ข้อความตัดตอนมาจากบทประพันธ์ของ
ท่านโชกิ ?เอฟเฟนดิ
?ขอความดีจงมีแด่ผู้ที่ตรึงสายตาของเขาไปยังระบบของ
พระบาฮาอุลลาห์?
พระบ๊อบ
?คือการมุ่งสู่เป้าหมายที่มนุษยชาติที่ถูกรังควาญต้องพยายาม คือเป้าหมายของระบบแห่งโลกอันใหม่ซึ่งก่อกำเนิดมาจากพระผู้เป็นเจ้า มีขอบเขตครอบคลุมทั้งหมด มีหลักการที่ยุติธรรม มีลักษณะเด่นทั้งหลายอันท้าทาย?
บทที่ 1
การถูกทดสอบอันสาหัสของมนุษยชาติ
พายุอันรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งวิถีของมันมิอาจคาดคะเนได้ ผลโดยตรงคือความหายนะอันใหญ่หลวง ผลในท้ายที่สุดคือความรุ่งโรจน์อันมิอาจจินตนาการได้ กำลังโฉบพัดพื้นพิภพในปัจจุบัน พลังขับเคลื่อนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างโหดเหี้ยมทั้งในด้านขอบเขตและกำลังเคลื่อนไหว พลังการชะล้างกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันแม้จะตรวจไม่พบ มนุษยชาติซึ่งอยู่ในกำมือของอำนาจทำลายล้างกำลังถูกโจมตีโดยหลักฐานต่างๆ ของความดุเดือดอันมิอาจต้านทานได้ อีกทั้งไม่สามารถแลเห็นจุดกำเนิดหรือหยั่งรู้ถึงความหมายของมัน หรือมองเห็นผลที่จะตามมา ด้วยความงงงวย เจ็บปวดและหมดหนทาง มนุษยชาติได้แต่เฝ้าดูพายุอันยิ่งใหญ่และทรงอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าบุกรุกเข้าไปในดินแดนอันห่างไกลที่สุดและสวยงามที่สุดทั้งหลายบนพิภพ เขย่ารากฐานทั้งหลายทำลายความสมดุล ตัดขาดชาติทั้งหลาย ทำลายบ้านเรือนของประชาชน ทำให้เมืองต่างๆ รกร้าง เนรเทศกษัตริย์ทั้งหลาย ทลายปราการต่างๆ ขุดโค่นสถาบันทั้งหลายลบเลือนแสงสว่าง และทรมานจิตวิญญาณของพลเมืองทั้งหลาย…..
การปฏิบัติการอันทรงอำนาจของการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่นี้ไม่มีใครเข้าใจเว้นแต่ผู้ที่ยอมรับคำกล่าวอ้างของพระบาฮาอุลลาห์และพระบ๊อบ สาวกทั้งหลายของทั้งสองพระองค์ทราบดีว่าสาเหตุมาจากไหนและจะก่อให้เกิดอะไรในท้ายที่สุด ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะแผ่ไปไกลแค่ไหน พวกเขาก็ตระหนักอย่างชัดเจนถึงปฐมเหตุ ทราบถึงทิศทาง ยอมรับถึงความจำเป็น เฝ้าดูอย่างมั่นใจในขบวนการอันลึกลับ อธิษฐานอย่างแรงกล้าเพื่อบรรเทาความรุนแรง ตรากตรำอย่างฉลาดที่จะระงับความดุเดือดและคาดหวังด้วยนิมิตอันแจ่มชัดถึงการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของความกลัวและความหวังทั้งหลายที่จำเป็นต้องก่อให้เกิด
ผู้ที่ยอมรับว่าพระบาฮาอุลลาห์คือพระผู้ทรงเป็นกระบอกเสียงและศาสนทูตผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกนี้ถือว่า การพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้าครั้งนี้เป็นทั้งความหายนะของกรรมสนองและเป็นการปฏิบัติทางวินัยอันศักดิ์สิทธิ์และสูงสุด ในเวลาเดียวกันเป็นทั้งการเยี่ยมเยียนของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นขบวนการชะล้างให้แก่มวลมนุษยชาติ ไฟลงโทษความวิปริตของมนุษยชาติและเชื่อมส่วนประกอบต่างๆ เข้าเป็นชุมชนของโลกที่มีระบบเดียวกันอันมิอาจแบ่งแยกได้
ในด้านหนึ่งพระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงกล่าวเป็นลางเตือนว่า ?ดูกร ประชาชน จงตื่นตัวขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับวันแห่งความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า เพราะชั่วโมงที่สัญญาไว้ได้มาถึงแล้ว? ?จงละทิ้งสิ่งที่เจ้าครอบครองและยึดในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ซึ่งโน้มคอมนุษย์ทั้งหลายให้ต่ำลงได้ทรงนำมา จงรู้ไว้ด้วยว่าหากเจ้าไม่หันหลังให้กับสิ่งที่เจ้าได้กระทำ การลงโทษจะตามมาถึงเจ้าโดยรอบด้านอย่างแน่นอน และเจ้าจะได้เห็นสิ่งที่สาหัสกว่าที่เจ้าเคยเห็นมาก่อนในอดีต? และอีกครั้งหนึ่ง ?ดูกร ประชาชน เราได้กำหนดเวลาไว้สำหรับเจ้าแล้ว ถ้าถึงชั่วโมงที่กำหนดเจ้ายังเพิกเฉยไม่หันมาสู่พระผู้เป็นเจ้า โดยแท้จริงแล้วพระองค์จะทรงกระหน่ำความรุนแรงมาบนเจ้าและจะทรงนำความทรมานอันสาหัสมาโจมตีเจ้าจากทุกทิศทาง?
ในอีกด้านหนึ่งเป็นการทำนายถึงอนาคตอันสดใสที่กำหนดไว้สำหรับโลกที่ถูกห่อหุ้มด้วยความมืดในปัจจุบัน พระบาฮาอุลลาห์ทรงยืนยันหนักแน่นว่า ?โลกทั้งหมดขณะนี้อยู่ในระยะของการตั้งครรภ์ วันนั้นกำลังใกล้เข้ามาคือวันที่จะออกผลอันประเสริฐสุด วันที่ต้นไม้อันสง่าที่สุดทั้งหลายจากสวรรค์ จะผุดออกมา? ?เวลานั้นกำลังใกล้เข้ามาคือเวลาที่ทุกสรรพสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์จะปลดเปลื้องภาระที่แบกอยู่ ขอความรุ่งโรจน์จงมีแด่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงประทานพระกรุณานี้ซึ่งห้อมล้อมสรรพสิ่งทั้งมวลไว้ไม่ว่าเป็นสิ่งที่อยู่บนโลกหรือบนสวรรค์? ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ได้ทรงจารึกเป็นการบอกล่วงหน้าถึงยุคทองของมนุษยชาติว่า ?ความกดขี่อันใหญ่หลวงเหล่านี้กำลังตระเตรียมสำหรับการมาถึงของความยุติธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุด? แท้จริงแล้วความยุติธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้คือความยุติธรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ในที่สุดสามารถเป็นที่ตั้งของโครงสร้างของสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด และสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดจะประกาศถึงอารยธรรมของโลกอันยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งจะคงอยู่สัมพันธ์ไปตลอดกาลกับพระผู้แสดงพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด…..
เวลาผ่านไปเกือบ 100 ปี นับจากการเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ได้รุ่งอรุณขึ้นมาบนโลกนี้ เป็นการเปิดเผยศาสนาที่พระองค์ได้ทรงยืนยันถึงลักษณะว่า ?ไม่มีพระศาสดาองค์ใดในอดีตได้เข้าใจอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นในระดับที่ถูกกำหนดไว้ให้? เป็นเวลาหนึ่งศตวรรษที่พระผู้เป็นเจ้าได้เลื่อนการลงโทษมนุษยชาติ เพื่อว่าเขาอาจจะยอมรับผู้ก่อตั้งศาสนานี้ สนับสนุนศาสนาของพระองค์ ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และสถาปนาระบบของพระองค์ ในพระคัมภีร์จำนวน 100 เล่ม ซึ่งเป็นที่บรรจุของหลักศีลธรรมอันประเมินค่ามิได้ กฎอันทรงอำนาจ หลักการที่เด่นเป็นพิเศษ คำเคี่ยวเข็ญอันเร่าร้อน คำเตือนทั้งหลายที่ย้ำไว้ คำทำนายอันน่าพิศวง คำวิงวอนอันประเสริฐสุด คำบรรยายอันมีน้ำหนัก ซึ่งผู้ที่ถือข่าวสารนี้ได้ทรงประกาศอย่างไม่มีพระศาสดาองค์ใดในอดีตเคยทรงกระทำมาก่อนถึงภาระหน้าที่ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบหมายให้กับพระองค์ ต่อจักรพรรดิ กษัตริย์ เจ้าชายและผู้มีอำนาจทั้งหลาย ต่อผู้ปกครองรัฐบาล นักบวชและประชาชนทั้งหลาย ไม่ว่าในโลกตะวันออกหรือโลกตะวันตก ไม่ว่าคริสเตียน ชาวยิวมุสลิมหรือชาวโซโรแอสเตรียน พระองค์ได้ทรงดำรัสไว้เป็นเวลาเกือบ 50 ปี และในสถานการณ์อันน่าสลดที่สุดถึงไข่มุกอันประเมินค่ามิได้เหล่านี้ซึ่งเป็นไข่มุกแห่งความรู้และความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในมหาสมุทรแห่งวจนะอันหาที่เปรียบมิได้ของพระองค์ ทรงสละชื่อเสียงและลาภยศ ยอมรับการถูกจองจำและการถูกเนรเทศ มิใส่ใจต่อการถูกขับไล่และการถูกประฌาม ยอมต่อการถูกเหยียดหยามทางกายและการสูญเสียอย่างโหดร้าย พระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้แทนของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกนี้ทรงรับความทรมานโดยการถูกเนรเทศจากแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งและจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง…พระองค์ได้ทรงเป็นพยานว่า ?โดยแท้จริงแล้วเรามิได้บกพร่องในหน้าที่ของเราในการว่ากล่าวตักเตือนมนุษย์และในการส่งมอบสิ่งที่เราได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงเป็นที่สรรเสริญ หากพวกเจ้าได้สนใจฟังเรา พวกเจ้าต้องได้เห็นโลกนี้เป็นอีกโลกหนึ่ง? และอีกครั้งหนึ่ง ?มีข้อแก้ตัวเหลืออีกไหมสำหรับใครก็ตามในการเปิดเผยศาสนาใหม่นี้ ไม่ โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันทรงอำนาจ สัญลักษณ์ของเราได้ห้อมล้อมโลกเอาไว้แล้วและอำนาจของเราได้หุ้มห่อมนุษยชาติทั้งหมดแล้ว กระนั้นประชาชนยังคงหลับใหลอย่างน่าฉงนยิ่งนัก?
