียงคนเดียว คนนั้นจะต้านทานประชาชนทั้งปวงบนพิภพด้วยตัวคนเดียวลำพัง และจะแพร่กระจายสุคนธรสอันวิสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าต่อไปให้กว้างไกล ดังนั้นหากเจ้าได้รับข่าวที่น่ากลัวหรือคำบอกเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าใจหายจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงดูให้ดีว่าเจ้าไม่ท้อ จงอย่าให้ความเศร้าโศกมาครอบงำและอย่าหวั่นไหว แต่จงลุกขึ้นอย่างทันใดด้วยความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ และรับใช้อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (SWAB 78-9)

16 กันยายน

ฐานะที่สูงสุด สภาวะที่สูงสุด และตำแหน่งอันประเสริฐสุดในสรรพภาวะไม่ว่าจะมองเห็นหรือมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นอัลฟ่าหรือโอเมก้า คือตำแหน่งของพระศาสดาทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า…ถัดมาคือฐานะของบรรดากษัตริย์ที่ยุติธรรมผู้มีกิตติศัพท์เลื่องระบือไปทั่วปฐพีว่า เป็นผู้ปกป้องประชาชนและทรงใช้ความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า และมีชื่อก้องไปทั่วว่า เป็นผู้ทรงปรีชาสามารถในการสนับสนุนสิทธิของประชาชน กษัตริย์เหล่านี้ไม่สนใจจะกอบโกยทรัพย์สมบัติมหาศาลเพื่อตนเอง แต่เชื่อว่าความมั่งคั่งของตนอยู่ที่การบำรุงข้าแผ่นดิน…

ตำแหน่งถัดมาคือบรรดารัฐมนตรีและผู้แทนที่เลื่องลือด้วยเกียรติคุณ ผู้ถือว่าพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าสำคัญกว่าความประสงค์ของตนเอง และความชาญฉลาดในการบริหารงานของพวกเขาจะพัฒนารัฐศาสตร์การปกครองไปสู่ความสมบูรณ์ขั้นสูงสุด พวกเขาเรืองรองอยู่ในโลกแห่งวิชาการประดุจตะเกียงแห่งความรู้เจตคติและการกระทำของพวกเขาสาธิตถึงความรักชาติและความห่วงใยต่อความก้าวหน้าของประเทศ พวกเขาพอใจกับเงินเดือนธรรมดา และอุทิศทั้งทิวาราตรีต่อการปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญและคิดหาวิธีที่จะรับประกันความก้าวหน้าของประชาชน…

นอกจากนี้ยังมีบรรดาผู้แก่วิชาที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียง ผู้ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าสรรเสริญและความรู้ไพศาล…ปัญญาของพวกเขามีธรรมะสะท้อนอยู่ และญาณของพวกเขารับแสงจากดวงอาทิตย์แห่งความรู้สากล ทั้งทิวาราตรีพวกเขายุ่งอยู่กับการวิจัยที่พิถีพิถันในศาสตร์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ และอุทิศตนต่อการอบรมนักศึกษาที่มีความสามารถ ในวิจารณญาณของพวกเขาเป็นที่แน่นอนว่า สมบัติของกษัตริย์ที่เสนอมาให้ไม่อาจเปรียบได้กับหยดเดียวของธาราแห่งความรู้ ทองและเงินเท่าภูเขาก็ไม่มีค่ามากกว่าการไขปัญหาที่ยาก…

นอกจากนี้ยังมีผู้นำที่ปราดเปรื่องในหมู่ประชาชนและผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้เป็นเสาหลักของรัฐ ตำแหน่งฐานะและความสำเร็จของพวกเขาขึ้นอยู่กับการเป็นผู้ปรารถนาดีต่อประชาชน และการแสวงหาวิธีที่จะพัฒนาชาติ เพิ่มพูนความมั่งคั่งและความสุขสบายของพลเมือง

พระอับดุลบาฮา (SDC 20-22)

17 กันยายน

ดูกร กษัตริย์ทั้งหลาย ยี่สิบปีผ่านไปแล้วซึ่งเราได้ลิ้มความทุกข์ทรมานอันปวดร้าวใหม่ๆ ทุกวัน ไม่มีใครที่อยู่ต่อหน้าเราเคยทนสิ่งที่เราได้ทน ขอให้เจ้ารู้ไว้ด้วย! บรรดาผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านได้สังหารเรา หลั่งเลือดของเรา ปล้นทรัพย์สมบัติของเรา และละเมิดเกียรติของเรา แม้ว่าตระหนักในความทุกข์ทรมานของเราเกือบทั้งหมด กระนั้นเจ้าก็ไม่ยับยั้งมือของผู้ก้าวร้าว ไม่ใช่หน้าที่อันแน่ชัดของเจ้าหรือที่จะต้องรั้งผู้กดขี่ และปฏิบัติต่อข้าแผ่นดินอย่างเที่ยงธรรม เพื่อว่าสำนึกในความยุติธรรมของเจ้าจะได้สาธิตต่อมวลมนุษยชาติ?

พระผู้เป็นเจ้าได้มอบบังเหียนการปกครองประชาชนไว้ในมือของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะปกครองด้วยความยุติธรรม ปกป้องสิทธิของผู้ถูกกดขี่ และลงโทษผู้กระทำผิดหากเจ้าละเลยหน้าที่ที่พระผู้เป็นเจ้าบัญญัติไว้สำหรับเจ้าในคัมภีร์ของพระองค์ ชื่อของเจ้าจะถูกนับรวมกับพวกที่อยุติธรรมในสายตาของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 247)

18 กันยายน

จากสารถึงพระสันตะปาปาไพอัสที่ 9

ดูกร พระสันตะปาปา จงฉีกม่านให้ขาดสะบั้น พระผู้เป็นนายของนายทั้งหลายเสด็จมาแล้วในเงาของก้อนเมฆ พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอยู่นอกเหนืออำนาจบังคับใดๆ ทรงทำให้ประกาศิตกลายเป็นจริงแล้ว…แท้จริงแล้วพระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์อีกครั้งดังที่เคยเสด็จมาครั้งแรก จงระวังอย่าโต้แย้งกับพระองค์ดังเช่นพวกแฟริซีโต้แย้งกับพระเยซูโดยไม่มีสัญลักษณ์หรือข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด มือขวาของพระองค์มีธาราคุณหลั่งมา มือซ้ายของพระองค์มีอมฤตแห่งความยุติธรรมหลั่งมา เบื้องหน้าของพระองค์มีเทพยดาจากสวรรค์เดินทัพและชูธงแสดงเครื่องหมายของพระองค์ จงระวังอย่าให้นามใดขวางกั้นเจ้าจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้สร้างโลกและสวรรค์จงละทิ้งโลกและหันมาหาพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงให้ความสว่างทั่วทั้งพิภพ…เจ้ายังจะอาศัยอยู่ในวังขณะที่พระผู้เป็นราชันแห่งการเปิดเผยพระธรรมอาศัยอยู่ในที่พำนักที่มืดมนที่สุดนั้นหรือ? จงละทิ้งวังเหล่านั้นไว้ให้กับผู้ที่ต้องการ และหันหน้าที่เบิกบานหรรษามายังอาณาจักรสวรรค์…จงลุกขึ้นท่ามกลางประชาชนในนามของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าแห่งความปรานี และหยิบถ้วยน้ำแห่งชีวิตด้วยมือแห่งความมั่นใจ จงดื่มจากถ้วยนั้นเสียก่อน แล้วจึงยื่นให้กับผู้ที่หันมาหาท่ามกลางประชาชนของทุกศาสนา…

จงระลึกถึงพระจิต (พระเยซู) เมื่อพระองค์เสด็จมาผู้ที่รอบรู้ที่สุดในยุคนั้นได้พิพากษาลงโทษพระองค์ในดินแดนของพระองค์เอง ขณะที่ผู้ที่เป็นเพียงชาวประมงกลับเชื่อในพระองค์ บรรดาผู้มีหัวใจหยั่งรู้! ดังนั้นจงมีสติ ความจริงแล้วเจ้าคือหนึ่งในดวงตะวันบนนภาแห่งพระนามของพระองค์ จงปกป้องตัวเองอย่าให้ม่านทอดความมืดมนมาคลุมเจ้า และหุ้มเจ้าจนมิดจนไม่ได้รับแสงธรรมของพระองค์…จงพิจารณาดูพวกที่ต่อต้านพระบุตร (พระเยซู) เมื่อพระองค์เสด็จมายังพวกเขาด้วยอธิปไตยและอำนาจ พวกแฟริซีมากมายเท่าไรรอคอยที่จะได้เห็นพระองค์ และคร่ำครวญต่อการพรากจากพระองค์ กระนั้นก็ตามเมื่อสุคนธรสแห่งการเสด็จมาของพระองค์โชยมายังพวกเขา และความงามของพระองค์เผยออกมา พวกเขากลับเมินและโต้แย้งกับพระองค์…ไม่มีใครนอกจากเพียงไม่กี่คนที่ไร้อำนาจในหมู่มนุษย์ ที่หันมาหาพระพักตร์ของพระองค์ ถึงกระนั้นปัจจุบันนี้ ทุกคนที่ครองอำนาจและอธิปไตยภาคภูมิใจในพระนามของพระองค์ ทำนองเดียวกัน จงพิจารณาดูว่าในปัจจุบันนี้ พระจำนวนมากมายเท่าไรที่ถือสันโดษอยู่ในโบสถ์ในนามของเรา และเมื่อถึงเวลาที่กำหนดและเราเปิดเผยความงามของเราออกมา พวกเขากลับไม่รู้จักเราทั้งๆ ที่พวกเขาได้เรียกหาเราทั้งอุษาและสายัณห์…

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 30-1)

19 กันยายน

พระพรที่รอคอยกษัตริย์ที่จะลุกขึ้นช่วยศาสนาในอาณาจักรของเรานั้นยิ่งใหญ่เพียงไร กษัตริย์ผู้ซึ่งจะตัดความผูกพันจากทุกสิ่งนอกจากเรา กษัตริย์ดังกล่าวได้รับการนับว่าเป็นสหายในเรือคริมซั่น ซึ่งเป็นเรือที่พระผู้เป็นเจ้าเตรียมไว้สำหรับประชาชนแห่งบาฮา ทุกคนต้องสดุดีพระนามของกษัตริย์นั้น ต้องเคารพฐานะของเขา และช่วยเขาไขเมืองทั้งหลายด้วยกุญแจแห่งพระนามของเรา พระผู้ทรงอำนาจคุ้มครองทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรที่มองเห็นและมองไม่เห็น กษัตริย์ดังกล่าวคือดวงตาของมนุษยชาติ คือเครื่องประดับอันเรืองรองบนหน้าผากของสรรพสิ่ง คือแหล่งกำเนิดพระพรสำหรับทั่วทั้งพิภพ ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงสละทรัพย์สินของเจ้า ไม่เพียงเท่านั้น จงสละชีวิตของเจ้าเพื่อช่วยเหลือกษัตริย์นั้น

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 25)

20 กันยายน

เมื่อจำเป็นอย่าละเลยการรักษาทางยา แต่จงหยุดยาเมื่อสุขภาพกลับคืนมา จงรักษาโรคด้วยอาหารจะดีกว่า และหากเจ้าพบสารที่จำเป็นในสมุนไพรชนิดเดียว อย่าใช้ยาที่เป็นสารผสม…จงงดยาเมื่อสุขภาพดีแต่ให้ยาเมื่อจำเป็น

พระบาฮาอุลลาห์ (BNE 106)

เมื่อแพทย์ผู้ชำนาญศึกษาเรื่องนี้ด้วยความมานะและถ้วนทั่ว จะเป็นที่เห็นได้ชัดว่าการบุกรุกของโรคเกิดจากการเสียสมดุลขององค์ประกอบต่างๆ ในร่างกาย และการรักษาคือการปรับปริมาณขององค์ประกอบเหล่านี้ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้และทำได้โดยการใช้อาหาร

เป็นที่แน่นอนว่าในยุคใหม่ที่น่าพิศวงนี้ พัฒนาการของวิทยาศาสตร์การแพทย์จะนำไปสู่การรักษาผู้ป่วยด้วยอาหาร…

เมื่อแพทย์ผู้ชำนาญทั้งหลายพัฒนาการรักษาความเจ็บป่วยโดยการใช้อาหาร จัดอาหารที่เรียบง่าย และห้ามมนุษย์มิให้ดำรงชีวิตเป็นทาสของความอยาก เป็นที่แน่นอนว่าอุบัติการณ์ของโรคเรื้อรังต่างๆ จะลดลง สุขภาพของมวลมนุษยชาติจะดีขึ้นมาก สิ่งนี้จะเกิดขึ้นตามที่กำหนดไว้ ทำนองเดียวกันจะมีการปรับอุปนิสัยใจคอ ความประพฤติและกิริยาของมนุษย์อย่างทั่วถึง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 154-6)

21 กันยายน

ดูกร เชค! ประชาชนเหล่านี้ได้ผ่านพ้นช่องแคบแห่งนาม และปักเต็นท์บนชายฝั่งทะเลแห่งการปล่อยวาง พวกเขาเต็มใจจะสละชีวิตมากมายดีกว่าจะเอ่ยถ้อยคำที่ศัตรูต้องการ พวดเขายึดถือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ายินดีตัดความผูกพันโดยสิ้นเชิงและเป็นอิสระจากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ พวกเขายอมถูกตัดศีรษะดีกว่าจะเอ่ยวาจาที่ไม่เหมาะสม จงตรึกตรองสิ่งนี้ในหัวใจของเจ้า เราคิดว่าพวกเขาได้ดื่มมหาสมุทรแห่งการปล่อยวางจนอิ่ม ชีวิตของโลกนี้ไม่สามารถรั้งพวกเขามิให้สละชีวิตในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า…

จงระลึกถึงบิดาของบาดี พวกเขาจับกุมผู้ถูกประทุษร้ายนี้ และสั่งให้เขาสาปแช่งและถากถางศาสนาของตนเอง อย่างไรก็ตามด้วยกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าและความปรานีของพระผู้เป็นนาย เขาเลือกที่จะสละชีวิตและได้สละจริงๆ หากเจ้าอยากจะนับจำนวนผู้ที่สละชีวิตในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าไม่สามารถนับได้

พระบาฮาอุลลาห์ (ESW 74-5)

22 กันยายน

ในมาซานดาราน คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าจำนวนมากถูกทำลายล้าง เจ้าเมืองปล้นสมบัติของพวกเขาไปจำนวนมากเพราะอิทธิพลของพวกใส่ร้าย หนึ่งในข้อกล่าวหาที่เจ้าเมืองใช้เอาความผิดกับพวกเขาคือพวกเขาสะสมอาวุธ แต่เมื่อได้สอบสวนจึงพบว่า พวกเขาไม่มีอะไรนอกจากปืนยาวที่ไม่มีกระสุนหนึ่งกระบอก! พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด! ประชาชนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีอาวุธทำลายล้าง เพราะพวกเขาเตรียมตัวจะปฏิสังขรณ์โลก กองทัพของพวกเขาคือการกระทำที่ดีงาม อาวุธของพวกเขาคือความประพฤติที่ซื่อตรงและผู้บัญชาการของพวกเขาคือความกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระพรจงมีแด่ผู้ที่พินิจอย่างเที่ยงธรรม ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! ดังกล่าวนี้คือความอดทน ความสงบ ความยอมจำนนและความพอใจของประชาชนเหล่านี้ จนพวกเขากลายเป็นตัวแทนของความยุติธรรม พวกเขามีความอดกลั้นอย่างสูงจนยอมถูกฆ่าเสียดีกว่าจะเป็นผู้ฆ่า…อะไรหรือที่สามารถชักนำให้พวกเขายอมจำนนต่อความทุกข์ยากที่สาหัสเหล่านี้และไม่พยายามปัดออกไปแม้แต่น้อย? อะไรหรือที่สามารถเป็นเหตุของความยอมจำนนและความสงบเยือกเย็นดังกล่าว?

พระบาฮาอุลลาห์ (ESW 74-5)

23 กันยายน

อะไรก็ตามที่บังเกิดกับเจ้าเป็นไปเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า นี้คือความจริงที่ไม่มีข้อสงสัย ดังนั้นเจ้าควรมอบกิจการทั้งหมดไว้ในมือของพระองค์ วางใจในพระองค์ และฝากความหวังไว้กับพระองค์ พระองค์จะไม่ละทิ้งเจ้าแน่นอนซึ่งไม่มีข้อสงสัยเช่นกัน ไม่มีบิดาคนไหนจะทิ้งบุตรไว้กับสัตว์ป่าที่ตะกละ ไม่มีคนเลี้ยงแกะคนไหนที่จะปล่อยฝูงแกะไว้กับสุนัขป่าที่ดุร้าย เขาจะต้องพยายามเต็มที่เพื่อจะปกป้อง

อย่างไรก็ตามหากบางวันกิจการต่างๆ ไม่ดำเนินไปตามที่ตนปรารถนา ซึ่งเป็นไปตามอัจฉริยภาพของพระองค์ที่หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง สิ่งนี้ไม่สำคัญ ความตั้งใจของเราคือ มิตรสหายควรตรึงสายตาไปยังขอบฟ้าสูงสุดและยึดถือสิ่งที่เปิดเผยไว้ในธรรมจารึก

พระบาฮาอุลลาห์ (BR Sep. 24)

24 กันยายน

อย่าหมดความเชื่อถือในพระผู้เป็นเจ้า จงมีความหวังอยู่เสมอ เพราะพระพรของพระผู้เป็นเจ้าไม่เคยหยุดหลั่งมายังมนุษย์ หากมองในแง่หนึ่ง พระพรนั้นดูเหมือนลดลง แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง พระพรนั้นยังเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ดังนั้นอย่าหมดหวังไม่ว่าในสภาพแวดล้อมใด แต่จงตั้งมั่นในความหวัง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 205)

25 กันยายน

หนึ่งในข้อพิสูจน์ที่สาธิตสัจธรรมของการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้คือดังนี้ ในทุกสมัยและทุคยุคศาสนาเมื่อสาระที่มองไม่เห็นมาปรากฏในวรกายของพระศาสดา วิญญาณจำนวนหนึ่งผู้ไม่เป็นที่รู้จักและไม่ผูกพันกับโลก จะแสวงหาแสงธรรมจากธรรมาทิตย์และจันทราแห่งการนำทางสวรรค์ และได้เข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้เหล่านักบวชในยุคนั้น และบรรดาผู้มั่งคั่งจึงเยาะเย้ยและดูถูกประชาชนเหล่านี้ ดังที่พระองค์เปิดเผยไว้เกี่ยวกับพวกที่หลงผิดว่า: ?เมื่อนั้นบรรดาผู้นำของประชาชนซึ่งไม่เชื่อกล่าวว่า ?เราไม่เห็นท่านมีอะไรนอกจากเป็นมนุษย์เหมือนเรา เราไม่เห็นใครเป็นสาวกของท่านนอกจากพวกสถุลที่สติไม่รอบคอบ ไม่เห็นท่านมีอะไรล้ำเลิศกว่าเรา ไม่เพียงเท่านั้น เราถือว่าท่านเป็นพวกมดเท็จ? พวกเขาหาเรื่องกับพระศาสดาเหล่านั้นและพูดคัดค้านว่า: ?ไม่มีใครเป็นสาวกของท่านนอกจากพวกที่ต่ำช้าและไม่คู่ควรจะได้รับความสนใจ? จุดประสงค์ของพวกเขาคือเพื่อจะแสดงว่า ไม่มีใครในหมู่ผู้มีวิชา ผู้มั่งคั่งและผู้มีชื่อเสียง ที่เชื่อในพระศาสดา ด้วยข้อพิสูจน์เช่นนี้และที่คล้ายกัน พวกเขาพยายามสาธิตความจอมปลอมของพระผู้ที่มิได้ตรัสสิ่งใดนอกจากสัจธรรม

อย่างไรก็ตามในยุคศาสนาแสนอำไพที่สุดนี้ ในอธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ นักบวชที่เห็นแจ้ง ผู้มีวิชาล้ำเลิศ และบัณฑิตผู้มีปัญญารอบคอบ ได้เข้าถึงราชสำนักของพระองค์ ได้ดื่มถ้วยน้ำแห่งการเข้าเฝ้าพระองค์ และได้รับความโปรดปรานอันวิศิษฏ์สุดของพระองค์เป็นเกียรติ พวกเขาปล่อยวางจากโลกและทุกสรรพสิ่งในโลกเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นที่รักยิ่ง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 179-80)

26 กันยายน

ฉลองบุญ ความประสงค์

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า ความรักคือความลับของการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า คืออานุภาพที่แผ่มาจากพระผู้ทรงปรานี คือแหล่งที่มาของคุณธรรม ความรักคือแสงที่อบอุ่นจากสวรรค์ คือลมหายใจนิรันดร์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ฟื้นวิญญาณของมนุษย์ ความรักคือเหตุที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยองค์ต่อมนุษย์ คือพันธะสำคัญที่อยู่ในธรรมชาติของสรรพสิ่งซึ่งเป็นตามที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างไว้ ความรักเท่านั้นที่รับประกันความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ความรักคือแสงสว่างที่นำทางในความมืด คือพันธะแห่งชีวิตที่เชื่อมพระผู้เป็นเจ้ากับมนุษย์ และรับประกันความก้าวหน้าของวิญญาณที่เห็นแจ้งทุกดวง ความรักคือกฎที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ปกครองวัฏจักรสวรรค์อันเกรียงไกรนี้คืออานุภาพพิเศษที่เชื่อมธาตุต่างๆ ในโลกวัตถุนี้เข้าด้วยกัน คือพลังดึงดูดอันล้ำเลิศที่สุดที่กำกับการเคลื่อนไหวของดวงดาวในห้วงอวกาศ ความรักคืออานุภาพอันไม่รู้สิ้นและไร้ขีดจำกัดที่เปิดเผยความลึกลับที่แฝงอยู่ในจักรวาล ความรักคือพลังชีวิตสำหรับมวลมนุษยชาติ คือผู้สถาปนาอารยธรรมที่แท้จริงในโลกนี้ คือผู้สาดความรุ่งโรจน์อมรให้ทุกประชาชาติที่มีจุดมุ่งหมายประเสริฐ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 27)

27 กันยายน

ทุกสิ่งมีประโยชน์หากเชื่อมกับความรักของพระผู้เป็นเจ้า แต่เมื่อปราศจากความรักของพระองค์ทุกสิ่งเป็นภัยและเป็นม่านคั่นระหว่างมนุษย์และพระผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรสวรรค์ เมื่อมีความรักของพระองค์ความขมทุกอย่างจะกลายเป็นความหวาน และพระพรทุกอย่างจะให้ความรื่นฤดี ตัวอย่างเช่น ทำนองเพลงที่เสนาะโสตเติมพลังชีวิตให้หัวใจที่หลงรักพระผู้เป็นเจ้าแต่ปลุกตัณหาของวิญญาณที่หมกมุ่นในกามคุณ วิชาทุกสาขาเมื่อเชื่อมกับความรักของพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่รับรองและควรค่าแก่การยกย่อง แต่ถ้าขาดความรักของพระองค์วิชานั้นไร้ผล ที่จริงแล้ววิชานั้นก่อให้เกิดความบ้าคลั่ง ความรู้ทุกชนิด ศาสตร์ทุกอย่างเป็นเสมือนต้นไม้ หากผลไม้ที่ออกมาคือความรักของพระผู้เป็นเจ้า ต้นไม้นั้นเป็นต้นที่ได้พร แต่ถ้าไม่เช่นนั้นต้นไม้นั้นจะเป็นเพียงไม้แห้งสำหรับกองไฟเท่านั้น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 181)

28 กันยายน

ในทุกสภาพการณ์ การสอนต้องดำเนินไปแต่ด้วยความสุขุมรอบคอบ หากงานนี้ไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเปิดเผย ก็ขอให้สอนเป็นการส่วนตัว ดังนี้แล้วจะก่อให้เกิดคุณธรรมและไมตรีจิตในหมู่มนุษย์ ตัวอย่างเช่น ?หากบาไฮแต่ละคนเป็นเพื่อนที่แท้จริงกับผู้ที่ไม่เอาใจใส่ ประพฤติตนอย่างมีธรรม คบหากับผู้นั้น ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเมตตาที่สุด และทุกเวลาปฏิบัติตามคำตักเตือนของพระผู้เป็นเจ้า เป็นที่แน่นอนว่าบาไฮจะปลุกผู้ที่ไม่เอาใจใส่นั้นได้ทีละน้อยจนสำเร็จ และเปลี่ยนความไม่รู้ของเขาไปเป็นความรู้ในสัจธรรม

วิญญาณมีแนวโน้มจะหมางเมินกัน ขั้นแรกควรขจัดความหมางเมินนี้ เพราะพระวจนะจะมีอิทธิพลก็ต่อเมื่อความหมางเมินนี้หายไป หากบาไฮแสดงความเมตตาต่อผู้ที่ไม่เอาใจใส่ และนำเขาไปสู่ความเข้าใจทีละน้อยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ เพื่อว่าเขาจะได้รู้จักมูลฐานของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและความหมายที่แสดงนัยอยู่ในนั้น ผู้นั้นจะเปลี่ยนแปลงแน่นอน นอกจากว่าเขาจะเป็นพวกที่หายากซึ่งเป็นประหนึ่งเถ้าถ่าน และหัวใจของเขา ?แข็งเหมือนหิน หรือแข็งยิ่งกว่านั้น?

หากมิตรสหายทุกคนพยายามนำทางวิญญาณดวงหนึ่งให้ถูกต้องด้วยวิธีนี้ จำนวนบาไฮจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกปี สิ่งนี้จะสำเร็จได้ด้วยความสุขุมรอบคอบและย่อมไม่มีภัยอันใดเกิดขึ้น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 265)

29 กันยายน

จงใช้ทุกลมหายใจของชีวิตในศาสนาที่ยิ่งใหญ่นี้ และอุทิศทุกวันของเจ้าต่อการรับใช้บาฮา เพื่อว่าในที่สุดเจ้าจะปลอดภัยจากการถูกพรากและสูญเสีย และได้รับกองสมบัติในอาณาจักรเบื้องบน เพราะแต่ละวันเต็มไปด้วยอันตรายและมนุษย์ไม่สามารถวางใจได้ว่า อีกครู่หนึ่งเขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และกระนั้นประชาชนผู้เป็นเสมือนพยับแดดที่ลวงตาก็ยังบอกตนเองว่า ในที่สุดพวกเขาจะไปถึงยอดสุด อนิจจาสำหรับพวกเขา!…

ดังนั้นอย่าได้พักผ่อนทั้งกลางวันกลางคืนและอย่าหาความสบาย จงบอกความลับของการเป็นทาสรับใช้ จงไปตามหนทางแห่งการรับใช้จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือตามสัญญาที่มาจากอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (SWAB 271)

30 กันยายน

ดูกร ผู้ที่ไร้บ้านและพเนจรไปในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า! ความเจริญรุ่งเรือง ความพอใจ อิสรภาพ ไม่ว่าจะเป็นที่ปรารถนาและพาให้หัวใจเบิกบานมากเพียงไร ก็เทียบไม่ได้กับความลำบากเพราะไร้บ้านและความทุกข์ยากในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า เพราะการถูกเนรเทศดังกล่าวได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า และมีความปรานีคอยติดตามบริบาลอยู่ ความสงบอันน่าอภิรมย์ในบ้านและความน่ายินดีที่เป็นอิสระจากความพะวงทุกอย่างจะผ่านไป ขณะที่พระพรของความไร้บ้านจะคงอยู่ตลอดไป และผลอันกว้างไกลที่ตามมาจะปรากฏชัด

การอพยพของพระอับราฮัมออกจากดินแดนบ้านเกิดทำให้พระพรของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ปรากฏชัด การตกของดวงดาราที่เจิดจ้าที่สุดของเคนันได้เปิดเผยความโชติช่วงของโจเซฟให้ปรากฏต่อสายตาการหนีของพระโมเสสผู้เป็นพระศาสดาแห่งไซไนได้สำแดงเปลวแห่งอัคคีของพระผู้เป็นนาย และการมาปรากฏของพระเยซูได้พัดลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังโลก การจากเมืองเกิดของพระโมฮัมหมัดผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า เป็นเหตุของการเชิดชูพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า และการเนรเทศพระผู้ทรงความงามอันวิสุทธิ์นำไปสู่การสาดแสงธรรมของพระองค์ไปทั่วทุกเขต

พระอับดุลบาฮา (SWAB 280-1)

ตุลาคม

1 ตุลาคม

มีเสาหลักจำนวนหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นไว้ค้ำจุนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่สั่นคลอน เสาหลักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การเรียนรู้และการใช้ปัญญา การให้จิตสำนึกขยายออกไป การทำความเข้าใจความเป็นจริงของจักรวาลและความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพ

ดังนั้นการส่งเสริมความรู้จึงเป็นหน้าที่ที่เลี่ยงไม่ได้ของมิตรสหายทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า เป็นหน้าที่ของธรรมสภานั้นซึ่งเป็นสภาของพระผู้เป็นเจ้า ที่จะพยายามทุกอย่างเพื่ออบรมเด็กๆ เพื่อว่าตั้งแต่วัยทารกพวกเขาจะได้รับการอบรมความประพฤติบาไฮและแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นประดุจต้นอ่อนที่จะเติบโตและงอกงามในธาราไหลริน นั่นคือ คำแนะนำและคำตักเตือนของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร

พระอับดุลบาฮา (SWAB 126)

2 ตุลาคม

ประชาชนมากมายเท่าไรที่ใส่เสื้อไหมตลอดชีวิตโดยที่สวมไฟอยู่เพราะพวกเขาได้เปลื้องภูษาแห่งความชอบธรรมและการนำทางจากสวรรค์ และผู้คนจำนวนอักโขเพียงไรที่สวมผ้าฝ้ายหรือผ้าขนแกะตลอดชีวิต แต่ที่จริงแล้วใส่ภูษาสวรรค์อยู่และยินดีในอภิรดีของพระผู้เป็นเจ้า เพราะพวกเขาได้รับการประสาทด้วยความชอบธรรมและการนำทางจากสวรรค์ แท้จริงแล้วในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า ย่อมเป็นการดีกว่าหากเจ้าทำทั้งสองอย่าง คือสวมอาภรณ์แห่งความชอบธรรมและการนำทางจากสวรรค์ และใส่ผ้าไหมอันวิจิตรหากเจ้ามีกำลังทรัพย์พอ ถ้าไม่ อย่างน้อยอย่าทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรม แต่จงฝักใฝ่ในความศรัทธาและคุณธรรม…

พระบ๊อบ (SWB 149)

3 ตุลาคม

ตลอดเวลาเจ้าจงคิดว่าจะรับใช้ทุกคนในหมู่มนุษยชาติได้อย่างไร อย่าใส่ใจต่อความเกลียดและการปฏิเสธการดูถูก ความไม่เป็นมิตร ความอยุติธรรม จงปฏิบัติตรงกันข้าม เจ้าจงมีความกรุณาอย่างจริงจัง มิใช่ดูเหมือนว่ากรุณา ขอให้ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าแต่ละคนเพ่งความสนใจมาที่นี้: จงเป็นความปรานีของพระผู้เป็นนายต่อมวลมนุษย์ เป็นกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นนาย ขอให้เขาทำประโยชน์บางอย่างให้แก่ทุกคนที่ได้พบ และทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่เขา ขอให้เขาปรับปรุงอุปนิสัยใจคอของทุกคน และปรับทัศนคติของมนุษย์เสียใหม่ ด้วยวิธีนี้ แสงแห่งการนำทางจากสวรรค์จะส่องออกไป และพระพรของพระผู้เป็นเจ้าจะคอยอุ้มชูมวลมนุษยชาติ เพราะความรักคือแสงสว่างไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และความเกลียดชังคือความมืดไม่ว่าจะอยู่หนใด

พระอับดุลบาฮา (SWAB 3)

4 ตุลาคม

จงปฏิบัติตามคำแนะนำของพระผู้เป็นนาย นั่นคือ ลุกขึ้นด้วยคุณธรรมที่จะประสาทร่างกายของพิภพนี้ด้วยวิญญาณที่มีชีวิต และพามนุษยชาติที่เป็นเด็กเยาว์วัยนี้ไปสู่วัยผู้ใหญ่ ตราบเท่าที่เจ้าทำได้ จงจุดเทียนแห่งความรักในทุกที่ประชุม และประโลมทุกหัวใจด้วยความเมตตา จงห่วงใยคนแปลกหน้าเหมือนกับที่ห่วงใยตัวเจ้าเอง จงแสดงความเมตตารักใคร่ต่อคนนอกเช่นเดียวกับที่แสดงต่อเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเจ้า หากใครมารบกับเจ้า จงพยายามเป็นเพื่อนกับเขา… เพื่อว่าการกระทำและถ้อยคำของเจ้าจะทำให้โลกที่มืดมนนี้สว่างขึ้นในที่สุด…เพื่อว่าสงครามและการทะเลาะวิวาทจะผ่านไปและไม่มีเหลือ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 34)

5 ตุลาคม

?ในวัฏจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ อันธการแห่งความหลงผิดที่ปกคลุมประเทศตะวันออกและตะวันตก กำลังรบกับแสงสว่างแห่งการนำทางจากสวรรค์ โดยใช้กองทัพที่กระหายเลือด ซึ่งติดดาบและหอกอันแหลมคมตรงรี่เข้ามา? ?ในยุคนี้ อำนาจของผู้นำศาสนาทั้งปวงมุ่งจะขับการชุมนุมของพระผู้ทรงปรานีให้แตกกระจายและทลายคฤหาสถ์สวรรค์ กองทัพบนพิภพไม่ว่าจะเป็นทางวัตถุ วัฒนธรรม หรือการเมือง กำลังเข้ามาโจมตีจากทุกสารทิศ เพราะศาสนานี้ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่มาก ความยิ่งใหญ่นี้ชัดเจนและประจักษ์ต่อสายตาของมนุษย์ในยุคนี้?