เราอาจถามตัวเราเองว่าโลกอันเป็นที่ห่วงใยของพระผู้เป็นเจ้านี้ได้ตอบแทนพระผู้ทรงเสียสละทุกอย่างอย่างไร โลกได้ต้อนรับพระองค์ด้วยท่าทีเช่นไรและคำเรียกร้องของพระองค์ได้รับการตอบสนองอย่างไร เสียงโห่ร้องอย่างไม่มีเสมอในประวัติศาสตร์ของอิสลามนิกายชีอะห์ได้ต้อนรับแสงสว่างเริ่มแรกของศาสนาบาไฮในดินแดนกำเนิด…การประหัตประหาร ซึ่งเป็นพยานโดยผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าท่านลอร์ด เคอร์ซันแห่งเคดเลสตัน ได้กระตุ้นความกล้าหาญไม่น้อยไปกว่าไฟของสมิทฟิลด์ ได้ห่ำหั่นวีรบุรุษของศาสนาอย่างน่าสลดในเวลาอันรวดเร็วไม่น้อยกว่า 20,000 คน ผู้ซึ่งปฏิเสธไม่ยอมแลกเปลี่ยนความศรัทธาที่พึ่งเกิดใหม่ของพวกเขากับเกียรติยศและความปลอดภัยที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วของชีวิตบนโลกนี้
ความเมินเฉยโดยสมบูรณ์ของบรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงและมียศ ความเกลียดชังอันไม่ผ่อนคลายที่แสดงออกโดยนักบวชฐานันดรศักดิ์ทั้งหลายของศาสนาจากที่ได้ผุดขึ้นมา การเยาะเย้ยดูถูกของหมู่ประชาชนจากที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา การดูหมิ่นอย่างที่สุดที่แสดงโดยส่วนใหญ่ของกษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายที่ถูกดำรัสถึงโดยผู้ก่อตั้ง การประณาม การขู่เข็ญและการขับไล่ที่บัญชาโดยบรรดาผู้มีอำนาจซึ่งภายใต้อำนาจนั้นได้ลุกขึ้นและแพร่กระจายเป็นครั้งแรก การถูกบิดเบือนหลักธรรมและกฎทั้งหลายโดยผู้ที่อิจฉาและผู้ที่มีเจตนาร้ายในดินแดนต่างๆ ในหมู่ประชาชนทั้งหลายนอกประเทศที่กำเนิด-ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแต่หลักฐานทั้งหลายของการปฏิบัติโดยประชาชนรุ่นที่จมอยู่ในความพอใจกับตนเอง ที่ไม่ใส่ใจต่อพระผู้เป็นเจ้าและลืมลางบอกเหตุ ลืมคำทำนาย คำเตือนและคำตักเตือนทั้งหลายที่เปิดเผยไว้โดยศาสนทูตทั้งหลายของพระองค์….
ต่อการปฏิเสธโดยสิ้นเชิงอย่างน่าละอาย เราจะไม่พิจารณาหรือว่าอะไรได้เกิดขึ้นและยังคงดำเนินต่อไปในวิถีเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีท้ายๆ ในศตวรรษแรกของศาสนาบาไฮอันเป็นศตวรรษที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานอันวุ่นวายและการประหัตประหารอย่างรุนแรงต่อศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ จักรวรรดิทั้งหลายทลายลงเป็นผงธุลี ราชอาณาจักรต่างๆ ถูกโค่นลง ราชวงศ์ต่างๆ ดับสิ้น ราชตระกูลเปรอะเปื้อน กษัตริย์ถูกลอบสังหาร ถูกวางยาพิษ ถูกเนรเทศ และถูกปราบในแผ่นดินของตนเอง บัลลังก์ที่เหลืออยู่จำนวนไม่มากกำลังสั่นคลอนด้วยแรงสะเทือนจากการล้มทลายของบัลลังก์เหล่านั้น…เมื่อเพ่งพิจารณาอย่างเที่ยงธรรมต่อการปรากฏของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อันไม่ผ่อนผันเหล่านี้ซึ่งเกิดภายในระยะอันสั้น แน่นอนไม่มีใครหนีข้อสรุปได้ว่าใน 100 ปีสุดท้ายนี้น่าจะได้รับพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโชคชะตาของราชอาณาจักรว่า เป็นช่วงเวลาแห่งความหายนะอันร้ายแรงที่สุดในประวัติการณ์ของมนุษยชาติ…..
ความเสื่อมของโชคชะตาของผู้ครองอำนาจสูงสุดทางโลกทั้งหลายได้ขนานไปกับความเสื่อมอันน่าตกใจไม่น้อยไปกว่ากันของอำนาจของผู้นำศาสนาทั้งหลายของโลก เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่ได้ประกาศถึงการใกล้เข้ามาของการสลายของราชอาณาจักรและจักรวรรดิ์มากมาย ได้เกิดขึ้นเกือบพร้อมกันกับการแตกทลายของปราการต่างๆ ของศาสนาอันดั้งเดิมซึ่งเคยดูเหมือนว่ามิอาจละเมิดได้ ขบวนการเดียวกันนี้ซึ่งได้ตัดสินชะตาของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ทั้งหลายอย่างรวดเร็วและน่าสลดและดับสิ้นราชวงศ์ของพวกเขา ได้ปฏิบัติการต่อผู้นำของทั้งศาสนาคริสต์และอิสลามทำลายเกียรติของพวกเขา และในบางกรณีได้ล้มสถาบันอันสูงสุดทั้งหลายของพวกเขา ?อำนาจของกษัตริย์และพระ แท้จริงถูกยึดเสียแล้ว? ความรุ่งโรจน์ของกษัตริย์ถูกบดบัง อำนาจของพระได้สูญเสียไปอย่างมิอาจเรียกคืนมาได้…..
ความเป็นปึกแผ่นของบางสถาบันเหล่านี้ที่ได้แตกละเอียดเกินกว่าที่จะหวนคืนมาได้นั้น เป็นที่ชัดเจนเกินกว่าที่ผู้สังเกตการณ์ที่ชาญฉลาดจะเข้าใจผิดหรือปฏิเสธความแตกร้าวในหมู่สาวกทั้งหลายระหว่างผู้ที่ยึดถือหลักดั้งเดิมกับผู้ที่ชอบหลักการเสรีกำลังแยกออกจากกันเรื่อยๆ หลักความเชื่อและหลักเกณฑ์ทั้งหลายของพวกเขาอ่อนลงซึ่งบางอย่างถูกละเลยและยกเลิกไป อำนาจของพวกเขาในการควบคุมความประพฤติของประชาชนกำลังหย่อนลงเรื่อยๆ บุคคลในคณะนักบวชกำลังลดจำนวนลงและลดถอยอิทธิพล ความขี้ตื่นและความไม่จริงใจของนักเทศน์ทั้งหลายกำลัยเผยออกมาในหลายโอกาส ทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่พวกเขาในบางประเทศได้สาบสูญไปและพลังการฝึกฝนทางศาสนาของพวกเขาได้เสื่อมลง อารามต่างๆ ของพวกเขาบางส่วนถูกละทิ้งและทำลายการลืมพระผู้เป็นเจ้า ลืมคำสั่งสอนและจุดมุ่งหมายของพระองค์ ได้ทำให้พวกเขาอ่อนกำลังและยังความอับอายให้แก่พวกเขา…..
สัญลักษณ์ทั้งหลายแห่งการล่มสลายทางศีลธรรมซึ่งต่างจากหลักฐานทั้งหลายของความผุพังของสถาบันต่างๆ ทางศาสนา ปรากฏอย่างเห็นได้ชัดและมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน…ไม่ว่าเราจะหันไปมองทิศใดก็ตาม ไม่ว่าเราจะสังเกตอย่างผิวเผินเพียงไรในการกระทำและคำพูดของประชาชนในรุ่นปัจจุบัน จิตใจของเราจะต้องถูกกระทบโดยหลักฐานต่างๆ ของความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมในส่วนบุคคลไม่น้อยไปกว่าในส่วนรวมที่บุรุษและสตรีทั้งหลายรอบๆ ตัวเราแสดงออก
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าความเสื่อมของศาสนาในฐานะที่เป็นพลังทางสังคมอันหนึ่งซึ่งความเสื่อมของสถาบันทั้งหลายทางศาสนาเป็นเพียงปรากฏการณ์ภายนอก มีส่วนสำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันร้ายแรงและจับตาอย่างยิ่ง พระบาฮาอุลลาห์ทรงจารึกว่า ?ศาสนาคือวิถีทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการสถาปนาระเบียบของโลกและสำหรับความพึงพอใจอันสงบสุขแก่ทุกคน ความอ่อนแอของเสาหลักของศาสนาได้สร้างความแข็งแรงให้กับอำนาจของผู้โง่เขลาและทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวและจองหอง โดยแท้จริงแล้วเรากล่าวว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ฐานะอันสูงส่งของศาสนาตกต่ำได้เพิ่มความดื้อรั้นของคนชั่วร้าย และผลของมันมิอาจเป็นอื่นใดนอกจากอนาธิปไตย? ?ในอีกธรรมจารึกหนึ่งพระองค์ได้ทรงกล่าวว่า ?ศาสนาคือประทีปอันส่องสว่างและปราการอันมิอาจตีแตกได้สำหรับการปกป้องและความผาสุกของประชาชนทั้งหลายของโลก เพราะความเกรงกลัวในพระผู้เป็นเจ้าได้ผลักดันมนุษย์ให้ยึดมั่นอยู่กับสิ่งดีงามและรังเกียจสิ่งชั่วร้าย หากตะเกียงของศาสนาถูกทำให้มืดมน ความไม่มีระเบียบและความสับสนจะตามมา และประทีปแห่งความถูกต้อง ความยุติธรรม ความสงบและสันติภาพ จะหยุดส่องแสง?…..
เราควรยอมรับว่านั่นคือสภาพที่บุคคลและสถาบันทั้งหลายกำลังใกล้เข้าไปทุกที ด้วยความเศร้าโศกต่อชะตากรรมแห่งความหลงผิดของมนุษยชาติ พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงจารึกว่า ?ความสามัคคีที่แสดงออกภายนอกและที่อยู่ภายในนั้นอาจกล่าวได้ว่าไม่สามารถพบได้ในมนุษย์สองคนไหน หลักฐานทั้งหลายของความบาดหมางและความประสงค์ร้ายเป็นที่ประจักษ์ชัดทุกแห่งหน ถึงแม้ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความปรองดองและสามัคคี? ในธรรมจารึกเดียวกันนี้พระองค์ทรงร้องอุทานว่า ?อีกนานเท่าไรมนุษยชาติจะยังขืนอยู่ในความดื้อรั้น อีกนานเท่าไรความอยุติธรรมจะดำเนินอีกต่อไป อีกนานเท่าไรความไม่มีระเบียบและความสับสนจะครอบงำมนุษยชาติ อีกนานเท่าไรความบาดหมางจะก่อกวนสังคม อนิจจา กระแสลมแห่งความสิ้นหวังกำลังพัดมาจากทุกทิศทาง และการทะเลาะวิวาทที่สร้างความแตกแยกและความยุ่งยากให้แก่มนุษยชาติกำลังทวีขึ้นทุกวัน?