พระอับดุลบาฮา (ADJ 5)

6 ตุลาคม

ประชาชนมากมายจะลุกขึ้นต่อต้านเจ้า จะกดขี่สบประมาท เย้ยหยัน ตีตัวออกห่างจากสังคมของเจ้าและหัวเราะเยาะเจ้า อย่างไรก็ตามพระบิดาแห่งสวรรค์จะอาบรัศมีให้เจ้าเรืองรองประดุจรังสีของดวงอาทิตย์เพื่อขับก้อนเมฆแห่งความงมงายให้แตกกระจาย ฉายแสงอย่างโชติช่วงบนนภา และส่องพื้นผิวโลกให้สว่างไสว เจ้าต้องมีใจมั่นคงเมื่อการทดสอบเหล่านี้มาถึง สาธิตความอดกลั้นและความอดทน เจ้าต้องต้านทานพวกเขาด้วยความรักและเมตตาที่สุด ถือว่าการกดขี่และการประหัตประหารของพวกเขาคือการเอาแต่ใจตัวเองของเด็กๆ และอย่าถือสาสิ่งที่พวกเขาทำ เพราะในที่สุดความสว่างไสวของอาณาจักรสวรรค์จะกลบความมืดของพิภพ ความสูงส่งและความยิ่งใหญ่ของฐานะของเจ้าจะปรากฏชัดและประจักษ์แจ้ง…

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1534)

7 ตุลาคม

ไฟที่ไหม้หัวใจของบาฮาร้อนแรงกว่าไฟที่ลุกอยู่ในหัวใจของเจ้า และการคร่ำครวญของพระองค์ดังกว่าการโอดครวญของเจ้า ทุกครั้งที่บาปของพวกเขาคนใดโชยมายังราชสำนักอันเป็นที่สถิตของพระองค์ พระผู้ทรงความงามจิรันดรทรงอับอายอย่างยิ่งจนปรารถนาจะซ่อนพักตรากฤติอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ให้พ้นจากสายตาของมวลมนุษย์ เพราะพระองค์คอยพิศดูความซื่อสัตย์ของพวกเขาอยู่ทุกเวลา และคอยสังเกตคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับความซื่อสัตย์

ถ้อยคำที่เจ้าเขียนมา ทันใดที่อ่านต่อหน้าเราได้ทำให้มหาสมุทรแห่งความซื่อสัตย์สาดซัดอยู่ในตนเอง สายลมแห่งการอภัยของเราพัดไปยังวิญญาณของเจ้า พฤกษาแห่งความเมตตารักใคร่ของเราแผ่ร่มเงามาให้เจ้า และเมฆแห่งควาอารีของเราหลั่งพรมาให้เจ้า ?เราขอปฏิญาณต่อดวงตะวันที่ฉายแสงอยู่บนขอบฟ้าแห่งนิรันดรกาล เราทุกข์ใจต่อความเศร้าโศกของเจ้า และเศร้าใจต่อความทุกข์ทรมานของเจ้า…เราขอเป็นพยานต่อการรับใช้ที่เจ้าทำเพื่อเรา และขอยืนยันความยุ่งยากนานาที่เจ้าทนมาเพื่อเห็นแก่เรา ทุกอะตอมบนพิภพประกาศความรักของเราที่มีต่อเจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 309-10)

8 ตุลาคม

บุคคลมากมายเพียงไรที่พยายามสุดกำลังที่จะสะสมสมบัติเท่าหยิบมือ และปลื้มอย่างยิ่งในการกระทำเช่นนี้ แต่ในความจริงแล้ว ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งได้ประกาศิตความมั่งคั่งนี้ไว้ให้ผู้อื่น นั่นคือ ความมั่งคั่งนั้นมิได้เป็นวาสนาของเขา และอาจถึงกับหลุดไปอยู่ในมือของศัตรู เราแสวงหาความคุ้มครองจากพระผู้เป็นเจ้ามิให้สูญเสียเช่นนี้ ชีวิตของผู้นั้นผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ ความยุ่งยากมาผจญทั้งวันทั้งคืนและความมั่งคั่งกลายเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ ความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ หากพวกเขาปฏิบัติตามสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผย วางใจได้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกพรากจากกรุณาธิคุณของพระองค์ และในทุกสภาพแวดล้อมพวกเขาย่อมได้รับความคุ้มครองภายใต้ความอารี และได้รับพรจากความปรานีของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (HQ no. 47)

9 ตุลาคม

ไม่มีข้อสงสัยว่าอะไรก็ตามที่เปิดเผยจากปากกาอันรุ่งโรจน์ ไม่ว่าจะเป็นบัญญัติหรือข้อห้าม ล้วนมีประโยชน์ต่อศาสนิกชน ตัวอย่างเช่น หนึ่งในบัญญัตินั้นคือฮุคุคุลลาห์ หากประชาชนได้รับสิทธิ์พิเศษในการบริจาคฮุคุคุลลาห์ พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ จะช่วยให้พวกเขาและทายาทได้รับประโยชน์จากสมบัติของตน ดังที่เจ้าสังเกตเห็น ความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของประชาชนสูญไป เพราะพระผู้เป็นเจ้าบันดาลให้คนแปลกหน้า หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือทายาทของพวกเขาเอง มายึดครองสมบัติของพวกเขา

อัจฉริยภาพอันล้ำเลิศของพระผู้เป็นเจ้านั้นสุดจะพรรณนาหรือกล่าวถึงได้อย่างเหมาะสม แท้จริงแล้วประชาชนเห็นด้วยตาของตนเองแต่กลับปฏิเสธ พวกเขารู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ หากปฏิบัติตามบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาย่อมบรรลุถึงความดีงามในโลกนี้และโลกหน้า

พระบาฮาอุลลาห์ (HQ no. 48)

10 ตุลาคม

ความประหยัดคือรากฐานของความเจริญรุ่งเรือง คนสุรุ่ยสุร่ายอยู่ในความยุ่งยากเสมอ ความฟุ่มเฟือยคือบาปที่อภัยไม่ได้สำหรับคนนั้น เราต้องไม่ดำรงชีวิตแบบเกาะผู้อื่นกินเหมือนกาฝาก ทุกคนต้องมีอาชีพไม่ว่าจะเป็นด้านวรรณกรรมหรือแรงงาน และต้องดำรงชีวิตที่สะอาด องอาจและสุจริต เป็นตัวอย่างของความบริสุทธิ์ให้ผู้อื่นเอาอย่าง การพอใจกับเปลือกขนมปังแห้งมีศักดิ์ศรีกว่าการเพลิดเพลินกับอาหารเย็นที่เลิศเลอ ซึ่งค่าอาหารนั้นมาจากกระเป๋าของคนอื่น จิตใจของผู้ที่พอใจนั้นสงบและหัวใจของเขาไร้กังวลเสมอ

พระอับดุลบาฮา (BNE 102)

11 ตุลาคม

เจ้าได้ถามในจดหมายว่า พระศาสดาองค์ไหนของพระผู้เป็นเจ้าควรได้รับการพิจารณาว่าเหนือกว่าองค์อื่นๆ จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า สาระของพระศาสดาทุกองค์ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นหนึ่งและเหมือนกัน เอกภาพของพระศาสดานั้นแน่แท้ พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นพระผู้สร้างทรงกล่าวว่า: ไม่มีความแตกต่างระหว่างพระศาสดาผู้นำสารของเรา ทุกพระองค์มีจุดประสงค์เดียวกันมีความลับเดียวกัน การให้เกียรติพระศาสดาองค์ใดมากกว่าอีกองค์หนึ่ง การยกย่ององค์ใดเหนือองค์อื่นไม่เป็นที่อนุญาต พระศาสดาที่แท้จริงทุกองค์ทรงถือว่า พระธรรมของพระองค์โดยมูลฐานนั้นเหมือนกับการเปิดเผยพระธรรมของพระศาสดาอื่นทุกองค์ที่เสด็จมาก่อน…

อย่างไรก็ตาม ระดับการเปิดเผยพระธรรมของพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าในโลกนี้ต้องต่างกันแต่ละพระองค์เป็นผู้นำสารที่เด่นเฉพาะ และได้รับมอบหมายให้เปิดเผยองค์โดยการกระทำที่เจาะจง ด้วยเหตุนี้ความยิ่งใหญ่ของพระศาสดาทั้งหลายจึงดูเหมือนต่างกัน การเปิดเผยองค์ของพระศาสดาอาจเปรียบได้กับแสงจันทร์ที่สาดรัศมีมายังโลก แม้ว่าแต่ละครั้งที่ดวงจันทร์ปรากฏขึ้นมา ดวงจันทร์นั้นมีแสงที่สว่างไสวไม่เหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้นความโชติช่วงที่มีอยู่ในตัวดวงจันทร์เองไม่เคยลดถอย และแสงจันทร์นั้นไม่มีวันดับ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 78-9)

12 ตุลาคม

ดังนั้นเป็นที่ประจักษ์และชัดเจนว่า ความเข้มของแสงธรรมและพระศาสดาแต่ละองค์ที่ต่างกัน มิได้มาจากแสงเอง แต่มาจากโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและพร้อมที่จะรับแสงต่างกัน ???พระศาสดาทุกพระองค์ที่พระผู้ทรง มหิทธานุภาพ พระผู้สร้างผู้ไม่มีเปรียบปานได้ส่งมายังชาวโลก ได้รับมอบสารหนึ่ง และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการในลักษณะที่สนองความต้องการได้ดีที่สุดในยุคที่พระองค์มาปรากฏ จุดประสงค์ที่พระผู้เป็นเจ้าส่งพระศาสดามายังมนุษย์มีสองประการ ประการแรกคือ เพื่อจะปลดปล่อยมนุษย์ให้หลุดพ้นจากอันธการแห่งความเขลา และนำทางให้เขาไปสู่แสงสว่างแห่งความเข้าใจที่แท้จริง ประการที่สองคือ เพื่อจะรับประกันสันติภาพและความสงบของมนุษยชาติ และจัดหาวิธีการทั้งหมดไว้ให้สำหรับการสถาปนาสิ่งนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 79-80)

13 ตุลาคม

ทุกเวลาและทุกสภาพการณ์มนุษย์จำเป็นต้องมีผู้ที่คอยแนะนำ ชี้แนะและสั่งสอน ดังนั้นพระองค์จึงส่งพระศาสดา ธรรมฑูตทั้งหลายมาเพื่อบอกให้ประชาชนทราบเจตนาสวรรค์ที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยคัมภีร์และการมาจุติของธรรมฑูตทั้งหลาย เพื่อว่าทุกคนจะตระหนักในของฝากจากพระผู้เป็นเจ้าที่แฝงอยู่ในวิญญาณทุกดวง

มนุษย์คือเครื่องรางที่ขลังที่สุด อย่างไรก็ตามการไม่ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมได้พรากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติของเขาไป มนุษย์กำเนิดขึ้นมาโดยวจนะเดียวที่เปล่งจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้า และโดยอีกวจนะหนึ่ง มนุษย์ได้รับการชักนำให้ยอมรับบ่อเกิดการศึกษาของเขา และโดยอีกวจนะหนึ่ง สถานะและโชคชะตาของเขาได้รับการปกป้อง พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า: จงพิจารณามนุษย์เป็นประดุจเหมืองที่อุดมด้วยมณีที่ประเมิณค่ามิได้ การศึกษาเท่านั้นที่สามารถเปิดเผยสมบัติที่ล้ำค่านี้ออกมา และช่วยให้มนุษยชาติได้รับประโยชน์จากสมบัตินี้

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 161-2)

14 ตุลาคม

หากมนุษย์ใคร่ครวญสิ่งที่คัมภีร์จากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยไว้ เขาย่อมยอมรับได้เลยว่า จุดประสงค์ในคัมภีร์คือ มวลมนุษย์จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นวิญญาณดวงเดียวกัน เพื่อว่าตราประทับ ?อาณาจักรเป็นของพระผู้เป็นเจ้า? จะได้ประทับบนหัวใจทุกดวง และแสงแห่งความอารี กรุณาธิคุณและความปรานีสวรรค์จะอาบมวลมนุษยชาติ พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ มิได้ปรารถนาสิ่งใดสำหรับพระองค์เอง ความจงรักภักดีของมนุษย์มิได้เป็นประโยชน์ต่อพระองค์ ?ความวิปริตของมนุษย์ก็หาเป็นภัยต่อพระองค์ไม่ วิหคในอาณาจักรแห่งวาทะขับขานเสียงเรียกร้องนี้อย่างไม่ขาดสาย: ?ทุกสิ่งที่เราปรารถนาสำหรับเจ้ารวมทั้งตัวเจ้าเอง ก็เพื่อเห็นแก่เจ้า? หากผู้ที่ฉลาดและรอบรู้ทั้งหลายในยุคนี้ ยอมให้มนุษยชาติสูดสุคนธรสแห่งไมตรีจิตและความรัก ผู้มีปัญญาทุกคนย่อมเข้าใจความหมายของอิสรภาพที่แท้จริง และค้นพบความลับของความสงบที่แท้จริงทั้งภายนอกและภายในจิตใจ

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 162)

15 ตุลาคม

งานฉลองบุญ ความรู้

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

บัญญัติอีกข้อหนึ่งที่เราให้แก่เจ้าคือ จงรักกันและกันเหมือนกับที่เรารักเจ้า…จงมองกันและกันด้วยตาที่สมบูรณ์ จงมองดูเรา เอาเยี่ยงอย่างเรา และเป็นเหมือนเรา อย่าคิดถึงตัวเจ้าเองหรือชีวิตของเจ้าไม่ว่าในยามกินหรือนอน ไม่ว่าเจ้าสุขสบายหรือไม่ ไม่ว่าเจ้าสบายดีหรือเจ็บป่วย ไม่ว่าเจ้าอยู่กับมิตรหรือศัตรู ไม่ว่าเจ้าได้รับการสรรเสริญหรือตำหนิ จงมองดูเราและเป็นเหมือนเรา เจ้าต้องตายจากตัวเองและโลก เพื่อว่าเจ้าจะได้เกิดใหม่และเข้าไปในอาณาจักรสวรรค์ จงมองดูว่าเทียนให้แสงสว่างอย่างไร เทียนหลั่งชีวิตของตนทีละหยดเพื่อที่จะให้เปลวไฟที่สว่างไสว

พระอับดุลบาฮา (COV 14 Aug.)

16 ตุลาคม

การสั่งสอนเด็กเหล่านี้เป็นเสมือนงานของคนสวนที่ดูแลต้นอ่อนด้วยความรักในทุ่งไม้ดอก ไม่มีข้อสงสัยว่า การสั่งสอนนี้จะให้ผลที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นการสั่งสอนหน้าที่และความประพฤติของบาไฮ เพราะจำเป็นต้องทำให้เด็กเล็กรู้ด้วยหัวใจและวิญญาณว่า บาไฮมิใช่เป็นเพียงชื่อ แต่เป็นสัจธรรม เด็กทุกคนต้องได้รับการอบรมในเรื่องธรรมะ เพื่อว่าพวกเราจะได้มีคุณธรรมทุกประการ และกลายเป็นบ่อเกิดความรุ่งโรจน์ของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ไม่เช่นนั้นแล้วเพียงคำว่า ?บาไฮ? หากไม่ออกผล จะไม่มีค่าอะไร

ดังนั้น จงพยายามสุดความสามารถที่จะให้เด็กเหล่านี้รู้ว่าบาไฮ คือ ผู้มีความสมบูรณ์เลิศทุกประการ บาไฮต้องเรืองรัศมีประดุจเทียนที่ติดไฟ มิใช่เป็นความมืดในความมืดและยังใช้ชื่อว่าบาไฮ

พระอับดุลบาฮา (SWAB 143)

17 ตุลาคม

ในทุกแง่ของชีวิตพวกเขาควรแสดงเป็นตัวอย่างของคุณลักษณะและคุณธรรมที่ก่อกำเนิดจากพระผู้เป็นเจ้า และควรพยายามเป็นเอกด้วยความประพฤติที่ดีงาม พวกเขาควรทำตัวให้สมกับที่เป็นบาไฮไม่ใช่เป็นแต่ชื่อ บาไฮที่แท้จริงคือ ผู้ที่พยายามทั้งวันทั้งคืนที่จะก้าวหน้าและพัฒนาไปในหนทางที่ต้องใช้ความอุตสาหะซึ่งความปรารถนาสูงสุดของเขาคือการดำเนินชีวิตที่จะประเทืองโลกให้งดงามและสว่างไสว แหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจของเขาคือแก่นของคุณธรรมสวรรค์ จุดหมายในชีวิตของเขาคือการประพฤติตนให้เป็นเหตุของความก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุด ต่อเมื่อเขาทำได้สมบูรณ์ตามนี้แล้ว จึงจะกล่าวได้ว่าเขาคือบาไฮที่แท้จริง

พระอับดุลบาฮา (ET 12)

18 ตุลาคม

เมื่อมิตรสหายไม่พยายามแพร่กระจายพระธรรมหากเขามิได้ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าเท่าที่ควร และจะไม่ได้เห็นสัญลักษณ์แห่งความช่วยเหลือและอำนาจค้ำจุนจากอาณาจักรอับฮา และไม่เข้าใจความลึกลับสวรรค์ อย่างไรก็ตามเมื่อเปล่งวาจาสอนศาสนา ตัวครูเองจะตื่นตัวโดยธรรมชาติ และจะกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดความช่วยเหลือและพระพรจากอาณาจักรสวรรค์ และเป็นเสมือนวิหคในยามอุษาที่เบิกบานต่อการขับขานและร้องทำนองเพลงของตน

พระอับดุลบาฮา (BR 18 Nov.)

19 ตุลาคม

หลักฐานพยานแรกและสำคัญที่สุดที่พิสูจน์สัจธรรมของพระองค์คือพระองค์เอง ถัดจากหลักฐานพยานนี้คือการสำแดงองค์และพระองค์ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถยอมรับสองอย่างนี้ พระองค์ทรงพิสูจน์วจนะที่พระองค์เปิดเผยเป็นข้อพิสูจน์ของสัจธรรมและการดำรงอยู่จริงของพระองค์ แท้จริงแล้วนี้คือหลักฐานของความเมตตาปรานีของพระองค์ต่อมวลมนุษย์ พระองค์ทรงประสาทวิญญาณทุกดวงด้วยความสามารถที่จะยอมรับสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ไม่เช่นนั้นแล้วพระองค์จะทำให้หลักฐานพยานของพระองค์สมบูรณ์พอสำหรับมนุษย์ได้อย่างไร หากเจ้าเป็นพวกที่ตรึกตรองศาสนาของพระองค์ด้วยหัวใจ พระองค์จะไม่ปฏิบัติต่อผู้ใดอย่างไม่ยุติธรรม และจะไม่ให้วิญญาณใดทำสิ่งที่เกินความสามารถ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงเห็นใจ พระผู้ทรงปรานี

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 105-6)

20 ตุลาคม

วันประสูติของพระบ๊อบ

เราคือปฐมภูมิที่เป็นจุดกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง…เราคือพักตรากฤติของพระองค์ที่ไม่มีวันถูกบดบังรัศมีคืออาภาของพระผู้เป็นเจ้าที่ความเจิดจ้าไม่มีวันอ่อนลง…กุญแจทุกลูกที่ไขไปสู่สวรรค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางไว้ในมือขวาของเรา และที่ไขไปสู่นรกวางไว้ในมือซ้ายของเรา…เราคือหนึ่งในเสาหลักที่ค้ำจุนพระวจนะดั้งเดิมของพระผู้เป็นเจ้า ใครที่ยอมรับเราเท่ากับได้รู้ทุกสิ่งที่จริงและถูกต้อง และได้เข้าถึงสิ่งที่ดีงามและเหมาะสมทั้งปวง…สสารที่พระองค์ใช้สร้างเรามิใช่ดินที่ใช้สร้างคนอื่น พระองค์ทรงประสาทเราด้วยสิ่งที่ผู้ชาญฉลาดไม่สามารถเข้าใจ และผู้ซื่อสัตย์ไม่สามารถค้นพบ

พระบ๊อบ (WOB 126)

21 ตุลาคม

พระบ๊อบทรงกล่าวว่า: ?ในยุคนี้หากมดน้อยปรารถนาจะมีพลังที่สามารถคลี่คลายวรรคที่ยากและฉงนปัญญาที่สุดในคัมภีร์กุรอ่าน มดนั้นจะสมปรารถนาอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องด้วยความลึกลับของอำนาจอนันต์สั่นระรัวอยู่ในขั้วชีวิตของทุกสรรพสิ่ง? หากมดที่ช่วยตัวเองไม่ได้นี้สามารถมีพลังลึกลับดังกล่าว อานุภาพที่ปลดปล่อยมาจากการหลั่งกรุณาธิคุณอันเหลือล้นของพระบาฮาอุลลาห์จะชะงัดกว่าเพียงไหน!

พระอับดุลบาฮา (ADJ 39)

22 ตุลาคม

ปัจจุบันนี้มนุษยชาติหลังโกงเพราะความยุ่งยาก ความทุกข์และความเศร้าโศก ไม่มีใครหนีพ้น พิภพเปียกไปด้วยน้ำตา ขอขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่การรักษาอยู่ที่ประตูของเรา ขอให้หัวใจของเราปล่อยวางจากโลกวัตถุ และมีชีวิตอยู่ในโลกธรรมะ ซึ่งเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่เราจะมีอิสรภาพ! หากเราถูกล้อมด้วยความยุ่งยาก เราต้องร้องหาพระผู้เป็นเจ้า และเราจะได้รับการช่วยเหลือด้วยความปรานีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์…

เมื่อความคิดของเราเต็มไปด้วยความขมขื่นของโลกนี้ ขอให้เราหันไปมองดูความหวานที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นใจเรา และพระองค์จะทำให้ใจของเราสงบ! หากเราถูกจองจำอยู่ในโลกวัตถุ วิญญาณของเราสามารถเหินขึ้นไปสู่สวรรค์และจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง

พระอับดุลบาฮา (PT 110-1)

23 ตุลาคม

?ดูกร สหายของเรา! ไฟที่ไม่รู้จักดับที่พระผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรสวรรค์จุดขึ้นในใจกลางของพฤกษาที่วิสุทธิ์นี้ กำลังเผาอย่างร้อนแรงในใจกลางของโลก เพลิงที่จะลุกขึ้นมานี้จะปกคลุมทั่วทั้งพิภพซึ่งเปลวไฟที่โชติช่วงจะให้ความสว่างแก่ประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งหลาย สัญลักษณ์ทั้งหมดเปิดเผยออกมาแล้ว และคำพยากรณ์ที่พาดพิงไว้ปรากฏแล้ว… ?มีอะไรอีกหรือที่จะให้เราพูด? อะไรอีกหรือที่จะให้ปากกาของเราเขียน? เสียงเรียกร้องที่สะท้อนมาจากอาณาจักรอับฮานี้ดังมากจนหูแทบจะหนวก เราคิดว่าสรรพสิ่งทั้งปวงกำลังแตกสลายและระเบิดออกด้วยอิทธิพลของโองการสวรรค์จากบัลลังก์แห่งความรุ่งโรจน์?

พระอับดุลบาฮา (WOB 111-2)

24 ตุลาคม

เกี่ยวกับปัญหาสันติภาพสากล พระบาฮาอุลลาห์ทรงกล่าวว่า จะต้องสถาปนาศาลสูงสุด…และแผนของพระองค์คือดังนี้: สภาแห่งชาติของแต่ละประเทศ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือรัฐสภา ควรเลือกตั้งบุคคลสองหรือสามคนที่เฟ้นอย่างดีที่สุดแล้วในชาตินั้น ผู้ซึ่งทราบดีเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างชาติ และตระหนักถึงสิ่งที่จำเป็นสำรับมนุษยชาติในยุคนี้ จำนวนของผู้แทนเหล่านี้ควรได้สัดส่วนกับจำนวนพลเมืองของประเทศ การเลือกตั้งบุคคลเหล่านี้ที่คัดโดยสภาแห่งชาติ นั่นคือรัฐสภา จะต้องเป็นที่รับรองโดยสภาสูง วุฒิสภา คณะรัฐมนตรี และโดยประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้ที่เลือกตั้งมาจากทุกชาติและทุกรัฐบาล ศาลสูงสุดจะประกอบด้วยบุคคลเหล่านี้ และดังนี้มนุษยชาติทั้งหมดจะมีส่วนร่วม เพราะผู้แทนเหล่านี้แต่ละคนเป็นผู้แทนชาติของเขาโดยสมบูรณ์ เมื่อศาลสูงสุดให้คำตัดสินต่อปัญหาใดๆ ระหว่างชาติไม่ว่าโดยเอกฉันท์หรือโดยเสียงส่วนใหญ่ จะไม่มีข้ออ้างใดอีกต่อไปสำหรับโจทก์หรือเหตุผลใดให้จำเลยคัดค้าน ในกรณีที่รัฐบาลใดหรือชาติใดถ่วงเวลาหรือละเลยการปฏิบัติตามคำตัดสินที่แย้งไม่ได้ของศาลสูงสุด ชาติที่เหลือทั้งหมดจะลุกขึ้นต่อต้านเขา เพราะรัฐบาลและชาติทั้งหมดคือผู้ค้ำจุนศาลสูงสุด จงพิจารณาดูว่ารากฐานนี้มั่นคงเพียงใด!…

ศาลสูงสุดจะสถาปนาขึ้นโดยประชาชนและรัฐบาลของทุกชาติ ประกอบด้วยสมาชิกที่เลือกตั้งจากแต่ละประเทศและรัฐบาล สมาชิกของสภาที่ยิ่งใหญ่นี้จะชุมนุมกันด้วยความสามัคคี ข้อโต้แย้งทุกอย่างระหว่างชาติจะถูกนำเสนอต่อศาลนี้ งานของศาลนี้คือการใช้อำนาจตุลาการ จัดการทุกอย่างที่จะเป็นสาเหตุของสงคราม บทบาทหน้าที่ของศาลนี้คือป้องกันสงคราม

พระอับดุลบาฮา (CP 18-9, 39)

25 ตุลาคม

การปฏิบัติพร้อมกันเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าในแผนใดของการลดอาวุธ รัฐบาลทั้งหมดของโลกต้องเปลี่ยนเรือรบและเครื่องบินรบให้เป็นเรือสินค้า ไม่มีชาติใดเริ่มนโยบายดังกล่าวได้ด้วยตนเอง และเป็นความโง่เขลาหากชาติใดพยายามจะทำเช่นนี้…ซึ่งย่อมจะเชิญการทำลาย…

สันติภาพถาวรของโลกจะได้รับการสถาปนาในศตวรรษนี้ ?สันติภาพจะเป็นสากลในศตวรรษที่ยี่สิบ ชาติทั้งหมดจะถูกบีบบังคับให้มาสู่สันติภาพ…ชาติทั้งหลายจะถูกบีบบังคับให้มาสู่สันติภาพและตกลงเลิกล้มสงคราม ภาระอันน่ากลัวของการเก็บภาษีเพื่อสงครามจนเกินกว่าที่มนุษย์จะทนได้

การลดอาวุธจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน…โดยการยินยอมอย่างเป็นสากลของอารยประเทศทั้งหลาย โดยข้อตกลงนานาชาติ ชาติทั้งหลายจะวางอาวุธ ซึ่งจะชี้บ่งว่ายุคอันยิ่งใหญ่ของสันติภาพมาแล้ว…

พระอับดุลบาฮา (CP 40-1)

ความโกลาหลและความสับสนในโลกกำลังทวีขึ้นทุกวัน และจะรุนแรงขึ้นจนมนุษยชาติทนไม่ได้ เมื่อนั้นมนุษย์จึงจะตื่นขึ้นและตระหนักว่า ศาสนาคือที่มั่นอันปลอดภัยและประทีปที่สว่างไสวของโลก และกฎ คำแนะนำและคำสอนของศาสนาคือบ่อเกิดของชีวิตบนโลก

พระอับดุลบาฮา (CP 29)

26 ตุลาคม

ประการแรก นายทุนและนายธนาคารต้องงดการให้ยืมเงินแก่รัฐบาลใดก็ตามที่มุ่งหมายจะทำสงครามอย่างไม่ชอบธรรมกับชาติที่ไม่มีความผิด ประการที่สอง ประธานและผู้จัดการของการรถไฟและเรือกลไฟต้องละเว้นจากการขนส่งวัตถุระเบิด เครื่องกลนรกปืนใหญ่และดินปืน จากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง ประการที่สาม ทหารทั้งหลายต้องยื่นคำร้องผ่านตัวแทนไปยังรัฐมนตรีสงคราม นักการเมือง สมาชิกสภาและนายพล ให้ชี้แจงอย่างชัดเจนและกระจ่างว่า มีเหตุผลหรือสาเหตุอะไรที่พาพวกเขาเข้าไปใกล้จุดแห่งความหายนะของชาติ ทหารต้องเรียกร้องสิ่งนี้เป็นหนึ่งในอภิสิทธิ์ทั้งหลาย พวกเขาต้องพูดว่า ?จงสาธิตต่อเราว่านี่คือสงครามที่ชอบธรรม แล้วพวกเราจึงจะเข้าไปสู่สนามรบ ถ้าไม่เช่นนั้นเราจะไม่ขยับสักก้าว… จงออกมาจากที่ซ่อนของท่าน จงเข้ามาสู่สนามรบถ้าท่านต้องการที่จะโจมตีและฉีกกันและกันออกเป็นชิ้น…ความร้าวฉานและความอาฆาตอยู่ระหว่างท่าน ทำไมท่านจึงให้พวกเราซึ่งไม่รู้ไม่เห็นมามีส่วนร่วม? ถ้าการต่อสู้และการหลั่งเลือดเป็นสิ่งที่ดี เช่นนั้นจงนำพวกเราไปสู่สนามรบโดยมีท่านอยู่ด้วย!?

พระอับดุลบาฮา (CP 43-4)

27 ตุลาคม

ขอให้ประชาธิปไตยของอเมริกาเป็นชาติแรกที่สถาปนารากฐานความยินยอมระหว่างชาติ ขอให้อเมริกาเป็นชาติแรกที่ประกาศความเป็นสากลของมนุษยชาติ ขอให้อเมริกาเป็นชาติแรกที่ชูธงของสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด และโดยชาติประชาธิปไตยนี้ ขอให้ความตั้งใจและสถาบันเพื่อมนุษยชาติเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วโลก ความจริงแล้วอเมริกาคือชาติที่ยิ่งใหญ่และน่านับถือ ที่นี่อิสรภาพขึ้นถึงระดับสูงสุด เจตนาของประชาชนน่าสรรเสริญที่สุด แท้จริงแล้วประชาชนของชาตินี้คู่ควรที่จะเป็นชาติแรกที่สร้างเทพมณเทียรแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด และประกาศความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติ…ขอให้อเมริกากลายเป็นศูนย์กลางที่แพร่กระจายแสงธรรมให้ทั่วโลกได้รับพระพรนี้ เพราะอเมริกาได้พัฒนาพลังและความสามารถที่ยิ่งใหญ่และวิเศษกว่าชาติอื่น…ชาติอเมริกาได้รับอานุภาพที่จะบรรลุสิ่งที่จะประดับหน้าของประวัติศาสตร์ จะกลายเป็นที่อิจฉาของโลก และได้รับการอวยพรจากประเทศตะวันออกและตะวันตกสำหรับชัยชนะของประชาชนอเมริกัน…ทวีปอเมริกามีเครื่องหมายและหลักฐานของการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่มาก อนาคตของทวีปอเมริกายิ่งมีหวังมากกว่า เพราะมีอิทธิพลและความสว่างแผ่ไปกว้างไกล ทวีปอเมริกาจะเป็นผู้นำทางธรรมของชาติทั้งหมด

พระอับดุลบาฮา (PUP 36-7)

28 ตุลาคม

แม้การก่อตั้งรัฐบาล การจัดตั้งสภาสำหรับปรึกษาหารือ จะเป็นรากฐานของการปกครอง ยังมีปัจจัยที่จำเป็นอีกหลายอย่างสำหรับสถาบันเหล่านี้ ประการแรกสมาชิกทั้งหลายที่ได้รับเลือกต้องซื่อตรง เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า มีจิตใจสูง ไม่ถูกชักจูงด้วยความทุจริต ประการที่สอง พวกเขาต้องทราบกฎต่างๆ ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นอย่างดีในทุกแง่ รู้แจ้งในหลักการสูงสุดของกฎหมาย เชี่ยวชาญในกฎระเบียบที่ควบคุมการดำเนินกิจการภายในประเทศ ?และความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ชำนาญในศิลปะที่มีประโยชน์ต่ออารยธรรม และพอใจกับเงินเดือนตามกฎหมาย

พระอับดุลบาฮา (SDC 17)

29 ตุลาคม

ไม่มีข้อสงสัยว่า จุดหมายของการก่อตั้งรัฐสภาคือการนำมาซึ่งความยุติธรรมและความชอบธรรม แต่ทุกสิ่งขึ้นกับความพยายามของผู้แทนที่ได้รับเลือก หากพวกเขามีเจตนาที่จริงใจ ก็จะบังเกิดผลที่น่าปรารถนาและเกิดการปรับปรุงอย่างคาดไม่ถึง ถ้าไม่เช่นนั้นเป็นที่แน่นอนว่าทั้งหมดจะไร้ความหมาย ประเทศจะชะงักงันและกิจการสาธารณะจะเสื่อมลงเรื่อยๆ ?ข้าพเจ้าเห็นผู้สร้างหนึ่งพันคนก็ไม่เท่ากับผู้บ่อนทำลายคนเดียว และจะเป็นอย่างไรหากมีผู้สร้างคนเดียวตามมาด้วยผู้บ่อนทำลายหนึ่งพันคน??