การปะทุของความไม่อดกลั้นทางศาสนา ของความเป็นปรปักษ์ทางเชื้อชาติ ของความจองหองทางชาตินิยม หลักฐานที่เพิ่มขึ้นของความเห็นแก่ตัว ของความสงสัย ของความกลัวและความหลอกลวง การแพร่กระจายของความรุนแรงขู่เข็ญ ของการไม่รักษากฎหมาย ของความมัวเมาและอาชญากรรม ความเสียหายอันมิอาจระงับได้และการแสวงหาอย่างเร่าร้อนในสิ่งไร้สาระ ในความร่ำรวยและความพอใจทางโลกีย์ ความเป็นปึกแผ่นของครอบครัวอ่อนแอลง การปล่อยปละละเลยในการควบคุมของผู้ปกครอง การหลงพอใจในความหรูหราฟุ่มเฟือย เจตคติของการไม่รับผิดชอบต่อการแต่งงานและผลตามมาของการหย่าร้างจำนวนเพิ่มมากขึ้น ความเสื่อมทรามของศิลปะและดนตรี ความเน่าเฟะของวรรณคดี และความทุจริตของหนังสือ พิมพ์ การแผ่กว้างของอิทธิพลและกิจกรรมต่างๆ ของ ?พระศาสดาแห่งความเสื่อมโทรม? ผู้ซึ่งสนับสนุนการอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องแต่งงาน ผู้ซึ่งเทศนาปรัชญาแห่งลัทธิเปลือยกาย ผู้ซึ่งถือว่าการถ่อมตัวเป็นสิ่งที่เสก สรรขึ้น ผู้ซึ่งปฏิเสธการพิจารณาการให้กำเนิดบุตรเป็นดั่งจุดประสงค์ที่ต้องเคารพและเป็นอันดับแรกของการแต่งงาน ผู้ซึ่งประณามศาสนาเป็นดั่งยาเสพติดของประชาชน ผู้ซึ่งถ้าได้กุมบังเหียนก็จะพามนุษยชาติถอยหลังไปสู่อนารยธรรม ความไม่มีระเบียบ และความดับสูญในท้ายที่สุด เหล่านี้ปรากฏเป็นลักษณะเด่นทั้งหลายของสังคมที่เสื่อมโทรมอันเป็นสังคมที่จะต้องเกิดใหม่หรือไม่ก็ตายไป…..
อย่างไรก็ตามขออย่าให้ใครเข้าใจผิดในจุดประสงค์ของเรา หรือแสดงออกอย่างผิดๆ ในสัจจะอันสำคัญที่สุดนี้ ซึ่งเป็นแก่นของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ จุดกำเนิดจากสวรรค์ของพระศาสดาทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้า….. ได้รับการยืนยันอย่างเต็มที่และไม่หวั่นไหวโดยสาวกทุกคนของศาสนาบาไฮ เอกภาพมูลฐานของศาสนทูตเหล่านี้ของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการยอมรับอย่างชัดเจน ความต่อเนื่องของการเปิดเผยศาสนาของพระศาสดาทั้งหลายได้รับการยืนยัน อำนาจที่ประทานมาโดยพระผู้เป็นเจ้าและลักษณะอันเกี่ยวพันกันของพระคัมภีร์ทั้งหลายได้รับการยอมรับ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของความมุ่งหมายและจุดประสงค์ของพระศาสดาเหล่านี้ได้รับการประกาศลักษณะพิเศษของอำนาจของพระศาสดาทั้งหลายได้รับการเน้น การปรองดองในท้ายที่สุดของคำสั่งสอนและของสาวกของพระศาสดาเหล่านี้ถูกนำมาสอนและได้รับการคาดหวัง ตามที่ประกาศโดยพระบาฮาอุลลาห์ ?พระศาสดาทั้งหมดสถิตย์อยู่ในเทพมณเฑียรเดียวกัน ทะยานอยู่ในสรวงสวรรค์เดียวกัน ประทับอยู่บนบัลลังก์เดียวกัน แถลงพระวจนะเดียวกัน และประกาศศาสนาเดียวกัน?
ศาสนาที่เป็นอันเดียวกันกับพระนามของพระบาฮาอุลลาห์ปฏิเสธต่อเจตนาใดๆ ที่จะดูแคลนพระศาสดาทั้งหลายที่เสด็จมาก่อนพระองค์ ที่จะบั่นทอนคำสั่งสอนของพระศาสดาเหล่านั้น ที่จะบดบังรัศมีของการเปิดเผยศาสนาทั้งหลายไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ที่จะขับพระศาสดาเหล่านั้นออกจากหัวใจของเหล่าสาวก ที่จะยกเลิกหลักมูลฐานของหลักคำสอนของพระศาสดาทั้งหลาย ที่จะทิ้งพระคัมภีร์ใดๆ ที่ได้เปิดเผยไว้ก่อน หรือที่จะกำจัดความปรารถนาอันถูกต้องสมควรของบรรดาผู้สนับสนุนของพระศาสดาเหล่านั้น เป็นการปฏิเสธคำกล่าวอ้างของศาสนาใดก็ตามที่อ้างว่าเป็นการเปิดเผยศาสนาครั้งสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้าต่อมนุษย์และเป็นการไม่ยอมรับการเปิดเผยศาสนาของพระองค์เองว่าเป็นศาสนาสุดท้าย พระบาฮาอุลลาห์ทรงพร่ำสอนหลักธรรมพื้นฐานของความสัมพันธ์ของสัจจะทางศาสนา ความต่อเนื่องของการเปิดเผยศาสนาจากพระผู้เป็นเจ้า ความก้าวหน้าสืบเนื่องของประสบการณ์ทางศาสนา ความมุ่งหมายของพระองค์คือการขยายรากฐานของศาสนาทั้งหมดและเปิดเผยความลึกลับทั้งหลายในพระคัมภีร์ของศาสนาเหล่านั้น พระองค์ทรงยืนกรานต่อการยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไขถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของจุดประสงค์ของศาสนาทั้งหลาย กล่าวย้ำถึงหลักธรรมมูลฐานทั้งหลายที่ศาสนาต่างๆ เทิดทูน ประสานหน้าที่ต่างๆ ของศาสนาทั้งหลาย แยกแก่นและสิ่งที่เชื่อถือได้ในคำสั่งสอนของศาสนาต่างๆ ออกจากสิ่งที่ไม่สำคัญและสิ่งที่แต่งเติมขึ้นมาเอง ทรงแยกสัจธรรมที่ประทานมาโดยพระผู้เป็นเจ้าออกจากความเชื่องมงายที่มาจากนักบวช และบนรากฐานดังนี้พระองค์ทรงประกาศถึงความเป็นไปได้และทำนายถึงความมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในการประสานสามัคคีศาสนาทั้งหลายและการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของความหวังอันสูงสุดของแต่ละศาสนา…..
มิบังควรที่จะคิดแม้แต่ชั่วขณะหนึ่งว่าสาวกทั้งหลายของพระบาฮาอุลลาห์พยายามที่จะลดเกียรติหรือดูแคลนตำแหน่งของผู้นำศาสนาทั้งหลายของโลก ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียน มุสลิม หรือกลุ่มศาสนาใดก็ตาม หากความประพฤติของพวกเขาตรงกับการประกาศตนของพวกเขา และน่าสรรเสริญสมกับตำแหน่งที่พวกเขาครอบครองอยู่ พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงยืนยันว่า ?ผู้ทรงศีลเหล่านั้น…ผู้ซึ่งประดับด้วยอาภรณ์แห่งความรู้และกิตติคุณที่ดีงาม โดยแท้จริงแล้วเป็นดั่งศีรษะของร่างกายของโลกและจักษุของชาติทั้งหลาย การนำทางของมนุษย์ทั้งหลายขึ้นอยู่กับดวงวิญญาณที่ได้รับพรเหล่านี้เสมอมา?…..
เป็นการพาดพิงถึงการเปลี่ยนแปลงในหนทาง ความคิดและขนบธรรมเนียมของประชาชนอันเป็นผลมาจากการเปิดเผยศาสนาทุกครั้ง พระบาฮาอุลลาห์ทรงเปิดเผยวจนะเหล่านี้ ?จุดประสงค์ของการเปิดเผยศาสนาทุกครั้งมิใช่เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยโดยทั้งหมดของมนุษยชาติหรือ ซึ่งเป็นการเปลี่ยน แปลงที่จะแสดงตัวมันเองทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อชีวิตภายในและต่อสภาพภายนอกทั้งหลาย เพราะถ้าหากอุปนิสัยของมนุษยชาติไม่ถูกเปลี่ยนแปลง ความไร้ประโยชน์ของพระศาสดาสากลของพระผู้เป็นเจ้าจะประจักษ์ชัด?
ในการกล่าวต่อสาวกทั้งหลาย พระคริสต์มิได้ทรงดำรัสวจนะเหล่านี้หรือ ?เรายังมีอีกหลายสิ่งที่จะกล่าวต่อเจ้าแต่เจ้าไม่สามารถรับได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อพระวิญญาณแห่งสัจธรรมเสด็จมา พระองค์จะทรงนำเจ้าไปสู่สัจธรรมทั้งหมด?
จาก…วจนะของพระคริสต์ดังที่เป็นพยานอยู่ในพระคัมภีร์ใหม่ ผู้สังเกตการณ์ที่ปราศจากอคติทุกคนจะเข้าใจทันทีถึงระดับความสำคัญของศาสนาที่พระบาฮาอุลลลาห์ได้ทรงเปิดเผย และยอมรับน้ำหนักอันสั่นสะเทือนในคำกล่าวอ้างที่พระองค์ได้ทรงนำเสนอ…..