พระอับดุลบาฮา (SDC 23)

30 ตุลาคม

หากใครคัดค้านว่า การปฏิรูปที่กล่าวมาไม่เคยทำได้อย่างบริบูรณ์ เขาควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างเที่ยงธรรมและควรรู้ว่า ข้อบกพร่องเหล่านี้เป็นผลมาจากการที่ความคิดเห็นของสาธารณชนไม่ประสานกัน และบรรดาผู้นำประเทศขาดความกระตือรือร้น ขาดความมุ่งมั่นและอุทิศตน เป็นที่ชัดเจนว่าจนกว่าประชาชนจะได้รับการศึกษา จนกว่าความคิดเห็นของสาธารณชนจะประสานเข้าด้วยกันอย่างถูกต้อง จนกว่าข้าราชการแม้เป็นเพียงข้าราชการผู้น้อยจะปลอดจากความทุจริตแม้เพียงน้อยที่สุด ประเทศชาติจึงจะบริหารงานได้อย่างเหมาะสม จนกว่าระเบียบวินัยและรัฐบาลที่ดีจะก้าวไปถึงระดับที่ว่า หากบุคคลหนึ่งแม้จะพยายามสุดความสามารถแล้ว ก็ไม่สามารถบิด พลิ้วไปจากความชอบธรรมได้แม้แต่เท่าเส้นผม เมื่อนั้นการปฏิรูปตามที่ต้องการจึงจะได้รับการพิจารณาว่าสัมฤทธิ์ผลสมบูรณ์

…เมื่อผู้ปกครองมีเจตนาที่บริสุทธิ์และยุติธรรม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมีความชาญฉลาด ชำนิชำนาญและมีศิลปะการปกครอง ประชาชนมีความมุ่งมั่นและพยายามอย่างเต็มที่ เมื่อทั้งหมดนี้ผสานเข้าด้วยกัน เมื่อนั้นการพัฒนา การปฏิรูปที่กว้างไกล ความภาคภูมิและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งรัฐบาลและประชาชน จะบังเกิดผลชัดเจนเมื่อแต่ละวันผ่านไป

พระอับดุลบาฮา (SDC 16, 108)

31 ตุลาคม

ผู้ที่มาร่วมชุมนุมควรเอาใจใส่ทุกวิธีการในการอบรมเด็กหญิง การสอนความรู้สาขาต่างๆ ความประพฤติที่ดีงาม แนวทางดำเนินชีวิตที่เหมาะสม การปลูกฝังอุปนิสัยใจคอที่ดี ความบริสุทธิ์และหนักแน่น ความพากเพียร ความเข้มแข็ง ความมุ่งมั่น เจตนาที่แน่วแน่ การดูแลบ้าน การอบรมเด็ก และอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับเด็กหญิง จนกระทั่งเด็กหญิงเหล่านี้ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูในที่มั่นแห่งความสมบูรณ์ทั้งปวง และมีอุปนิสัยใจคอที่ดีคอยคุ้มครอง เมื่อเติบโตเป็นมารดา พวกเธอจะได้เลี้ยงดูบุตรของตนเองตั้งแต่วัยทารกแรกเริ่มให้มีอุปนิสัยใจคอที่ดีและความประพฤติงาม…

นอกจากนี้การอบรมสตรีจำเป็นและสำคัญกว่าการอบรมบุรุษ เพราะสตรีคือผู้อบรมเด็กตั้งแต่วัยทารกหากเธอมีข้อเสียและจุดบกพร่อง เด็กก็จะบกพร่องด้วยแน่นอน ดังนั้นความบกพร่องของสตรีแสดงนัยถึงสภาพที่บกพร่องของมวลมนุษยชาติ เพราะมารดาคือผู้ที่อุ้มชูเลี้ยงดู และชักนำการเติบโตของเด็ก นี้มิใช่หน้าที่ของบิดา หากผู้อบรมไร้ความสามารถ ผู้ที่รับการอบรมจะขาดความสามารถด้วย สิ่งนี้กระจ่างชัดและโต้แย้งไม่ได้ นักเรียนจะปราดเปรื่องได้หรือหากครูไม่รู้หนังสือและไม่มีวิชา? มารดาคือผู้อบรมคนแรกของมนุษยชาติ หากมารดาบกพร่อง อนิจจาสำหรับสภาพของเผ่าพันธุ์ในอนาคต…

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2128, 2134)

พฤศจิกายน

1 พฤศจิกายน

เมื่อสมาคมกัน สตรีไม่คุยกันเฉพาะแต่เรื่องอุณหภูมิของอากาศ ความเย็นของน้ำ ความงามของดอกไม้และสวน ความสดของหญ้าและน้ำที่หลั่งไหล แต่ควรจำกัดการอภิปรายอยู่ที่การสดุดีสรรเสริญ การพูดถึงข้อพิสูจน์และเหตุผล การอ้างอิงถึงวจนะและคำสอนเก่าแก่ และแสดงให้เห็นพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อว่าทุกบ้านของบรรดาผู้เป็นที่รักจะกลายเป็นสถานที่ชุมนุมสำหรับเรียนรู้การสอนศาสนา…

นับแต่กำเนิดของสรรพสิ่งตราบจนปัจจุบัน ไม่ว่าในวัฏจักรหรือในยุคศาสนาใดในอดีต ไม่เคยมีการจัดการชุมนุมสำหรับสตรี และจัดชั้นเรียนเพื่อจุดประสงค์สำหรับแพร่กระจายคำสอน นี้คือหนึ่งในลักษณะพิเศษของยุคศาสนาอันรุ่งโรจน์และศตวรรษอันยิ่งใหญ่นี้ เจ้าควรพยายามปรับปรุงการชุมนุมนี้และเพิ่มพูนความรู้ในธรรมะที่ลึกลับ เพื่อว่าหากเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ภายในเวลาอันสั้น สตรีจะเป็นเหมือนบุรุษ สตรีจะนำหน้าในหมู่ผู้มีวิชา สตรีแต่ละคนจะพูดได้อย่างแคล่วคล่องด้วยวาจาที่คมคาย และเรืองรองไปทั่วโลกประดุจตะเกียงแห่งการนำทาง ในบางแง่สตรีมีความสามารถที่น่าพิศวง สตรีเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าได้ไวกว่า และมีศรัทธาแรงกล้าในพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2188, 2190)

2 พฤศจิกายน

คำถาม: เป็นความจริงหรือไม่ที่สันติภาพสากลจะบังเกิดขึ้นไม่ได้จนกว่าจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยในทุกประเทศ

คำตอบ: เป็นที่ประจักษ์ว่า ในอนาคตจะไม่มีการรวมอำนาจในประเทศทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปกครองแบบรัฐธรรมนูญ เป็นระบอบสาธารณรัฐ หรือประชาธิปไตย สหรัฐอเมริกาอาจถือได้ว่าเป็นตัวอย่างของการปกครองในอนาคต กล่าวคือ แต่ละมณฑลจะมีอิสระในตัวเอง แต่จะมีรัฐบาลกลางคอยคุ้มครองประโยชน์ของรัฐอิสระต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ระบบสาธารณรัฐหรือประชาธิปไตย การยกเลิกการรวมอำนาจซึ่งสนับสนุนให้เกิดเผด็จการ เป็นเรื่องด่วนในเวลานี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดสันติภาพนานาชาติ ความจริงอีกข้อหนึ่งที่สำคัญพอกันที่จะนำไปสู่สันติภาพคือ สิทธิออกเสียงของสตรี กล่าวคือ เมื่อบุรุษและสตรีเสมอภาคกันอย่างสมบูรณ์ จะมีสันติภาพเพราะเหตุผลง่ายๆ คือ สตรีโดยทั่วไปจะไม่มีวันสนับสนุนสงคราม สตรีจะไม่เต็มใจให้ผู้ที่เธอได้ดูแลมาด้วยความรักไปสู่สนามรบ เมื่อสตรีมีสิทธิออกเสียง สตรีจะต่อต้านการทำสงครามไม่ว่าจะเพื่อจุดมุ่งหมายอะไร อีกปัจจัยหนึ่งที่จะนำไปสู่สันติภาพสากลคือ การเชื่อมประเทศตะวันออกและตะวันตก

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2172)

3 พฤศจิกายน

งานฉลองบุญ อานุภาพ

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

ณ ที่ประชุม (งานฉลองบุญ) ไม่ควรมีการสนทนานอกเรื่อง แต่ที่ชุมนุมควรจำกัดตนเองอยู่ที่การอ่านและสวดพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ การอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า การอรรถาธิบายเหตุผลและข้อพิสูจน์ที่มีน้ำหนัก และธรรมลิขิตของพระผู้เป็นที่รักยิ่งของมนุษยชาติ ผู้ที่มาในที่ชุมนุมนี้ ประการแรกต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ไม่มีรอยเปื้อน หันหน้าไปหาอาณาจักรอับฮา และจากนั้นจึงเข้าไปด้วยความต่ำต้อยและศิโรราบ ระหว่างที่อ่านธรรมลิขิตพวกเขาต้องเงียบสนิท หากใครต้องการพูด เขาควรพูดด้วยความถ่อมตน พูดอย่างแน่ชัดด้วยความคมคาย ขอคำอวยพรและสรรเสริญจงมีแด่เจ้า

พระอับดุลบาฮา (BR Nov. 3)

4 พฤศจิกายน

ในสายตาของผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีสวรรค์ใดประเสริฐกว่าการเชื่อฟังบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และในสายตาของผู้ที่รู้จักพระผู้เป็นเจ้าและสัญลักษณ์ของพระองค์ ไม่มีไฟใดร้อนแรงกว่าการละเมิดกฎของพระองค์ และกดขี่ผู้อื่นแม้เพียงเท่าเมล็ดมาสตาด ความจริงแล้วในวันแห่งการฟื้นคืนชีพพระผู้เป็นเจ้าจะตัดสินมนุษย์ทุกคน และเราทุกคนวิงวอนขอความกรุณาจากพระองค์

ไม่มีสวรรค์ใดวิเศษสำหรับวิญญาณมากกว่าการได้พบพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าในยุคของพระองค์ ได้ยินวจนะของพระองค์และเชื่อในวจนะเหล่านั้น ได้เข้าเฝ้าพระองค์ซึ่งมิใช่อื่นใดแต่เป็นการเข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าได้แล่นไปบนทะเลในอาณาจักรแห่งอภิรดีของพระองค์และได้รับผลไม้ที่วิเศษในสวรรค์แห่งความเป็นหนึ่งของพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 79, 77)

5 พฤศจิกายน

หากเจ้าเปิดหัวใจของวิญญาณดวงเดียวโดยช่วยให้เขายอมรับศาสนาของบรมศาสดาที่พระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ วิญญาณของเจ้าย่อมเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจากพระนามอันเกรียงไกรนั้น ดังนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะทำงานนี้ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ช่วยตัวเองไม่ได้ และหากเจ้าเปิดหัวใจและปัดเป่าความสงสัยของพวกเขา พวกเขาย่อมได้เข้ามาในศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นจงทำงานนี้อย่างสุดความสามารถในยุคของบรมศาสดาที่พระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ เพราะที่จริงแล้วหากเจ้าเปิดหัวใจของบุคคลหนึ่งเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า สิ่งนี้ดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าการทำดีทุกอย่าง เนื่องด้วยการกระทำเป็นรองต่อความศรัทธาในพระองค์และมั่นใจในสภาวะของพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 133)

6 พฤศจิกายน

พระผู้เป็นนาย พระผู้ไม่มีเปรียบปาน ทรงสร้างชายและหญิงให้เป็นสหายที่ใกล้ชิดกันที่สุดและให้เป็นประดุจวิญญาณดวงเดียวกัน ทั้งสองคือเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกัน คือเพื่อนสนิทที่ควรห่วงใยความผาสุกซึ่งกันและกัน…ดังนั้นจงพยายามอยู่ด้วยกันทั้งหัวใจและวิญญาณ ประดุจนกพิราบสองตัวในรังเดียวกัน เพราะสิ่งนี้จะได้รับพรในทั้งสองภพ…

ความรักระหว่างสามีภรรยาต้องไม่เป็นทางกายเท่านั้น แต่ต้องเป็นทางจิตใจและทางธรรม วิญญาณสองดวงนี้ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นวิญญาณดวงเดียวกัน เป็นเรื่องยากเพียงไรที่จะแบ่งแยกวิญญาณดวงเดียว! เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก!

พระอับดุลบาฮา (PBM no. 6, 7)

7 พฤศจิกายน

ดูกร มารดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก จงรู้ไว้ว่าในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า การบูชาพระองค์ที่ดีที่สุดคือการอบรมบุตรและฝึกฝนบุตรให้มีความสมบูรณ์เลิศทุกอย่างของมนุษย์ และไม่มีการกระทำที่ประเสริฐกว่านี้ที่จินตนาการได้…

หนึ่งในการรับใช้ที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์สามารถรับใช้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพ คือการอบรมและฝึกฝนเด็ก…อย่างไรก็ตามการรับใช้นี้เป็นสิ่งที่ยากมากและยิ่งยากกว่าถ้าจะทำให้สำเร็จ

พระอับดุลบาฮา (BE 52, 33)

8 พฤศจิกายน

ในหนทางใดก็ตามที่เธอเลี้ยงดูบุตร บุตรจะเป็นเช่นนั้น และผลจากการฝึกฝนครั้งแรกจะคงอยู่กับผู้นั้นไปตลอดชีวิต และเป็นเรื่องยากที่สุดที่จะเปลี่ยนแปลง…

เป็นเรื่องยากเหลือเข็ญที่จะสอนและขัดเกลาอุปนิสัยใจคอของแต่ละคนเมื่อผ่านวัยรุ่นไปแล้ว ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่า เมื่อผ่านช่วงเวลานี้ไป แม้จะพยายามทุกอย่างที่จะดัดแปลงนิสัยบางอย่างก็หาได้เกิดประโยชน์อันใด ผู้นั้นอาจปรับปรุงได้บ้างในวันนี้ แต่ไม่กี่วันผ่านไป เขาลืมและถอยกลับไปสู่นิสัยเดิมและแนวทางที่เขาเคยชิน ดังนั้นต้องวางรากฐานให้มั่นคงในวัยเด็กแรกเริ่ม ขณะที่กิ่งยังเขียวและอ่อน จะตัดให้ตรงได้ง่าย

พระอับดุลบาฮา (BE 49, 24-5)

9 พฤศจิกายน

จุดประสงค์ของถ้อยคำที่กล่าวมาคือ อย่างน้อยจะได้สาธิตให้เห็นว่า ความสุขและความยิ่งใหญ่ ตำแหน่งและฐานะ ความยินดีและสันติสุขของแต่ละคน มิได้อยู่ที่ความมั่งคั่ง แต่อยู่ที่อุปนิสัยใจคอที่ล้ำเลิศ เจตจำนงอันประเสริฐ วิชาความรู้ที่กว้างขวาง และความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่ยาก ดังที่มีการกล่าวไว้อย่างสวยงามว่า: ?บนหลังของข้าพเจ้ามีเสื้อผ้า ซึ่งถ้าหากขายไปหนึ่งเพนนี เพนนีนั้นย่อมมีค่ามากกว่ายิ่งนัก แต่ภายในเสื้อผ้านั้นมีวิญญาณ ซึ่งหากท่านชั่งเทียบกับวิญญาณทั้งปวงบนโลก ก็จะพบวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่และประเสริฐกว่า?

พระอับดุลบาฮา (SDC 23-4)

10 พฤศจิกายน

หนึ่งในคำสอนของพระบาฮาอุลลาห์คือ การแบ่งปันทรัพย์สมบัติของตนให้ผู้อื่นด้วยความสมัครใจ การแบ่งปันด้วยความสมัครใจนี้ยิ่งใหญ่กว่าความเท่าเทียมและคือดังนี้ มนุษย์ไม่ควรถือว่าตนเองสำคัญกว่าผู้อื่น แต่ควรเสียสละชีวิตและทรัพย์สมบัติของตนเพื่อผู้อื่น และไม่ควรมีการบังคับจนกลายเป็นกฎหมายแล้วมนุษย์จำต้องปฏิบัติตาม ไม่เลย มนุษย์ควรเสียสละทรัพย์สมบัติและชีวิตของเขาเพื่อผู้อื่นด้วยความสมัครใจ และเต็มใจใช้จ่ายเพื่อคนยากไร้ดังที่ทำกันในหมู่บาไฮในเปอร์เซีย

พระอับดุลบาฮา (SWAB 302)

11 พฤศจิกายน

ดูกร ?ภราดร แท้จริงแล้วหากเราไตร่ตรองดูทุกสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ?เราจะเป็นพยานต่ออัจฉริยภาพที่สมบูรณ์เหลือคณนา และได้เรียนรู้สัจธรรมที่น่าพิศวงใหม่ๆ สุดคณานับ ?หนึ่งในปรากฏการณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาคือความฝัน จงมองดูว่าความลับมากมายเพียงใดถูกเก็บไว้ในความฝัน อัจฉริยภาพมากมายเพียงไหนถูกถนอมไว้ ?ภพจำนวนมากเพียงไรถูกปกปิดไว้ จงสังเกตดูว่าเจ้าหลับอยู่ในที่อาศัยหนึ่งซึ่งประตูติดลูกกรง ทันใดนั้นเจ้าพบว่าตนเองอยู่ในเมืองหนึ่งที่ห่างไกล ?ซึ่งเจ้าเข้าไปโดยไม่ต้องขยับเท้าหรือเหนื่อยอ่อนร่างกาย เจ้ามองเห็นโดยไม่ใช้ดวงตา ได้ยินโดยไม่ต้องเงี่ยหูฟัง พูดโดยปราศจากลิ้น และบางทีเมื่อสิบปีผ่านไปในโลกภายนอก ?เจ้าอาจเป็นพยานต่อสิ่งต่างๆ ที่เจ้าฝันคืนนี้

ทีนี้มีอัจฉริยภาพมากมายให้ไตร่ตรองดูในความฝัน ?ซึ่งไม่มีใครนอกจากประชาชนแห่งหุบเขานี้ที่สามารถเข้าใจในเนื้อแท้ ?ประการแรกภพนี้คืออะไรที่ปราศจากดวงตา หู มือและลิ้น มนุษย์สามารถนำทั้งหมดนี้มาใช้ได้ ?ประการที่สองเป็นไปอย่างไรที่ในโลกภายนอกวันนี้ เจ้าเห็นผลที่เกิดจากความฝันที่เจ้าหลับตาเห็นในโลกแห่งการหลับเมื่อสิบปีก่อน? ?จงพิจารณาดูความแตกต่างระหว่างภพทั้งสองนี้และความลึกลับทั้งหลายที่ทั้งสองภพปกปิดอยู่ เพื่อว่าเจ้าจะเข้าถึงการรับรองของพระผู้เป็นเจ้าและการค้นพบทางธรรม ?และเข้าไปในแดนแห่งความวิสุทธิ์

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 32-33)

12 พฤศจิกายน

วันประสูติของพระบาฮาอุลลาห์

ระหว่างที่จมอยู่ในความทุกข์ทรมาน เราได้ยินเสียงที่แสนหวานและวิเศษสุดร้องเรียกอยู่เหนือศีรษะของเรา เมื่อหันหน้าไป เราเห็นเทพธิดาลอยอยู่เบื้องหน้าเรา ผู้ซึ่งมีรูปโฉมชวนให้ระลึกถึงพระนามของพระผู้เป็นนายของเรา วิญญาณของเธอปลาบปลื้มอย่างยิ่งจนใบหน้าของเธอเรืองให้เห็นอภิรดีของพระผู้เป็นเจ้า และแก้มของเธอเปล่งแสงของพระผู้ทรงปรานี เธอกำลังเปล่งเสียงร้องเรียกระหว่างโลกและสวรรค์อย่างจับจิตจับใจมนุษย์ และบอกข่าวให้แก่ชีวิตจิตใจของเรา ซึ่งยังความปลาบปลื้มให้แก่เราวิญญาณของเราและวิญญาณของบรรดาคนรับใช้ที่มีเกียรติของพระผู้เป็นเจ้า เธอชี้นิ้วมาที่ศีรษะของเราและกล่าวต่อทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลกว่า ?พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! นี้คือพระผู้เป็นที่รักยิ่งของภพทั้งปวง และกระนั้นเจ้าหาเข้าใจไม่ นี้คือความงามของพระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางพวกเจ้า คืออานุภาพของอธิปไตยของพระองค์ที่อยู่ในตัวเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ นี้คือความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งล้ำค่าของพระองค์ คือศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและความรุ่งโรจน์ของพระองค์สำหรับทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรธรรมะและสรรพภาวะ หากเจ้าเป็นพวกที่หยั่งรู้?

พระบาฮาอุลลาห์ (GPB 101-2)

13 พฤศจิกายน

หนึ่งในสัญลักษณ์ของพระองค์คือ การต้านทานชาติมหาอำนาจและรัฐที่เกรียงไกร และกองทัพของศัตรูผู้กระหายเลือดของพระองค์ ซึ่งหมายมั่นอยู่ทุกขณะที่จะให้พระองค์พินาศไม่ว่าพระองค์จะอยู่ที่ไหน แท้จริงแล้วผู้ที่ใคร่ครวญเครื่องหมายและสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด

สัญลักษณ์ของพระองค์อีกอย่างหนึ่งคือ ปาฐกถาอันน่าพิศวง วาทะอันคมคาย การเปิดเผยธรรมลิขิตอย่างรวดเร็ว วจนะแห่งอัจฉริยภาพ บทกลอน สาส์น คำอธิษฐาน การคลี่คลายคัมภีร์กุรอ่านทั้งตอนที่ยากและตอนที่ชัดเจน ชีวิตของเจ้าเป็นพยาน! สิ่งนี้กระจ่างแจ้งประดุจทิวากาลสำหรับผู้ที่พิจารณาด้วยสายตาที่ยุติธรรม

สัญลักษณ์ของพระองค์อีกอย่างหนึ่งคือ รุ่งอรุณของสุริยาแห่งความรู้และจันทราแห่งศิลปะและความเชี่ยวชาญของพระองค์ ความสมบูรณ์เลิศที่พระองค์สาธิตในทุกด้าน ดังที่บรรดาผู้ที่มีวิชาและสามารถจากหลายชาติยืนยัน…

และสัญลักษณ์ของพระองค์อีกอย่างหนึ่งคือ การเผยแพร่คัมภีร์ของพระองค์ พระธรรมที่เฉียบขาดของพระองค์ที่ตำหนิกษัตริย์ทั้งหลาย และคำเตือนที่น่ากลัวต่อพระเจ้านโปเลียนที่สาม ซึ่งอำนาจปกครองอันเกรียงไกรของเขาขึ้นชื่อไปทั่วโลก และบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ของเขาล้มคว่ำในเวลาอันสั้น นี้คือความจริงที่ยอมรับและรู้กันอย่างกว้างขวาง

สัญลักษณ์ของพระองค์อีกอย่างหนึ่งคือ ความโอฬารอันสูงส่ง ภาวะอันประเสริฐ ความรุ่งโรจน์โชติช่วง ความงามของพระองค์ที่เฉิดฉายอยู่บนขอบฟ้าของคุก จนศีรษะทั้งหลายน้อมคำนับและน้ำเสียงทั้งหลายอ่อนลงต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ และผู้ที่หันมาหาวิถีของพระองค์ต่างถ่อมตัวลง นี้คือข้อพิสูจน์ที่ไม่เคยเห็นในยุคก่อน

สัญลักษณ์ของพระองค์อีกอย่างหนึ่งคือ สิ่งผิดธรรมดาทั้งหลายที่พระองค์กระทำ ปาฏิหาริย์ที่พระองค์แสดง สิ่งที่น่าพิศวงที่ปรากฏออกมาจากพระองค์อย่างไม่ขาดตอน เช่น การหลั่งไหลจากก้อนเมฆของพระองค์ แสงสว่างของพระองค์เป็นที่ยอมรับแม้แต่โดยผู้ที่ไม่เชื่อชีวิตของพระองค์เองเป็นพยาน! สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์เป็นที่แน่ชัด และสาธิตต่อผู้คนจากทุกความเชื่อที่ได้มาเข้าเฝ้าพระผู้เป็นนายแห่งชีวิตและทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 15-6)

14 พฤศจิกายน

คุณประโยชน์สากลสืบมาจากธรรมะของศาสนาทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า เพราะศาสนานำพาศาสนิกชนให้มีเจตนาที่จริงใจ มีจุดประสงค์ที่สูงส่ง มีความบริสุทธิ์และเกียรติอันไม่ด่างพร้อย มีเมตตาธรรมและเห็นอกเห็นใจ รักษาปฏิญญาตามสัญญา คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น มิอิสรภาพ มีความยุติธรรมในทุกแง่ของชีวิต มีความเป็นมนุษย์และมีมนุษยธรรม มีความกล้าหาญ อุตสาหะอย่างไม่ย่อท้อในการรับใช้มนุษยชาติ สรุปคือ ศาสนาก่อกำเนิดคุณธรรมทั้งปวงของมนุษย์ และคุณธรรมเหล่านี้คือเทียนอันสว่างไสวของอารยธรรม…

จุดประสงค์ของถ้อยคำเหล่านี้คือ เพื่อที่จะชี้ให้ชัดเจนว่า ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ศีล คำสอน ธรรมะ คือรากฐานที่มั่นคงของความสุขมนุษย์ และประชาชนทั้งหลายของโลกไม่ต้องหวังว่าจะได้ผ่อนคลายหรือมีอิสรภาพหากปราศจากยารักษาที่ยิ่งใหญ่นี้…

พระอับดุลบาฮา (SDC 98-9)

15 พฤศจิกายน

ศาสนา คือ แสงสว่างของโลก ความก้าวหน้า ความสำเร็จ และความสุขของมนุษย์ เป็นผลมาจากการเชื่อฟังกฎที่วางไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวโดยย่อเป็นที่สาธิตได้ว่าในชีวิตนี้ทั้งร่างกายและจิตใจ อาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สถาปนาไว้อย่างมั่นคงที่สุด ยั่งยืนและถาวรที่สุด ที่คอยพิทักษ์โลก รับประกันความสมบูรณ์เลิศของมนุษยชาติทั้งทางวัตถุและจิตใจ และคุ้มครองความสุขและอารยธรรมของสังคม คือ ศาสนา

เป็นความจริงที่ว่า มีผู้โง่เขลาบางคนที่ไม่เคยตรวจสอบมูลฐานของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเหมาะสม และได้ถือเอาความประพฤติของผู้ที่เคร่งศาสนาแบบเสแสร้งมาเป็นเกณฑ์ แล้วใช้วัดผู้มีศาสนาทุกคน แล้วจึงสรุปว่า ศาสนาคืออุปสรรคต่อความก้าวหน้า คือปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแบ่งแยก คือเหตุของความประสงค์ร้ายและเป็นปรปักษ์ระหว่างประชาชน พวกเขาหาได้สังเกตไม่ว่า หลักธรรมของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าจะใช้การกระทำของผู้ที่อ้างตนว่านับถือมาประเมินไม่ได้ เพราะทุกสิ่งที่ล้ำเลิศ แม้ว่าจะหาที่เปรียบไม่ได้ ก็อาจถูกใช้ไปในทางที่ผิด ตะเกียงที่ติดไฟในมือของเด็กที่ด้อยปัญญาหรือคนตาบอด จะไม่ปัดเป่าความมืดหรือทำให้บ้านสว่างขึ้น แต่จะไหม้ทั้งผู้ถือตะเกียงและบ้าน ในกรณีเช่นนี้ เราจะตำหนิตะเกียงได้หรือ? ไม่ พระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! สำหรับผู้ที่มองเห็น ตะเกียงคือแสงสว่างที่นำทางให้เขา แต่เป็นภัยพิบัติสำหรับคนตาบอด

พระอับดุลบาฮา (SDC 71-2)

16 พฤศจิกายน

เป็นที่แน่นอนว่า วิธีการที่เยี่ยมที่สุดที่นำไปสู่การพัฒนาและความรุ่งเรืองของมนุษย์ กลไกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการกู้โลกและให้ความสว่างแก่โลก คือความรักไมตรีจิตและความสามัคคีในหมู่มนุษยชาติทั้งปวง ไม่มีสิ่งใดสัมฤทธิ์ผลได้ในโลกนี้ ไม่แม้แต่ในความคิด หากปราศจากความสามัคคีและเห็นพ้องกัน และวิธีที่สมบูรณ์เลิศสำหรับการเพาะมิตรภาพและความสามัคคีคือศาสนาที่แท้จริง ?หากเจ้าใช้ความมั่งคั่งทั้งหมดบนพิภพ เจ้าก็ยังทำให้หัวใจของพวกเขาสามัคคีกันไม่ได้ แต่พระผู้เป็นเจ้าทำให้พวกเขาสามัคคีกัน?

พระอับดุลบาฮา (SDC 73)

17 พฤศจิกายน

ไม่มีใครบรรลุถึงฐานะที่แท้จริงของตนได้นอกจากเขาจะมีความยุติธรรม ไม่มีอานุภาพใดดำรงอยู่ได้นอกจากอาศัยความสามัคคี ไม่มีความผาสุกใดเป็นไปได้นอกจากอาศัยการปรึกษาหารือ

พระบาฮาอุลลาห์ (BC no. 2)

หากพวกเขาเห็นพ้องกันในเรื่องหนึ่งถึงแม้ว่าจะผิดก็ยังดีกว่าขัดแย้งกันแล้วอยู่ฝ่ายถูก เพราะความขัดแย้งนี้จะทำลายรากฐานสวรรค์ แม้ว่าคนหนึ่งในกลุ่มจะถูกแต่ถ้าพวกเขาขัดแย้งกัน นั่นจะเป็นเหตุของความผิดอีกพันอย่าง แต่ถ้าพวกเขาเห็นพ้องกันและทั้งสองฝ่ายผิดด้วยกัน ความจริงจะเปิดเผยออกมาและสิ่งที่ผิดจะถูกแก้ให้เป็นถูก เพราะยังสามัคคีกันอยู่

พระอับดุลบาฮา (BC no. 12)

18 พฤศจิกายน

การที่มีกลุ่มศาสนาและความเชื่อมากมายในโลก แต่ไม่ควรปล่อยให้มีการปลูกฝังความเป็นศัตรูในหมู่มนุษย์ คือแก่นของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ หลักธรรมและกฎเหล่านี้ ระบบที่ยิ่งใหญ่และสถาปนาไว้อย่างมั่นคงเหล่านี้ มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน และคือรังสีของอาภาเดียวกัน เหตุที่มีความแตกต่างก็เพราะหลักธรรมและกฎเหล่านี้เผยแพร่ไปในยุคต่างๆ ที่มีความต้องการต่างการ

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงพยายาม เพื่อว่าการพิพาทและทะเลาะวิวาททางศาสนาที่โกลาหลและก่อกวนประชาชนบนพิภพจะสงบลง และหายไปไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย จงลุกขึ้นช่วยการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งสำคัญและประเสริฐสุดนี้ เพื่อความรักของพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่รับใช้พระองค์ ความบ้าคลั่งและความชิงชังทางศาสนาคือไฟบรรลัยโลกที่ไม่มีใครดับได้ พระหัตถ์อันทรงอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่สามารถปลดเปลื้องมนุษยชาติจากความทรมานอันน่าสังเวชนี้…

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 287-8)

19 พฤศจิกายน

ดูกร ประชาชนและวงศ์ตระกูลที่ต่อสู้กันบนปฐพี จงตั้งปณิธานในความสามัคคี และให้นาราของความสามัคคีนั้นสาดรัศมีมายังเจ้า จงรวมตัวกัน และเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า จงมุ่งมั่นขจัดรากเหง้าของการต่อสู้ในหมู่พวกเจ้าเอง เมื่อนั้นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของโลกจะอาบรัศมีให้ทั่วพิภพ และบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจะกลายเป็นพลเมืองของเมืองเดียวกัน และเป็นผู้ครอบครองบัลลังก์เดียวกันตั้งแต่เริ่มแรกของชีวิต พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ไม่เคยปรารถนาสิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งนี้ และจะไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากสิ่งนี้ ไม่มีข้อสงสัยว่า ประชาชนบนโลกไม่ว่าเชื้อชาติใดหรือศาสนาใด ได้รับแรงดลใจจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน และเป็นข้าแผ่นดินของพระผู้เป็นเจ้าเดียวกัน ความแตกต่างระหว่างบทบัญญัติที่พวกเขายึดถือ มีเหตุมาจากความต้องการที่แปรเปลี่ยนไปและความจำเป็นตามยุคสมัย ยกเว้นจำนวนน้อยบางบทที่มาจากความวิปริตของมนุษย์ บัญญัติทั้งปวงล้วนกำหนดไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า และคือการสะท้อนพระประสงค์และเจตนาของพระองค์ จงลุกขึ้น และด้วยอานุภาพแห่งความศรัทธา จงทลายเทพเจ้าในจินตนาการที่ไร้สาระของเจ้า ผู้ที่หว่านเมล็ดของการพิพาทในหมู่พวกเจ้า จงยึดถือสิ่งที่สมานไมตรีและประสานสามัคคีพวกเจ้า แท้จริงแล้วนี้คือพระวจนะอันประเสริญสุดที่คัมภีร์แม่บทได้ลิขิตและเปิดเผยต่อเจ้า ชิวหาแห่งความโอฬารจากสันนิวาสแห่งความรุ่งโรจน์เป็นพยานต่อสิ่งนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 217)

20 พฤศจิกายน

เป็นหน้าที่ของทุกคนในยุคนี้ที่จะยึดมั่นในสิ่งที่จะส่งเสริมประโยชน์และเชิดชูฐานะของชาติและรัฐบาลที่ยุติธรรมทั้งปวง แต่ละวจนะที่ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งทรงเปิดเผย ได้ไขประตูแห่งความรักและสามัคคีให้เปิดออกต่อหน้าของมวลมนุษย์แล้ว ไม่นานมานี้เราได้ประกาศวจนะที่เป็นสัจธรรมว่า: ?จงคบหากับศาสนิกชนทุกศาสนาด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ? คำสอนใดก็ตามที่ทำให้มนุษย์ตีตัวออกห่างจากกันและกัน และก่อให้เกิดการพิพาทและแบ่งแยกในหมู่พวกเขา ถูกล้มเลิกและถือเป็นโมฆะ แล้วโดยการเปิดเผยพระวจนะเหล่านี้ กลไกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการอบรมมวลมนุษยชาติถูกส่งมาจากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เพื่อจะเชิดชูสรรพภาวะและยกระดับจิตใจและวิญญาณของมนุษย์ สาระที่สำคัญที่สุดและความหมายที่สมบูรณ์ที่สุดของวาทะใดก็ตามที่ประชาชนในอดีตเคยพูดหรือเขียนไว้ ถูกส่งมากับการเปิดเผยพระธรรมที่ทรงอำนาจที่สุดครั้งนี้จากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้ทรงครอบครองทุกสรรพสิ่ง พระผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ ในอดีต (ศาสนาอิสลาม) ได้เปิดเผยไว้ว่า: ?ความรักประเทศของตนคือองค์ประกอบสำคัญของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า? อย่างไรก็ตามชิวหาแห่งความโอฬารได้ประกาศในยุคแห่งการสำแดงองค์ว่า: ?ผู้ที่ควรภาคภูมิคือผู้ที่รักโลก มิใช่ผู้ที่รักประเทศของตน? โดยอานุภาพที่ปลดปล่อยจากวจนะอันประเสริฐเหล่านี้ พระองค์ทรงเติมพลังใหม่และปรับทิศทางใหม่ให้วิหคแห่งหัวใจของมนุษย์ และทรงลบข้อจำกัดให้หมดไปจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 94-6)

21 พฤศจิกายน

เมื่อช่วงเวลาหนึ่งผ่านไป การปกครองทั้งหมดในโลกจะเปลี่ยน ความกดขี่จะปกคลุมพิภพ หลังจากที่เกิดความโกลาหลทุกแห่งหนแล้ว ดวงตะวันแห่งความยุติธรรมจะปรากฏขึ้นมาจากขอบฟ้าของอาณาจักรที่มองไม่เห็น

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 121)

เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในยุคของการปรากฏองค์ของกิ่งที่ไม่มีเปรียบปาน (พระบาฮาอุลลาห์) คือ การชักธงของพระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางชาติทั้งปวง นี้ความหมายว่าชาติและวงศ์ตระกูลทั้งหมดจะรวมตัวกันภายใต้ร่มเงาของธงสวรรค์นี้ ซึ่งมิใช่อื่นใดแต่คือกิ่งอิสริยะนี้เอง และจะกลายเป็นชาติเดียวกัน ความเป็นปรปักษ์ทางศาสนาและนิกาย ความเป็นศัตรูระหว่างเชื้อชาติและประชาชน ความขัดแย้งในหมู่ชาติต่างๆ จะถูกขจัดไป มวลมนุษย์จะยึดถือศาสนาเดียวกัน จะมีความศรัทธาเดียวกัน จะผสานกันเป็นเชื้อชาติเดียวกัน และจะกลายเป็นประชาชาติเดียวกัน ทั้งหมดจะอาศัยอยู่ในปิตุภูมิเดียวกันนั่นคือดาวนพเคราะห์นี้เอง

พระอับดุลบาฮา (PDC 126)

22 พฤศจิกายน

งานฉลองบุญ พจนา

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

ดังนั้นบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าต้องคบหาสมาคมกับคนแปลกหน้าและเพื่อนด้วยไมตรีจิตเหมือนกันแสดงความเมตตารักใคร่ต่อทุกคน โดยไม่คำนึงถึงขีดความสามารถของพวกเขา ไม่มีการถามว่าพวกเขาสมควรจะได้รับความรักหรือไม่ ในทุกกรณีขอให้มิตรสหายเห็นใจและมีเมตตาอย่างไม่รู้สิ้น ขอให้มิตรสหายอย่าได้พ่ายแพ้ต่อความประสงค์ร้าย ความก้าวร้าวและความเกลียดชังของประชาชน ไม่ว่าจะรุนแรงเพียงไร หากใครพุ่งอาวุธใส่เจ้า จงให้น้ำนมและน้ำผึ้งเป็นการตอบแทน หากใครวางยาพิษเจ้า จงประโลมวิญญาณของเขา หากใครทำร้ายเจ้า จงสอนเขาว่าทำอย่างไรจึงจะมีความสุขสบาย หากใครทำให้เจ้าบาดเจ็บ จงเป็นยาหอมสำหรับความเจ็บปวดของเขา หากใครต่อยเจ้า จงยื่นถ้วยน้ำอันสดชื่นให้ริมฝีปากของเขา

พระอับดุลบาฮา (SWAB 24)

23 พฤศจิกายน

เราต้องการให้เจ้าเป็นเอก บาไฮต้องเป็นเอกต่างจากคนอื่น แต่ความเป็นเอกนี้ต้องไม่ขึ้นกับความมั่งคั่ง คือไม่ใช่ให้ร่ำรวยกว่าคนอื่น เราไม่ต้องการให้เจ้าเป็นเอกด้านการเงิน สิ่งที่เราต้องการคือความเป็นเอกที่ไม่ธรรมดา ไม่ใช่เป็นเอกด้านวิทยาศาสตร์ พาณิชย์ หรืออุตสาหกรรม นั่นคือเจ้าต้องเป็นเอกและมีชื่อเสียงในด้านศีลธรรม เจ้าต้องเป็นเอกต่างจากคนอื่นทั้งหมด ในความรักของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าต้องเป็นเอกในความรักมนุษยชาติ ในความสามัคคีปรองดอง ในความรักและความยุติธรรม กล่าวโดยย่อ เจ้าต้องเป็นเอกในคุณธรรมทั้งปวง ในความซื่อสัตย์และจริงใจ ในความยุติธรรมและจงรักภักดี ในความมั่นคงไม่ผันแปร ในด้านมนุษยธรรมและการรับใช้เพื่อนมนุษย์ ในความรักต่อมนุษย์ทุกคน ในความสามัคคีปรองดองกับประชาชนทั้งปวง ในด้านการขจัดอคติและส่งเสริมสันติภาพสากล ในที่สุดเจ้าต้องเป็นเอกในความรู้แจ้งในธรรมะและได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า นี่ต้องเป็นลักษณะของความเป็นเอกในหมู่พวกเจ้า

พระอับดุลบาฮา (ET 18)

24 พฤศจิกายน

เราหวังว่าระหว่างที่เจ้ากำลังศึกษาในวิทยาลัยนี้ เจ้าจะเก่งกว่านักเรียนอื่นทั้งหมดในวิชาความรู้ต่างๆ ที่สอนในวิทยาลัยนั้น เพื่อว่าพวกเขาจะยืนยันว่า นักเรียนบาไฮมีอำนาจพิเศษ ได้รับแรงบันดาลใจให้มีความอุตสาหะเป็นพิเศษ มีความทะเยอทะยานที่ประเสริฐกว่า มีแรงจูงใจที่สูงส่งกว่า มีความพยายามที่กว้างและลึกกว่า หากเจ้าไม่เก่งกว่าคนอื่น เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมีความเป็นเอกอะไร? ดังนั้นเจ้าต้องพยายามที่จะล้ำเลิศกว่าพวกเขา เพื่อว่าทุกคนจะเป็นพยานยืนยันความจริงนี้

เป็นหน้าที่ของเด็กบาไฮที่จะนำหน้าเด็กอื่นในการเรียนวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ เพราะเด็กบาไฮได้รับการเลี้ยงดูด้วยกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า สิ่งใดก็ตามที่เด็กอื่นเรียนในหนึ่งปี ขอให้เด็กบาไฮเรียนในหนึ่งเดือน พระอับดุลบาฮาปรารถนาด้วยความรักในหัวใจที่จะได้เห็นเยาวชนบาไฮแต่ละคนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกว่ามีสติปัญญาล้ำเลิศ

พระอับดุลบาฮา (ET 19-20, 7)

25 พฤศจิกายน

ชื่อของเราคืออับดุลบาฮา คุณวุฒิของเราคืออับดุลบาฮา สภาวะของเราคืออับดุลบาฮา ความรุ่งโรจน์ของเราคืออับดุลบาฮา การเป็นทาสของพระผู้ทรงความสมบูรณ์พรคือมงกุฏที่รุ่งโรจน์โชติช่วงของเรา และการเป็นทาสรับใช้มวลมนุษยชาติคือศาสนาที่ไม่มีสิ้นสุดของเรา…ไม่มีชื่อ ไม่มีบรรดาศักดิ์ ไม่มีคำชมเชย ไม่มีคำสรรเสริญอื่นใดสำหรับเรานอกจากอับดุลบาฮา นี้คือความต้องการของเรา คือความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา นี้คือชีวิตนิรันดร์และความรุ่งโรจน์อนันต์ของเรา

พระอับดุลบาฮา (WOB 139)

26 พฤศจิกายน

วันแห่งพระปฏิญญา

จงพิจารณาวจนะที่เราเปิดเผยไว้ในคัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของเรา: ?เมื่อมหาสมุทรแห่งการอยู่ร่วมกับเราไหลกลับไป และคัมภีร์แห่งการเปิดเผยพระธรรมของเราสิ้นสุดลง จงหันไปหาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งพระประสงค์ไว้ ผู้ซึ่งแตกกิ่งมาจากรากบรมโบราณ? ผู้ที่วจนะศักดิ์สิทธิ์นี้อ้างถึงมิใช่ใครอื่นนอกจากกิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (พระอับดุลบาฮา) ดังนี้เราได้เปิดเผยพระประสงค์อันทรงอำนาจของเราต่อเจ้าด้วยความกรุณา และแท้จริงแล้วเราคือพระผู้ทรงกรุณา พระผู้ทรงอานุภาพ

อำนาจของวาทะของกิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและอานุภาพของพระองค์ยังไม่เปิดเผยออกมาเต็มที่ ในอนาคตจะเป็นที่เห็นได้ว่า โดยลำพังและไม่ได้รับความช่วยเหลือ พระองค์จะชูธงของพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุดในใจกลางของโลกด้วยอานุภาพ อำนาจและแสงธรรมอย่างไร จะเป็นที่เห็นได้ว่า พระองค์จะรวบรวมประชาชนทั้งหลายของโลกไว้ภายใต้เต็นท์แห่งสันติภาพและความปรองดองอย่างไร

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 221, COV 11 Aug.)

27 พฤศจิกายน

?มิตรสหาย เวลานั้นกำลังมาถึง คือเวลาที่เราจะไม่ได้อยู่กับเจ้าอีกต่อไป เราได้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ เราได้รับใช้ศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์จนสุดความสามารถ เราตรากตรำทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดชีวิตของเรา ดูกร เราปรารถนาจะได้เห็นศาสนิกชนแบกความรับผิดชอบของศาสนาเพียงไร!…วันของเรามีจำกัด และนอกจากสิ่งนี้ไม่มีความปีติอื่นใดสำหรับเรา?…?จงจำไว้ ไม่ว่าเราจะอยู่บนโลกนี้หรือไม่ เราก็อยู่กับเจ้าเสมอ อย่าคำนึงถึงพระอับดุลบาฮาที่เป็นบุคคลเพราะพระองค์จะจากพวกเจ้าทุกคนไปในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น จงพิศดูที่พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า…บรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าต้องลุกขึ้นด้วยความแน่วแน่ ซึ่งหากในชั่วขณะเดียววิญญาณดังเช่นพระอับดุลบาฮาหลายร้อยดวงกลายเป็นเป้าของคมอาวุธแห่งความหายนะ ก็จะไม่มีสิ่งใดมากระทบหรือลดทอน…การรับใช้ของพวกเขา?

พระอับดุลบาฮา (GPB 309)

28 พฤศจิกายน

มรณภาพของพระอับดุลบาฮา

?จงอย่ากลัว จงอย่ากลัวหากกิ่งนี้ถูกตัดขาดจากโลกวัตถุนี้และสลัดใบทิ้ง ไม่เลย ใบเหล่านั้นจะงอกงาม เพราะกิ่งนี้จะงอกหลังจากที่ถูกตัดจากโลกเบื้องล่างนี้ จะงอกขึ้นไปถึงยอดแห่งความรุ่งโรจน์ที่ตระหง่านที่สุด และจะออกผลที่ไชยสุคนธรสมายังโลก?

เราขอให้บัญญัติอีกข้อหนึ่งแก่เจ้าซึ่งจะเป็นปฏิญญาระหว่างเจ้ากับเรานั่นคือให้เจ้ามีความศรัทธา ให้ความศรัทธาของเจ้ามั่นคงประดุจโขดหินที่ไม่มีพายุใดมาขยับได้ ไม่มีสิ่งใดมารบกวนได้ และความศรัทธานั้นฝ่าฟันทุกสิ่งและยืนยงจนถึงที่สุด แม้ว่าเจ้าได้ยินว่าพระผู้เป็นนายของเจ้าถูกตรึงไม้กางเขน ก็อย่าให้ความศรัทธาของเจ้าสั่นคลอน เพราะเราอยู่กับเจ้าเสมอ ไม่ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือลาโลกไปแล้วเราก็อยู่กับเจ้าจนถึงที่สุด เมื่อเจ้ามีความศรัทธา อำนาจและพระพรจะอยู่กับเจ้า นี้คือมาตรฐาน นี้คือมาตรฐาน นี้คือมาตรฐาน

พระอับดุลบาฮา (WOB 146, COV 28 Nov.)

29 พฤศจิกายน

ทุกคนต้องหันไปหาคัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และสิ่งใดที่มิได้บันทึกไว้แน่ชัดในคัมภีร์นั้นต้องเสนอมายังสภายุติธรรมสากล สิ่งใดก็ตามที่สถาบันนี้ลงมติ ไม่ว่าจะเป็นเอกฉันท์หรือโดยเสียงส่วนใหญ่ นั่นคือสัจธรรมและเจตนาของพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง ใครที่บิดพลิ้วไปจากนี้คือพวกที่ชอบความร้าวฉาน ประสงค์ร้ายและเมินพระผู้เป็นนายแห่งพระปฏิญญา สภานี้ซึ่งหมายถึงสภายุติธรรมสากล จะเลือกตั้งจากทุกประเทศ นั่นคือประเทศตะวันออกและตะวันตกที่มีบาไฮอยู่ ตามลักษณะการเลือกตั้งที่ปฏิบัติกันในประเทศตะวันตกเช่นอังกฤษ

เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภายุติธรรมสากลที่จะชุมนุมกัน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง และปรึกษากันเกี่ยวกับปัญหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ปัญหาที่ยังคลุมเครือและเรื่องที่มิได้บันทึกไว้แน่ชัดในคัมภีร์ อะไรก็ตามที่พวกเขาตัดสินใจจะมีผลเช่นเดียวกับพระธรรม และเนื่องด้วยสภายุติธรรมนี้มีอำนาจในการออกกฎที่มิได้บันทึกไว้แน่ชัดในคัมภีร์และมีผลต่อธุรกิจประจำวัน ดังนั้นสภานี้ก็มีอำนาจในการยกเลิกกฎนั้นเช่นกัน…สภายุติธรรมทำเช่นนี้ได้เพราะว่ากฎนั้นมิได้เป็นส่วนหนึ่งของพระธรรมสวรรค์ สภายุติธรรมเป็นทั้งผู้ออกกฎและยกเลิกกฎตนเอง

พระอับดุลบาฮา (WT 18-9)

30 พฤศจิกายน

การทดสอบของทุคยุคศาสนาเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความยิ่งใหญ่ของศาสนานั้น และเนื่องด้วยตราบจนบัดนี้พระปฏิญญาที่แน่ชัดดังกล่าวซึ่งลิขิตโดยปากกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่เคยมีการทำกันมาก่อน การทดสอบจึงรุนแรงตามสัดส่วน การทดสอบเหล่านี้ทำให้วิญญาณที่อ่อนแอหวั่นไหว ขณะที่วิญญาณที่มั่นคงไม่กระเทือนการก่อกวนของพวกละเมิดพระปฏิญญาหาใช่อื่นใดนอกจากฟองในมหาสมุทรซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งที่แยกจากกันไม่ได้ แต่มหาสมุทรแห่งพระปฏิญญาจะสาดซัดและพัดร่างที่ตายมาบนชายฝั่งเพราะไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ ดังนี้จึงเห็นได้ว่ามหาสมุทรแห่งพระปฏิญญาได้สาดซัดจนกระทั่งพัดเอาร่างที่ตายออกไป นั่นคือพวกที่ถูกพรากจากพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า จมอยู่ในกิเลสและอัตตา และอยากจะเป็นผู้นำ ฟองในมหาสมุทรนี้จะไม่ยืนยงและจะแตกกระจายสลายตัวไป ขณะที่มหาสมุทรแห่งพระปฏิญญาจะสาดซัดอย่างกึกก้องไปชั่วนิรันดร์…

พระอับดุลบาฮา (SWAB 210-1)

ธันวาคม

1 ธันวาคม

ผู้นำศาสนาในทุคยุคขัดขวางประชาชนมิให้ไปถึงชายฝั่งแห่งความรอดพ้นนิรันดร์ เนื่องด้วยพวกเขากุมบังเหียนอำนาจอยู่ในเงื้อมมืออันฉกาจ บางคนเป็นเพราะตัณหาอยากเป็นผู้นำ บางคนเป็นเพราะโง่เขลาเบาปัญญา พวกเขาจึงปิดตาประชาชน การใช้อำนาจยุยงของพวกเขา เป็นชนวนให้พระศาสดาทุกพระองค์ของพระผู้เป็นเจ้าดื่มถ้วยแห่งความเสียสละและบินขึ้นไปสู่สุดยอดของความรุ่งโรจน์ ด้วยความทารุณสุดจะพรรณนาเช่นไร ที่บรรดาผู้ครองตำแหน่งที่มีอำนาจและวิชาได้กระทำต่อราชันแห่งพิภพผู้เป็นมณีแห่งคุณธรรมสวรรค์! ด้วยพอใจกับอำนาจที่ไม่จีรัง พวกเขาได้พรากตนเองจากอธิปไตยนิรันดร์

พระบาฮาอุลลาห์ (KI 15)

2 ธันวาคม

…ประชาชนบางกลุ่มจะลุกขึ้นต่อต้านเจ้า ประหัตประหารเจ้าด้วยความเกลียดชัง และในหนังสือพิมพ์อาจจะมีบทความเขียนต่อต้านศาสนา เจ้าจงวางใจและอย่าได้หวั่นใจ จงมีใจสงบ เยือกเย็น และระลึกไว้ว่านี้เป็นเพียงเสียงร้องของนกกระจอกที่ไม่มีภัยและจะผ่านไปในไม่ช้า…ดังนั้นจุดประสงค์ของเราคือเพื่อจะเตือนเจ้าและให้เจ้ามีความเข้มแข็งที่จะต้านข้อกล่าวหาคำวิพากษ์วิจารณ์ คำถากถางและเยาะเย้ยจากบทความในหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ อย่าได้หวั่นใจต่อสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้คืออำนาจที่ค้ำจุนศาสนา คือบ่อเกิดที่ทำให้การเคลื่อนไหวของศาสนาได้พัฒนา ขอให้พระผู้เป็นเจ้ายืนยันวันที่นักบวชยี่สิบคนจากโบสถ์ต่างๆ จะลุกขึ้น เปิดศีรษะออก แล้วร้องจนสุดเสียงว่า บาไฮคือพวกที่หลงผิด เราอยากจะเห็นวันนี้ เพราะนั่นคือเวลาที่ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าจะแพร่กระจาย พระบาฮาอุลลาห์ทรงถือว่าบุคคลเหล่านี้คือผู้กระจายข่าวของศาสนา พวกเขาจะประกาศจากมุขของโบสถ์ว่า บาไฮคือพวกโง่เขลา พวกชั่วร้ายและไม่ชอบธรรม แต่เจ้าจงมั่นคงและอย่าหวั่นไหวในศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะแพร่กระจายพระธรรมของพระบาฮาอุลลาห์

พระอับดุลบาฮา (PUP 428-30)

3 ธันวาคม

ทุกคนที่ลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าจะถูกประหัตประหาร ถูกเข้าใจผิด ซึ่งเป็นเช่นนี้ตลอดมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป อย่าให้ศัตรูหรือมิตรมารบกวนความสงบในใจ ?ทำลายความสุข หรือขัดขวางความสำเร็จของเจ้า จงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับพระผู้เป็นเจ้า เมื่อนั้นแล้วการประหัตประหารและการใส่ร้ายจะยิ่งทำให้เจ้าเบิกบาน แผนของศัตรูจะย้อนกลับไปหาพวกเขาเอง พวกเขาต่างหากมิใช่เจ้าที่จะเสียหาย การกดขี่คือลมที่กระพือไฟแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า จงต้อนรับการประหัตประหารและความชิงชัง ทหารอาจถืออาวุธอยู่ แต่จนกว่าเขาจะเผชิญกับศัตรูในสงคราม อย่าพ่ายแพ้ต่อสิ่งใด พระผู้เป็นเจ้าคือผู้ที่คอยช่วยเหลือเจ้า ไม่มีใครเอาชนะพระผู้เป็นเจ้าได้ จงมั่นคงในพระปฏิญญาสวรรค์ อธิษฐานขอความเข้มแข็ง และเจ้าจะได้รับไม่ว่าจะอยู่ในสภาพการณ์ที่ยากลำบากเพียงไร

พระอับดุลบาฮา (COV 12 Feb)

4 ธันวาคม

ในยุคนี้ อานุภาพของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้ากำลังเติบใหญ่อย่างรวดเร็วทุกวัน กำลังแพร่กระจายไกลออกไปจนสุดขอบโลก ดังนั้นศัตรูของศาสนาซึ่งมาจากวงศ์ตระกูลและประชาชนทั้งปวงบนพิภพก็ยิ่งก้าวร้าว ประสงค์ร้าย ริษยาและไม่เป็นมิตร เป็นหน้าที่ของบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าที่จะคอยระวังและรอบคอบให้มากที่สุดในทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเล็ก ปรึกษาหารือกันและสามัคคีกันต้านการโจมตีของพวกปลุกปั่นการทะเลาะวิวาทและความชั่วร้าย

พระอับดุลบาฮา (SWAB 233)

5 ธันวาคม

ตามประกาศิตที่แน่ชัดของพระบาฮาอุลลาห์ คนเราต้องไม่เมินคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ?และจำเป็นต้องปรึกษากับแพทย์แม้ว่าผู้ป่วยเองจะเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียง กล่าวโดยย่อ ใจความสำคัญคือ เจ้าควรรักษาสุขภาพโดยการปรึกษาหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะขอการรักษาทางการแพทย์และปฏิบัติตามที่แพทย์สั่ง เพราะสิ่งนี้ตรงกับบัญญัติสวรรค์ แต่ในความจริงนั้นผู้ที่รักษาคือพระผู้เป็นเจ้า

มีมนุษย์หลายคนที่เสียชีวิตด้วยโรคที่ตนได้ศึกษาเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น อริสโตเติ้ลผู้ศึกษาการย่อยอาหารเป็นพิเศษ เสียชีวิตด้วยโรคเกี่ยวกับอาหาร อวีซู เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหัวใจแต่ก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ พระผู้เป็นเจ้าคือแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ผู้ทรงเห็นใจ และคือผู้เดียวเท่านั้นที่มีอำนาจที่จะรักษาอย่างแท้จริง

พระอับดุลบาฮา (SWAB 156ม COC ?no. 1048 )

6 ธันวาคม

เมื่อเจ้าต้องการรักษาอาการปวดจากประสาท จงตั้งจิตไปสู่อาณาจักรเบื้องบนด้วยหัวใจที่ตัดความผูกพันจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์ และวิญญาณของเจ้าปีติในความรักของพระผู้เป็นเจ้า จากนั้นขออำนาจค้ำจุนของพระวิญญาณบริสุทธิ์จากอาณาจักรอับฮาขณะที่สัมผัสบริเวณที่ปวดด้วยความรัก ความเมตตาและถวิลหาพระผู้เป็นเจ้า เมื่อทุกสิ่งนี้ผสานเข้าด้วยกันวางใจได้ว่าการรักษาจะได้ผล

การรักษาโดยอานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสหรือการเพ่งเป็นพิเศษ แต่มากับความต้องการหรือความปรารถนาและการอธิษฐานของผู้ทรงธรรม ผู้ที่ป่วยอาจอยู่ในประเทศตะวันออกและผู้รักษาอยู่ในประเทศตะวันตก และทั้งคู่อาจไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน แต่ทันใดที่ผู้ทรงธรรมนั้นตั้งจิตสู่พระผู้เป็นเจ้าและเริ่มอธิษฐาน ผู้ป่วยจะหายจากโรค สิ่งนี้คือพรสวรรค์ของพระศาสดาและผู้ที่อยู่ในสถานะสูงสุด

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1027, 1051)

7 ธันวาคม

ตั้งแต่เกิดมาวันแรก ทารกควรได้รับสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และจงรู้ไว้ว่าน้ำนมมารดาดีที่สุด เหมาะสมและถูกกับทารก นอกเสียจากว่าเธอล้มป่วยหรือน้ำนมของเธอแห้งสนิท…

?อาหารในอนาคตจะเป็นอะไร?? ?ผลไม้และเมล็ดพืชเวลานั้นจะมาถึง คือเวลาที่จะไม่มีการกินเนื้ออีกต่อไป วิทยาศาสตร์การแพทย์ยังอยู่ในวัยทารก กระนั้นก็ตามการแพทย์ได้แสดงให้เห็นว่า อาหารธรรมชาติของเราคือสิ่งที่งอกขึ้นมาจากดิน ประชาชนจะค่อยๆ พัฒนามาถึงการกินอาหารธรรมชาตินี้?

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1026 HHN)

ในทุกสภาพแวดล้อม พวกเขาควรประพฤติตนด้วยความพอประมาณ หากอาหารมื้อหนึ่งมีกับข้าวเพียงอย่างเดียว นั่นเป็นที่น่ายินดีในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า อย่างไรก็ตามกับข้าวอย่างเดียวนั้นควรมีคุณภาพสูงเท่าที่พวกเขาจะทำได้

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 1016)

8 ธันวาคม

วันแล้ววันเล่าเวลาของเจ้าก็ล่วงเลยไป ถึงกระนั้นไม่มีใครในหมู่พวกเจ้ายอมที่จะตัดความผูกพันจากสิ่งที่จะต้องมลายไปแม้แต่ขณะเดียว จงตื่นตัวขึ้น เพื่อว่าเวลาของเจ้าที่เหลืออยู่เพียงชั่วครู่จะไม่สูญเปล่า วันของเจ้าจะผ่านไปอย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้า และร่างกายของเจ้าจะถูกฝังอยู่ใต้ธรณี เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าจะชดเชยความล้มเหลวในอดีตของเจ้าได้อย่างไร?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 321)

9 ธันวาคม

ดูกร กองทัพของพระผู้เป็นเจ้า! เมื่อใดที่เจ้าเห็นใครมีใจจดจ่ออยู่กับศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า มีจุดหมายเพียงเพื่อจะทำให้พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าโน้มน้าวใจกำลังรับใช้ศาสนาทั้งกลางวันกลางคืนด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ความประพฤติของเขาไม่มีแววของความอหังการหรือมีเจตนาแอบแฝง หัวใจของเขาพลัดเข้าไปในความรักของพระผู้เป็นเจ้า จิตใจของเขารู้จักแต่พระองค์เท่านั้น และเขาหมกมุ่นอยู่กับการแพร่กระจายสุคนธรสของพระผู้เป็นเจ้า จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า สวรรค์จะเสริมพลังและค้ำจุนผู้นั้น เขาจะเป็นประหนึ่งดาวประกายพรึกที่เรืองแสงอำไพไปชั่วนิรันดร์จากนภาแห่งพระกรุณาอนันต์ แต่ถ้าหากเขาส่อเค้าของความเห็นแก่ตัวและรักตัวเอง ความพยายามของเขาจะล้มเหลว เขาจะพบกับความวิบัติและสิ้นหวังในที่สุด

พระอับดุลบาฮา (SWAB 71-2)

10 ธันวาคม

องค์ประกอบที่สามของเนื้อหาที่อภิปรายคือ ?ต้านกิเลสของเขา? วลีที่ดูเหมือนง่ายๆ และครอบคลุมทุกสิ่งนี้มีนัยที่น่าพิศวงเพียงไร สิ่งนี้คือรากฐานของคุณสมบัติที่น่าสรรเสริญทุกประการของมนุษย์ แท้จริงแล้วถ้อยคำสั้นๆ นี้มีแสงสว่างของโลก และเป็นรากฐานที่มั่นคงของคุณธรรมทั้งปวงของมนุษย์ นี้คือดุลภาพของความประพฤติทุกอย่าง คือวิธีรักษาคุณสมบัติที่ดีทั้งหมดของมนุษย์ให้อยู่ในสมดุล

เพราะกิเลสคือเปลวไฟที่เผาผลาญวิชาสุดคณานับให้มอดเป็นเถ้าถ่านแม้ผู้มีวิชาจะสะสมมาชั่วชีวิต คือไฟบรรลัยที่แม้แต่ทะเลแห่งความรู้อันไพศาลของพวกเขาก็ดับไม่ได้ บ่อยแค่ไหนที่บุคคลหนึ่งมีคุณลักษณะที่ดีทุกอย่างและสวมมณีแห่งปัญญา แต่กลับให้กิเลสพาไปจนกระทั่งคุณสมบัติที่ล้ำเลิศของเขาล่วงเกินความพอประมาณ และเขากลายเป็นคนเลยเถิด เจตนาที่บริสุทธิ์ของเขาเปลี่ยนไปเป็นเจตนาที่ชั่วร้าย คุณลักษณะที่ดีของเขาไม่ถูกใช้ไปในทางที่ดีอีกต่อไป อำนาจของกิเลสพาให้เขาเมินความชอบธรรมและรางวัลของคุณธรรมนี้ จนไปสู่หนทางที่อันตรายและมืดมน ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า บรรดาผู้ที่พระองค์เลือกสรรและผู้ที่มีธรรมทรรศนะ อุปนิสัยใจคอที่ดีนั้นล้ำเลิศและน่าสรรเสริญที่สุด แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ว่า อุปนิสัยใจคอนั้นมาจากเหตุผลและความรู้ และอยู่บนฐานของความพอประมาณโดยแท้จริง…

พระอับดุลบาฮา (SDC 59-60)

11 ธันวาคม

งานฉลองบุญ คำถาม

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

เราได้ยินว่า เจ้าคิดที่จะตกแต่งบ้านเป็นครั้งคราวด้วยการชุมนุมของบาไฮ ซึ่งพวกเขาจะสดุดีพระผู้เป็นนายผู้ทรงความรุ่งโรจน์…จงรู้ไว้ว่า หากเจ้าจัดให้มีการชุมนุมของบาไฮที่บ้านของเจ้าแม้จะอยู่บนพิภพบ้านนั้นก็จะเป็นเสมือนอยู่ในสวรรค์ และอาคารหินนั้นจะกลายเป็นที่ประชุมทางธรรม

เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งมาชุมนุมกัน ณ ที่ประชุมแห่งหนึ่ง สดุดีพระผู้เป็นเจ้า พูดคุยกันเกี่ยวกับความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีข้อสงสัยว่า ลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะโชยมายังพวกเขาและแต่ละคนจะได้รับส่วนแบ่งจากลมหายใจนั้น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 94)

12 ธันวาคม

ในโลกที่ไม่จีรังนี้มีศูนย์รวมมากมายที่ส่งเสริมการสมาคมและความสามัคคีระหว่างมนุษย์…และความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติขึ้นกับการจัดตั้งและส่งเสริมศูนย์รวมต่างๆ กระนั้นก็ตามในความจริงแล้วนั้น สถาบันทั้งหมดนี้คือเปลือก มิใช่แก่น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ ศูนย์รวมเหล่านี้ถูกกวาดจนสิ้นไป แต่ศูนย์รวมของอาณาจักรสวรรค์ซึ่งเป็นร่างของหลักธรรมและคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า คือศูนย์รวมนิรันดร์ที่สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตะวันออกและตะวันตก จัดตั้งความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ และทำลายรากฐานของความขัดแย้ง

พระอับดุลบาฮา (TDP 93-4)

13 ธันวาคม

พระอับดุลบาฮาไม่เคยต้องการเห็นใครเจ็บปวดและพระองค์จะไม่ทำให้ใครเศร้าโศก เพราะมนุษย์ไม่สามารถได้รับพรใดที่ยิ่งใหญ่กว่าการที่เขาทำให้หัวใจของผู้อื่นเบิกบาน เราขอพระผู้เป็นเจ้าให้เจ้าเป็นผู้ยังความเบิกบานประหนึ่งเทพยดาในสวรรค์

มนุษย์ที่ดีที่สุดคือผู้ที่รับใช้ประชาชน มนุษย์ที่เลวทรามที่สุดคือผู้ที่ทำร้ายประชาชน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 203-4, SDC 103)

14 ธันวาคม

ดูกร ประชาชนทั้งหลายบนพิภพ! ชีวิตของเราและของเจ้าเป็นพยาน! พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ไม่เคยต้องการจะเป็นผู้นำ จุดหมายของเราคือการระงับสิ่งใดก็ตามที่เป็นเหตุของการพิพาทในหมู่ประชาชนบนพิภพและการแบ่งแยกระหว่างชาติทั้งหลาย เพื่อว่ามวลมนุษย์จะหลุดพ้นจากความผูกพันทางโลก และมีอิสระที่จะเอาใจใส่ต่อสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเอง เราขอวิงวอนบรรดาผู้เป็นที่รักของเราอย่าได้ทำให้ชายผ้าของเราเปื้อนความจอมปลอม หรือให้การอ้างอิงถึงสิ่งที่พวกเขาถือว่าเป็นปาฏิหาริย์หรือสิ่งมหัศจรรย์มาทำให้ตำแหน่งและฐานะของเราเสื่อมเสีย หรือทำให้พระนามอันวิสุทธิ์ของเราเสียหาย

พระบาฮาอุลลาห์ (ESW 32-3)

15 ธันวาคม

พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ตัดความผูกพันจากโลกและพยายามสุดกำลังที่จะดับไฟแห่งความเป็นปรปักษ์และความเกลียดชังที่เผาอย่างร้อนแรงอยู่ในหัวใจของประชาชนทั้งหลายบนพิภพ เป็นหน้าที่ของผู้ที่ยุติธรรมและมีจิตใจเที่ยงธรรมทุกคนที่จะขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ และลุกขึ้นส่งเสริมศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ เพื่อว่าไฟนั้นจะเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง และความเกลียดชังจะเปิดทางให้ความรักและไมตรีจิต เราขอปฏิบัติต่อความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้า! นี้คือจุดประสงค์เดียวเท่านั้นของพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ แท้จริงแล้วเราได้ทนความทุกข์ทรมานความแร้นแค้นและความยากลำบากนานัปการในการสาธิตสัจธรรมและประกาศศาสนาที่เกรียงไกรนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 44)

16 ธันวาคม

ประชาชนมากมายเพียงไรที่เชี่ยวชาญในศาสตร์ทุกสาขา แต่การยึดถือพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าคือตัวกำหนดความศรัทธาของพวกเขา เนื่องด้วยประโยชน์ของศาสตร์ทุกสาขามิใช่อื่นใดนอกจากความรู้เกี่ยวกับศีลของพระผู้เป็นเจ้าและการยอมจำนนต่ออภิรดีของพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 88)

จงรู้ไว้ว่าผู้มีวิชาที่แท้จริง คือผู้ที่ยอมรับการเปิดเผยพระธรรมของเรา ดื่มจากมหาสมุทรแห่งความรู้ของเรา เหินขึ้นสู่บรรยากาศแห่งความรักของเรา ทิ้งทุกสิ่งไปนอกจากเรา และยึดถือสิ่งที่มาจากอาณาจักรแห่งวาทะอัศจรรย์ของเรา แท้จริงแล้วเขาเป็นประหนึ่งดวงตาของมนุษยชาติและพลังชีวิตของสรรพสิ่งทั้งปวง ขอความสดุดีจงมีแด่พระผู้ทรงปรานีที่ทำให้เขารู้แจ้ง และบันดาลให้เขาลุกขึ้นรับใช้ศาสนาที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (ESW 83)

17 ธันวาคม

หากใครได้ตรึกตรองวจนะที่ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งเปิดเผยด้วยหัวใจของเขาและลิ้มมธุราของวจนะนั้น เป็นที่แน่นอนว่า เขาจะพบว่าตนเองว่างเปล่าและหลุดพ้นจากความปรารถนาของตน และศิโรราบต่อพระประสงค์ของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพโดยสิ้นเชิง ความสุขจงมีแด่ผู้ที่บรรลุถึงสถานะที่สูงส่งดังกล่าวและมิได้พรากตนเองจากกรุณาธิคุณที่โอบอ้อมอารีนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 343)

เรื่องที่เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้านั้นลึกซึ้งเกินกว่าจะใช้คำพูดทั่วไปอธิบายได้ คำสอนจากสวรรค์พูดด้วยอุปมาเพื่อจะได้เป็นที่เข้าใจและยังใช้ได้ในยุคข้างหน้า เมื่อผู้มีธรรมะในจิตใจดำดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งพระธรรม เขาจะค้นพบไข่มุกที่ซ่อนความหมายของพระธรรมนั้น ไม่มีสิ่งใดน่ายินดีไปกว่าการศึกษาพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจที่มีธรรม

พระอับดุลบาฮา (COC no. 421)

18 ธันวาคม

การเข้าใจวจนะของพระองค์และวาทะของวิหคแห่งสวรรค์ไม่ขึ้นกับวิชาที่มนุษย์เรียนมา แต่ขึ้นกับความบริสุทธิ์ของหัวใจ ความวิสุทธิ์ของวิญญาณ และความอิสระของจิตใจเท่านั้น

พระบาฮาอุลลาห์ (KI 211)

การเข้าถึงการนำทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดขึ้นกับความรู้และปัญญา ?และการทราบความลึกลับของพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าแต่ละคนไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ บุรุษหรือสตรี ต้องพยายามตามความสามารถของตนที่จะเรียนรู้วิชาสาขาต่างๆ ทำความเข้าใจความลึกลับในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และฝึกความชำนาญในการเรียบเรียงข้อพิสูจน์และหลักฐานเกี่ยวกับพระธรรม

พระอับดุลบาฮา (COC no. 385)

19 ธันวาคม

จุดประสงค์ของการเรียนรู้ควรเป็นการส่งเสริมความผาสุกของประชาชน…การเรียนรู้ที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่นำไปสู่ความผาสุกของโลก มิใช่นำไปสู่ความทะนง การกดขี่ ความรุนแรงและการปล้น

ความปรารถนาของเราคือ เด็กเหล่านี้ควรได้รับการศึกษาแบบบาไฮ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ก้าวหน้าไปทั้งที่นี่และในอาณาจักรสวรรค์ และทำให้หัวใจของเจ้าเบิกบาน

ในวันข้างหน้าศีลธรรมจะเสื่องถึงขีดสุด จำเป็นที่เด็กจะต้องได้รับการเลี้ยงดูตามแนวทางของบาไฮ เพื่อว่าเขาจะได้พบความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะจมอยู่ในความทุกข์โศกและยุ่งยากเพราะความสุขของมนุษย์ตั้งอยู่บนความประพฤติที่มีธรรม

พระอับดุลบาฮา (COC no. 10, SWAB 127)

20 ธันวาคม

พระบาฮาอุลลาห์ทรงกล่าวว่า มีสัญลักษณ์ (จากพระผู้เป็นเจ้า) ในทุกปรากฏการณ์ สัญลักษณ์ของปัญญาคือสมาธิ และสัญลักษณ์ของสมาธิคือความเงียบ เพราะว่าเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะทำสองสิ่งในเวลาเดียวกัน มนุษย์ไม่สามารถพูดพร้อมกับทำสมาธิ