ถ้าเราใคร่จะซื่อสัตย์ต่อความหมายอันยิ่งใหญ่ในข่าวสาร แท้จริงแล้วศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ควรได้รับการพิจารณาเป็นดั่งจุดสูงสุดของวัฏจักรอันหนึ่งซึ่งเป็นระยะสุดท้ายในอนุกรมของการเปิดเผยศาสนาทั้งหลายที่สืบเนื่องกันมา ที่ก้าวหน้าต่อเนื่องและเป็นการเตรียมตัวขั้นต้น การเปิดเผยศาสนาเหล่านี้ซึ่งเริ่มต้นด้วยอดัมและสิ้นสุดลงที่พระบ๊อบ ได้ตระเตรียมหนทางและคาดหวังด้วยการเน้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการมาถึงของยุคที่ยิ่งใหญ่กว่ายุคทั้งหลาย อันเป็นยุคที่พระศาสดาตามพันธะสัญญาของทุกยุคสมัยได้ถูกแสดงให้ปรากฏ…
น้ำหนักของศักยภาพทั้งหลายที่ได้รับการประสิทธิ์ประสาท ซึ่งศาสนานี้ได้ครอบครองอย่างหาที่เสมอมิได้ ในประวัติศาสตร์ทางศีลธรรมของโลกและได้บ่งบอกถึงการบรรลุสู่จุดสูงสุดของวัฏจักรของพระศาสดาสากลวัฏจักรหนึ่ง จะสร้างความสับสนให้กับจินตนาการของเรา ความสว่างไสวของระยะ 1000 ปี อันรุ่งโรจน์ซึ่งจะต้องฉายออกมาเมื่อครบกำหนดเวลา จะทำให้ดวงตาเราพร่า ความกว้างใหญ่ของร่มโพธิสมภารซึ่งผู้ก่อนตั้งศาสนานี้จะทอดต่อไปให้พระศาสดาทั้งหลายที่ถูกกำหนดให้ปรากฏสืบเนื่องต่อไปหลังจากพระองค์นั้น เกินกว่าการคำนวณของเรา
ภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งศตวรรษ การปฏิบัติการของขบวนการทั้งหลายอันลึกลับซึ่งกำเนิดมาจากพลังการสร้างสรรค์ของศาสนานี้ ได้กระตุ้นให้เกิดความโกลาหลในสังคมมนุษย์อย่างที่ไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ได้ โดยการผ่านความลำบากในระยะฟักตัวในยุคเริ่มแรก โดยการโผล่ขึ้นมาของระบบที่ก่อร่างอย่างช้าๆ ได้ชักนำให้เกิดความปั่นป่วนในชีวิตส่วนใหญ่ของมนุษยชาติซึ่งมุ่งหมายที่จะเขย่าถึงรากฐานทั้งหลายของสังคมที่ไม่เป็นระเบียบ ที่จะชำระล้างโลหิตแห่งชีวิต ที่จะเปลี่ยนแปลงและผดุงสถาบันทั้งหลายขึ้นใหม่ และวางจุดหมายสุดท้ายของมนุษยชาติ
ผู้ที่มีสายตาไวหรือมีใจปราศจากอคติผู้ซึ่งคุ้นเคยกับสัญลักษณ์และลางทั้งหลายที่ประกาศถึงการใกล้เข้ามาของการกำเนิด และที่มาพร้อมกับการผุดขึ้นของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ จะพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงขยายใหญ่อันน่ากลัวของดาวนพเคราะห์นี้ซึ่งมาพร้อมกับการทำลายล้าง ความทุกข์ยากและความกลัวเป็นเพราะเหตุอื่นใดได้ถ้ามิใช่เป็นเพราะการโผล่ขึ้นมาของระบบแห่งโลกแรกเริ่มของพระองค์ตามที่พระองค์เองได้ทรงประกาศอย่างชัดเจนว่า ?ได้ทำลายสมดุลของโลกและปฏิวัติแบบแผนชีวิตของมนุษยชาติ? จุดเริ่มต้นทั้งหลายของวิกฤตการณ์อันผิดธรรมดานี้ซึ่งมิอาจเข้าใจได้และเป็นที่ยอมรับว่าไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ของมนุษยชาติจะเป็นเพราะเหตุอื่นใดได้ถ้ามิใช่เป็นเพราะการแผ่ซ่านอันมิอาจต้านทานได้ของพลังอันสั่นสะเทือนโลก กระตุ้นโลก ไถ่โลก ซึ่งพระบ๊อบได้ทรงยืนยันว่า ?สั่นสะเทือนถึงภายในสุดของสภาพอันแท้จริงของสรรพสิ่งทั้งหลายที่ถูกสร้างสรรค์? ท่ามกลางความโกลาหลอันรุนแรงของสังคมในสมัยเดียวกัน ท่ามกลางการเดือดพล่านอันบ้าคลั่งในความคิดทั้งหลายของมนุษย์ที่แผ่ไปทั่วโลก ท่ามกลางความเป็นปรปักษ์อันดุร้ายที่กำลังยั่วยุเชื้อชาติ หลักความเชื่อและชนชั้นทั้งหลาย ท่ามกลางความหายนะของชาติทั้งหลาย ท่ามกลางการล้มทลายของกษัตริย์ทั้งหลาย ท่ามกลางความแตกแยกของจักรวรรดิทั้งหลาย ท่ามกลางความดับสิ้นของราชวงศ์ทั้งหลาย ท่ามกลางการพังทลายของการปกครองของนักบวชเป็นลำดับชั้น ท่ามกลางความเสื่อมของสถาบันทั้งหลายอันเก่าแก่น่านับถือ ท่ามกลางการสลายของพันธะทางโลกเช่นเดียวกับทางศาสนาที่ได้เคยยึดสมาชิกทั้งกลายของมนุษยชาติไว้ด้วยกันมาเป็นเวลานาน?ทั้งหมดนี้ได้แสดงตัวด้วยความร้ายแรงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นับแต่การระเบิดของสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งนำมาก่อนเพียงชั่วขณะก่อนการเริ่มต้นยุคแห่งการก่อสร้างระบบของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์-จากสิ่งเหล่านี้เราสามารถทราบได้ทันทีถึงหลักฐานต่างๆ ของความเจ็บปวดของยุคที่ได้ทานต่อแรงกระทบของการเปิดเผยศาสนาของพระองค์ ที่ได้ละเลยต่อคำเรียกร้องของพระองค์ และในปัจจุบันกำลังตรากตรำที่จะปลดภาระที่แบกอยู่ เป็นดั่งผลโดยตรงจากแรงกระตุ้นที่ถ่ายทอดมาโดยอำนาจการก่อกำเนิด อำนาจการชำระล้าง อำนาจการเปลี่ยนสภาพของพระวิญญาณของพระองค์….
พระผู้เป็นเจ้าทรงบรรลุความมุ่งหมายของพระองค์อย่างลึกลับ อย่างช้าๆ และอย่างมิอาจต้านทานได้ แม้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเราในวันนี้คือภาพของโลกที่พันติดอยู่ในร่างแหอย่างสิ้นหวัง ที่ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยต่อเสียงที่ได้เรียกให้มาสู่พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ และนบนอบอย่างน่าสังเวชต่อเสียงล่อลวงทั้งหลายที่กำลังพยายามล่อมันลงไปสู่เหวลึก
พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้ามิใช่อื่นใดนอกจากที่จะประกาศถึงการใกล้เข้ามาของยุคทองอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติซึ่งได้แตกแยกและอยู่ในความยุ่งยากมาเป็นเวลานาน โดยหนทางที่พระองค์เท่านั้นสามารถก่อให้เกิดขึ้นได้ และความหมายอันบริบูรณ์ของมันมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่หยั่งรู้ สภาพของมันในปัจจุบัน แท้จริงแล้วแม้แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ยังมืดมนและมืดมนอย่างน่าวิตก อย่างไรก็ตามอนาคตระยะไกลของมันนั้นสว่างไสว รุ่งโรจน์สว่างไสวอย่างที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้
บทที่ 2
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติ
ไม่ว่าจะมองในแง่ของความประพฤติส่วนบุคคลหรือความสัมพันธ์ที่ดำรงอยู่ระหว่างชุมชนและชาติทั้งหลาย อนิจจา มนุษยชาติได้หลงทางไปไกลและได้ทนทุกข์ต่อความเสื่อมอันใหญ่หลวงเกินกว่าที่จะแก้ไขได้โดยอาศัยแต่เพียงความพยายามของนักปกครองและรัฐบุรุษผู้เชี่ยวชาญที่สุดทั้งหลาย ไม่ว่าพวกเขาจะมีแรงจูงใจอันเที่ยงธรรมแค่ไหน จะร่วมมือกันเพียงไร จะมีความกระตือรือร้นและอุทิศต่อความมุ่งหมายอย่างไม่ยั้งเพียงใด ไม่มีแผนไหนที่ถึงแม้รัฏฐาภิปาลโนบายสูงสุดจะคิดขึ้นมา ไม่มีหลักคำสอนไหนที่ถึงแม้นักอธิบายทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงที่สุดทั้งหลายจะนำเสนอ ไม่มีหลักการไหนที่ถึงแม้ผู้สอนศีลธรรมที่มีความเร่าร้อนที่สุดจะพยายามพร่ำสอน ที่ถึงแม้ได้ลองทุกวิถีทางแล้วจะสามารถวางรากฐานได้อย่างเพียงพอสำหรับการก่อสร้างอนาคตของโลกอันว้าวุ่น
คำวิงวอนให้อดทนซึ่งกันและกันที่นักปราชญ์อาจเรียกร้องซึ่งถึงแม้จะมีผลผลักดันหรือยืนหยัดเพียงใด ก็ไม่สามารถระงับโทสะหรือช่วยฟื้นคืนความแข็งขันได้ แผนใดๆ ขอเฉพาะเพียงการร่วมมือระหว่างนานาชาติไม่ว่าในวงงานไหนของกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งถึงแม้จะมีแนวความคิดอันฉลาดเพียงไรหรือจะมีขอบเขตกว้างขวางเพียงไหน ก็ไม่สามารถถอนรากที่เป็นเหตุของความชั่วร้ายที่ได้รบกวนสมดุลของสังคมปัจจุบันอย่างรุนแรง เรากล้ายืนยันว่าแม้แต่การประดิษฐ์กลไกที่จำเป็นต่อการประสานสามัคคีทางการปกครองและทางเศรษฐกิจของโลกซึ่งเป็นหลักการที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยมาในระยะเวลาไม่นานมานี้ ก็ไม่สามารถโดยตัวมันเองที่จะจัดหายาสำหรับต้านพิษที่กำลังบ่อนทำลายความแข็งขันของประชาชนและชาติทั้งหลายอย่างไม่ลดละ
มีสิ่งอื่นใดอีกหรือหากเราไม่ยืนยันอย่างมั่นใจ นอกจากการยอมรับอย่างเต็มที่ในแผนการของพระผู้เป็นเจ้าที่แถลงไว้อย่างตรงๆ และด้วยอำนาจเมื่อ 60 ปีก่อน โดยพระบาฮาอุลลาห์ ซึ่งได้รวมไว้ในสาระสำคัญ คือแผนที่โองการโดยพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการประสานสามัคคีมนุษยชาติควบคู่กับความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ในความชะงัดของบทบัญญัติทั้งหมด ในท้ายที่สุดจะสามารถต้านทานพลังการแตกสลายภายในซึ่งหากมิได้ถูกรั้งไว้จะต้องกัดกินต่อไปถึงอวัยวะสำคัญของสังคมที่กำลังสิ้นหวัง มันคือการมุ่งสู่เป้าหมายนี้ที่มนุษยชาติที่ถูกรังควาญต้องพยายาม คือเป้าหมายของระบบแห่งโลกอันใหม่ซึ่งก่อกำเนิดมาจากพระผู้เป็นเจ้า มีขอบเขตครอบคลุมทั้งหมด มีหลักการที่ยุติธรรม มีลักษณะเด่นทั้งหลายอันท้าทาย
การอ้างว่าได้เข้าใจความหมายทั้งหมดหรือได้หยั่งรู้ถึงความสำคัญของแผนอันมโหฬารของพระบาฮาอุลลาห์สำหรับความเป็นปึกแผ่นของมนุษย์ทั่วโลกนั้น เป็นการทะนงตัวเกินไปถึงแม้เขาจะเป็นผู้สนับสนุนศาสนาของพระองค์ การพยายามที่จะจินตนาการถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ที่จะประเมินประโยชน์ในอนาคต ที่จะวาดภาพความรุ่งโรจน์ ยังไม่ถึงเวลาอันควรแม้จะอยู่ในระยะอันก้าวหน้าอย่างยิ่งในวิวัฒนาการของมนุษยชาติ
เท่าที่เราสามารถหาญจะพยายามอย่างสมเหตุผลคือการพยายามที่จะมองให้เห็นเพียงชั่วแวบหนึ่งของแสงตะวันแรกเริ่มของอรุโณทัยตามพันธะสัญญาซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาจะขับไล่ความมืดที่ได้ล้อมรอบมนุษยชาติได้เท่าที่เราสามารถทำได้คือการชี้ให้เห็นอย่างคร่าวๆ ในสิ่งที่ปรากฏต่อเราว่าเป็นหลักธรรมนำทางที่เป็นรากฐานของระบบแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์…
ความไม่สงบและความทุกข์ทรมานที่สร้างความยุ่งยากให้แก่มวลมนุษยชาติเป็นผลไม่น้อยโดยตรงมาจากสงครามโลก และเป็นเพราะความไม่ฉลาดและความสายตาสั้นของผู้วางกรอบสนธิสัญญาสันติภาพทั้งหลาย ซึ่งผู้มีใจอคติเท่านั้นที่สามารถปฏิเสธไม่ยอมรับ… อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ที่จะโต้เถียงกันว่าสงครามและความสูญเสียทั้งหมดที่นำมา โทสะที่กระตุ้นและข้อข้องใจทั้งหลายที่ทิ้งไว้ เป็นสิ่งเดียวที่ก่อให้เกิดความสับสนอย่างไม่เคยมีมาก่อนซึ่งเกือบทุกส่วนของโลกอารยะได้จมลงไปในปัจจุบัน นี้คือความคิดอันสำคัญที่สุดที่เราต้องการเน้น-มิใช่ความจริงหรือว่ามูลเหตุของความไม่สงบของโลกมีสาเหตุไม่มากนักมาจากสิ่งที่ไม่ช้าก็เร็วต้องได้รับการพิจารณาเป็นดั่งความไม่เป็นระเบียบชั่วคราวในธุรกิจทั้งหลายของโลกที่เปลี่ยน แปลงอยู่ตลอด แต่มีสาเหตุมากกว่ามาจากความล้มเหลวของบรรดาผู้ที่กุมชะตาของประชาชนและชาติทั้งหลาย ปัจจุบันที่ไม่สามารถปรับระบบทั้งหลายของสถาบันทางเศรษฐกิจและทางการปกครองให้เข้ากับความจำเป็นอันรีบด่วนของยุคที่กำลังวิวัฒน์อย่างรวดเร็ว วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นพักๆ เหล่านี้ที่สร้างความโกลาหลอันรุนแรงให้กับสังคมปัจจุบัน ในอันดับแรกมิใช่เป็นเพราะความไร้สามารถอันน่าเศร้าของผู้นำทั้งหลายของโลกหรือ ที่จะเข้าใจอย่างถูกต้องถึงสัญลักษณ์ทั้งหลายของยุค ที่จะขจัดความคิดทั้งหลายที่ฝังใจอยู่ก่อนและหลักความเชื่อทั้งหลายที่ล่ามพวกเขาไว้ และที่จะจัดกลไกใหม่ในรัฐบาลของพวกเขาให้สอด คล้องกับมาตรฐานทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในการประกาศอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระบาฮาอุลลาห์ถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติซึ่งเป็นลักษณะเด่นและสำคัญที่สุดของศาสนาของพระองค์ เพราะหลักธรรมแห่งความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติซึ่งเป็นศิลาหลักของอำนาจการปกครองที่ครอบคลุมทั่วทั้งโลกของพระบาฮาอุลลาห์ แสดงนัยถึงการบังคับใช้แผนของพระองค์สำหรับการประสานสามัคคีโลกอันเป็นแผนที่เราได้พาดพิงถึงไว้แล้ว พระอับดุลบาฮาทรงจารึกไว้ว่า ?ในทุกศาสนาประทีปแห่งการนำทางของสวรรค์ได้รวมแสงมาที่หัวข้อสำคัญที่สุดอันหนึ่ง…ในการเปิดเผยศาสนาอันน่าพิศวงนี้ในศตวรรษอันรุ่งโรจน์นี้ รากฐานของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและลักษณะเด่นของกฎของพระองค์คือความสำนึกในความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ?
แท้จริงแล้วช่างน่าสงสารเพียงไรในความพยายามทั้งหลายของบรรดาผู้นำของสถาบันต่างๆ ของมนุษย์ผู้ซึ่งไม่เอาใจใส่แม้แต่น้อยต่อพลังแห่งยุค กำลังพยายามที่จะปรับวิธีการทั้งหลายของชาติที่เหมาะสมกับสมัยโบราณที่แต่ละชาติแยกจากกันให้เข้ากับยุคที่จะต้องบรรลุความเป็นเอกภาพของโลกตามที่วาดไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์หรือไม่ก็จะต้องตายไป ในชั่วโมงอันวิกฤติยิ่งในประวัติศาสตร์ของอารยธรรม ผู้นำของทุกชาติทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือผู้น้อย ไม่ว่าจะอยู่ในโลกตะวันออกหรือโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นผู้พิชิตหรือผู้ปราชัย จำเป็นต้องเอาใจใส่ต่อเสียงเรียกร้องของพระบาฮาอุลลาห์ และด้วยความเปี่ยมในสำนึกแห่งความเป็นปึกแผ่นของโลกซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในความจงรักภักดีต่อศาสนาของพระองค์ จำเป็นต้องลุกขึ้นอย่างองอาจที่จะดำเนินแผนการรักษาโดยครบถ้วนซึ่งพระองค์ผู้ทรงเป็นนายแพทย์แห่งสวรรค์ได้ทรงสั่งการไว้ให้สำหรับมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวขอให้พวกเขาทิ้งความคิดที่ฝังใจอยู่ก่อนและอคติระหว่างชาติเสียให้หมด และเอาใจใส่ต่อคำแนะนำอันประเสริฐสุดของพระอับดุลบาฮาผู้ทรงรับมอบอำนาจในการอธิบายคำสั่งสอนทั้งหลายของพระองค์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งซึ่งรับใช้ในรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาได้ถามพระอับดุลบาฮาถึงวิธีที่ดีที่สุดที่เขาจะสามารถส่งเสริมผลประโยชน์ให้แก่รัฐบาลและประชาชนของเขา คำตอบของพระองค์คือ ?ท่านสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศของท่านได้ดีที่สุดถ้าท่านพยายามในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของโลกที่จะช่วยในการนำหลักการของสหพันธรัฐที่เป็นรากฐานของรัฐบาลของประเทศของท่านเองมาใช้กับความสัมพันธ์ทั้งหลายที่ดำรงอยู่ระหว่างประชาชนและชาติทั้งหลายของโลกในปัจจุบัน?
ในธรรมนิพนธ์ความลับของอารยธรรมสวรรค์ซึ่งเป็นการสนับสนุนอันสำคัญของพระอับดุลบาฮาต่อการจัดระบบใหม่ของโลก เราอ่านข้อความต่อไปนี้
?อารยธรรมอันแท้จริงจะคลี่ธงออกในใจกลางสุดของโลกเมื่อประมุขผู้มีชื่อเสียงและมีจิตใจสูงจำนวนหนึ่งผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างอันสดใสของความอุทิศและความตั้งใจได้ลุกขึ้นเพื่อประโยชน์และความสุขของมวลมนุษยชาติด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่และด้วยนิมิตอันชัดเจนที่จะสถาปนาความมุ่งหมายแห่งสันติภาพสากล พวกเขาต้องนำเรื่องความมุ่งหมายแห่งสันติภาพมาเป็นวัตถุประสงค์ของการปรึกษาหารือส่วนใหญ่ และพยายามทุกวิธีการในอำนาจของพวกเขาที่จะสถาปนาสหภาพของชาติทั้งหลายของโลก พวกเขาต้องทำสนธิสัญญาผูกมัดและสถาปนากติกาที่มีบทบัญญัติทั้งหลายอันชอบด้วยเหตุผล ละเมิดมิได้และแน่นอน พวกเขาต้องประกาศต่อทั่วโลกและต้องได้รับการสนับสนุนจากมนุษยชาติทั้งหมด งานอันยิ่งใหญ่ที่สุดและประเสริฐนี้ซึ่งเป็นบ่อเกิดอันแท้จริงของสันติภาพและความผาสุกของทั่วโลก ควรได้รับการพิจารณาโดยทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกนี้เป็นดั่งงานที่ต้องปฏิบัติด้วยความเคารพ กองกำลังทั้งหมดของมนุษยชาติต้องระดมเข้าด้วยกันเพื่อที่จะประกันเสถียรภาพและความถาวรของกติกาอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ ในสนธิสัญญาที่ครอบคลุมทั้งหมดนี้เขตและชายแดนทั้งหลายของแต่ละชาติต้องกำหนดไว้อย่างชัดเจน หลักการต่างๆ ที่เป็นรากฐานความสัมพันธ์ของรัฐบาลทั้งหลายที่มีต่อกันต้องวางไว้อย่างแน่นอน ข้อตกลงและข้อผูกพันทั้งหมดระหว่างประเทศต้องเป็นที่รู้แน่ ในลักษณะนี้ขนาดของอาวุธยุทธภัณฑ์ของทุกรัฐบาลจะถูกจำกัดอย่างเข้มงวด เพราะหากการตระเตรียมสงครามและกำลังทางทหารของชาติใดได้รับอนุญาตให้เพิ่มขึ้นจะก่อให้เกิดความระแวงสงสัยของชาติอื่น หลักการมูลฐานที่เป็นรากฐานของสนธิสัญญาที่ต้องเคารพนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อว่าหากรัฐบาลไหนละเมิดบทบัญญัติใดภายหลังรัฐบาลอื่นทั้งหมดจะลุกขึ้นปราบรัฐบาลนั้นให้ยอมจำนนอย่างเด็ดขาด ไม่เพียงเท่านั้นมนุษยชาติโดยทั้งหมดจะตั้งใจทำลายรัฐบาลนั้นด้วยกำลังที่มีอยู่ทุกอัตรา หากวิธีรักษาอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ได้นำมาใช้กับโลกที่เจ็บป่วย แน่นอนโลกจะฟื้นจากความยุ่งยากและจะคงอยู่อย่างปลอดภัยและมั่นคงไปชั่วกาลนาน?