เป็นความจริงที่ไม่ต้องพิสูจน์ว่า ขณะที่เจ้าทำสมาธิเจ้ากำลังพูดกับวิญญาณของตนเอง ในภาวะของจิตเช่นนี้เจ้าถามวิญญาณของเจ้า และวิญญาณของเจ้าตอบ แสงสว่างบังเกิดขึ้นและความจริงเปิดเผยออกมา เจ้าไม่สามารถใช้ชื่อ ?มนุษย์? กับสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่ไม่มีสมาธิ เพราะถ้าปราศจากสมาธิเขาย่อมเป็นเพียงสัตว์และต่ำกว่าสัตว์ป่า

โดยอาศัยสมาธิ มนุษย์บรรลุถึงชีวิตนิรันดร์ โดยอาศัยสมาธิ มนุษย์ได้รับลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณติดต่อมาขณะที่ใคร่ครวญและทำสมาธิ

พระอับดุลบาฮา (IPMDA 22)

21 ธันวาคม

วิญญาณของมนุษย์ที่รับทราบและมีพลังมากขึ้นขณะทำสมาธิ โดยอาศัยสมาธิกิจการที่มนุษย์ไม่เคยรู้ได้เปิดเผยต่อเขา โดยอาศัยสมาธิมนุษย์ได้รับแรงดลใจจากพระผู้เป็นเจ้า โดยอาศัยสมาธิมนุษย์ได้รับอาหารทิพย์ สมาธิคือกุญแจสำหรับไขประตูไปสู่ความลึกลับ ในภาวะสมาธิมนุษย์ตัดความรู้สึกนึกคิดจากวัตถุภายนอก ในสภาวจิตนี้มนุษย์ดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรแห่งวิญญาณ และสามารถคลี่คลายความลับของสาระของสรรพสิ่งต่างๆ เพื่อจะสาธิตให้เห็น จงคิดถึงมนุษย์ในฐานะที่ได้รับการประสาทด้วยการมองเห็นสองชนิด ขณะที่การมองภายในกำลังทำงาน การมองภายนอกหยุดทำงาน

สมาธิทำให้มนุษย์หลุดพ้นจากธรรมชาติของสัตว์หยั่งเห็นความจริงของสรรพสิ่ง และพามนุษย์เข้าไปสัมผัสกับพระผู้เป็นเจ้า

สมาธิให้กำเนิดวิทยาศาสตร์และศิลปะที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยสมาธิสิ่งประดิษฐ์จึงเกิดขึ้นได้ ?ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ดำเนินไปได้โดยอาศัยสมาธิ การปกครองดำเนินไปได้อย่างราบรื่นโดยอาศัยสมาธิ มนุษย์เข้าไปสู่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าโดยอาศัยสมาธิ

พระอับดุลบาฮา (IPMDA 23)

22 ธันวาคม

อย่าได้เศร้าโศกหากกิจการต่างๆ ประสบความลำบากและความยุ่งยากรุนแรงขึ้นทุกด้าน แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าเปลี่ยนความยากลำบากเป็นความง่าย ความยุ่งยากเป็นความสะดวก ความทุกข์ใจเป็นความสงบเยือกเย็น

หากชีวิตประจำวันของเจ้าลำบาก ในไม่ช้าพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของเจ้าจะประทานสิ่งที่จะขจัดความลำบากนั้น จงอดทนในยามทุกข์ทรมานและการทดสอบ จงสู้ความลำบากและความแร้นแค้นทุกอย่างด้วยหัวใจที่เบิกบาน ด้วยดวงจิตที่ถวิลหาและระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าด้วยวาจาที่จับใจ แท้จริงแล้วนี้คือชีวิตที่น่าพอใจ คือชีวิตที่แท้จริง คือสันติสุขของวิญญาณ คือพรจากพระผู้เป็นเจ้าและโต๊ะสวรรค์! ในไม่ช้าพระผู้เป็นนายของเจ้าจะบรรเทาความยากลำบากของเจ้าแม้ในโลกนี้

พระอับดุลบาฮา (DAL 93)

23 ธันวาคม

ความพอประมาณในทุกเรื่องเป็นที่พึงปรารถนาสิ่งใดที่เลยเถิดจะกลายเป็นบ่อเกิดของความชั่วร้าย จงพิจารณาดูอารยธรรมของประเทศตะวันตก อารยธรรมนั้นได้ทำให้ประชาชนบนพิภพวิตกและตื่นตระหนกอย่างไร เครื่องกลนรกถูกสร้างขึ้นมาและได้เป็นอาวุธทำลายล้างที่เหี้ยมโหดอย่างไม่มีใครเคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน การชำระล้างความวิปริตที่ท่วมท้นและฝังรากลึกดังกล่าวไม่สามารถบังเกิดผล นอกเสียจากว่าประชาชนทั้งหลายของโลกจะสามัคคีกันในจุดหมายเดียวกัน และยอมรับศาสนาสากลเดียวกัน จงเงี่ยหูฟังเสียงร้องเรียกของพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ และยึดมั่นในสันติภาพรอง

มีสิ่งที่ประหลาดและอัศจรรย์ดำรงอยู่ในพิภพแต่ซ่อนเร้นอยู่เหนือปัญญาและความเข้าใจของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนบรรยากาศทั้งหมดของโลกและทำให้ถึงตายได้หากสัมผัสกับมัน

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 69)

24 ธันวาคม

บัดนี้มาถึงคำถามของเจ้าเกี่ยวกับการสร้างมนุษย์ จงรู้ไว้ว่า มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาด้วยลักษณะที่ออกแบบไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอภิบาล พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง แต่ละคนได้รับการประสาทล่วงหน้าด้วยศักยภาพระดับหนึ่งตามที่ประกาศิตไว้ในธรรมจารึกอันยิ่งใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าอภิบาลไว้ อย่างไรก็ตามศักยภาพทั้งหมดที่เจ้ามีอยู่จะปรากฏออกมาได้ก็ด้วยเจตจำนงของเจ้าเองเท่านั้น การกระทำของเจ้าเองยืนยันสัจจะข้อนี้ ตัวอย่างเช่น จงพิจารณาดูสิ่งที่ห้ามไว้ในคัมภีร์บายัน ในคัมภีร์นั้นโองการของพระผู้เป็นเจ้าได้ประกาศิตให้สิ่งใดเป็นสิ่งที่ชอบธรรมก็ได้ตามที่พระองค์ปรารถนา และทรงห้ามสิ่งใดก็ได้ตามที่พระองค์ต้องการโดยอานุภาพแห่งอำนาจสูงสุดของพระองค์ พระธรรมในคัมภีร์นั้นยืนยันสิ่งนี้ เจ้าจะไม่เป็นพยานหรือ? อย่างไรก็ตามมนุษย์ได้จงใจฝ่าฝืนกฎของพระองค์ ความประพฤติเช่นนี้จะถือว่ามาจากพระผู้เป็นเจ้าหรือมาจากตัวมนุษย์เอง? จงลงความเห็นอย่างเที่ยงธรรม สิ่งที่ดีงามทุกอย่างมาจากพระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่ชั่วร้ายทุกอย่างมาจากตัวเจ้าเอง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 149)

25 ธันวาคม

การกระทำทุกอย่างที่เจ้าเพียงแต่คิดก็ชัดเจนสำหรับพระผู้เป็นเจ้าเสมือนว่าสิ่งนั้นได้ทำไปแล้ว ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ สรรพสิ่งทั้งปวงและจักรวรรดิของสรรพสิ่งเป็นของพระองค์ พระองค์เห็นทุกคนอย่างทะลุปรุโปร่ง ทุกคนถูกบันทึกไว้ในธรรมจารึกศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนเร้นของพระองค์ อย่างไรก็ตามการรู้ล่วงหน้านี้ของพระผู้เป็นเจ้าไม่ควรถือว่าเป็นเหตุของการกระทำของมนุษย์ ดังเช่นการที่เจ้ารู้มาก่อนว่าเหตุการณ์อย่างหนึ่งจะเกิดขึ้น หรือการที่เจ้าปรารถนาว่าสิ่งนั้นควรจะเกิดขึ้น ก็มิได้เป็นเหตุผลสำหรับการบังเกิดขึ้นของสิ่งนั้น

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 150)

26 ธันวาคม

พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์ทรงทราบความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์เป็นอย่างดี ความอดกลั้นอันยาวนานของพระองค์ทำให้มนุษย์ได้ใจ เพราะพระองค์จะฉีกม่านกำบังให้ขาดสะบั้นก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ความปรานีของพระองค์ได้รั้งความพิโรธของพระองค์มิให้ระเบิดออก และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวไม่ทราบสิ่งที่พวกเขาแอบทำ พระผู้เป็นผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงรับทราบทุกอย่างเป็นพยาน! การกระทำของมนุษย์ทุกคนสะท้อนอยู่ในกระจกแห่งความรู้ของพระองค์อย่างชัดเจน แม่นยำและถูกต้องโดยสมบูรณ์ ขอความสดุดีจงมีแด่พระองค์ข้าแต่พระผู้ปกปิดบาปของผู้ที่อ่อนแอและช่วยตัวเองไม่ได้! ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระนามของพระองค์ ข้าแต่พระผู้ทรงอภัยผู้ที่ไม่เอาใจใส่และกระทำบาปต่อพระองค์!

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 204)

27 ธันวาคม

จงพิจารณาดูพลังปัญญาที่พระผู้เป็นเจ้าประสาทไว้ในแก่นแท้ของมนุษย์ จงตรวจสอบตัวเจ้าเองและดูว่าการเคลื่อนไหวและความนิ่งของเจ้า ความประสงค์และเจตนาของเจ้า การเห็นและการได้ยิน ประสาทรับกลิ่นและการพูด และสิ่งใดก็ตามที่สัมพันธ์กับหรืออยู่เหนือประสาทสัมผัสหรือการรับรู้ทางจิตของเจ้า ล้วนกำเนิดมาจากและดำรงอยู่ได้โดยพลังปัญญาอย่างไร ประสาทเหล่านี้สัมพันธ์กับพลังปัญญาอย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างพลังปัญญาและร่างกายขาดจากกันเพียงชั่วพริบตาเดียว ประสาทสัมผัสทุกอย่างจะหยุดทำงานทันที และจะสิ้นพลังที่จะสำแดงหลักฐานของการปฏิบัติงานของตน เป็นที่ชัดเจนไร้ข้อกังขาว่า การปฏิบัติงานอย่างเหมาะสมของประสาทแต่ละอย่างที่กล่าวมานี้ขึ้นกับพลังปัญญา ซึ่งควรพิจารณาพลังนี้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของพระผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน นามและคุณลักษณะทั้งหมดเหล่านี้ปรากฏออกมาโดยอาศัยพลังปัญญา และจะถูกทำลายให้มลายสิ้นหากพลังปัญญาหยุดปฏิบัติการ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 164)

28 ธันวาคม

ไม่เป็นความจริงเลยหากจะยืนยันว่า พลังปัญญานี้เหมือนกับพลังการมองเห็น เพราะการมองเห็นได้รับพลังมาจากพลังปัญญาและปฏิบัติการโดยขึ้นกับพลังนี้ ทำนองเดียวกันย่อมเป็นสิ่งไร้สาระที่จะโต้แย้งว่าพลังปัญญาเป็นเหมือนกับประสาทการได้ยิน เพราะประสาทการได้ยินได้รับพลังงานที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติการจากพลังปัญญา

ความสัมพันธ์เดียวกันนี้ดำรงอยู่ระหว่างพลังปัญญาและประสาทใดก็ตามที่เป็นผู้รองรับนามและคุณลักษณะเหล่านี้ภายในตัวมนุษย์ นามต่างๆ และคุณลักษณะเหล่านี้ก่อกำเนิดมาจากปฏิบัติการของสัญลักษณ์นี้ ของพระผู้เป็นเจ้า แก่นแท้และภาวะของสัญลักษณ์นี้อยู่เหนือกว่านามและคุณลักษณะทั้งหมดดังกล่าวอย่างวัดไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งอื่นทั้งหมดเลือนหายไปโดยสิ้นเชิงและกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืมเมื่อเปรียบกับความรุ่งโรจน์ของสัญลักษณ์นี้

หากเจ้าตรึกตรองนับแต่บัดนี้ไปจนถึงอวสานที่ไม่มีจุดจบเกี่ยวกับแก่นแท้ที่เร้นลับและบัญญัติจากสวรรค์นี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ โดยใช้ความฉลาดและความเข้าใจที่ผู้มีปัญญาสูงสุดเคยบรรลุถึงในอดีตและจะบรรลุถึงในอนาคต เจ้าก็ไม่สามารถเข้าใจความลึกลับหรือประเมินคุณของสัญลักษณ์นี้ เมื่อยอมรับความไม่สามารถเข้าใจสัญลักษณ์ดังกล่าวที่อยู่ในตัวเจ้า เจ้าจะยอมรับความไร้ประโยชน์ที่เจ้าหรือผู้อื่นพยายามจะหยั่งรู้ความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นชีวิต ผู้เป็นดวงตะวันแห่งความรุ่งโรจน์อนันต์ เป็นพระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด การยอมรับความหมดหนทางนี้ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นในที่สุดเมื่อได้ทำสมาธิเป็นอย่างดีแล้ว คือ สุดยอดของปัญญาของมนุษย์ และบ่งบอกถึงสุดยอดของพัฒนาการของมนุษย์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 164-6)

29 ธันวาคม

เป็นที่ชัดเจนและประจักษ์ว่า เมื่อฉีกม่านที่ปกปิดสภาวะที่แท้จริงของพระนามและคุณลักษณะของพระผู้เป็นเจ้าและของทุกสรรพสิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม จะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่นอกจากสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่พระองค์ฝากไว้กับสิ่งเหล่านี้ สัญลักษณ์นี้จะคงอยู่ตราบนานเท่าที่ยังเป็นความปรารถนาของพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งสวรรค์และโลก หากพระพรดังกล่าวประทานให้แก่ทุกสรรพสิ่ง โชคชะตาของผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริงซึ่งการดำรงอยู่และชีวิตของเขาได้รับการพิจารณาว่าเป็นจุดประสงค์ที่สรรพสิ่งทั้งปวงกำเนิดมา จะล้ำเลิศกว่าเพียงไร ดังเช่นความศรัทธาที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่มาตั้งแต่เริ่มต้นที่ไม่มีจุดเริ่มต้น และจะคงอยู่ต่อไปจนถึงอวสานที่ไม่มีจุดจบ ทำนองเดียวกันผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปชั่วนิรันดร์ วิญญาณของเขาจะรายล้อมพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดกาล เขาจะคงอยู่ตราบนานเท่าที่พระผู้เป็นเจ้ายังอยู่ จะปรากฏออกมาเมื่อพระผู้เป็นเจ้าสำแดงองค์ และจะซ่อนเร้นตามบัญชาของพระองค์ เป็นที่ประจักษ์ว่าคฤหาสถ์ที่สูงส่งที่สุดในอาณาจักรอมตะ ถูกกำหนดให้เป็นที่อาศัยของบรรดาผู้ที่เชื่อพระผู้เป็นเจ้าและสัญลักษณ์ของพระองค์อย่างแท้จริง ความตายไม่เคยบุกรุกคฤหาสถ์อันวิสุทธิ์นี้ ดังนี้เราได้มอบหมายสัญลักษณ์ทั้งหลายของพระผู้เป็นนายไว้กับเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะพากเพียรอยู่ในความรักที่มีต่อพระองค์และเป็นพวกที่เข้าใจในสัจธรรมนี้

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 140-1)

30 ธันวาคม

งานฉลองบุญ เกียรติ

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

ดังนั้นงานฉลองบุญนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าควรดูแลเอาใจใส่งานนี้ให้ดีที่สุด และทำให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าของงานนี้ เพื่อว่างานนี้จะอยู่บนรากฐานที่มั่นคงถาวร ขอให้ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้าชุมนุมและสมาคมกันอย่างมีความสุขในบรรยากาศของความรักที่ประเทืองจิตใจ ประพฤติตนด้วยมารยาทและความสำรวมอย่างยิ่ง ขอให้พวกเขาอ่านวจนะศักดิ์สิทธิ์ บทความที่มีประโยชน์ และจดหมายของพระอับดุลบาฮา ให้กำลังใจและบันดาลใจกันและกันให้มีความรักต่อทุกคน สวดบทอธิษฐานด้วยใจที่สงบและเบิกบาน พูดด้วยวาจาที่จับใจ และสดุดีพระผู้เป็นนายผู้ไม่มีเปรียบปาน

เจ้าภาพต้องมีน้ำใจต่อทุกคนโดยไม่นึกถึงตนเอง ต้องคอยให้ความสะดวกสบายแก่ทุกคน และเสิร์ฟมิตรสหายด้วยมือของตนเอง

หากงานฉลองบุญจัดได้อย่างเหมาะสมตามลักษณะที่กล่าวมานี้ อาหารค่ำมื้อนั้นจะเป็นอาหารค่ำของพระผู้เป็นนายอย่างแท้จริง เพราะประโยชน์และอิทธิพลที่เกิดขึ้นมาจากอาหารค่ำของพระผู้เป็นนายนั่นเอง

พระอับดุลบาฮา (NDF no. 2)

31 ธันวาคม

ดูกร ประชาชน! เสื้อผ้าที่ดีงามที่สุดในสายตาของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้คือความไว้วางใจได้ พระพรและเกียรติทั้งปวงคือวาสนาของดวงวิญญาณที่สวมอาภรณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้

ดูกร สหายของพระผู้เป็นเจ้า เราขอแนะนำให้เจ้าประพฤติตนให้เป็นที่ไว้วางใจได้ที่สุดในการทำธุรกิจกับคนรับใช้และประชาชนของเรา ความไว้วางใจได้จะช่วยส่งเสริมศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าไปทั่วโลก และความบริสุทธิ์อันประเสริฐของความไว้วางใจได้นี้จะประจักษ์แจ้งต่อทุกสรรพสิ่ง จงเป็นคลังแห่งความไว้วางใจได้สำหรับมวลมนุษย์ ดังนี้เราได้บัญชาพวกเขาไว้ในธรรมจารึก แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าคือพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรง อัจฉริยภาพ

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 2014, 2043)

มกราคม

1 มกราคม

เนื่องด้วยการดำเนินงานของสมาคมของเจ้าให้เป็นระเบียบขึ้นกับความอุทิศ ความซื่อตรง จิตใจที่เที่ยงธรรมและเจตนาที่บริสุทธิ์ที่สหายของพระผู้เป็นเจ้าแสดงออกในการบริหารกิจการของสมาคมของพวกเขาควรแสดงความบริสุทธิ์ ความประเสริฐ ความมองการณ์ไกล เพื่อว่าพวกเขาจะได้เป็นแบบอย่างสำหรับสังคมอื่น และตัวอย่างของพวกเขาจะอบรมประชาชนทั้งปวงให้มีศีลธรรมและรู้แจ้ง ด้วยวิธีนี้บาไฮจะเป็นที่รู้จักสำหรับทุกคนว่าเป็นผู้ที่สุจริตและพึ่งพาได้ มีคุณธรรมและรู้แจ้ง บริสุทธิ์และขัดเกลามาดี เป็นผู้ที่มีอุตสาหะและมีวินัยสูง มีจิตใจอิสระและเป็นผู้ส่งเสริมอิสรภาพ ผู้ซึ่งห่วงใยที่จะส่งเสริมประโยชน์ของส่วนรวมมิใช่ประโยชน์ส่วนตน มีจุดหมายที่จะส่งเสริมความผาสุกและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชน มิใช่บำรุงความผาสุกของตนเอง

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2060)

2 มกราคม

เกณฑ์ของเจ้าควรเป็นการดำเนินกิจกรรมด้านพาณิชย์ด้วยความเที่ยงธรรมให้เป็นเหตุแห่งการนำทางสำหรับผู้อื่น สหายของพระผู้เป็นเจ้าควรนำทางประชาชนมาสู่หนทางของพระองค์โดยอาศัยวิธีทางธุรกิจของตน และทำให้พวกเขาแปลกใจจนร้องอุทานว่า: ?วาจาสัตย์ของพวกเขาช่างยิ่งใหญ่เพียงไร ความไว้วางใจได้ของพวกเขาช่างสูงส่งเพียงไร และความหวังดีของพวกเขาช่างจริงใจเพียงไร!?

บริษัทธุรกิจทุกบริษัทควรตั้งอยู่บนหลักการของพระผู้เป็นเจ้า รากฐานของบริษัทควรเป็นความไว้วางใจได้ มีศีลธรรมและวาจาสัตย์ เพื่อจะคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชน

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2061, 2062)

3 มกราคม

ดูกร ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์! จงเจริญรอยตามผู้ที่มีวาจาสัตย์และชอบธรรม เพื่อว่าโดยวาจาสัตย์นี้ เจ้าจะได้ครอบครองบัลลังก์แห่งสัจธรรม และโดยความชอบธรรม เจ้าจะได้บรรลุถึงเกียรติอนันต์ หากนำบาปทุกอย่างมาชั่งรวมกันบนคันชั่ง น้ำหนักของการโกหกอย่างเดียวจะถ่วงอีกข้างให้สมดุลได้ ไม่เพียงเท่านั้น จะหนักกว่าเสียอีกและภัยของการโกหกนั้นร้ายแรงกว่า หากเจ้าพูดหมิ่นประมาทศาสนาแต่พูดด้วยความสัตย์จริง ยังดีเสียกว่าปฏิญาณความศรัทธาด้วยคำพูดมุสา วาทะที่ชัดเจนเหล่านี้ให้ไว้สำหรับเป็นการตักเตือนประชาชนทั้งหลายของโลก จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่คำแนะนำนี้ตรัสต่อมวลมนุษยชาติผ่านทางเจ้า

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2054)

4 ธันวาคม

เกี่ยวกับการทวงหนี้ที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เป็นที่กระจ่างชัดว่าใครก็ตามที่สามารถชำระหนี้ของตนแต่กลับละเลยไม่ยอมชำระ เขามิได้ปฏิบัติตนให้เป็นที่ยินดีของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ผู้ที่ก่อหนี้ควรพยายามชำระหนี้ด้วยความหมั่นเพียรและอุตสาหะ บัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับความไว้วางใจได้ ความซื่อตรงและการเคารพสิทธิ์ บันทึกไว้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งในคัมภีร์ ธรรมจารึกและธรรมลิขิตทุกเล่ม ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ความไร้สาระในโลกที่ไม่จีรังมิได้พรากเขาจากเครื่องประดับที่ยั่งยืน ความโลภและความลืมสติมิได้ปิดกั้นเขาจากแสงสว่างของดวงตะวันแห่งความไว้วางใจได้ อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้ขึ้นกับความสามารถ เพราะการจะเรียกร้องจากใครขึ้นอยู่กับว่าเขาสามารถทำตามที่เรียกร้องหรือไม่ พระผู้เป็นนายแห่งคัมภีร์เป็นพยาน การเรียกร้องไม่เป็นที่อนุญาตหากผู้นั้นไม่สามารถทำได้ ซึ่งยืนยันโดยวจนะนี้: ?จงเลื่อนเวลาให้ลูกหนี้จนกว่าเขาจะมีหนทาง ชำระหนี้?

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2047)

5 มกราคม

ในสุริยจักรวาลของเรา ศูนย์กลางของแสงสว่างคือดวงอาทิตย์ โดยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ดวงอาทิตย์นี้คือบ่อเกิดของชีวิตและพัฒนาการของทุกสิ่ง…หากปราศจากพลังกระตุ้นนี้ พืชผักย่อมไม่เติบโต สัตว์และมนุษย์ย่อมมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ที่จริงแล้วจะไม่มีชีวิตใดปรากฏขึ้นในโลก…

ทำนองเดียวกันในอาณาจักรแห่งวิญญาณ สติปัญญาและอุดมคติ จะต้องมีศูนย์กลางของแสงสว่างและศูนย์กลางนั้นคือพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นดวงตะวันที่ส่องแสงนิรันดร์…ดวงอาทิตย์แห่งธรรมนี้ ศูนย์กลางแห่งแสงสว่างนี้ คือพระศาสดาหรือพระผู้แสดงธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ?ดังเช่นดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงมายังโลกเป็นการให้กำเนิดชีวิตและการเติบโต ทำนองเดียวกัน ดวงอาทิตย์แห่งธรรมและวิญญาณส่องแสงให้กับความคิดและสติปัญญาของมนุษย์ และนอกเสียจากดวงอาทิตย์นี้จะรุ่งขึ้นมาบนขอบฟ้าของชีวิตมนุษย์ มนุษย์ย่อมมืดมนและดับสูญ

พระอับดุลบาฮา (BWF 254-5)

6 มกราคม

ดังที่พิภพดึงดูดทุกสิ่งเข้าหาใจกลางของโลก และวัตถุทุกชิ้นนี้ที่โยนขึ้นไปในอากาศจะตกลงมา เช่นเดียวกัน ความคิดทางโลกีย์ดึงดูดมนุษย์เข้าหาใจกลางของอัตตา ความโกรธ กิเลส ความเขลา อคติ ความโลภ ความริษยา ความอยากได้ของผู้อื่น ความอิจฉาและความสงสัย ยับยั้งมนุษย์มิให้ขึ้นไปสู่อาณาจักรแห่งความวิสุทธิ์จองจำมนุษย์ไว้ในอุ้งเล็บของอัตตาและกรงแห่งอหังการ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากอานุภาพสวรรค์ มนุษย์ที่พยายามจะหนีจากหนึ่งในศัตรูที่มองไม่เห็นเหล่านี้ ก็จะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูอีกตัวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ทันใดที่มนุษย์พยายามจะเหินขึ้นไป ความรักตัวเองอย่างหนาแน่นซึ่งเป็นเสมือนแรงดึงดูดของโลก ก็ดึงดูดเขาเข้าหาใจกลางของพิภพ อานุภาพเดียวเท่านั้นที่สามารถปลดเปลื้องมนุษย์จากการจองจำนี้คือ อานุภาพของลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระอับดุลบาฮา (BR Jan. 6)

7 มกราคม

จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า พระผู้ที่ไม่มีใครมองเห็นได้อาจแสดงสาระของพระองค์ให้ปรากฏต่อมนุษย์ พระองค์ทรงความประเสริฐเหนือกว่าทุกสิ่งที่สามารถอธิบายหรือรับรู้ได้ สุรเสียงของพระองค์ประกาศจากที่พักผ่อนแห่งความรุ่งโรจน์อยู่เสมอว่า: ?แท้จริงแล้วเราคือพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากเรา พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ เราได้สำแดงองค์ต่อมนุษย์และได้ส่งพระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งสัญลักษณ์ของการเปิดเผยพระธรรมของเรามา โดยพระองค์เราได้บันดาลให้ทุกสรรพสิ่งยืนยันว่า ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระผู้ไม่มีเปรียบปาน พระผู้ทรงรับทราบทุกอย่าง พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ? ??พระผู้ทรงซ่อนเร้นจากสายตาของมนุษย์ชั่วนิรันดร์ไม่มีวันเป็นที่รู้ได้นอกจากผ่านทางพระศาสดาของพระองค์ และพระศาสดาของพระองค์ไม่มีข้อพิสูจน์ในสัจธรรมของฐานะของพระองค์ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าตัวพระองค์เอง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 49)

8 มกราคม

ประตูไปสู่การรู้จักพระผู้ดำรงอยู่มาแต่โบราณกาลปิดต่อมวลมนุษย์เสมอมาและจะปิดตลอดไป ความเข้าใจของมนุษย์ไม่มีวันเข้าถึงราชสำนักอันวิสุทธิ์ของพระองค์ อย่างไรก็ตามพระองค์ได้สำแดงดวงตะวันแห่งการนำทาง ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพสวรรค์ของพระองค์ ให้ปรากฏต่อมนุษย์ ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรานีและข้อพิสูจน์ถึงความเมตตารักใคร่ของพระองค์ และทรงบัญญัติให้การรู้จักพระศาสดาผู้วิสุทธิ์เหล่านี้เป็นเหมือนกับการรู้จักพระองค์เอง ใครที่ยอมรับพระศาสดาเท่ากับยอมรับพระผู้เป็นเจ้า ใครที่เงี่ยหูฟังเสียงร้องเรียกของพระศาสดาเท่ากับเงี่ยหูฟังสุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้า ใครที่ยืนยันสัจจะของการเปิดเผยพระธรรมของพระศาสดาเท่ากับยืนยันสัจจะของพระผู้เป็นเจ้า ใครที่เมินพระศาสดาเท่ากับเมินพระผู้เป็นเจ้า ใครที่ไม่เชื่อฟังพระศาสดาเท่ากับไม่เชื่อพระผู้เป็นเจ้า พระศาสดาทุกพระองค์คือหนทางของพระผู้เป็นเจ้าที่เชื่อมโยงโลกนี้กับอาณาจักรเบื้องบน คือธงแห่งสัจธรรมของพระองค์สำหรับทุกคนในอาณาจักรสวรรค์และโลก คือการสำแดงองค์ของพระผู้เป็นเจ้าต่อมนุษย์ คือหลักฐานของสัจธรรมของพระองค์ และคือสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 49-50)

9 มกราคม

ดูกร ภราดร! ไม่ใช่ทุกทะเลที่จะมีไข่มุก ไม่ใช่ทุกกิ่งที่จะออกดอกหรือมีนกไนติงเกลมาขับขาน ดังนั้นก่อนที่นกไนติงเกลแห่งสวรรค์อันลึกลับจะบินกลับไปยังอุทยานของพระผู้เป็นเจ้า และรังสีอุษาจะกลับคืนไปสู่ดวงอาทิตย์แห่งธรรม จงพยายาม เพื่อว่าบนกองธุลีของโลกนี้ เจ้าจะได้สูดสุคนธรสจากอุทยานอนันต์ และอาศัยอยู่ชั่วนิรันดร์ในร่มเงาของประชาชนแห่งเมืองนี้ เมื่อเจ้าบรรลุถึงสถานะสูงสุดและสภาวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ เมื่อนั้นเจ้าจะได้พิศดูพระผู้เป็นที่รักยิ่ง แล้วลืมทุกสิ่ง

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 38)

10 มกราคม

การนำทางวิญญาณหนึ่งดวงดีกว่าการครอบครองทุกสิ่งที่อยู่ในโลก เพราะตราบใดที่วิญญาณดวงนั้นอยู่ภายใต้ร่มเงาของพฤกษาแห่งเอกภาพสวรรค์ ทั้งเขาและผู้ที่นำทางให้เขาจะเป็นผู้รับความเมตตาปรานีของพระผู้เป็นเจ้า ในขณะที่การครอบครองสิ่งต่างๆ ในโลกจะสิ้นสุดลงเมื่อเวลาตาย วิถีของการนำทางคือความรักและความเห็นอกเห็นใจ มิใช่การใช้กำลังหรือการบังคับ นี่คือวิธีของพระผู้เป็นเจ้าที่เป็นมาในอดีตและจะเป็นต่อไปในอนาคต! พระองค์ทรงบันดาลให้ผู้ใดก็ได้เข้ามาในร่มเงาแห่งความปรานีตามที่พระองค์ปรารถนา แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงคุ้มครองสูงสุด พระผู้ทรงเอื้อเฟื้อ

พระบ๊อบ (SWB 77)

11 มกราคม

หากเจ้าปรารถนาจะนำทางดวงวิญญาณทั้งหลายเป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะมั่นคง เป็นคนดี มีคุณธรรมและคุณสมบัติที่น่าสรรเสริญ จงเป็นเครื่องหมายของความรัก เป็นสัญลักษณ์แห่งความปรานี เป็นบ่อเกิดของความเอ็นดู มีหัวใจที่เมตตา ดีต่อทุกคนและสุภาพต่อคนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความสัมพันธ์กับเจ้าทั้งชายและหญิง จงทนทุกข์ทรมานทุกอย่างที่ประชาชนก่อกับเจ้า และอย่าเผชิญหน้าพวกเขานอกจากด้วยความเมตตา ความรักและปรารถนาดี

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1915)

12 มกราคม

โดยข้อพิสูจน์ที่แย้งไม่ได้ที่กล่าวมา บัดนี้เป็นที่ยอมรับแล้วว่า ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าต้องเผยแผ่ไปโดยอาศัยความสมบูรณ์เลิศของมนุษย์ โดยคุณสมบัติที่ล้ำเลิศและน่ายินดี และความประพฤติที่มีธรรม หากวิญญาณดวงหนึ่งเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าด้วยความสมัครใจ เขาจะเป็นที่ยอมรับ ณ ธรณีประตูแห่งความเป็นหนึ่ง เพราะเขาหลุดพ้นจากความคำนึงถึงตัวเอง ความโลภและความเห็นแก่ตัว และได้มาพักพิงในความคุ้มครองของพระผู้เป็นนายของเขา เขาจะเป็นที่รู้จักในหมู่มนุษย์ว่าไว้วางใจได้และมีวาจาสัตย์ รู้จักควบคุมตัวเองและละอายต่อบาป มีจิตใจสูงและจงรักภักดี ไม่ถูกชักจูงด้วยความทุจริตและกลัวพระผู้เป็นเจ้า ด้วยวิธีนี้จุดประสงค์เบื้องต้นของการเปิดเผยกฎของพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือ เพื่อนำมาซึ่งความสุขในชีวิตหน้า ก่อให้เกิดอารยธรรมและขัดเกลาอุปนิสัยใจคอ จะกลายเป็นความจริง สำหรับดาบนั้น จะทำให้มนุษย์เป็นศาสนิกชนเพียงแต่ภายนอก แต่ในใจแล้วเขาเป็นผู้ทรยศและตีจากศาสนา

พระอับดุลบาฮา (SDC 46)

13 มกราคม

ดูกร คนรับใช้ จงมีความชอบธรรมในการกระทำของเจ้า! อย่าเมินผู้ที่หมดหนทาง จงกล่าวถึงเราท่ามกลางผู้ยิ่งใหญ่และอย่าได้กลัว

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 1846)

เราหวังว่าเจ้าจะ…พยายามสอนบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสูงและมีอิทธิพล เพราะหัวใจของประชาชนถวิลหาศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และจิตใจของพวกเขาหลงใหลในความโอฬารอันน่าพรั่นพรึงของศาสนาด้วยความสับสน บรรดาผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงก็มีจิตใจที่พร้อมจะรับพระธรรมเช่นเดียวกัน ดังนั้นบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าควรมุ่งมั่นพยายามนำทางดวงวิญญาณที่มีชื่อเสียงมาสู่ศาสนา

เจ้าควรให้ความสนใจอย่างจริงจังในเรื่องการสอนและคิดหาหนทางที่จะมอบพระธรรมให้แก่บุคคลสำคัญ เพราะเมื่อบุคคลดังกล่าวมอบความจงรักภักดีให้แก่ศาสนา พวกเขาจะนำพาประชาชนมาสู่แหล่งกำเนิดแห่งการนำทางที่ไม่รู้สิ้น

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1821, 1824)

14 มกราคม

พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขอความประเสริฐจงมีแด่พระองค์ ทรงใคร่จะเห็นบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์สร้างผลงานหัตถกรรมชั้นสูง พระพรจงมีแต่เจ้า เพราะสิ่งที่เจ้าผลิตด้วยความชำนาญได้มาถึงพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ถูกเนรเทศ พระผู้ถูกประทุษร้าย พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้มิตรสหายทุกคนของพระองค์ได้รับการช่วยเหลือให้มีความสามารถในงานฝีมือแขนงหนึ่ง และยึดถือสิ่งที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 4)

บัญญัติของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร ขอให้ชีวิตของเราเป็นพลี ณ ธรณีประตูของพระองค์ คือ ใครก็ตามที่ประกอบงานฝีมือชนิดใด ควรพยายามพัฒนาฝีมือให้ยอดเยี่ยมที่สุด พวกเขาทำดังนี้ งานฝีมือนั้นคือรูปแบบหนึ่งของการบูชา

พระอับดุลบาฮา (COC no. 15)

15 มกราคม

ในศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะประกอบการค้าและอาชีพ ตัวอย่างเช่นเรารู้วิธีการถักหรือทอเสื่อ และเจ้ารู้วิธีทำการค้าบางอย่าง การกระทำเช่นนี้คือการบูชา แต่มีเงื่อนไขว่าต้องทำด้วยความสุจริตและซื่อสัตย์ที่สุด

และนี่คือเหตุแห่งความเจริญรุ่งเรือง ถึงแม้ว่าจะหมกมุ่นอยู่กับอาชีพ หากหัวใจมิได้ถูกล่ามหรือผูกติดอยู่กับโลกนี้ ไม่วิตกกังวลเพราะเหตุการณ์ที่เป็นไปในปัจจุบันไม่ถูกความมั่งคั่งขัดขวางมิให้รับใช้มนุษยชาติ และไม่เศร้าโศกเพราะความยากจน นั่นคือความสมบูรณ์เลิศของมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (COC no. 16)

16 มกราคม

ดังนั้นควรกำหนดกฎหมายและข้อบังคับที่ให้คนงานได้รับค่าแรงและส่วนแบ่งหนึ่งในสี่หรือหนึ่งในห้าของกำไรจากเจ้าของโรงงานตามความสามารถของโรงงานนั้น หรือคณะคนงานและบริษัทควรแบ่งกำไรและผลประโยชน์กันด้วยวิธีที่ยุติธรรม แท้จริงแล้วเงินทุนและการบริหารมาจากเจ้าของโรงงาน ส่วนงานและแรงงานมาจากคณะคนงาน คนงานควรได้รับค่าแรงที่จะรับประกันว่าพวกเขาจะมีสิ่งยังชีพที่เพียงพอ และเมื่อพวกเขาหยุดทำงานเพราะอ่อนแอลงและช่วยตัวเองไม่ได้ พวกเขาควรได้รับสวัสดิการที่เพียงพอจากรายได้ของอุตสาหกรรม หรือไม่ก็ค่าแรงควรสูงพอสำหรับคนงาน เพื่อว่าพวกเขาจะสามารถเก็บออมได้ทีละน้อยไว้ใช้ในยามคับขัน

เมื่อกำหนดเงื่อนไขได้ดังนี้ เจ้าของโรงงานจะไม่สะสมทรัพย์สมบัติรายวันที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับเขาเลย (เพราะหากทรัพย์สมบัติไม่ได้สัดส่วน นายทุนย่อมแบกภาระอันหนักหน่วงและตกอยู่ในความลำบากและความยุ่งยากที่สุด การบริหารทรัพย์สมบัติที่มากเกินเป็นเรื่องที่ยากมากและบั่นทอนกำลังของมนุษย์) และคนงานและช่างฝีมือจะไม่ตกอยู่ในความทุกข์ยากและขัดสนอย่างแสนสาหัสอีกต่อไป พวกเขาจะไม่ต้องทนความขาดแคลนอย่างเลวร้ายที่สุดในบั้นปลายของชีวิต

…นายทุนควรพอประมาณในการเก็บกำไรและคำนึงถึงความผาสุกของผู้ยากไร้และขัดสน กล่าวคือ คนงานและช่างฝีมือควรได้รับค่าแรงรายวันตายตัว และได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรของโรงงานด้วย

พระอับดุลบาฮา (SAQ 274-5)

17 มกราคม

จงเป็นประชาชนแห่งไฟนรก

แต่อย่าเป็นคนเสแสร้ง

จงเป็นผู้ที่ไม่เชื่อ

แต่อย่าเป็นผู้วางอุบาย

จงอาศัยอยู่ในโรงเหล้า

แต่อย่าเจริญรอยตามผู้ที่ชอบยุแหย่

จงกลัวพระผู้เป็นเจ้า

แต่อย่ากลัวพระ

จงให้ศีรษะของเจ้าแก่เพชรฆาต

แต่อย่าให้หัวใจ

จงอาศัยอยู่ใต้ก้อนหิน

แต่อย่าแสวงหานักบวชเป็นที่กำบัง

ดังนี้ที่หญ้าอันวิสุทธิ์เปล่งทำนองและนกไนติงเกลสวรรค์ขับขานเสียงเพลง เพื่อว่าพระองค์จะซึมซาบชีวิตนิรันดร์ให้แก่ร่างกายที่ไม่ยั่งยืนของมนุษย์ และอาบวิหารแห่งธุลีด้วยสาระของพระวิญญาณบริสุทธิ์และแสงธรรม และนำพาโลกที่ไม่จีรังมายังอาณาจักรอนันต์ด้วยอานุภาพของวจนะเดียว

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 2050)

18 มกราคม

งานฉลองบุญ อำนาจปกครอง

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

หลังจากที่มนุษย์ยอมรับพระผู้เป็นเจ้าและมั่นคงในศาสนาของพระองค์ สถานะของความรัก ความปรองดอง ความกลมเกลียวและความสามัคคี อยู่เหนือกว่าสถานะของการกระทำดีอื่นๆ เกือบทุกอย่าง

พระบาฮาอุลลาห์ (COV 13 Jan)

ดังนั้นมิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าต้องลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันดวงจิตแห่งความสามัคคีอันวิสุทธิ์ จนกลายเป็นประหนึ่งชีวิตเดียวกันและวิญญาณเดียวกัน ในภาวะเช่นนี้ร่างกายไม่มีบทบาทเพราะวิญญาณคือผู้ที่ปกครอง และเมื่ออานุภาพของวิญญาณล้อมรอบทุกคนจะบังเกิดความสามัคคีทางวิญญาณ ทั้งกลางวันและกลางคืนจงพยายามปลูกฝังความสามัคคีของเจ้าให้ถึงระดับสูงสุด ขอให้เจ้าครุ่นคิดถึงการพัฒนาวิญญาณของเจ้าเอง และปิดตาต่อข้อบกพร่องของวิญญาณดวงอื่น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 203)

19 มกราคม

จงพิจารณาความศรัทธาเป็นเสมือนต้นไม้ ซึ่งผลไม้ ใบ กิ่งและก้าน คือความไว้วางใจได้ วาจาสัตย์ ความซื่อตรงและความอดกลั้น

พระบาฮาอุลลาห์ (COC no. 2014)

เจ้าเขียนมาเกี่ยวกับปัญหาที่ว่า มิตรสหายควรปฏิบัติต่อกันและกันอย่างไรในการทำธุรกิจ นี้คือปัญหาที่มีความสำคัญที่สุด และเป็นเรื่องที่ควรสนใจอย่างจริงจัง ในความสัมพันธ์เช่นนี้ มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าควรปฏิบัติด้วยความไว้วางใจได้และความซื่อตรงที่สุด การละเลยในเรื่องนี้เท่ากับเมินคำแนะนำของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพรและศีลที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า หากในบ้านของตนเองมนุษย์มิได้ปฏิบัติต่อญาติและมิตรสหายด้วยความไว้วางใจได้และความซื่อตรงโดยสมบูรณ์ การทำธุรกิจของเขาในโลกภายนอกจะไร้ผลและไม่งอกเงย ไม่ว่าเขาจะทำด้วยความไว้วางใจได้และความสุจริตเพียงไร ประการแรกคนเราต้องดูแลกิจการในบ้านให้เป็นระเบียบ จากนั้นจึงดูแลธุรกิจของตนที่ทำต่อสาธารณชน คนเราไม่ควรโต้เถียงว่า มิตรสหายไม่จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่มากนักหรือไม่จำเป็นที่พวกเขาจะให้ความสำคัญมากนักในเรื่องความไว้วางใจได้ในการทำธุรกิจต่อกันและกัน แต่อยู่ที่ความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่จำเป็นต้องประพฤติอย่างถูกต้อง การพูดเช่นนี้เป็นความฟุ้งซ่านที่สุดและจะนำไปสู่อันตรายและการสูญเสีย พระพรจงมีแด่วิญญาณที่เรืองแสงแห่งความไว้วางใจได้ในหมู่ประชาชน และเป็นเครื่องหมายแห่งความสมบูรณ์เลิศท่ามกลางมวลมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2059)

20 มกราคม

หากมิตรสหายคนใดเข้ารับราชการ พวกเขาควรให้อาชีพของตนเป็นหนทางนำไปสู่ธรณีประตูสวรรค์ พวกเขาควรปฏิบัติด้วยความซื่อตรง หนีห่างจากสินบนและความทุจริตทุกรูปแบบโดยเด็ดขาด พอใจกับเงินเดือนที่ได้รับ และภาคภูมิใจในการทำงานด้วยความสุขุม ประสิทธิภาพและวิจารณญาณ หากผู้ใดพอใจกับขนมปังก้อนเดียวและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมและจิตใจที่เที่ยงธรรมให้ดีที่สุด เขาจะเป็นเจ้าชายของมนุษย์และเป็นผู้ที่น่าสรรเสริญที่สุด เขาจะปฏิเสธและมีชื่อเสียงแม้ว่าจะกระเป๋าแห้ง! เขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ล้ำเลิศกว่าใครๆ ในหมู่คนที่อิสระแม้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะเก่าและสึกหรอ! ความรุ่งเรืองของมนุษย์อยู่ที่คุณสมบัติที่ประเสริฐและมีธรรม เกียรติและความเป็นเอกของเขาอยู่ที่การอยู่ใกล้กับธรณีประตูสวรรค์ ในทางตรงกันข้ามความมั่งคั่งของโลกคือมายา บรรดาผู้ที่ปรารถนาความมั่งคั่งทางโลกคือผู้ที่ฝักใฝ่ความชั่วร้าย และในไม่ช้าพวกเขาจะจมลงไปในความสับสนและสิ้นหวัง การเป็นเช่นนี้หรือการประพฤติตนด้วยความอุทิศและเจตนาที่บริสุทธิ์และเด่นในด้านความซื่อตรงและความสุจริต อะไรคือสิ่งที่ดีกว่าสำหรับมนุษย์?

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2068)

21 มกราคม

มนุษย์คือผู้ที่โง่เขลาเบาปัญญาเพียงไร มีลักษณะที่สามานย์เพียงไร และดินที่กอปรเป็นตัวของเขาช่างต่ำช้าเพียงไร หากเขาทำให้ตนเองเปื้อนมลทินของสินบนการทุจริตและไม่ซื่อสัตย์ต่อรัฐ! ความจริงแล้วพยาธิในดินยังน่าโปรดปรานกว่ามนุษย์เช่นนี้!

บรรดาผู้ที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐควรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ยึดมั่นอย่างแท้จริง ด้วยความซื่อตรงและจิตใจที่เป็นอิสระ ด้วยความอุทิศอย่างสมบูรณ์และเจตนาที่บริสุทธิ์ ด้วยพอใจกับเงินเดือนที่ตนได้รับพวกเขาควรดูว่า อุปนิสัยใจคอของตนมิได้เปื้อนสินบนและการฉ้อโกง หากมิตรสหายคนใดในยุคนี้ยักยอกแม้เพียงเพนนีเดียว เสื้อคลุมของพระผู้เป็นเจ้าจะด่างพร้อยด้วยการกระทำของเขา และความอับอายนี้จะโยงมาถึงทั้งชุมชน สวรรค์ทรงห้าม! ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลและประชาชนควรมาฝากความไว้วางใจกับบาไฮ และปรารถนาจะมอบกิจการทั้งหมดของรัฐในทุกมณฑลไว้ในมือที่บริสุทธิ์ของบรรดาผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2073, 2070)

22 มกราคม

ความตายที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อผู้นั้นตายจากตนเองในเวลาเปิดเผยพระธรรมของพระองค์ จนเขาไม่แสวงหาสิ่งใดนอกจากพระองค์

การฟื้นคืนชีพที่แท้จริงจากหลุมศพหมายความว่าได้รับการกระตุ้นด้วยอานุภาพของวาทะตรงตามพระประสงค์ของพระองค์

สวรรค์ คือ การได้เป็นที่ยินดีของพระองค์ และไฟนรกที่ไม่รู้ดับคือการพิพากษาด้วยความยุติธรรมของพระองค์

ยุคที่พระองค์เปิดเผย คือ ยุคแห่งการฟื้นคืนชีพซึ่งจะยืนนานเท่าที่พระองค์กำหนด

ทุกสิ่งเป็นของพระองค์และออกแบบโดยพระองค์ ทุกสิ่งนอกจากพระองค์ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 157-8)

23 มกราคม

จงวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยให้เจ้ามั่นคงในวิถีของพระองค์ และนำทางประชาชนทั้งหลายของโลกไปยังพระผู้เป็นผู้ปกครองสูงสุดที่แท้จริง พระผู้ปรากฏองค์ด้วยภูษาที่เด่นชัด พระผู้เปล่งวาทะแสดงธรรมจากสวรรค์ นี้คือแก่นแท้ของความศรัทธาและความมั่นใจ บรรดาผู้ที่บูชาเทพเจ้าในจินตนาการของตนแล้วเรียกสิ่งนั้นว่าสัจธรรม ความจริงแล้วคือผู้ที่ได้รับการนับว่าเป็นพวกไม่มีศาสนา พระผู้ทรงปรานีเป็นพยานต่อสิ่งนี้ในธรรมจารึกของพระองค์ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 338)

24 มกราคม

ความลับของปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมดอยู่ที่ธรรมและเกี่ยวพันกับหัวใจและวิญญาณ สิ่งนี้ได้รับการอธิบายไว้อย่างสมบูรณ์ในคำสอนบาไฮ และถ้าไม่เอาใจใส่คำสอนบาไฮ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงภาวะเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

ปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมดแก้ไขได้โดยการใช้ศาสตร์แห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า

กฎที่ว่าผู้ที่เข้มแข็งที่สุดคือผู้ที่อยู่รอด คือ ที่มาของความยากลำบากทั้งปวง คือเหตุของสงครามและการทะเลาะวิวาท ความเกลียดชังและเป็นปรปักษ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (BPE 13, 70)

25 มกราคม

ปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจต้องเริ่มต้นที่ชาวนา และจากนั้นขยายไปถึงชนชั้นอื่นๆ เนื่องด้วยชาวนามีจำนวนมากกว่าชนชั้นอื่นทั้งหมด มากกว่าหลายเท่านัก ดังนั้นควรเริ่มต้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชาวนา เพราะชาวนา คือบุคคลแรกที่ให้ผลผลิตในหมู่ประชากรของรัฐ กล่าวโดยย่อ ในทุกหมู่บ้านควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ชาญฉลาด และกิจการของหมู่บ้านนั้นควรอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการนี้

การแก้ปัญหาเริ่มต้นที่หมู่บ้าน และเมื่อหมู่บ้านได้รับการปฏิสังขรณ์ เมืองก็จะได้รับการปฏิสังขรณ์ด้วย ความหมายคือ ในทุกหมู่บ้านจะมีการสร้างคลัง ซึ่งในภาษาศาสนาเรียกว่าสำนักการคลัง นี้คือคลังสากลที่เริ่มต้นในหมู่บ้าน การบริหารคลังนี้อาศัยคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ชาญฉลาดในชุมชน และกิจการทั้งหมดจะกำกับโดยการอนุมัติของคณะกรรมการนี้

พระอับดุลบาฮา (BPF 24, 39)

26 มกราคม

คณะกรรมการของสำนักการคลังในทุกหมู่บ้านจะกำกับรายได้ของคลัง เช่น อากรหนึ่งในสิบ ภาษีสัตว์ ฯลฯ ในทุกหมู่บ้านจะต้องมีคลังและเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลคลังนี้ ผู้มีชื่อเสียงในหมู่บ้านจะมาชุมนุมกันและจัดตั้งคณะกรรมการ การกำกับกิจการของหมู่บ้านมอบหมายไว้กับคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ผู้นี้ พวกเขาจะรับผิดชอบปัญหาทุกอย่างเกี่ยวกับหมู่บ้านและรายได้ของคลัง เช่น อากรหนึ่งในสิบ ภาษีสัตว์ และรายได้อื่นๆ จะเก็บไว้ที่คลังนี้ และนำออกใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

สำหรับเมืองที่ใหญ่กว่า จะต้องมีระบบที่ซับซ้อนกว่าเป็นธรรมดา หากเรากล่าวถึงการแก้ปัญหาดังกล่าวย่อมมีรายละเอียดที่ยาวมาก

พระอับดุลบาฮา (BPE 40)

27 มกราคม

รายได้ของคลังเจ็ดประการ

ประการแรก เงินทุนใดก็ตามที่จำเป็น พวกเขายืมได้จากธนาคารโดยมีดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น พวกเขายืมจากธนาคารด้วยดอกเบี้ย 3% และให้สาธารณชนกู้ด้วยดอกเบี้ย 4% ชาวนาผู้ใดที่ขาดเครื่องมือ พวกเขาจะจัดหาและให้สิ่งที่จำเป็นทุกอย่างแก่เขา เมื่อมีการเก็บเกี่ยวพืชผล นั่นจะเป็นรายรับแรกของคลัง นี้คือรายได้แรก แต่รายได้แรกนี้มิใช่เก็บจากทุกคนเท่ากัน ตัวอย่างเช่น บุคคลหนึ่งอาจมีพืชผลหนึ่งพันกิโลกรัมซึ่งพอดีสำหรับความจำเป็นในการดำรงชีพของเขา ก็จะไม่มีการเก็บจากเขา เพราะเขาจำเป็นต้องบริโภคพืชผลนั้น หากเก็บบางส่วนจากเขา เขาจะอดอยาก

แต่อาจมีคนที่จำเป็นต้องบริโภคหนึ่งพันกิโลกรัมและรายรับของเขาคือสองพันกิโลกรัม จะต้องเก็บจากเขาหนึ่งในสิบ เช่นกัน บุคคลหนึ่งจำเป็นต้องบริโภคสองพันกิโลกรัม แต่รายรับของเขาคือหนึ่งหมื่นกิโลกรัม จะต้องเก็บจากเขาสองในสิบ เขาจำเป็นต้องบริโภคสองพันกิโลกรัม หากเก็บจากเขาสองพันกิโลกรัม เขาก็ยังเหลืออีกหกพันกิโลกรัม

คนหนึ่งมีห้าหมื่นกิโลกรัม จะต้องเก็บจากเขาหนึ่งในสาม คนหนึ่งอาจมีรายจ่ายหนึ่งหมื่นกิโลกรัมแต่มีรายรับหนึ่งแสนกิโลกรัม จะต้องเก็บจากเขาครึ่งหนึ่ง ยิ่งมีรายรับมาก อัตราส่วนของภาษีก็จะยิ่งสูงขึ้น

ประการที่สอง เช่นเดียวกันกับวัวควาย พวกเขาเก็บภาษีตามสัดส่วนของวัวควาย ตัวอย่างเช่น หากคนหนึ่งมีวัวสองตัวซึ่งจำเป็นสำหรับเขา จะไม่มีการเก็บภาษีจากเขา ถ้าเขายิ่งมีวัวมากก็จะยิ่งเก็บภาษีจากเขามาก นี้คือรายได้ที่สอง

รายได้ที่สามของคลังมาจากผู้ที่ตายโดยไม่มีทายาท

รายได้ที่สี่มาจากเหมืองแร่ หากพบแร่ในที่ดินของบุคคลหนึ่ง หนึ่งในสามจะเป็นของเขา และที่เหลือเป็นของคลัง

รายได้ที่ห้าคือทรัพย์สมบัติที่ซ่อนเร้น หากผู้ใดพบทรัพย์สมบัติที่ซ่อนเร้นในดิน เขารับไปครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเข้าคลัง

รายได้ที่หก หากพบทรัพย์สมบัติตามทาง ครึ่งหนึ่งเป็นของคลังเช่นกัน

รายได้ที่เจ็ด คือการบริจาคให้คลังโดยสมัครใจ ประชาชนจะบริจาคให้ด้วยเจตนาของตนเองและด้วยความเต็มใจที่สุด

พระอับดุลบาฮา (BPE 41-2)

28 มกราคม

รายจ่ายเจ็ดประการของคลัง

เหล่านี้คือรายได้เจ็ดประการ แต่มีรายจ่ายที่กำหนดไว้เจ็ดประการ

รายจ่ายแรก คลังควรให้หนึ่งในสิบแก่รัฐบาล และคลังสาธารณะสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อสาธารณประโยชน์

รายจ่ายที่สอง สำหรับคนยากไร้ ผู้ยากไร้ที่ขัดสน ผู้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่มิใช่ผู้ที่เกียจคร้าน ตัวอย่างเช่น หากพืชผลของผู้หนึ่งถูกเผาไหม้หรือเขาขาดทุนในธุรกิจ และเพราะเหตุนี้เขาจึงยากจน ผู้ยากจนเหล่านี้ต้องได้รับการดูแล

รายจ่ายที่สาม คือ ผู้ทุพพลภาพซึ่งขัดสนและไม่สามารถทำงานได้

รายจ่ายที่สี่ คือ เด็กกำพร้า ซึ่งต้องให้การช่วยเหลือพวกเขาเช่นกัน

รายจ่ายที่ห้า คือ โรงเรียน ต้องจัดตั้งโรงเรียนเพื่อการอบรมเด็กๆ

รายจ่ายที่หก สำหรับผู้ที่หูหนวกและตาบอด

รายจ่ายที่เจ็ด สำหรับสาธารณสุข อะไรก็ตามที่จำเป็นสำหรับสาธารณสุขต้องมีการจัดแจง ปลักควรมีน้ำเติมเข้ามา อะไรก็ตามที่จำเป็นสำหรับสาธารณสุข

พระอับดุลบาฮา (BPE 43)

29 มกราคม

พระองค์ทรงบัญญัติและสถาปนาสภายุติธรรม ซึ่งได้รับการประสาทด้วยบทบาทการปกครองและศาสนาเป็นการสมัครสมานและผสมผสานศาสนาและรัฐเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ สถาบันนี้อยู่ภายใต้อานุภาพคุ้มครองของพระบาฮาอุลลาห์ สภายุติธรรมสากลหรือนานาชาติจะได้รับการจัดตั้งเช่นกัน การวินิจฉัยของสภานี้จะสอดคล้องกับบัญชาและคำสอนของพระบาฮาอุลลาห์ และสิ่งที่สภายุติธรรมสากลบัญญัติ มวลมนุษยชาติจะเชื่อฟัง สภายุติธรรมนานาชาตินี้จะได้รับการเลือกตั้งจากสภายุติธรรมทั่วโลก และทั่วโลกจะอยู่ภายใต้การบริหารของสภานานาชาตินี้

พระอับดุลบาฮา (PUP 455)

30 มกราคม

นอกจากนี้จงรู้ไว้ว่า พระองค์คือผู้ที่สร้างทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในสวรรค์และบนโลกโดยโองการของพระองค์เอง เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบัญชาของพระองค์จะมีชัยเหนือพระองค์ได้อย่างไร?

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 220)

จงกล้าหาญอย่างไม่เกรงกลัว! จงเพิ่มชัยชนะทางธรรมของเจ้าทุกวัน อย่าได้หวั่นใจเพราะการโจมตีอย่างต่อเนื่องของศัตรู จงโจมตีเสมือนสิงโตคำราม อย่าคิดถึงตัวเจ้าเอง เพราะกองทัพที่มองไม่เห็นจากอาณาจักรสวรรค์กำลังต่อสู้อยู่เคียงข้างเจ้า จงเข้าไปยังสนามรบด้วยอำนาจค้ำจุนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า อานุภาพของอาณาจักรอับฮาอยู่กับเจ้า ?กองทัพแห่งสัจธรรมสวรรค์อยู่กับเจ้า สายลมจากสวรรค์อับฮากำลังพัดความเย็นมาคลายร้อนให้หน้าผากของเจ้า ไม่มีแม้แต่ชั่วขณะเดียวที่เจ้าอยู่โดยลำพัง ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เจ้าถูกทอดทิ้ง ความงามของอับฮาอยู่กับเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงความรุ่งโรจน์อยู่กับเจ้าจอมราชันของกษัตริย์ทั้งหลายอยู่กับเจ้า

พระอับดุลบาฮา (COC no. 1635)

31 มกราคม

เจ้าจะตรอมใจและซึมเศร้าไปไย? จะสิ้นหวังอยู่ทำไมในเมื่อพระผู้ทรงความวิสุทธิ์ที่ซ่อนเร้นได้มาปรากฏต่อเจ้าแล้ว? พระผู้เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและอวสาน พระผู้เป็นทั้งความนิ่งและการเคลื่อนไหว บัดนี้ปรากฏต่อสายตาของเจ้าแล้ว จงดูซิว่าในยุคนี้ จุดเริ่มต้นสะท้อนอยู่ในอวสานอย่างไร การเคลื่อนไหวกำเนิดจากความนิ่งอย่างไร การเคลื่อนไหวนี้กำเนิดจากพลังงานทรงอำนาจที่วจนะของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพได้ปลดปล่อยไปทั่วสรรพภาวะ ใครที่ได้รับการกระตุ้นด้วยอานุภาพฟื้นชีวิตนี้ จะพบว่าตนเองถูกขับให้ไปถึงราชสำนักของพระผู้เป็นที่รักยิ่ง และใครที่พรากตนเองจากอานุภาพฟื้นชีวิตนี้ จะจมลงไปในความหมดหวังอย่างฟื้นไม่ขึ้น ผู้ที่ไม่ถูกโลกและทุกสรรพสิ่งในโลกยับยั้งมิให้ยอมรับแสงสว่างของยุคนี้ ผู้ที่ไม่ยอมให้วาจาเหลวไหลมาทำให้ตนหันเหไปจากวิถีแห่งความชอบธรรม คือผู้ที่มีปัญญาโดยแท้จริง ผู้ที่สายลมกระตุ้นวิญญาณปลุกไม่ขึ้นในยามรุ่งอรุณอันน่าพิศวงของการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ คือผู้ที่เป็นเสมือนคนตายอย่างแท้จริง ผู้ที่ไม่ยอมรับพระผู้ไถ่สูงสุด แต่ยอมให้วิญญาณของตนถูกพันธนาการด้วยกิเลสอย่างบีบคั้นและหมดหนทาง คือ นักโทษที่แท้จริง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 168-9)

กุมภาพันธ์

1 กุมภาพันธ์

ดูกร ซัลมาน จงเตือนผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว มิให้คอยแต่จ้องจับผิดคำพูดและข้อเขียนของมนุษย์ แต่ขอให้พวกเขาพิเคราะห์คำพูดและข้อเขียนดังกล่าวด้วยความใจกว้างและเมตตาสงสาร อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ที่ถูกชักนำให้เขียนข้อความยั่วยุโจมตีหลักธรรมศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ ต้องได้รับการปฏิบัติที่ต่างกัน เป็นหน้าที่ของมวลมนุษย์แต่ละคนตามความสามารถของตน ที่จะแย้งการอ้างเหตุผลของบรรดาผู้ที่โจมตีศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า…ความชอบธรรมของพระองค์เป็นพยาน พระผู้ทรงร้องอยู่ในใจกลางของทุกสรรพสิ่งว่า: ?พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากเรา!? หากคนใดลุกขึ้นเขียนบทความปกป้องศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าจากผู้โจมตี แม้ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ผู้นั้นจะได้รับเกียรติในโลกหน้าจนหมู่เทวัญเบื้องบนอิจฉาความรุ่งโรจน์ของเขา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 329-30)

2 กุมภาพันธ์

ดวงตะวันแห่งการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์รุ่งอรุณขึ้นมาทางตะวันออก สัญลักษณ์แห่งอาณาจักรของพระองค์ปรากฏขึ้นทางตะวันตก ดูกร ประชาชน จงตรึกตรองสิ่งนี้ในหัวใจ และอย่าได้เป็นพวกที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของพระผู้เป็นผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ

พระบาฮาอุลลาห์ (BR 343)

?ตั้งแต่เริ่มต้นกาลเวลาจนกระทั่งปัจจุบัน ดวงตะวันแห่งการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์รุ่งขึ้นมาทางตะวันออกและสาดรัศมีไปยังตะวันตก อย่างไรก็ตามความสว่างที่ฉายออกไปนี้กลับเจิดจ้าเป็นพิเศษทางตะวันตก จงพิจารณาดูศาสนาที่ประกาศโดยพระเยซู ซึ่งแม้ว่าจะปรากฏทางตะวันออกในตอนแรก แต่แสงธรรมของศาสนานี้ก็มิได้เจิดจ้าจนถึงขีดสุด จนกระทั่งแสงนั้นฉายไปยังตะวันตก? ?วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่เจ้าจะได้เห็นว่าโดยความโชติช่วงของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ประเทศตะวันตกจะแทนที่ประเทศตะวันออกอย่างไรในการสาดแสงสว่างแห่งการนำทางสวรรค์?

พระอับดุลบาฮา (BR 343)

3 กุมภาพันธ์

ดวงตาของเจ้าคือของฝากจากเรา อย่าให้ธุลีแห่งกิเลสอันไร้ค่ามาบดบังความแวววาวของดวงตานั้น หูของเจ้าคือสัญลักษณ์แห่งความอารีของเรา อย่าให้แรงจูงใจที่ไม่ควรทำให้เจ้าว้าวุ่นจนไม่เงี่ยหูฟังพระวจนะของเราที่ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่ง หัวใจของเจ้าคือคลังของเราอย่าให้อัตตาที่ล่อลวงยื่นมือมาปล้นไข่มุกที่เราถนอมไว้ในนั้น มือของเจ้าคือสัญลักษณ์แห่งความเมตตารักใคร่ของเรา อย่ายับยั้งมือนั้นมิให้ยึดถือธรรมจารึกที่เราซ่อนเร้นและอภิรักษ์ไว้…เราหลั่งกรุณาธิคุณมาให้เจ้าโดยที่เจ้าไม่ต้องขอ เราให้เจ้าสมปรารถนาโดยที่เจ้าไม่ต้องอ้อนวอน ทั้งๆ ที่เจ้าไม่คู่ควร เราก็ได้ประทานความอุดมและกรุณาธิคุณสุดคณานับให้แก้เจ้าเพียงผู้เดียว…ดูกร คนรับใช้ของเรา! จงศิโรราบและยอมจำนนประดุจพิภพเพื่อว่าไม้ดอกแห่งความรู้ของเราที่วิสุทธิ์และหลากสีจะบานออกมาจากดินของชีวิตของเจ้า จงร้อนแรงประดุจไฟ เพื่อว่าเจ้าจะได้เผาม่านแห่งความไม่เอาใจใส่ให้สิ้นไป และทำให้หัวใจที่เย็นชาและมีทิฐิอบอุ่นด้วยพลังความรักของพระผู้เป็นเจ้า จงล่องลอยไปอย่างอิสระประดุจสายลม เพื่อว่าเจ้าจะได้เข้ามาในอาณาบริเวณของราชสำนักซึ่งเป็นวิหารที่ล่วงล้ำไม่ได้ของเรา

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 322-3)

4 กุมภาพันธ์

?ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! หากเราเล่าเรื่องราวที่บังเกิดกับเราให้เจ้าฟัง วิญญาณและจิตใจของมนุษย์ย่อมไม่สามารถทานน้ำหนักนี้ได้ พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานให้เรา?…?จงระลึกถึงความทุกข์โศกความพะวงและความวิตกของเรา ความหายนะและความลำบาก การเป็นนักโทษ น้ำตาที่เราหลั่ง ความปวดร้าวอันขมขื่น และการถูกคุมขังในดินแดนห่างไกลในเวลานี้…หากเจ้าได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่บังเกิดกับพระผู้ทรงความงามจิรันดร เจ้าย่อมหนีไปยังที่รกร้างและร่ำไห้อย่างขมขื่น…ทุกเช้าที่เราลุกขึ้นจากเตียง เราค้นพบว่าความทุกข์ทรมานนับไม่ถ้วนสุมอยู่หน้าประตูของเรา ทุกค่ำคืนที่เราเอนลงนอน ดูซิ หัวใจของเราแตกสลายด้วยความปวดร้าวเพราะได้เผชิญกับความทารุณโหดร้ายของศัตรู?