พระองค์ทรงเพิ่มเติมอีกว่า ?คนจำนวนน้อยส่วนหนึ่งไม่ทราบถึงพลังที่แฝงอยู่ในความพยายามของมนุษย์ พิจารณาเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิบัติได้อย่างยิ่ง ไม่เพียงเท่านั้นยังพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่เกินขอบเขตของความพยายามสูงสุดของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม หาเป็นเช่นนั้นไม่ ในทางตรงกันข้ามเป็นเพราะพระกรุณาอันมิรู้สิ้นของพระผู้เป็นเจ้าเพราะความเมตตารักใคร่ของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปราน เพราะความพยายามอันมิมีที่เสมอของเหล่าดวงวิญญาณที่ฉลาดและสามารถ เพราะความคิดและความเห็นของบรรดาผู้นำที่หาที่เปรียบมิได้ในยุคนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถพิจารณาได้ว่ามิอาจบรรลุได้ ความพยายามอันมิหยุดหย่อนเป็นสิ่งจำเป็น ไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากความตั้งใจอันไม่ย่อท้อที่สามารถบรรลุถึงได้ ความมุ่งหมายมาก มายในยุคทั้งหลายที่ผ่านมาที่ถือว่าเป็นเพียงความฝัน กระนั้นในยุคนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและปฏิบัติได้ ไฉนความมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่และสูงสุดนี้ซึ่งเป็นดวงตะวันบนท้องฟ้าแห่งอารยธรรมอันแท้จริงและเป็นเหตุของความรุ่งโรจน์ ความก้าวหน้า ความผาสุกและความสำเร็จของมวลมนุษยชาติ จะได้รับการพิจารณาว่าไม่มีทางสำเร็จ แน่นอนวันนั้นจะมาถึงคือวันที่ดวงประทีปอันสวยงามจะให้ความสว่างแก่ชุมนุมชนของมนุษย์?
หนึ่งในธรรมจารึกทั้งหลายของพระอับดุลบาฮาซึ่งชี้แจงหัวข้ออันประเสริฐของพระองค์ เปิดเผยดังต่อไปนี้
?ในวัฏจักรทั้งหลายที่ผ่านไปถึงแม้ความปรองดองได้รับการสถาปนา กระนั้นเป็นเพราะปราศจากวิธีการเอกภาพของมวลมนุษยชาติจึงมิอาจบรรลุได้ ทวีปทั้งหลายแยกจากกันไกล ไม่เพียงเท่านั้นแม้ในหมู่ประชาชนในทวีปเดียวกันการสมาคมและการแลกเปลี่ยนความคิดแทบจะเป็นไปไม่ได้ ยังผลให้การติดต่อ ความเข้าใจ และเอกภาพของประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งหมดทั้งหมดของโลกมิอาจบรรลุได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้การคมนาคมได้ทวีขึ้นและห้าทวีปของโลกได้กลายเป็นหนึ่งเดียวโดยแท้จริง….. ในสมาชิกทั้งหมดของมนุษยชาติไม่ว่าประชาชนหรือรัฐบาล ไม่ว่าเมืองหรือหมู่บ้าน ได้เข้ามาพึ่งพาอาศัยกันมากขึ้น เพราะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่ใครจะอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้อื่นเนื่องด้วยสิ่งผูกมัดทางการเมืองได้ประสานประชาชนและชาติทั้งหมด พันธะทางการค้าและอุตสาหกรรม ทางการเกษตรและการศึกษากำลังแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ด้วยเหตุนี้เอกภาพของมวลมนุษยชาติจึงสามารถบรรลุได้ในปัจจุบัน โดยแท้จริงแล้วนี่มิใช่อื่นใดแต่เป็นหนึ่งในสิ่งมหัสจรรย์ทั้งหลายของยุคอันน่าพิศวงนี้ ยุคทั้งหลายในอดีตมิได้รับ แต่สำหรับศตวรรษนี้ซึ่งเป็นศตวรรษแห่งความสว่างได้รับการประสิทธิ์ประสาทด้วยความรุ่งโรจน์ อำนาจและความสว่างไสวเป็นพิเศษและไม่เคยมีมาก่อน ?ด้วยเหตุนี้การคลี่ออกมาอย่างอัศจรรย์ของสิ่งประดิษฐ์ใหม่จึงสร้างความประหลาดใจให้กับทุนวัน ในที่สุดจะเป็นที่ประจักษ์ว่าเทียนทั้งหลายของมันจะลุกอย่างสว่างไสวเพียงใดในชุมชนของมนุษย์
?จงดูซิว่าแสงสว่างกำลังรุ่งอรุณขึ้นมาบนขอบฟ้าที่มืดมนของโลกอย่างไร เทียนเล่มแรกคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของราชอาณาจักรการปกครองซึ่งแสงสลัวแรกเริ่มสามารถเห็นได้ในปัจจุบัน เทียนเล่มที่สองคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของความคิดต่อภารกิจของโลกซึ่งการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์จะได้รับการเป็นพยานในไม่ช้า เทียนเล่มที่สามคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของอิสรภาพซึ่งจะบังเกิดอย่างแน่นอน เทียนเล่มที่สี่คือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของศาสนาซึ่งเป็นศิลาหลักของรากฐาน และโดยอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการเปิดเผยความงดงามทั้งหมด เทียนเล่มที่ห้าคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของชาติทั้งหลายซึ่งภายในศตวรรษนี้จะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคงและจะทำให้ประชาชนทั้งหมดของโลกพิจารณาตนเองเป็นดั่งพลเมืองของปิติภูมิเดียวกัน เทียนเล่มที่หกคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของเชื้อชาติทั้งหลายซึ่งจะทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกกลายเป็นประชาชนและวงศ์ตระกูลของเชื้อชาติเดียวกัน เทียนเล่มที่เจ็ดคือความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของภาษา กล่าวคือการเลือกภาษาสากลหนึ่งภาษาซึ่งประชาชนทั้งหมดจะได้รับการสอนและสนทนา ทั้งหมดนี้จะบังเกิดขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องด้วยอำนาจแห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าจะอุปถัมภ์และช่วยให้มันเป็นจริง?
กว่า 60 ปีที่แล้ว ในธรรมจารึกถึงพระราชินีวิคตอเรียเป็นการดำรัสต่อผู้ปกครองทั้งหลายของโลกพระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงเปิดเผยดังนี้ ?เจ้าจงปรึกษากันและให้ความสนใจของเจ้าอยู่ในเฉพาะสิ่งที่จะอำนวยประโยชน์แก่มนุษยชาติและที่จะปรับฐานะของมนุษยชาติให้ดีขึ้น… จงถือว่าโลกเป็นดั่งร่างกายมนุษย์ซึ่งแม้จะถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดและสมบูรณ์ก็ได้รับความยุ่งยากโดยโรคภัยร้ายแรงต่างๆ จากสาเหตุมากมาย ไม่สักวันเดียวที่ได้พักผ่อน ไม่เพียงเท่านั้นความเจ็บป่วยยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยเหตุที่อยู่ภายใต้การรักษาของนายแพทย์ผู้ไร้ความเชียวชาญทั้งหลายผู้ซึ่งเร่งควบอยู่บนหลังม้าแห่งความอยากทางโลกีย์ของพวกเขาและได้กระทำผิดพลาดอย่างสาหัสและถ้าในเวลาหนึ่งโดยการดูแลของนายแพทย์ที่มีความสามารถ อวัยวะหนึ่งของร่างกายนั้นได้รับการบำบัด อวัยวะที่เหลือยังไม่สบายอยู่เช่นเดิม?….
ในอีกตอนหนึ่งถัดไปพระบาฮาอุลลาห์ทรงเพิ่มเติมวจนะเหล่านี้ ?เราเห็นเจ้าเพิ่มค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเจ้ามากขึ้นทุกปีและทิ้งภาระนั้นไว้ให้กับประชาชนที่เจ้าปกครอง โดยแท้จริงแล้วนี่มิใช่อื่นใดแต่เป็นความอยุติธรรมอันร้ายกาจจงเกรงกลัวต่อเสียงถอนหายใจและชลเนตรของพระผู้ทรงถูกประทุษร้ายนี้และอย่าสุมภาระให้กับประชาชนของเจ้าเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถทนได้….จงปรองดองกันในหมู่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะไม่ต้องสะสมอาวุธอีกต่อไปเว้นแต่มีไว้เพียงจำนวนหนึ่งเพื่อปกป้องดินแดนและอาณาจักรของเจ้า ดูกร ประมุขทั้งหลายของโลก จงสามัคคีกันเพราะด้วยความสามัคคีนั้นจะทำให้พายุแห่งความบาดหมางในหมู่พวกเจ้าสงบลงและประชาชนของเจ้าจะได้พักผ่อน หากใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าเตรียมพร้อมจะเข้าปะทะอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเจ้าทั้งหมดจงลุกขึ้นต่อต้านเขาเพราะนี่มิใชอื่นใดแต่คือความยุติธรรมอันชัดแจ้ง?