พระบาฮาอุลลาห์ (WDB 174)

5 กุมภาพันธ์

การรักษาความเจ็บป่วยมีสองวิธี คือ วิธีทางวัตถุและวิธีทางจิตใจ วิธีแรก คือ การรักษาของแพทย์ วิธีที่สองอยู่ที่การอธิษฐานถึงพระผู้เป็นเจ้าและตั้งจิตสู่พระองค์โดยผู้ที่ทรงธรรม

โรคภัยที่เกิดจากเหตุทางกายควรรักษาโดยแพทย์ตามวิธีทางการแพทย์ โรคภัยที่มีเหตุมาจากจิตใจรักษาหายโดยวิธีทางจิตใจ ดังนั้นโรคภัยที่เกิดจากความทุกข์ ความกลัว และความเครียดของประสาท จะรักษาโดยวิธีทางจิตใจได้ผลดีกว่าวิธีทางกาย ดังนั้นควรใช้การรักษาทั้งสองวิธี ทั้งสองวิธีนี้มิได้ขัดกัน ดังนั้นเจ้าควรยอมรับการรักษาทางกายด้วย เพราะการรักษานี้มาจากความปรานีและกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน พระผู้ทรงเปิดเผยให้วิทยาศาสตร์การแพทย์ปรากฏขึ้นเพื่อว่าคนรับใช้ของพระองค์จะได้รับประโยชน์จากการรักษาชนิดนี้เช่นกัน เจ้าควรให้ความสำคัญเท่ากันต่อการรักษาทางจิตใจ เพราะการรักษานี้มีผลอย่างน่าพิศวง

บัดนี้หากเจ้าปรารถนาจะรู้ว่า การรักษาที่แท้จริงซึ่งจะรักษาความเจ็บป่วยทั้งปวงของมนุษย์ และจะทำให้เขามีสุขภาพของอาณาจักรสวรรค์ จงรู้ไว้ว่า สิ่งนั้นคือศีลและคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า จงเอาใจใส่ต่อคำสอนเหล่านี้

พระอับดุลบาฮา (SWAB 151-2)

6 กุมภาพันธ์

งานฉลองบุญ อธิปไตย

(เริ่มงานหลังดวงอาทิตย์ตก)

หากประชาชนจำนวนเล็กน้อยมาชุมนุมกันด้วยความรัก ความบริสุทธิ์ และธรรมะ ด้วยหัวใจที่เป็นอิสระจากโลก อบอวลด้วยความรู้สึกถึงอาณาจักรสวรรค์และอำนาจดึงดูดอันทรงพลังจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกันในมิตรภาพอย่างมีความสุข การชุมนุมนั้นจะส่งอิทธิพลไปทั่วพิภพ ลักษณะของกลุ่มชนนั้น ถ้อยคำที่พวกเขาพูด การกระทำของพวกเขา จะปลดปล่อยพระพรจากสวรรค์ และให้ความรู้สึกถึงความสุขนิรันดร์ กองทัพเทวัญเบื้องบนจะปกป้องพวกเขา และเทพยดาแห่งสวรรค์อับฮาจะตามกันลงมาช่วยพวกเขา

ดูกร มิตรสหาย! มิตรภาพ มิตรภาพ! ความรัก ความรัก! ความสามัคคี ความสามัคคี! เพื่อว่าอานุภาพของศาสนาบาไฮจะปรากฏชัดในโลกที่ดำรงอยู่ ความคิดของเรามุ่งมาหาเจ้า หัวใจของเราเต้นระทึกเมื่อกล่าวถึงเจ้า หากเจ้ารู้ว่าวิญญาณของเราอบอุ่นด้วยความรักของเจ้าอย่างไร ความสุขอันยิ่งใหญ่ย่อมท่วมหัวใจของเจ้าจนทำให้เจ้าหลงรักกันและกัน

พระอับดุลบาฮา (SWAB 81, TDP 50)

7 กุมภาพันธ์

บรรดาผู้ที่ถูกเรียกให้รับใช้สาธารณชน หรือถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบริหาร ควรปฏิบัติหน้าที่ด้วยดวงจิตแห่งการรับใช้อย่างแท้จริง และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ กล่าวคือ พวกเขาควรเป็นเอกในด้านอุปนิสัยใจคอที่ดีงาม พอใจกับเงินตอบแทนที่จัดสรรให้ กระทำการทุกอย่างให้เป็นที่ไว้วางใจ พวกเขาควรออกห่างจากแรงจูงใจที่ไม่คู่ควร และการออกอุบายด้วยความโลภเพราะความซื่อตรงและความชอบธรรมคือกลไกที่ทรงอำนาจที่สุดที่ดึงดูดกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและความผาสุกของประชาชน ความรุ่งโรจน์และเกียรติสำหรับมนุษย์มิได้อยู่ที่ทรัพย์สินและความร่ำรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กอบโกยมาอย่างไม่ถูกกฎหมาย โดยการรีดไถ ยักยอก และทุจริต ซึ่งทำให้ประชาราษฎร์สูญเสีย เกียรติอันสูงสุด ความประเสริฐและความยิ่งใหญ่ของความเป็นมนุษย์ และความสุขที่แท้จริงในชีวิตนี้และชีวิตหน้า อยู่ที่ความเที่ยงธรรม ความซื่อตรง ความบริสุทธิ์และไม่ยึดมั่น ?หากมนุษย์อยากมีเกียรติ เขาควรพอใจกับรายได้ที่มัธยัสถ์ พยายามปรับปรุงความเป็นอยู่ของคนยากไร้ในอาณาจักร ธำรงความยุติธรรมและมีจิตใจที่เที่ยงธรรมและรับใช้อย่างแข็งขัน บุคคลเช่นนี้แม้ว่าจะขัดสน ก็จะได้รับความร่ำรวยที่อมตะและเกียรตินิรันดร์

พระอับดุลบาฮา (COC no. 2067)

8 กุมภาพันธ์

ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความจำเป็นในเรื่องนี้ เพราะหากไม่ยินยอมให้มีดอกเบี้ย กิจการ (ธุรกิจ) ทั้งหลายจะติดขัดไม่คืบหน้า หาได้ยากที่ผู้ใดจะยอมให้ผู้ยืมเงินด้วยหลักการ ?เงินกู้ที่ดี? นั่นคือเงินที่ให้ยืมโดยไม่มีดอกเบี้ยและจ่ายคืนเมื่อผู้ยืมยินดี ผลที่ตามมาด้วยกรุณาธิคุณต่อคนรับใช้ เราได้กำหนด ?กำไรจากเงิน? ให้นำมาใช้กันได้ในธุรกิจตามกฎหมาย นั่นคือ…เป็นที่อนุญาต ชอบด้วยกฎหมายและบริสุทธิ์ ที่จะคิดดอกเบี้ยจากเงิน…แต่เรื่องนี้ต้องเป็นไปด้วยความพอประมาณและยุติธรรม ปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ได้ละเว้นจากการวางข้อจำกัดในเรื่องนี้ ด้วยอัจฉริยภาพจากที่สถิตของพระองค์และเพื่อความสะดวกสำหรับคนรับใช้ เราขอแนะนำมิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าให้ปฏิบัติด้วยความเที่ยงธรรมและยุติธรรม และด้วยลักษณะที่ความปรานีและความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันจะปรากฏอยู่ในบรรดาผู้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์…

การดำเนินการเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสมาชิกสภายุติธรรม เพื่อว่าพวกเขาจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความจำเป็นในเวลานั้นและด้วยความสุขุมรอบคอบ

พระบาฮาอุลลาห์ (BPE 46)

9 กุมภาพันธ์

บางคนฉลาดมาก บางคนฉลาดปานกลาง และบางคนด้อยปัญญา มีระเบียบในมนุษย์สามระดับนี้ แต่มิใช่ว่าเท่าเทียมกัน เป็นไปได้อย่างไรที่ความฉลาดและความเขลาควรจะเท่ากัน มนุษยชาติเป็นเหมือนกองทัพที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องมีนายพล นายร้อย นายทหาร ที่รองลงมาและพลทหาร แต่ละคนก็มีหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ ระดับขั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรับประกันความเป็นระเบียบขององค์กร กองทัพไม่ควรมีแต่นายพล หรือมีแต่นายร้อยเท่านั้น หรือไม่มีใครเลยนอกจากพลทหารที่ไร้ผู้บัญชาการ แน่นอนเลยว่าผลที่ตามมาคือความอลเวงและเสียขวัญจะครอบงำทั้งกองทัพ

ปัจจุบันนี้ต้องให้การรักษาอย่างรอบคอบ และไม่สามารถทำได้โดยให้มนุษย์มีความเท่าเทียมกันโดยสมบูรณ์ ความเท่าเทียมกันเป็นเพียงความฝัน! เป็นสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้อย่างแน่นอน! แม้หากว่าทำให้ความเท่าเทียมกันเกิดขึ้นได้ ความเท่าเทียมนั้นก็คงอยู่ไม่ได้ และหากคงอยู่ได้ ระเบียบทั้งหมดในโลกย่อมถูกทำลาย

พระอับดุลบาฮา (BPE 19, 18)

10 กุมภาพันธ์

เพราะชุมชนจำเป็นต้องมีนายทุน ชาวนา พ่อค้า และกรรมกร ดังเช่นกองทัพต้องประกอบด้วยผู้บัญชาการ นายทหารและพลทหาร ทุกคนไม่สามารถเป็นผู้บัญชาการ ทุกคนไม่สามารถเป็นนายทหารหรือพลทหาร ในโครงสร้างสังคม แต่ละคนต้องมีประสิทธิภาพในตำแหน่งของตน แต่ละคนมีบทบาทตามความสามารถ แต่ต้องให้โอกาสอย่างยุติธรรมสำหรับทุกคน

เมื่อกฎที่พระองค์สถาปนาไว้ถูกนำมาปฏิบัติ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนที่รวยมากในชุมชน และทำนองเดียวกันจะไม่มีคนที่จนมาก สิ่งนี้จะบังเกิดผลโดยการควบคุมและปรับระดับความสามารถที่ต่างกันของมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (BPE 20)

11 กุมภาพันธ์

โดยอาศัยแต่การพัฒนาสติปัญญาและการใช้เหตุผลมนุษย์ไม่สามารถขึ้นถึงขั้นสูงสุด กล่าวคือโดยอาศัยความฉลาดอย่างเดียว มนุษย์ไม่สามารถก้าวหน้าไปถึงขั้นที่ไปถึงได้ด้วยศาสนา

อารยธรรมทางวัตถุเป็นเสมือนลูกแก้ว อารยธรรมสวรรค์ คือ แสงสว่าง แก้วที่ปราศจากแสงนั้นมืดมน อารยธรรมทางวัตถุเป็นเสมือนร่างกาย ไม่ว่าร่างกายจะสง่างดงามและสวยเพียงไร ก็ไร้ชีวิต อารยธรรมสวรรค์เป็นเสมือนวิญญาณ และร่างกายได้รับชีวิตจากวิญญาณ ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายนั้นก็เป็นเพียงศพ เป็นที่ประจักษ์ว่ามนุษยชาติจำเป็นต้องได้รับลมหายใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระอับดุลบาฮา (BPE 57, 58)

12 กุมภาพันธ์

บรรดาผู้ที่ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้าและยึดถือธรรมชาติที่เป็นอยู่ แท้จริงแล้วเขาขาดความรู้และปัญญา พวกเขาคือพวกที่หลงทางไปไกลโดยแท้ พวกเขาไปไม่ถึงยอดอันสูงส่งและเข้าไม่ถึงจุดประสงค์สุดท้าย ดังนั้นดวงตาของพวกเขาจึงถูกปิด และความคิดของพวกเขาแตกแยก ขณะที่บรรดาผู้นำของพวกเขาเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าและอธิปไตยที่ล่วงล้ำไม่ได้ของพระองค์ พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงช่วยเหลือในภยันตราย พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง เป็นพยานในเรื่องนี้

เมื่อดวงตาของประชาชนในประเทศตะวันออกหลงใหลในศิลปะและสิ่งอัศจรรย์ของประเทศตะวันตก ดวงตาเหล่านั้นมองกวาดไปที่เหตุต่างๆ ทางวัตถุอย่างสับสน โดยไม่ตระหนักถึงพระผู้เป็นเหตุของเหตุทั้งหลายและเป็นผู้ค้ำจุนเหตุเหล่านั้น แต่บรรดาผู้ที่เป็นบ่อเกิดและต้นกำเนิดอัจฉริยภาพ ไม่เคยปฏิเสธแรงขับที่อยู่เบื้องหลัง ไม่เคยปฏิเสธพระผู้สร้างหรือพระผู้เป็นต้นกำเนิดของเหตุเหล่านี้ พระผู้เป็นนายของเจ้ารู้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่หารู้ไม่

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 143-4)

13 กุมภาพันธ์

สำหรับทุกดินแดนเราได้กำหนดส่วนแบ่ง สำหรับทุกโอกาสเราได้ปันส่วนไว้ให้ สำหรับทุกคำแถลงเราได้กำหนดเวลา และสำหรับทุกสถานการณ์เราได้กำหนดคำพูดที่เหมาะเจาะ จงพิจารณาดูกรีซ เราได้ทำให้กรีซเป็นตำแหน่งของอัจฉริยภาพเป็นเวลานาน เมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนด บัลลังก์ของกรีซถูกโค่นลง ลิ้นของกรีซหยุดพูด แสงสว่างของกรีซมืดลง และธงของกรีซถูกสาวลงมา ดังนี้คือการที่เราประทานพรและถอนคืนมา แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าคือพระผู้ให้และพระผู้ปลด พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงอานุภาพ

ในทุกดินแดนเราได้สถาปนาอาภาแห่งความรู้ และเมื่อเวลาที่กำหนดไว้ใกล้เข้ามา อาภานั้นจะเรืองแสงอย่างเจิดจ้าบนขอบฟ้าตามที่ประกาศิตไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ หากเป็นความประสงค์ของเรา เราสามารถพรรณนาให้เจ้าฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ดำรงอยู่ในทุกดินแดน และสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนเหล่านั้น แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้ารู้ทุกอย่างในสวรรค์และบนโลก

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 149-50)

14 กุมภาพันธ์

นอกจากนี้จงรู้ไว้ว่า ประชาชนสมัยก่อนได้ผลิตสิ่งที่ผู้มีความรู้ในสมัยนี้ผลิตไม่ได้ เราขอกล่าวถึงมาร์ทอสซึ่งเป็นผู้รู้คนหนึ่ง เขาได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่สามารถส่งเสียงไปได้ไกลหกสิบไมล์ นอกเขาแล้วคนอื่นๆ ก็ได้ค้นพบสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีใครในยุคนี้ได้เห็น แท้จริงแล้วในทุคยุคพระผู้เป็นนายของเจ้าทรงเปิดเผยสิ่งใดก็ได้ตามที่พระองค์ปรารถนา ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอัจฉริยภาพของพระองค์ ความจริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงบัญญัติสูงสุด พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

นักปรัชญาที่แท้จริงย่อมไม่ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้าหรือหลักฐานของพระองค์ แต่เขาจะยอมรับความรุ่งโรจน์และราชศักดาอันน่าเกรงขามที่ปกคลุมทุกสรรพสิ่ง แท้จริงแล้วเรารักบรรดาผู้มีความรู้ที่ได้คิดค้นสิ่งที่ส่งเสริมประโยชน์ของมนุษยชาติได้ดีที่สุด เราขอช่วยพวกเขาด้วยอานุภาพแห่งโองการของเรา เพราะเราสามารถบรรลุจุดประสงค์ของเราได้อย่างดี

ดูกร ผู้เป็นที่รักของเรา จงระวังอย่าดูหมิ่นคุณค่าของบรรดาคนรับใช้ที่มีวิชาของเรา ผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงกรุณาเลือกพวกเขาให้เป็นตัวแทนของพระนามของพระองค์ ?พระผู้ทรงออกแบบ? ท่ามกลางมนุษยชาติ จงพยายามเต็มที่ เพื่อว่าเจ้าจะได้พัฒนางานฝีมือและภารกิจที่ทุกคนไม่ว่าหนุ่มหรือแก่จะได้รับประโยชน์

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 150-1)

15 กุมภาพันธ์

การเริ่มต้นและจุดกำเนิดของอัจฉริยภาพ คือ การยอมรับสิ่งใดก็ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้แถลงไว้อย่างชัดเจน เพราะโดยอาศัยอานุภาพของวาทะนั้น รากฐานของการปกครองจึงจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคงให้เป็นกำบังที่ปกป้องมวลมนุษยชาติ จงตรึกตรองดูสักพักหนึ่ง เพื่อว่าเจ้าจะเข้าใจสิ่งที่ปากกาอันประเสริฐสุดของเราประกาศไว้ในธรรมจารึกอันน่าพิศวงนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการของรัฐที่เจ้าหยิบยกขึ้นมาอภิปราย อยู่ภายใต้ร่มเงาของหนึ่งในวจนะที่มาจากนภาแห่งวาทะอันประเสริฐและรุ่งโรจน์ของพระองค์ ดังนี้เราเล่าให้เจ้าฟังเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำให้หัวใจของเจ้าเบิกบาน ให้เจ้าได้พักหัวใจ และจะช่วยให้เจ้าลุกขึ้นส่งเสริมศาสนาของพระองค์ท่ามกลางประชาชน

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 151)

16 กุมภาพันธ์

ผู้ถ่อมตัวที่ไร้วิชาแต่เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์มีอานุภาพมากกว่านักวิชาการผู้มีตระกูลสูงแต่ปราศจากแรงดลใจ

จงแสวงหาอาภาสวรรค์นี้อย่างสุดหัวใจ เพื่อว่าเจ้าจะเข้าใจความจริงทั้งหลาย รู้ความลับของพระผู้เป็นเจ้าและหนทางที่ซ่อนเร้นจะกระจ่างต่อสายตาของเจ้า

อาภานี้อาจเปรียบได้กับกระจก และเนื่องด้วยกระจกสะท้อนทุกสิ่งที่อยู่หน้าตน ดังนั้นอาภานี้แสดงทุกสิ่งที่อยู่ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าให้ปรากฏต่อสายตาของวิญญาณของเรา และบันดาลให้ความจริงของสิ่งต่างๆ เป็นที่เห็นได้ โดยอาศัยอาภาที่เจิดจ้านี้ การตีความธรรมลิขิตกระจ่างชัด สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในจักรวาลของพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่ประจักษ์ และเราสามารถเข้าใจเจตนาสวรรค์สำหรับมนุษย์

เราขออธิษฐานพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ความปรานีของพระองค์จะสาดแสงธรรมให้หัวใจและวิญญาณของเจ้าด้วยอาภาที่โชติช่วงของพระองค์ และเจ้าแต่ละคนจะเรืองรองประดุจดาราที่สุกใสในสถานที่มืดมนของโลก

พระอับดุลบาฮา (PT 165, 69-70)

17 กุมภาพันธ์

ดูกร ผู้ที่ตรึงสายตาไปยังขอบฟ้าอันรุ่งโรจน์ สมโพธน์เปล่งขึ้นแล้ว แต่หูที่เงี่ยฟังนั้นมีจำนวนจำกัด ไม่มีเลยต่างหาก พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้พบว่าตนอยู่ในคอหอยของงูร้าย แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังกล่าวถึงบรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า ความทุกข์ทรมานของเราในวันเหล่านั้นสาหัสอย่างยิ่งจนหมู่เทวัญเบื้องบนหลั่งน้ำตาและคร่ำครวญ ความทุกข์ยากในโลกและภัยจากชาติทั้งหลาย ก็ไม่สามารถยับยั้งพระองค์ผู้เป็นราชันแห่งนิรันดรกาลมิให้เปล่งเสียงเรียก หรือขัดขวางจุดประสงค์ของพระองค์ได้ เมื่อบรรดาผู้ที่ซ่อนอยู่หลังม่านเป็นเวลาหลายปีเห็นว่า ขอบฟ้าของศาสนานี้เรืองรองและพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าซึมซาบไปทั่ว พวกเขาจึงรีบออกมาทำร้ายด้วยดาบแห่งความประสงค์ร้าย อย่างไม่มีปากกาด้ามใดพรรณนาหรือวจีใดอธิบายได้

ผู้ที่ลงความเห็นอย่างเที่ยงธรรมยืนยันว่า ตั้งแต่เริ่มต้นศาสนา พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้เรืองรองอย่างเปิดเผยต่อหน้ากษัตริย์และสามัญชน ต่อผู้ปกครองและนักบวช และได้เรียกมวลมนุษย์ให้มายังหนทางตรงด้วยน้ำเสียงที่ก้องกังวาล พระองค์ไม่มีผู้ช่วยเหลืออื่นใดนอกจากปากกาของพระองค์และตัวพระองค์เอง

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 122-3)

18 กุมภาพันธ์

?แท้จริงแล้วเรามิได้บกพร่องในหน้าที่ในการแนะนำมนุษย์และส่งมอบสิ่งที่เราได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ หากพวกเขาเงี่ยหูฟังเรา พวกเขาย่อมได้เห็นพิภพนี้เป็นอีกภพหนึ่ง?…?มีข้อแก้ตัวอื่นใดอีกไหมสำหรับใครก็ตามในการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้! ไม่ พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันทรงอำนาจเป็นพยาน! สัญลักษณ์ของเราห้อมล้อมพิภพและอานุภาพของเราปกคลุมมวลมนุษยชาติแล้ว และถึงกระนั้นประชาชนยังหลับไหลอย่างน่าฉงน!?

พระบาฮาอุลลาห์ (PDC 4-5)

19 กุมภาพันธ์

จงลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นนายของเจ้าแล้วให้ข่าวที่น่ายินดีแก่ประชาชนเกี่ยวกับอาภาที่ชัชวาลนี้ซึ่งการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศไว้โดยผ่านทางพระศาสดาและธรรมฑูตทั้งหลาย นอกจากนี้จงตักเตือนทุกคนให้ใช้ความสุขุมตามที่พระองค์บัญญัติไว้ และจงแนะนำพวกเขาในนามของพระผู้เป็นเจ้าว่า: เป็นหน้าที่ของทุกคนในยุคของพระผู้เป็นเจ้าที่จะอุทิศตนสอนศาสนาด้วยความสุขุมและมั่นคงที่สุด หากเขาพบดินที่บริสุทธิ์ ขอให้หว่านพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ถ้าไม่เช่นนั้นเงียบเสียจะดีกว่า

อย่าได้เศร้าโศกที่มนุษย์ไม่เข้าใจสัจธรรม ในไม่ช้าเจ้าจะพบว่าพวกเขาหันมาหาพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของมวลมนุษยชาติ แท้จริงแล้วอานุภาพของพระวจนะอันประเสริฐสุดได้ห้อมล้อมพิภพแล้ว และเวลานั้นกำลังใกล้เข้ามา คือเวลาที่พระผู้เป็นเจ้าจะกำราบหัวใจของทุกคนที่อาศัยอยู่บนพิภพ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงอำนาจสูงสุด พระผู้ทรงอานุภาพ

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 242, 264)

20 กุมภาพันธ์

ประชาชนทั้งปวงในโลกจะเป็นบาไฮ หากเจ้าเปรียบเทียบการเริ่มต้นของศาสนากับสถานภาพของศาสนาในปัจจุบัน เจ้าย่อมเห็นว่าพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้ามีอิทธิพลรวดเร็วเพียงไร และบัดนี้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าห้อมล้อมโลกแล้ว…ไม่มีข้อสงสัยว่าทุกคนจะเข้ามาภายใต้ร่มเงาของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า

จงรู้ไว้ว่าความแร้นแค้นและความทุกข์ยากจะทวีขึ้นทุกวัน และประชาชนจะถูกบีบคั้น ประตูแห่งความสุขหรรษาจะถูกปิดทุกด้าน สงครามอันน่าสยองจะเกิดขึ้นความผิดหวังและไม่สมหวังจะล้อมรอบประชาชนจากทุกสารทิศ จนกระทั่งพวกเขาจำต้องหันมาหาพระผู้เป็นเจ้า เมื่อนั้นดวงตะวันแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่จะส่องขอบฟ้าเพื่อว่าเสียงร้อง ?ยาบาฮาอลอับภา? จะเปล่งขึ้นมาจากรอบด้าน

พระอับดุลบาฮา (BNE 249, 248)

21 กุมภาพันธ์

ปัจจุบันนี้วิธีการเรียกร้องคือการสไตร๊ค์และการใช้กำลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดอย่างชัดเจนและทำลายรากฐานของมนุษย์ สิทธิ์ที่พึงได้และการเรียกร้องต้องกำหนดไว้ในกฏหมายและระเบียบข้อบังคับ

ปัญหาของอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้โดยการสไตร๊ค์เพื่อเรียกร้องค่าแรง

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะไม่สำเร็จหากนายทุนตั้งแนวต้านกรรมกร หรือกรรมกรต้านนายทุนในการต่อสู้ทะเลาะวิวาท แต่จะสำเร็จได้โดยความสมัครใจและไมตรีจิตของทั้งสองฝ่าย จากนั้นเงื่อนไขที่ยุติธรรมอย่างแท้จริงและยั่งยืนจึงจะเกิดขึ้นได้…

ในหมู่บาไฮไม่มีแนวปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม ขูดเลือดหรือเห็นแก่เงิน ไม่มีการประท้วงเรียกร้อง ไม่มีการลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล…

ในอนาคตจะเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ที่จะกอบโกยความมั่งคั่งจากแรงงานของผู้อื่น ผู้ร่ำรวยจะแบ่งปันโดยสมัครใจ พวกเขาจะเปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้ทีละน้อยด้วยความสมัครใจตามธรรมชาติ สิ่งนี้จะสัมฤทธิผลไม่ได้โดยสงครามและการหลั่งเลือด

พระอับดุลบาฮา (BPE 34, BNE 144-5)

22 กุมภาพันธ์

ศาสนาบาไฮครอบคลุมปัญหาเศรษฐกิจและสังคมทั้งหมดภายใต้หัวข้อและคำวินิจฉัยของกฏหมายบาไฮ แก่นแท้ของหลักธรรมบาไฮคือ เพื่อที่จะสถาปนาระบบสังคมและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า ต้องมีความจงรักภักดีต่อกฏและหลักการของรัฐบาล

รัฐบาลทั้งหมดของโลกต้องสามัคคีกันจัดตั้งสภาที่ควรเลือกตั้งสมาชิกมาจากรัฐสภาและบรรดาผู้ทรงเกียรติในชาติ บุคคลเหล่านี้ต้องมีอำนาจวางแผนด้วยความสุขุมที่สุด เพื่อว่านายทุนจะไม่สูญเสียหนักและกรรมกรจะไม่ขัดสน พวกเขาควรวางกฏหมายที่เดินสายกลางที่สุด จากนั้นประกาศต่อสาธารณชนว่า สิทธิ์ของผู้ทำงานจะต้องอภิรักษ์ไว้อย่างเหนียวแน่น และสิทธิ์ของนายทุนก็จะได้รับการคุ้มครองเช่นกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงใจรับแผนดังกล่าวมาใช้ หากมีการสไตร๊ค์เกิดขึ้น รัฐบาลทั้งหมดของโลกควรร่วมมือกันต่อต้าน มิฉะนั้นแล้วปัญหาแรงงานจะนำไปสู่การทำลายอย่างมาก

พระอับดุลบาฮา (BPE 13, 14)

23 กุมภาพันธ์

?ในเวลาหนึ่งเผ่าพันธุ์ที่ป่าเถื่อนและกระหายสงครามอาจโจมตีประชาชนของรัฐอย่างบ้าเลือดด้วยเจตนาจะสังหารหมู่ ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว การป้องกันตัวเป็นสิ่งจำเป็น?

?การพิชิตอาจเป็นเรื่องน่าสรรเสริญ และบางเวลาสงครามกลายเป็นฐานอำนาจของสันติภาพและการทำลายกลายเป็นวิธีการปฏิสังขรณ์ ตัวอย่างเช่น หากประมุขผู้มีจิตใจสูงจัดกองทหารเข้าขัดขวางกบฏและผู้รุกราน หรือพวกเขาเริ่มปฏิบัติการและเป็นเอกในการต่อสู้เพื่อประสานสามัคคีประชาชาติที่แบ่งแยก กล่าวโดยย่อ หากเขาทำสงครามเพื่อจุดประสงค์ที่ชอบธรรม เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ดูเหมือนว่าโกรธนี้คือความปรานี สิ่งที่ดูเหมือนว่ากดขี่นี้คือเนื้อแท้ของความยุติธรรม และสงครามนี้คือศิลาหลักของสันติภาพ ปัจจุบันนี้งานที่คู่ควรกับผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายคือการสถาปนาสันติภาพสากล เพราะอิสรภาพของประชาชนขึ้นอยู่กับสันติภาพนี้?

พระอับดุลบาฮา (BNE 171-2)

24 กุมภาพันธ์

การเข้าไปยุ่งกับพลังของวิญญาณขณะที่ยังอยู่ในโลกนี้ จะรบกวนสภาวะของวิญญาณในโลกหน้า พลังเหล่านี้มีจริงแต่ในภาวะปกตินั้นไม่ปฏิบัติการในโลกนี้ เด็กในครรภ์มีตา หู มือ เท้า ฯลฯ แต่อวัยวะเหล่านั้นไม่ทำงาน จุดประสงค์ทั้งหมดของชีวิตในโลกวัตถุคือการเข้าไปสู่ภพธรรมะ เป็นภพซึ่งพลังของวิญญาณปฏิบัติการ เพราะพลังของวิญญาณเป็นของภพนั้น

คนร่ำรวยในอีกภพหนึ่งสามารถช่วยเหลือคนยากไร้เช่นเดียวกับคนร่ำรวยสามารถช่วยคนยากไร้ในภพนี้ในทุกภพทุกคนถูกสร้างขึ้นมาโดยพระผู้เป็นเจ้า และขึ้นกับพระองค์ พวกเขาจะไม่มีวันอยู่ได้โดยไม่ขึ้นกับพระองค์ ขณะที่จำเป็นต้องอาศัยพระผู้เป็นเจ้า พวกเขายิ่งวิงวอนมากเท่าไรก็จะยิ่งร่ำรวยมากเท่านั้น อะไรคือสินค้าและความมั่งคั่งของพวกเขา? ในอีกภพหนึ่งอะไรคือความช่วยเหลือ? นั่นคือการวิงวอน วิญญาณที่ไม่ได้พัฒนาต้องอาศัยการวิงวอนของผู้ที่ร่ำรวยคุณธรรมก่อน หลังจากนั้นเขาสามารถก้าวหน้าไปได้โดยการวิงวอนของตนเอง

พระอับดุลบาฮา (BNE 193, 194)

25 กุมภาพันธ์

เราขอปฏิญาณต่อความชอบของพระผู้เป็นเจ้า! ในไม่ช้าความหรูหราของรัฐมนตรีและอำนาจของผู้ปกครองทั้งหลายจะสิ้นสุดลง วังของกษัตริย์จะถูกทำลายและอาคารอันน่าเกรงขามของจักพรรดิจะกลายเป็นฝุ่น แต่ที่จะคงอยู่คือสิ่งที่เรากำหนดไว้สำหรับเจ้าในอาณาจักรสวรรค์ ดูกร ประชาชน เป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะพยายามเต็มที่ เพื่อว่านามของเจ้าจะถูกกล่าวถึงต่อหน้าบัลลังก์ และเจ้าจะทำให้ความทรงจำของเจ้าคงอยู่ไปตลอดนิรันดรกาลของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งสรรพภาวะ

จงระลึกถึงบรรดาผู้เป็นที่รักในดินแดนนั้นในนามของเรา จงมอบคำอวยพรจากเราให้แก่พวกเขา และทำให้หัวใจของเขาเบิกบานด้วยข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เปิดเผยสำหรับพวกเขาจากตำแหน่งอันรุ่งโรจน์นี้

จงระวังอย่าตื่นกลัวอำนาจที่ท่วมท้นของผู้กดขี่วันนี้กำลังใกล้เข้ามา คือวันที่เครื่องหมายแห่งความทะนงจะกลายเป็นศูนยภาพ เมื่อนั้นเจ้าจะได้เห็นอธิปไตยที่ล่วงล้ำไม่ได้ของพระผู้เป็นนายของเจ้าปกครองทุกสรรพสิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 256-6)

26 กุมภาพันธ์

อัยยัมมีฮา

การเสด็จมาของพระศาสดาและการเปิดเผยคัมภีร์ทั้งหลาย มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างความรักระหว่างดวงวิญญาณและมิตรภาพระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่ในโลก รักแท้เป็นไปไม่ได้นอกจากผู้นั้นจะหันมาสู่พระผู้เป็นเจ้าและถวิลหาความงามของพระองค์

เพราะความรักของพระผู้เป็นเจ้าและเสน่หาทางวิญญาณ ชำระล้างหัวใจของมนุษย์ให้บริสุทธิ์ ตกแต่งและประดับหัวใจด้วยอาภรณ์แห่งความวิสุทธิ์ และเมื่อหัวใจผูกพันอยู่กับพระผู้เป็นนายโดยสิ้นเชิง ผูกพันอยู่กับพระผู้ทรงความสมบูรณ์พร เมื่อนั้นกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าจะเปิดเผยออกมา

ความรักนี้มิใช่ทางกายแต่เป็นความรักของวิญญาณโดยสมบูรณ์ และดวงวิญญาณที่เรืองรองด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า เป็นเสมือนรังสีที่ทอแสงออกไปประดุจดวงดาราแห่งความวิสุทธิ์ในนภาที่สดใส เพราะความรักที่แท้ ความรักที่เป็นจริง คือความรักของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งบริสุทธิ์เหนือกว่าความนึกคิดและจินตนาการของมนุษย์

พระอับดุลบาฮา (BWF 364, SWAB 202-3)

27 กุมภาพันธ์

อัยยัมมีฮา

ในเรื่องความแตกต่างระหว่างอารยธรรมทางวัตถุที่มีอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน และอารยธรรมสวรรค์ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคุณประโยชน์ที่มาจากสภายุติธรรม นั่นคือ อารยธรรมทางวัตถุยับยั้งประชาชนมิให้ก่ออาชญากรรมโดยอาศัยอำนาจกฏหมายลงโทษและแก้เผ็ด และแม้กระนั้นก็ตาม ขณะที่กฏหมายที่ลงโทษและแก้เผ็ดมนุษย์ทวีขึ้นมากมายอย่างไม่ขาดสาย เจ้าเห็นได้ว่า ไม่มีกฏหมายให้รางวัลมนุษย์ ทุกเมืองในยุโรปและอเมริกา อาคารขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นคุกขังอาชญากร

อย่างไรก็ตามอารยธรรมสวรรค์อบรมสมาชิกทุกคนในสังคมจนไม่มีใครก่ออาชญากรรมยกเว้นจำนวนน้อยบางคน ดังนั้นจึงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการป้องกันอาชญากรรมโดยการใช้มาตรการที่รุนแรงลงโทษ กับการอบรมประชาชน ให้ความสว่างและปลูกฝังศีลธรรม จนพวกเขาหนีห่างจากการก่ออาชญากรรมทุกอย่างโดยมิได้กลัวการลงโทษหรือแก้ผิด แท้จริงแล้วพวกเขาจะถือว่าการก่ออาชญากรรมคือความอัปยศและคือการลงโทษที่รุนแรงที่สุดในตัวเอง พวกเขาจะหลงใหลในความสมบูรณ์เลิศของความเป็นมนุษย์ และจะอุทิศชีวิตต่อสิ่งที่จะให้ความสว่างแก่โลก และจะพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ อันเป็นที่ยอมรับ ณ ธรณีประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า

พระอับดุลบาฮา (SWAB 132-3)

28 กุมภาพันธ์

อัยยัมมีฮา

ขอให้มารดาถือว่าสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวกับการอบรมลูกเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรก ขอให้มารดาพยายามทุกอย่างในเรื่องนี้ เพราะเมื่อกิ่งยังเขียวและอ่อน กิ่งจะเติบโตไปตามที่เจ้าอบรม ดังนั้นเป็นหน้าที่ของมารดาที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยเสมือนคนสวนดูแลต้นอ่อน ขอให้มารดาพยายามทั้งวันทั้งคืนเพื่อปลูกฝังลูกให้มีความศรัทธาและความมั่นใจ กลัวพระผู้เป็นเจ้า มีความรักพระผู้เป็นที่รักยิ่งของภพทั้งปวง มีคุณสมบัติและลักษณะที่ดีทั้งปวง เมื่อใดที่มารดาเห็นว่าลูกของตนทำดี ขอให้เธอยกย่องชมเชยให้ลูกปลื้มใจ และหากลักษณะอันไม่พึงปรารถนาแม้เพียงน้อยที่สุดปรากฏออกมา ขอให้มารดาแนะนำลูกและทำโทษเขา และใช้วิธีที่มีเหตุผลซึ่งอาจทำโทษด้วยวาจาที่ไม่รุนแรงหากจำเป็น อย่างไรก็ตามไม่อนุญาตให้ตีเด็กหรือพูดหยาบคายต่อเขา เพราะอุปนิสัยใจคอของเด็กจะวิปริตไปโดยสิ้นเชิงหากเขาถูกตีหรือถูกดุด้วยคำพูดหยาบคาย

พระอับดุลบาฮา (SWAB 125)

29 กุมภาพันธ์

อัยยัมมีฮา

กองทัพของเราคือการฝากความหวังไว้กับพระผู้เป็นเจ้า ประชาชนของเราคือพลังความมั่นใจของเราในพระองค์ ความรักของเราคือธง และสหายของเราคือการระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอยู่นอกเหนือเงื่อนไข

ดูกร ผู้เดินทางในวิถีแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าจงลุกขึ้นและช่วยเหลือศาสนาของพระองค์ ดูกร ประชาชน อย่าเอาพระศาสดาหนุ่มนี้ไปแลกกับสิ่งไร้สาระของโลกนี้หรือความหรรษาของสวรรค์ ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวเป็นพยาน! ผมเส้นเดียวของพระองค์ล้ำเลิศกว่าทุกสิ่งที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก ดูกร มนุษย์ จงระวังอย่าให้สิ่งใดมาชักจูงเจ้าให้ทิ้งพระองค์ไปเพื่อแลกกับทองและเงินที่เจ้าครอบครอง ขอให้ความรักของพระองค์เป็นคลังสมบัติสำหรับวิญญาณของเจ้า ในวันนั้นไม่มีสิ่งใดนอกจากพระองค์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า เสาทุกต้นจะสั่นสะท้าน มนุษย์ทั้งหลายจะขนลุก และตาทุกดวงจะมองขึ้นมาด้วยความสยอง

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 38)