วจนะอันมีน้ำหนักเหล่านี้จะหมายความเป็นอื่นใดได้ ถ้ามันมิได้แสดงถึงความมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในการตัดทอนอำนาจอธิปไตยระดับชาติที่มิได้เหนี่ยวรั้งไว้เป็นดั่งมาตรการขั้นแรกอันขาดมิได้ในการสร้างสหพันธรัฐในอนาคตของทุกชาติของโลก รูปแบบหนึ่งของอภิรัฐแห่งโลกจำเป็นต้องก่อร่างขึ้นมาซึ่งเพื่อประโยชน์ ชาติทั้งหมดของโลกจะเต็มใจยกเลิกคำกล่าวอ้างทั้งหมดที่จะทำสงคราม ยกเลิกสิทธิบางประการที่จะกำหนดภาษีและสิทธิทั้งหมดที่จะรักษาอาวุธยุทธภัณฑ์ไว้เว้นแต่ด้วยจุดประสงค์ของการรักษาระเบียบภายในอาณาจักรทั้งหลายของแต่ละชาติ ภายในวงโคจร อภิรัฐดังกล่าวนี้จะต้องมีคณะบริหารนานาชาติที่สามารถบังคับใช้อำนาจอันสูงสุดและมิอาจเปลี่ยนแปลงได้กับทุกสมาชิกของสหพันธรัฐที่ดื้อดึง มีรัฐสภาแห่งโลกซึ่งสมาชิกทั้งหลายจะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในแต่ละประเทศและการเลือกตั้งจะได้รับการรับรองโดยแต่ละรัฐบาลมีศาลสูงสุดซึ่งการพิพากษาจะมีผลผูกมัดแม้ในกรณีที่คู่ความมิได้สมัครใจยินยอมเสนอเรื่องให้พิจารณา ชุมชนแห่งโลกอันหนึ่งซึ่งเครื่องกีดกั้นทั้งหลายทางเศรษฐกิจจะต้องถูกทำลายไปอย่างถาวรและการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างเงินทุนและแรงงานจะเป็นที่ยอมรับอย่างแน่นอน ซึ่งเสียงโห่ร้องของความบ้าคลั่งและการทะเลาะวิวาททางศาสนาจะเงียบสงบตลอดไป ซึ่งเปลวไฟแห่งความเป็นปรปักษ์ระหว่างเชื้อชาติจะดับลงในที่สุด ซึ่งประมวลกฎหมายระหว่างประเทศหนึ่งเดียวกันเป็นผลจากการพินิจพิจารณาของผู้แทนทั้งหลายของสหพันธรัฐ จะมีอำนาจแทรกแซงได้ทันทีและมีผลบังคับโดยกองกำลังร่วมกันของหน่วยต่างๆ ของสหพันธ์ และในที่สุดความคลั่งของลัทธิชาตินิยมอันไม่แน่นอนและชอบใช้ความรุนแรงจะถูกเปลี่ยนเป็นความสำนึกตลอดไปในความเป็นพลเมืองของโลก-แท้จริงเหล่านี้คือการปรากฏอย่างคร่าวๆ ของระบบที่คาดการณ์ไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์อันเป็นระบบที่จะได้รับการพิจารณาเป็นดั่งผลอันสวยงามที่สุดของยุคที่กำลังพัฒนาอย่างช้าๆ ไปสู่ความสมบูรณ์
พระบาฮาอุลลาห์ทรงประกาศในข่าวสารของพระองค์ถึงมวลมนุษยชาติว่า ?เทพมณเฑียรแห่งเอกภาพได้รับการยกขึ้นแล้ว เจ้าจงอย่าถือกันและกันเป็นดั่งคนแปลกหน้า…พวกเจ้าทั้งหมดคือผลไม้จากต้นเดียวกันและใบไม้บนกิ่งเดียวกัน…โลกนี้เป็นเพียงประเทศเดียวและมนุษยชาติคือพลเมืองประเทศนั้น… มนุษย์จงอย่าภูมิใจว่าเขารักประเทศของเขา เขาควรภูมิใจว่าเขารักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน?
ขออย่ามีความสงสัยในจุดประสงค์อันกระตุ้นชีวิตของกฎที่แผ่ไปทั่วโลกของพระบาฮาอุลลาห์ ที่มิได้มุ่งหมายที่จะลบล้างรากฐานทั้งหลายของสังคมที่มีอยู่หากแต่พยายามที่จะขยายรากฐานให้กว้างออกไป ที่จะหล่อสถาบันทั้งหลายเสียใหม่ให้เป็นลักษณะที่สอดคล้องกับความต้องการทั้งหลายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มิได้ขัดแย้งกับความจงรักภักดีอันถูกต้องสมควร มิได้บ่อนทำลายความซื่อสัตย์เดิม จุดประสงค์มิใช่ที่จะกำจัดเปลวไฟแห่งความรักชาติที่มีสติและฉลาดในหัวใจทั้งหลายของมนุษย์ มิใช่ที่จะเลิกล้มระบบของการปกครองตนเองของชาติซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งถ้าภัยของการรวมอำนาจมากเกินไปจำต้องหลีกเลี่ยงมิได้ละเลยและมิได้พยายามที่จะกำจัดความแตกต่างทางชาติพันธ์กำเนิด ทางภูมิอากาศ ทางประวัติศาสตร์ ทางภาษาและธรรมเนียมประเพณี ทางความคิดและนิสัยที่ทำให้ประชาชนและชาติทั้งหลายของโลกต่างจากกัน เรียกร้องให้มีความจงรักภักดีที่กว้างขวางกว่า ให้มีความใฝ่ฝันที่ใจกว้างกว่าความใฝ่ฝันใดๆ ที่เคยกระตุ้นมนุษยชาติ ยืนกรานในความเป็นรองของแรงกระตุ้นและผลประโยชน์ระดับชาติต่อการเรียกร้องอันจำเป็นทั้งหลายของโลกที่ประสานเข้าด้วยกัน ในด้านหนึ่งจะปฏิเสธต่อความพยายามทั้งหลายในความเป็นแบบเหมือนกันทั้งหมด คติพจน์คือเอกภาพในความแตกต่างดังที่พระอับดุลบาฮาได้ทรงอธิบายว่า
?จงพิจารณาดอกไม้ทั้งหลายในสวนหนึ่ง ถึงแม้จะแตกต่างกันไปตามชนิด สี ลักษณะและรูปร่าง กระนั้น เนื่องด้วยได้รับความสดชื่นโดยน้ำพุธรรมชาติเดียวกัน ได้รับการฟื้นฟูโดยลมหายใจจากกระแสลมเดียวกัน ได้รับความแข็งขันจากรัศมีของดวงอาทิตย์เดียวกัน ความแตกต่างนี้เพิ่มเสน่ห์และเสริมความงามให้แก่ดอกนั้น เป็นสิ่งไม่น่าดูเพียงไรถ้าดอกไม้และพฤกษา ใบไม้และช่อดอกไม้ ผลไม้ กิ่งและต้นไม้ทั้งหมดของสวนนั้น มีรูปร่างและสีเดียวกัน ความแตกต่างของสี ลักษณะและรูปร่าง ได้ตกแต่งและประดับความงามให้แก่สวนและเพิ่มความประทับใจ ในลักษณะนี้เมื่อระดับทั้งหลายของความคิด อารมณ์และอุปนิสัย ถูกนำมารวมกันภายใต้อำนาจและอิทธิพลของการปฏิบัติการกลางอันหนึ่ง ความงามและความรุ่งโรจน์แห่งความสมบูรณ์ของมนุษย์จะถูกเปิดเผยและแสดงปรากฏไม่มีสิ่งใดนอกจากอำนาจสวรรค์ของพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าที่ปกครองและอยู่เหนือสภาพอันแท้จริงของสรรพสิ่งทั้งปวงที่สามารถปรองดองความคิด ความรู้สึก ความเห็นและความเชื่อมั่นที่แตกต่างกันของเด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์?
เสียงเรียกร้องของพระบาฮาอุลลาห์ในอันดับแรกมุ่งต่อต้านทุกรูปแบบของทัศนะอันคับแคบ ความใจแคบและอคติทั้งหลาย ถ้าอุดมคติทั้งหลายที่ยึดมั่นมาเป็นเวลานานและสถาบันทั้งหลายอันเก่าแก่น่านับถือ ถ้าสมมุติฐานทางสังคมและกฎเกณฑ์บางอย่างของศาสนา ได้หยุดส่งเสริมความผาสุกของมนุษยชาติส่วนใหญ่ ถ้าสิ่งนี้มิได้สนองความต้องการของมนุษยชาติที่วิวัฒน์อยู่ตลอดอีกต่อไป ขอให้สิ่งเหล่านี้ถูกกวาดทิ้งไปและไล่ลงไปสู่ห้วงเหวของหลักคำสอนที่พ้นสมัยและถูกลืมไปแล้ว ในโลกที่อยู่ภายใต้กฎอันถาวรแห่งการเปลี่ยนแปลงและความเสื่อม ไฉนสิ่งเหล่านี้จะพ้นจากความเสื่อมซึ่งจำเป็นต้องมาสู่ทุกสถาบันของมนุษย์ เพราะมาตรฐานทั้งหลายทางนิตินัยทฤษฎีทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ได้รับการออกแบบเพียงเพื่อที่จะปกป้องผลประโยชน์ของมนุษยชาติโดยทั้งหมด มิใช่ให้มนุษยชาติถูกประหัตประหารเพื่อที่จะสงวนบูรณ ภาพของกฎหรือหลักคำสอนเฉพาะใดๆ
ขออย่ามีการเข้าใจผิด หลักธรรมแห่งความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติซึ่งเป็นแกนสำคัญที่คำสั่งสอนทั้งหมดของพระบาฮาอุลลาห์หมุนรอบ มิใช่เป็นเพียงการระเบิดออกของการโน้มน้าวความรู้สึกด้วยความเขลาหรือเป็นการแสดงความหวังแห่งความศรัทธาอันคลุมเครือ การเรียกร้องนี้มิใช่เป็นเช่นเพียงการตื่นตัวของดวงจิตแห่งภราดรภาพและไมตรีในหมู่มนุษย์ มิได้มุ่งหมายเฉพาะเพียงจะบำรุงเลี้ยงการร่วมมือกันอย่างปรองดองในหมู่ประชาชนและชาติทั้งหลาย ความหมายที่ลึกซึ้งกว่า คำกล่าวอ้างยิ่งใหญ่กว่าที่พระศาสดาทั้งหลายในอดีตได้รับอนุญาตให้นำเสนอข่าวสารประยุกต์ใช้ได้มิเฉพาะเพียงส่วนบุคคลแต่เอาใจใส่ในอันดับแรกกับคุณลักษณะของความสัมพันธ์อันจำเป็นทั้งหลายที่ต้องผูกมัดรัฐและชาติทั้งหมด เป็นดั่งสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน มิใช่เป็นเช่นเพียงการแถลงอุดมคติอันหนึ่ง แต่ร่วมสัมพันธ์อย่างมิอาจแยกจากกันได้กับสถาบันหนึ่งที่สามารถแสดงความจริง สาธิตความมีเหตุผล และรักษาอำนาจให้คงอยู่ตลอดไป แสดงนัยถึงการเปลี่ยนแปลงอันหนึ่งของระบบโครงสร้างของสังคมปัจจุบัน อันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โลกไม่เคยประสบมาก่อน เป็นเช่นการท้าทายอย่างกล้าหาญและอย่างเป็นสากลในเวลาเดียวกันต่อขนบธรรมเนียมที่พ้นสมัยของหลักความเชื่อต่างๆ ของชาติอันเป็นหลักความเชื่อที่เคยมีสมัยของมัน และในวิถีปกติของเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่วางรูปและควบคุมโดยพระผู้เป็นเจ้า ต้องเปิดทางให้หลักคำสอนใหม่อันหนึ่งซึ่งต่างกันโดยมูลฐานและเหนือกว่าอย่างเหลือคณนาต่อสิ่งที่โลกเคยคิด เรียกร้องให้มีการผดุงขึ้นใหม่และการลดกำลังทหารทั่วโลกอารยะอันเป็นโลกที่ได้รับการประสานอย่างมีระบบในทุกลักษณะที่สำคัญของชีวิต ของกลไกการเมืองของความใฝ่ฝันทางศีลธรรม ของการค้าและการคลัง ของอักษรและภาษาและกระนั้นยังคงแตกต่างกันอย่างไม่มีสิ้นสุดในลักษณะทั้งหลายของชาติที่เป็นหน่วยต่างๆ ของสหพันธ์
แสดงถึงการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของการวิวัฒนาการของมนุษย์อันเป็นวิวัฒนาการที่มีจุดเริ่มต้นแรกสุดในการกำเนิดของครอบครัว การพัฒนาต่อมาคือความสำเร็จในความเป็นปึกแผ่นของเผ่าพันธุ์ ลำดับต่อมานำไปสู่การประกอบกันขึ้นเป็นนครรัฐ และภายหลังขยายเป็นสถาบันของชาติอิสระและเป็นเอกราชทั้งหลาย
หลักธรรมแห่งความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติตามที่ประกาศโดยพระบาฮาอุลลาห์ ยืนยันอย่างจริงจังว่าการบรรลุสู่ระยะสุดท้ายในวิวัฒนาการอันมโหฬารนี้มิใช่เป็นเพียงสิ่งที่จำเป็นแต่เป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ความเป็นจริงกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว และไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากอำนาจที่กำเนิดจากพระผู้เป็นเจ้าที่สามารถสถาปนาได้…..