มีนาคม

1 มีนาคม

อัยยัมมีฮา

คุณธรรมและคุณลักษณะทั้งหลายที่เกี่ยวพันกับพระผู้เป็นเจ้าล้วนเป็นที่ประจักษ์แจ้ง ถูกกล่าวถึงและพรรณนาไว้ในคัมภีร์สวรรค์ทุกเล่ม ซึ่งได้แก่ ความไว้วางใจได้ วาจาสัตย์ ความบริสุทธิ์ของหัวใจขณะที่สนทนากับพระผู้เป็นเจ้า ความอดกลั้น ความยอมจำนนต่อสิ่งใดก็ตามที่พระผู้ทรงมหิทธานุภาพประกาศิต พอใจกับสิ่งที่พระองค์กำหนดไว้ อดทน ไม่แค่นั้น ยังขอบคุณเมื่ออยู่ในความทุกข์ยาก และฝากความหวังไว้กับพระองค์โดยสมบูรณ์ในทุกสภาพแวดล้อม ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เหล่านี้คืการกระทำที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดและน่าสรรเสริญที่สุด การกระทำอื่นทั้งหมดเป็นรองต่อการกระทำเหล่านี้…

อย่างไรก็ตามควรระลึกไว้ว่า ไม่ว่าในกรณีใด พระผู้เป็นเจ้าและพระศาสดาของพระองค์ ไม่สามารถแยกจากความสูงส่งและความประเสริฐซึ่งมีอยู่ในพระองค์แต่เดิม ไม่เพียงเท่านั้น ความสูงส่งและความประเสริฐเองถูกสร้างขึ้นมาจากพระวจนะของพระองค์ หากเจ้าตัดสินใจมองด้วยตาของเรามิใช่ของเจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 290, 73)

2 มีนาคม

ถือศีลอด

ข้อดีของการอธิษฐาน คือ การอธิษฐานบันดาลให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างคนรับใช้และพระผู้เป็นหนึ่งที่แท้จริง เพราะในภาวะของการอธิษฐาน มนุษย์หันหน้ามาสู่พระผู้ทรงความสูงส่ง พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ด้วยหัวใจและวิญญาณทั้งหมด แสวงหาการสมาคมกับพระองค์ ปรารถนาความรักและความเห็นอกเห็นใจจากพระองค์ ความสุขอันยิ่งใหญ่สำหรับคนรักคือการสนทนากับผู้ที่เขารัก และของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ที่แสวงหาคือการได้คุ้นเคยกับจุดหมายอันเป็นที่ปรารถนาของเขา นั่นเองที่ทำไมความหวังอันยิ่งใหญ่ที่สุดของวิญญาณทุกดวงที่ถวิลหาอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าคือการอ้อนวอนและวิงวอน ณ มหาสมุทรแห่งวาทะ ความดีงามและความเอื้อเฟื้อของพระองค์

นอกจากนี้ การอธิษฐานและการถือศีลอดคือเหตุของการตื่นตัวและมีสติ ช่วยคุ้มครองและอภิรักษ์ให้พ้นจากการทดสอบ

พระอับดุลบาฮา (DAL 27)

3 มีนาคม

ถือศีลอด

…ดูกร ผู้ที่สละความประสงค์ของตนให้พระผู้เป็นเจ้า! การสละตนเองและการสมัครสมานกับพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร์หมายความว่า มนุษย์ควรให้ความประสงค์ของตนเป็นหนึ่งเดียวกับพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าและถือว่าความปรารถนาของตนเป็นศูนยภาพโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับเจตนาของพระองค์ อะไรก็ตามที่พระผู้สร้างบัญชา พวกเขาต้องพากเพียรปฏิบัติตามให้สำเร็จด้วยความปีติและกระตือรือร้น พวกเขาไม่ควรยอมให้ความเพ้อฝันมาบดบังวิจารณญาณของตน หรือถือว่าจินตนาการของตนเป็นเสียงของพระผู้ทรงอนันต์ ในบทอธิษฐานสำหรับถือศีลอด เราเปิดเผยไว้ว่า: ?หากพระประสงค์ของพระองค์ประกาศให้วจนะเหล่านี้เปล่งออกมาจากโอษฐ์ของพระองค์และตรัสต่อพวกเขาว่า ?ดูกร ประชาชน จงถือศีลอดเพื่อเห็นแก่ความงามของเราโดยไม่สิ้นสุดระยะเวลา? เราขอปฏิญาณต่อราชศักดาแห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์ว่า พวกเขาทุกคนจะปฏิบัติตามอย่างซื่อสัตย์ จะละเว้นจากสิ่งใดก็ตามที่ละเมิดกฏของพระองค์ และจะกระทำเช่นนี้ต่อไปจนกระทั่งพวกเขาสละวิญญาณให้พระองค์? ดังนี้คือการสละความประสงค์ของตนโดยสิ้นเชิงให้แก่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ?จงใคร่ครวญดู เพื่อว่าเจ้าจะได้ดื่มอมฤตแห่งชีวิตนิรันดร์ที่ไหลมากับวจนะของพระผู้เป็นนายของมวลมนุษยชาติ และจะยืนยันว่าพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวทรงความประเสริฐเหนือผู้ที่พระองค์สร้างเสมอ

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 337-8)

4 มีนาคม

ถือศีลอด

ขณะที่อยู่ในคุกเราได้เปิดเผยคัมภีร์ซึ่งเราให้ชื่อว่า ?คัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด? เราได้ออกกฏและประดับคัมภีร์นี้ด้วยบัญญัติต่างๆ ของพระผู้เป็นนายผู้ทรงอำนาจปกครองทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก ดูกร ประชาชนจงยึดถือคัมภีร์นี้ และปฏิบัติตามศีลอันวิเศษที่ลิขิตอยู่ในนั้นซึ่งส่งมาจากพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงอารี สิ่งนี้จะทำให้เจ้ารุ่งเรืองในโลกนี้และโลกหน้าอย่างแท้จริง และจะชะล้างสิ่งที่ไม่เหมาะกับเจ้าออกไป แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ทรงอรรถาธิบาย พระผู้ให้ พระผู้ทรงเอื้อเฟื้อ พระผู้ทรงกรุณา พระผู้เป็นที่สรรเสริญ

เพราะความรู้ของมนุษย์เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าจะไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่และเพียงพอ นอกจากโดยการปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์บัญญัติและแถลงไว้ในคัมภีร์สวรรค์

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 262, 268)

5 มีนาคม

ถือศีลอด

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา! บัญญัติแต่ละข้อที่เราเปิดเผยคือที่มั่นอันแข็งแกร่งสำหรับอภิรักษ์โลกที่ดำรงอยู่แท้จริงแล้วพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้มิได้ปรารถนาอื่นใดนอกจากความปลอดภัยและความเจริญของเจ้า

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา! บัญชาแต่ละข้อที่เปิดเผยมาคือปราการอันแข็งแกร่งสำหรับคุ้มครองโลก

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 69, BPE 9)

6 มีนาคม

ถือศีลอด

ในเรื่องสวรรค์: สวรรค์มีจริงอย่างไม่ต้องสงสัยและในโลกนี้สวรรค์เกิดขึ้นได้โดยอาศัยความรักและความยินดีของเรา ใครก็ตามที่เข้าถึงสิ่งนี้ พระองค์จะช่วยเขาในโลกเบื้องล่างนี้และภายหลังความตาย พระองค์จะช่วยเขาให้เข้าไปสู่สวรรค์ที่มีความไพศาลเท่ากับฟ้าและแผ่นดิน ซึ่งภายในนั้นบริจาริกาแห่งความรุ่งโรจน์อันวิสุทธิ์จะคอยปรนนิบัติเขาทั้งวันทั้งคืน ขณะที่ดวงตะวันแห่งความงามอันไม่จืดจางของพระผู้เป็นนายของเขาจะสาดรัศมีมายังเขาตลอดเวลา และเขาจะเรืองรองอย่างเจิดจ้าจนไม่มีใครจ้องมายังเขาได้ นี้คือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าจัดไว้แต่ถึงกระนั้นประชาชนก็ยังถูกปิดกั้นโดยม่านอันร้ายกาจ ทำนองเดียวกันเจ้าจงเข้าใจธรรมชาติของไฟนรกและเป็นพวกที่เชื่ออย่างแท้จริง เพราะกรรมทุกอย่างที่กระทำไปจะได้รับการตอบแทนตามการประเมินของพระผู้เป็นเจ้า บัญญัติและข้อห้ามทั้งหลายที่พระองค์กำหนดไว้เป็นพยานต่อสิ่งนี้ เพราะแน่นอนเลยว่าหากการกระทำไม่ได้รับผลตอบแทน ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงความประเสริฐ ย่อมไร้ประโยชน์ พระองค์ทรงความประเสริฐเป็นล้นพ้นเหนือการหมิ่นประมาทเช่นนี้! อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ได้ตัดความผูกพันจากทุกสิ่ง กรรมนั้นคือรางวัลของตนเอง หากเราขยายความในเรื่องนี้ จำเป็นต้องใช้ธรรมจารึกมากมาย

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 189)

7 มีนาคม

ถือศีลอด

ดูกร ประชาชนบนพิภพ! การใช้ชีวิตสันโดษและการทรมานตัวเองไม่เป็นที่ยอมรับ ณ ที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า เป็นหน้าที่ของบรรดาผู้ที่มีปัญญาหยั่งรู้ที่จะปฏิบัติสิ่งที่ยังความเบิกบานหรรษา แนวปฏิบัติที่ผุดมาจากท้องของความเพ้อฝันอันไร้สาระหรือกำเนิดมาจากครรภ์ของความงมงาย ไม่เหมาะกับผู้มีปัญญา แต่ก่อนและเมื่อไม่นานมานี้บางคนได้ไปอาศัยอยู่ในถ้ำตามภูเขา ขณะที่บางคนไปที่ป่าช้าในตอนกลางคืน จงเงี่ยหูฟังคำปรึกษาของพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ จงเลิกสิ่งที่นิยมกันในหมู่พวกเจ้า และรับสิ่งที่พระผู้เป็นที่ปรึกษาที่ซื่อสัตย์บัญชาเจ้า อย่าพรากตัวเจ้าเองจากพระพรที่สร้างขึ้นมาเพื่อเห็นแก่เจ้า

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 71)

8 มีนาคม

ถือศีลอด

จงใคร่ครวญดูสักครู่ ในทุกยุคศาสนาอะไรคือสิ่งที่ชักจูงประชาชนบนพิภพให้รังเกียจพระศาสดาของพระผู้ทรงปรานี? อะไรทำให้พวกเขาเมินหนีไปจากพระองค์และท้าทายอำนาจของพระองค์…

ไม่มีข้อสงสัยว่า ในทุคยุคและทุกวัฏจักรที่ผ่านไปหากพระศาสดาเหล่านี้มาปรากฏตรงตามจินตนาการไร้สาระที่ผุดมาจากหัวใจของมนุษย์ ย่อมไม่มีใครปฏิเสธสัจธรรมของพระศาสดาผู้วิสุทธิ์เหล่านี้ แม้ว่ามนุษย์ดังกล่าวได้ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวทั้งวันทั้งคืน และอุทิศตนอย่างเคร่งครัด แต่ถึงกระนั้นในที่สุดพวกเขาก็มิได้ยอมรับอรุโณทัยแห่งสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าและพระศาสดาผู้แสดงหลักฐานที่แย้งไม่ได้ของพระองค์ และไม่รับกรุณาธิคุณที่แผ่มา คัมภีร์ทั้งหลายเป็นพยานในเรื่องนี้ เจ้าก็ได้ยินมาแล้ว

จงพิจารณาดูยุคศาสนาของพระเยซูคริสต์ จงดูซิว่า ผู้มีวิชาทุกคนในยุคนั้นแม้ว่าจะคาดหวังการเสด็จมาของพระศาสดาตามพันธสัญญา แต่ก็ไม่แคล้วที่จะปฏิเสธพระองค์ ทั้งแอนนาสผู้มีวิชาสูงสุดในหมู่นักบวชในยุคของพระองค์ และไคเอสพาสผู้เป็นพระระดับสูงประณามพระองค์และตัดสินประหารชีวิตพระองค์

ทำนองเดียวกัน เมื่อพระโมฮัมหมัดผู้เป็นพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้มวลมนุษย์เป็นพลีแด่พระองค์ ทรงมาปรากฏ ผู้แก่วิชาแห่งเมกกะและเมดินาลุกขึ้นต่อต้านและปฏิเสธข่าวสารของพระองค์ในตอนเริ่มต้นของการเปิดเผยพระธรรม ขณะที่บรรดาผู้ที่ไร้วิชากลับยอมรับศาสนาของพระองค์ จงใคร่ครวญดูสักครู่ จงพิจารณาดูว่า บาลาลซึ่งเป็นชาวเอธิโอเปีย แม้ไม่รู้หนังสือ แต่ก็ได้ขึ้นไปสู่สวรรค์แห่งความศรัทธาและมั่นใจ ขณะที่อับดุลลา อับเบย ซึ่งเป็นผู้นำในหมู่ผู้แก่วิชา กลับคิดร้ายและลุกขึ้นต่อต้านพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (GWB 82-3)

9 มีนาคม

ถือศีลอด

เนื่องด้วยสาวกของพระเยซูไม่เคยเข้าใจความหมายที่ซ่อนเร้นของวาทะเหล่านี้ และเนื่องด้วยสัญลักษณ์ทั้งหลายที่พวกเขาและบรรดาผู้นำศาสนาของพวกเขาคาดหมายมิได้ปรากฏ พวกเขาจึงไม่ยอมรับสัจธรรมของพระศาสดาผู้วิสุทธิ์ทั้งหลายที่ถูกสำแดงให้ปรากฏตั้งแต่สมัยของพระเยซูแม้กระทั่งบัดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงพรากตนเองจากกรุณาธิคุณอันวิสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าที่หลั่งมาและความพิศวงของวาทะของพระองค์ ดังกล่าวนี้คือความตกต่ำของพวกเขาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ พวกเขาไม่เข้าใจว่า หากสัญลักษณ์ทั้งหลายของพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าในทุกยุคมาปรากฏตำตาตามคำพยากรณ์ ย่อมไม่มีใครเมินหรือปฏิเสธ ผู้มีพรย่อมแยกไม่ออกจากผู้น่าเวทนา ผู้กระทำบาปย่อมแยกไม่ออกจากผู้ที่กลัวพระผู้เป็นเจ้า จงพินิจอย่างเที่ยงธรรม: หากคำพยากรณ์ทั้งหลายที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ใหม่บังเกิดขึ้นจริงตามตัวอักษร หากพระเยซูบุตรของแมรี่เสด็จลงมาจากท้องฟ้าบนก้อนเมฆพร้อมกับเทวดาจริงๆ ใครหรือจะบังอาจไม่เชื่อ ใครหรือจะกล้าปฏิเสธสัจธรรมหรือดูหมิ่น? ไม่เพียงเท่านั้น ความอกสั่นขวัญหนีย่อมครอบงำทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกอย่างทันใด จนไม่มีวิญญาณใดสามารถพูดสักคำ ไหนเลยจะปฏิเสธหรือยอมรับสัจธรรม เป็นเพราะความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสัจธรรมเหล่านี้ นักบวชคริสเตียนหลายคนจึงคัดค้านพระโมฮัมหมัดและประท้วงว่า: ?หากท่านเป็นพระศาสดาตามพันธสัญญาที่แท้จริง เช่นนั้นทำไมท่านไม่มีเทวดามาด้วยตามที่คัมภีร์ของเราทำนายไว้ ซึ่งจะต้องเสด็จมากับพระผู้ทรงความงามตามพันธสัญญา เพื่อช่วยเหลือพระองค์ในการเปิดเผยพระธรรม และกระทำตนเป็นผู้เตือนประชาชนของพระองค์??

พระบาฮาอุลลาห์ (KI 80-1)

10 มีนาคม

ถือศีลอด

การคัดค้านและข้อขัดแย้งดังกล่าวมีมาในทุกยุคทุกศตวรรษ ประชาชนมักยุ่งอยู่กับปาฐกถาจอมปลอมเสมอ และประท้วงอย่างไร้สาระว่า: ?เหตุไฉนสัญลักษณ์นี้สัญลักษณ์นั้นจึงไม่ปรากฏ?? ความยุ่งยากเช่นนี้บังเกิดขึ้นเพราะว่าพวกเขายึดถือแนวทางของนักบวชในยุคที่พวกเขามีชีวิตอยู่ และลอกเลียนนักบวชอย่างตาบอดในการยอมรับหรือปฏิเสธพระผู้เป็นสาระแห่งความไม่ผูกพันเหล่านี้ ผู้เป็นพระศาสดาที่วิสุทธิ์ ด้วยจมอยู่ในกิเลสที่เห็นแก่ตัวและใฝ่หาสิ่งที่โสมมและไม่ยั่งยืน ผู้นำเหล่านี้จึงพิจารณาพระศาสดาทั้งหลายว่ามาต่อต้านมาตรฐานความรู้ความเข้าใจของตน เป็นศัตรูต่อแนวทางและวิจารณญาณของตน เนื่องด้วยพวกเขาตีความพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ตีความคำพูดและคำสอนของพยัญชนะแห่งเอกภาพตามตัวอักษร และอรรถาธิบายไปตามความเข้าใจที่บกพร่องของตน พวกเขาจึงได้พรากตนเองและประชาชนจากกรุณาธิคุณและความปรานีของพระผู้เป็นเจ้าที่หลั่งมา…

…นักบวชเหล่านี้ซึ่งยังคงสงสัยและโต้แย้งกันเกี่ยวกับศาสนศาสตร์ที่คลุมเครือของตน แต่กลับมีหน้ามาอ้างว่าเป็นผู้อธิบายความลึกซึ้งของกฎของพระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้อรรถาธิบายความลึกลับของพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

พระบาฮาอุลลาห์ (KI 81-3)

11 มีนาคม

ถือศีลอด

เป็นที่บันทึกไว้ในพระธรรมว่า จากหมู่ชนชาวคริสเตียนทั้งหมด มีไม่เกินเจ็ดสิบคนที่ยอมรับศาสนาของอัครสาวก ของพระผู้เป็นเจ้า ความผิดนี้ตกอยู่กับผู้นำศาสนาของพวกเขา เพราะหากผู้นำเหล่านี้เชื่อ มวลประชาชนของพวกเขาย่อมเชื่อตาม ดังนั้นจงดูเถิดว่าอะไรได้เกิดขึ้น! ผู้มีวิชาในศาสนาคริสต์ได้รับการยกย่องว่ามีวิชาเพราะปกป้องคำสอนของพระคริสต์ และถึงกระนั้นจงพิจารณาดูว่า พวกเขาเองได้เป็นเหตุให้มนุษย์ไม่ยอมรับศาสนาและไม่บรรลุถึงความรอดพ้นอย่างไร! เจ้ายังปรารถนาจะเจริญรอยตามพวกเขาอีกหรือ? สาวกทั้งหลายของพระเยซูศิโรราบต่อนักบวชเพื่อจะได้รอดพ้นในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ และผลของการเชื่อฟังเช่นนี้ในที่สุดพวกเขาได้เข้าไปในกองไฟ และในวันที่อัครสาวกของพระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏ พวกเขาปิดกั้นตนเองจากการยอมรับพระองค์ ผู้ทรงความประเสริฐ เจ้าต้องการจะเจริญรอยตามนักบวชเหล่านี้หรือ?

ไม่เพียงเท่านั้น พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน จงอย่าเป็นนักบวชที่ตาบอดหรือเป็นสาวกที่ตาบอด เพราะทั้งคู่จะมลายสิ้นในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะเป็นนักบวชที่เห็นแจ้ง หรือเดินในวิถีของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเห็นแจ้งโดยการเชื่อฟังผู้นำที่แท้จริงของศาสนา

พระบ๊อบ (SWB 123-4)

12 มีนาคม

ถือศีลอด

บัดนี้จงพิจารณาดูการเปิดเผยคัมภีร์บายัน หากสาวกของคัมภีร์กุรอ่านนำข้อพิสูจน์คล้ายกับที่ตนใช้กับพวกที่ไม่เชื่อศาสนาอิสลาม มาใช้กับตนเอง จะไม่มีแม้แต่วิญญาณเดียวที่ถูกพรากจากสัจธรรม และในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ทุกคนจะรอดพ้น

หากชาวคริสเตียนโต้เถียงว่า ?ข้าพเจ้าจะถือว่าคัมภีร์กุรอ่านเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างไร ในเมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถเข้าใจคัมภีร์นี้?? การโต้เถียงเช่นนี้ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับ ทำนองเดียวกันประชาชนแห่งคัมภีร์กุรอ่านเหยียดหยามว่า ?เราไม่สามารถเข้าในวจนะที่คมคายในคัมภีร์บายัน เราจะถือว่าคัมภีร์นั้นเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างไร?? ใครก็ตามที่พูดเช่นนั้น จงกล่าวต่อเขาว่า ?ดูกร ผู้ที่ไม่ได้เล่าเรียน! ด้วยข้อพิสูจน์ใดเล่าที่เจ้ายอมรับศาสนาอิสลาม? เพราะพระศาสดาที่เจ้าไม่เคยเห็นหรือ? เพราะปาฏิหาริย์ที่เจ้าไม่เคยเห็นหรือ? หากเจ้ายอมรับศาสนาอิสลามโดยไม่ตั้งใจ เจ้าทำเช่นนั้นทำไม? แต่หากเจ้ายอมรับศาสนาเพราะยอมรับว่าคัมภีร์กุรอ่านคือข้อพิสูจน์ เพราะว่าเจ้าได้ยินผู้มีวิชาและผู้ที่ซื่อสัตย์ยอมรับว่าตนไร้อำนาจต่อคัมภีร์นี้ หรือเมื่อได้ยินวจนะสวรรค์และด้วยความรักที่เจ้ามีต่อพระวจนะที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าได้ตอบสนองด้วยดวงจิตแห่งความถ่อมตนและต่ำต้อยที่สุด ซึ่งดวงจิตนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความรักและความเข้าใจที่แท้จริง เช่นนั้นแล้วข้อพิสูจน์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่ามีน้ำหนัก…?

จงพิจารณาดูว่า ประชาชนเหล่านี้ยึดถือในเรื่องของความศรัทธาเพียงไร เมื่อจัดการกับกิจการของตนเอง พวกเขาพอใจกับการยืนยันของพยานสองคนที่ยุติธรรมและถึงกระนั้นแม้จะมีการยืนยันจากผู้ที่ชอบธรรมมากมาย พวกเขากลับลังเลที่จะยอมรับพระผู้เป็นผู้แสดงสัจธรรมสวรรค์

พระบ๊อบ (SWB 120-1)

13 มีนาคม

ถือศีลอด

ทำนองเดียวกันจงตรึกตรองดูยุคศาสนาของธรรมเทศก ของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีระยะเวลา 1,270 ปี จนกระทั่งรุ่งอรุณของการเปิดเผยคัมภีร์บายัน พระองค์กำกับทุกคนให้รอคอยการเสด็จมาของอิหม่ามกาอิมตามพันธสัญญา การกระทำทุกอย่างในยุคของศาสนาอิสลามที่เริ่มต้นด้วยพระโมฮัมหมัด จะไปถึงจุดสมบูรณ์โดยการมาปรากฏของอิหม่ามกาอิม พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงอิหม่ามกาอิมให้ปรากฏพร้อมข้อพิสูจน์ที่เคยประสาทให้กับธรรมเทศกของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าจะไม่มีผู้ที่เชื่อในคัมภีร์กุรอ่านคนใดสงสัยเกี่ยวกับความเชื่อถือได้ของศาสนาของพระองค์ เพราะในคัมภีร์กุรอ่านแถลงไว้ว่าไม่มีใครนอกจากพระผู้เป็นเจ้าที่สามารถเปิดเผยวจนะช่วงเวลา 1,270 ปี ไม่มีสาวกของคัมภีร์กุรอ่านคนใดเคยเห็นบุคคลใดมาปรากฏด้วยข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด บัดนี้พระผู้เป็นนายที่ดำรงอยู่นิรันดร์ทรงประสาทข้อยืนยันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่พระศาสดาตามพันธสัญญาที่เฝ้าคอยกันมานานผู้นี้ และทรงแสดงพระองค์ให้ปรากฏจากสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดได้ เป็นบุรุษที่ถือได้ว่าความรู้ของเขาไม่มีค่า อายุของพระองค์เพียง 25 ปี แต่ความรุ่งโรจน์ขอพระองค์ไม่มีผู้แก่วิชาคนใดในศาสนาอิสลามเทียบได้ เนื่องด้วยความรุ่งโรจน์ของมนุษย์อยู่ที่ความรู้ของเขา จงดูผู้มีวิชาที่ได้รับเกียรติเพราะความสามารถในการเข้าใจธรรมลิขิต และพระผู้เป็นเจ้าทรงยกย่องถึงขนาดพาดพิงถึงพวกเขาว่า: ?ไม่มีใครรู้ความหมายนั้นนอกจากพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่มีภูมิความรู้แน่น? เช่นนั้นแปลกเพียงไรที่บุรุษที่อายุ 25 ปี และไม่ได้เล่าเรียนผู้นี้ได้รับเลือกให้มาเปิดเผยวจนะของพระองค์ในลักษณะที่น่าฉงนยิ่งนัก

พระบ๊อบ (SWB 118)

14 มีนาคม

ถือศีลอด

แท้จริงแล้ววจนะที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยให้แก่พระโมฮัมหมัดเป็นเวลา 23 ปี เท่ากับวจนะที่ทรงเปิดเผยให้แก่เราภายในเวลาสองวันสองคืน อย่างไรก็ตาม ตามที่พระผู้เป็นเจ้าบัญญัติไว้ ไม่ควรแยกให้เห็นความแตกต่างนี้ ความจริงแล้วพระองค์ทรงอานุภาพเหนือทุกสรรพสิ่ง

เราขอปฏิญาณต่อชีวิตของบรมศาสดาที่พระผู้เป็นเจ้าจะสำแดงให้ปรากฏ! การเปิดเผยพระธรรมของเราน่าฉงนยิ่งกว่าพระโมฮัมหมัดผู้เป็นธรรมเทศกของพระผู้เป็นเจ้า หากเจ้าเพียงแต่หยุดเพื่อตรึกตรองถึงยุคสมัยของพระผู้เป็นเจ้า จงดูซิว่าเป็นเรื่องแปลกเพียงไรที่บุคคลหนึ่งเติบโตขึ้นมาท่ามกลางประชาชนชาวเปอร์เซียได้รับอำนาจจากพระผู้เป็นเจ้าให้ประกาศวาทะที่แย้งไม่ได้จนทำให้มนุษย์ผู้มีวิชาทุกคนต้องเงียบ และได้รับการช่วยเหลือให้เปิดเผยวจนะอย่างรวดเร็วกว่าผู้ใดจะเขียนได้

พระบ๊อบ (SWB 139)

15 มีนาคม

ถือศีลอด

การเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ที่สัมพันธ์กับการเสด็จมาของพระผู้เป็นอิหม่ามมีห์ดีตามพันธสัญญาของเจ้าวิเศษกว่าการเปิดเผยพระธรรมที่ประสาทให้แก่พระโมฮัมหมัดผู้เป็นธรรมเทศกของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เจ้าตรึกตรองดูเถิด แท้จริงแล้วพระผู้เป็นเจ้าทรงเชิดชูพระโมฮัมหมัดผู้เป็นธรรมเทศกของพระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางประชาชนชาวอาหรับหลังจากที่พระองค์อายุได้ 40 ปี ซึ่งเป็นความจริงที่เจ้าทุกคนยืนยันและสนับสนุน ขณะที่พระผู้มาไถ่ของเจ้าได้รับการเชิดชูโดยพระผู้เป็นเจ้าเมื่ออายุได้ 24 ปี ท่ามกลางประชาชนที่ไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาอาหรับแม้แต่คำเดียว ดังนี้ที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยความรุ่งโรจน์ของศาสนาของพระองค์ และสาธิตสัจธรรมโดยอาศัยอิทธิพลของพระวจนะของพระองค์

พระบ๊อบ (SWB 146)

16 มีนาคม

ถือศีลอด

ความรู้เป็นเสมือนปีกสำหรับชีวิตของมนุษย์ และเป็นบันไดให้มนุษย์ไต่ขึ้นไป การแสวงหาความรู้เป็นหน้าที่ของทุกคน อย่างไรก็ตามความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ควรแสวงหาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของโลก ไม่ใช่ความรู้ที่เริ่มต้นด้วยคำพูดและจบลงด้วยคำพูด สิทธิ์ของนักวิทยาศาสตร์และช่างฝีมือที่มีต่อประชาชนทั้งหลายของโลกนั้นช่างยิ่งใหญ่จริงๆ คัมภีร์แม่บทเป็นพยานต่อสิ่งนี้ในวันที่พระองค์เสด็จกลับมา ความสุขจงมีแด่ผู้ที่รู้จักสดับฟัง ความจริงแล้วความรู้คือทรัพย์ที่แท้จริงของมนุษย์ คือบ่อเกิดความรุ่งโรจน์ พระพร ความปีติ ความเกษมสันต์ ความเบิกบานและความปลาบปลื้มสำหรับมนุษย์

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 51-2)

ความจริงแล้ววิทยาศาสตร์อาจเปรียบได้กับกระจกที่สะท้อนรูปและภาพของสิ่งที่ดำรงอยู่ทั้งหลาย วิทยาศาสตร์คือรากฐานของการพัฒนาบุคคลและชาติ หากปราศจากรากฐานของการไต่สวนนี้ การพัฒนาเป็นไปไม่ได้

พระอับดุลบาฮา (PUP 50)

17 มีนาคม

ถือศีลอด

พวกที่ไม่เชื่อและไร้ศรัทธามุ่งคิดอยู่สี่อย่าง: ?ประการแรกคือการหลั่งเลือด ประการที่สองคือการเผาหนังสือ ประการที่สามคือ การรังเกียจศาสนิกชนของศาสนาอื่น ประการที่สี่คือ การขจัดชุมชนอื่นและกลุ่มอื่น อย่างไรก็ตามบัดนี้โดยกรุณาธิคุณและอิทธิของพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า อุปสรรคทั้งสี่นี้ถูกทลายลงแล้ว คำสั่งที่ชัดเจนเหล่านี้ถูกลบออกไปจากธรรมจารึก และแนวโน้มที่ป่าเถื่อนถูกเปลี่ยนไปเป็นคุณธรรม

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 91)

เหตุสำคัญ (ของความไม่สงบในหมู่ชาติทั้งหลาย) คือการบิดเบือนศาสนาโดยผู้นำศาสนาและผู้สอนศาสนา พวกเขาสอนสาวกให้เชื่อว่า รูปแบบของศาสนาของตนเท่านั้นที่เป็นที่ยินดีสำหรับพระผู้เป็นเจ้า และสาวกของความเชื่ออื่นถูกตำหนิโดยพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักและถูกพรากจากความปรานีและกรุณาธิคุณของพระองค์ ดังนั้นความไม่ชอบ การดูหมิ่น การโต้แย้งและความเกลียดชัง จึงเกิดขึ้นในหมู่ประชาชน หากอคติทางศาสนาเหล่านี้ถูกกวาดทิ้งไป ในไม่ช้าชาติทั้งหลายย่อมมีสันติภาพและความปรองดอง

พระอับดุลบาฮา (PT 45-6)

18 มีนาคม

ถือศีลอด

จงชำระหัวใจของเจ้า เพื่อว่าเราจะบันดาลให้น้ำพุแห่งปัญญาและวาทะพุ่งออกมาจากหัวใจนั้น ซึ่งจะช่วยให้เจ้าเปล่งเสียงท่ามกลางมวลมนุษยชาติ จงขยับลิ้นและประกาศสัจธรรมเพื่อเห็นแก่การระลึกถึงพระผู้เป็นนาย ผู้ทรงปรานี อย่าได้กลัวผู้ใด จงวางใจในพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงรอบรู้

พระบาฮาอุลลาห์ (TB 189-90)

การรักษาแรกคือ การนำทางประชาชนให้ถูกต้อง เพื่อว่าพวกเขาจะหันมาหาพระผู้เป็นเจ้า และฟังคำปรึกษาของพระองค์ และออกไปด้วยหูที่ได้ยินและตาที่มองเห็น

พระอับดุลบาฮา (SWAB 244)

19 มีนาคม

ถือศีลอด

และโดยการช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้า หากเขาพบร่องรอยของพระผู้เป็นมิตรที่ไร้ร่องรอยในการเดินทางนี้ และได้สูดสุคนธรสของโจเซฟที่สาบสูญไปนานจากธรรมฑูตสวรรค์ เขาจะก้าวไปสู่หุบเขาแห่งความรักทันทีและสลายไปในเพลิงแห่งความรัก ในนครนี้นภาแห่งปีติสุขเปิดออก สุริยันแห่งความปรารถนาส่องแสงให้โลก เพลิงแห่งความรักลุกอย่างโชติช่วง และเมื่อเพลิงแห่งความรักลุกอย่างโชติช่วง เพลิงนั้นเผาเหตุผลเป็นเถ้าถ่าน

บัดนี้ผู้เดินทางลืมตนเองและทุกสิ่ง เขามองไม่เห็นความไม่รู้หรือความรู้ ความสงสัยหรือความมั่นใจ เขาแยกรุ่งเช้าแห่งการนำทางกับกลางคืนแห่งความผิดพลาดไม่ออก เขาหนีจากความไม่เชื่อและความศรัทธา และพิษร้ายคือยาหอมสำหรับเขา…อาชาของหุบเขานี้คือความเจ็บปวด และหากไม่มีความเจ็บปวด การเดินทางนี้จะไม่มีสิ้นสุด ในสภาวะนี้คนรักไม่คิดถึงสิ่งใดนอกจากพระผู้เป็นที่รักยิ่ง และไม่แสวงหาสิ่งใดนอกจากพระผู้เป็นมิตร

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 7-8)

20 มีนาคม

ถือศีลอด

หลังจากปีนขึ้นไปถึงยอดสุดแห่งความพิศวงแล้ว ผู้เดินทางมาสู่หุบเขาแห่งความยากจนอันแท้จริงและศูนยภาพโดยสมบูรณ์ ภาวะนี้เป็นการตายจากอัตตาและมีชีวิตอยู่ในพระผู้เป็นเจ้า ยากจนในอัตตาและร่ำรวยในพระผู้เป็นยอดปรารถนา ความยากจนในที่นี้หมายถึงความยากจนในสรรพสิ่งทางโลก และร่ำรวยในสรรพสิ่งในภพของพระผู้เป็นเจ้า เพราะเมื่อคนรักที่แท้จริงและมิตรที่อุทิศตนไปถึงที่สถิตของพระผู้เป็นที่รักยิ่ง ความงามอันแพรวพราวของพระผู้เป็นที่รักและไฟในหัวใจของคนรักจะลุกอย่างโชติช่วง และเผาม่านและสิ่งหุ้มห่อทั้งปวงให้สิ้นไป ใช่แล้ว ทุกสิ่งที่เขามีนับจากหัวใจถึงผิวหนังจะลุกเป็นไฟ เพื่อว่าจะไม่มีสิ่งใดเหลือนอกจากพระผู้เป็นเจ้า

เมื่อคุณลักษณะของพระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัยเปิดเผยออกมา

เมื่อนั้นพระโมเสสได้เผาคุณลักษณะของสรรพสิ่งทางโลกให้สิ้นไป

ผู้ที่บรรลุถึงภาวะนี้จะบริสุทธิ์พ้นจากทุกสิ่งที่เกี่ยวพันกับโลก

พระบาฮาอุลลาห์ (SVFV 35-36)