ใครจะรู้ว่าเพื่อที่จะให้ความคิดอันสูงยิ่งนี้กลายเป็นรูปร่างที่แน่นอน ความทุกข์ทรมานอันรุนแรงกว่าที่ได้เคยประสบจะต้องบังเกิดแก่มนุษยชาติ สิ่งใดหรือที่น้อยกว่าไฟของสงครามกลางเมืองกับความรุนแรงและความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด-อันเป็นสงครามที่เกือบจะฉีกสาธารณรัฐอเมริกาอันยิ่งใหญ่-ที่ได้เชื่อมรัฐทั้งหลายเข้าด้วยกันมิใช่เป็นเพียงสหภาพของหน่วยอิสระต่างๆ แต่เป็นชาติหนึ่งแม้ความแตกต่างทั้งปลายทางชาตะพันธุ์ได้เป็นลักษณะของส่วนประกอบ การปฏิวัติขั้นมูลฐานที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันกว้างไกลในโครงสร้างสังคมจะบรรลุได้โดยวิธีการปกติทางการทูตและการศึกษานั้น ดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง เราเพียงแต่ต้องหันสายตาของเราไปยังประวัติศาสตร์ที่เปื้อนโลหิตของมนุษยชาติเพื่อที่จะตระหนักว่าไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากความเจ็บปวดอันรุนแรงทางจิตใจเช่นเดียวกับทางกายที่เคยสามารถเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่เหล่านั้นซึ่งเป็นเช่นรอยหมายอันยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งหลายในประวัติศาสตร์อารยธรรมของมนุษย์
ยิ่งใหญ่และกว้างไกลดังเช่นการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นในอดีต เมื่อมองในสัดส่วนที่เหมาะสมไม่สามารถปรากฏเว้นแต่เป็นดั่งการปรับช่วยเหลือซึ่งโหมโรงการเปลี่ยนรูปของอำนาจและขอบเขตอันไม่มีที่เสมอซึ่งมนุษยชาติในยุคนี้ถูกผูกมัดให้ต้องประสบ อนิจจา พลังความหายนะของโลกเท่านั้นที่กำลังปรากฏชัดเจนมากขึ้น ที่สามารถเร่งให้เกิดระยะใหม่ดังกล่าวของความคิดมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากไฟแห่งการทดสอบอันรุนแรงซึ่งแรงจัดอย่างไม่มีที่เสมอที่สามารถหลอมและเชื่อมความบาดหมางทั้งหลายซึ่งเป็นองค์ประกอบของอารยธรรมในปัจจุบันเข้าเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของสหพันธรัฐแห่งโลกในอนาคต ซึ่งเป็นความจริงที่เหตุการณ์ทั้งหลายในอนาคตจะสาธิตให้เห็นมากขึ้น
เสียงร้องทำนายของพระบาฮาอุลลาห์ในตอนจบของพระวจนะแห่งความเร้นลับที่เตือนประชาชนทั้งหลายของโลกว่า ความหายนะอันมิอาจคาดการล่วงหน้าได้กำลังติดตามพวกเขาและผลกรรมอันสาหัสรอคอยพวกเขาอยู่ แท้จริงแล้วส่องแสงอันน่าขนลุกมายังโชคชะตาปัจจุบันของมนุษยชาติที่กำลังทุกข์โศก ไม่มีสิ่งใดนอกจากการทดสอบอันร้อนแรงซึ่งมนุษยชาติจะโผล่ขึ้นมาโดยถูกลงโทษจนหลาบจำและเตรียมพร้อม ที่สามารถบรรลุผลสำเร็จในการปลูกฝังความสำนึกในความรับผิดชอบนั้น ซึ่งผู้นำทั้งหลายต้องลุกขึ้นแบกภาระ
เราใคร่ที่จะมุ่งความสนใจของท่านอีกครั้งมาสู่วจนะที่เป็นลางของพระบาฮาอุลลาห์ซึ่งเราได้คัดมากล่าวไว้แล้ว ?และเมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนดไว้ จะปรากฏอย่างทันใดในสิ่งที่จะทำให้แขนขาของมนุษยชาติสั่นสะท้าน??..
อีกถ้อยคำหนึ่งในที่สุดนี้ การประกาศถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติซึ่งเป็นศิลาหลักของอำนาจการปกครองที่ครอบคลุมทั่วทั้งหมดของพระบาฮาอุลลาห์ ไม่ว่าในกรณีใดไม่สามารถนำมาเปรียบได้กับถ้อยคำทั้งหลายของความหวังแห่งความศรัทธาที่กล่าวไว้ในอดีต พระวจนะของพระองค์มิใช่เป็นเพียงเสียงเรียกร้องที่พระองค์ทรงเปล่งขึ้นโดยลำพังและมิได้เป็นการช่วยเหลือต่อการร่วมกันต่อต้านอย่างไม่ผ่อนผันของสองผู้ที่อำนาจสูงสุดในโลกตะวันออกในสมัยของพระองค์ขณะที่พระองค์เป็นผู้ถูกเนรเทศและนักโทษอยู่ในเงื้อมือของพวกเขา แสดงนัยเวลาเดียวกันถึงคำเตือนและพันธะสัญญา เป็นคำเตือนที่มีอยู่ซึ่งวิธีการเพียงอย่างเดียวสำหรับการช่วยเหลือโลกที่กำลังทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง เป็นพันธะสัญญาว่าความเป็นจริงอยู่แค่เอื้อม
ได้รับการกล่าวไว้เมื่อเวลาหนึ่งที่ความเป็นไปได้ไม่เคยเป็นที่คาดคิดอย่างจริงจังมาก่อนในดินแดนใดของโลก เพราะอำนาจสวรรค์ที่พระวิญญาณของพระบาฮาอุลลาห์ได้หายใจมายังสิ่งเหล่านี้ ในที่สุดได้รับการพิจารณาโดยผู้ที่ช่างคิดจำนวนมากขึ้นจำนวนหนึ่งว่ามิเพียงความเป็นไปได้ที่กำลังใกล้เข้ามาแต่ยังเป็นผลอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ของพลังทั้งหลายที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในโลกขณะนี้ โลกได้หดเข้ามาและเปลี่ยนรูปเป็นระบบหนึ่งเดียวที่ซับซ้อนอย่างยิ่งโดยความก้าวหน้าอย่างประหลาดในขอบเขตของวิทยาศาสตร์ โดยการขยายการค้าและอุตสาหกรรมแผ่ไปทั่วโลก และกำลังดิ้นรนภายใต้ความกดดันของพลังทางเศรษฐกิจของโลกท่ามกลางหลุมพรางทั้งหลายของความเจริญทางวัตถุ แน่นอนมีความต้องการอย่างน่ากลัวต่อการแถลงอีกครั้งถึงสัจธรรมที่เป็นรากฐานของการเปิดเผยศาสนาในอดีตในภาษาที่เหมาะกับความจำเป็นอันสำคัญทั้งหลาย เสียงร้องอื่นใดหรือนอกจากของพระบาฮาอุลลาห์ พระผู้ทรงเป็นกระบอกเสียงของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับยุคนี้ ที่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนรูปสังคมได้ถึงรากดังที่พระองค์ได้ทรงกระทำสำเร็จในหัวใจของบุรุษและสตรีทั้งหลายที่มีความแตกต่างกันอย่างยิ่ง และดูเหมือนมิอาจปรองดองกันได้ ผู้ซึ่งประกอบกันเป็นหมู่สาวกทั้งหลายของพระองค์ทั่วโลก
ความคิดที่มีอำนาจนี้ที่กำลังแตกหน่ออย่างรวดเร็วในจิตใจของมนุษย์ทั้งหลาย เสียงร้องทั้งหลายที่กำลังเปล่งสนับสนุน ลักษณะเด่นทั้งหลายที่ต้องก่อร่างอย่างรวดเร็วในสำนึกของผู้มีอำนาจทั้งหลาย แท้จริงแล้วน้อยคนสามารถสงสัย จุดเริ่มต้นอันพอประมาณได้กลายเป็นรูปร่างอันแน่นอนของการบริหารที่แผ่ไปทั้งโลกซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ร่วมสัมพันธ์นั้น เฉพาะผู้ที่หัวใจเปื้อนด้วยอคติที่มองไม่เห็น….
บทที่ 3
แบบแผนหนึ่งสำหรับสังคมในอนาคต
น้อยคนที่จะมองไม่ออกว่าพระวิญญาณที่พระบาฮาอุลลาห์หายใจมาบนโลก ซึ่งกำลังแสดงตัวในระดับความรุนแรงต่างๆ โดยความพยายามที่ได้แสดงออกอย่างมีสำนึกของผู้สนับสนุนที่ปฏิญาณคนแล้วทั้งหลายของพระองค์และในทางอ้อมโดยองค์การการกุศลจำนวนหนึ่ง จะไม่สามารถซึมซาบและปฏิบัติการโน้มน้าวมนุษยชาติได้ยั่งยืนนอกจากและจนกว่าจะก่อร่างขึ้นมาเป็นระบบอันแน่ชัดซึ่งจะแสดงพระนามของพระองค์ เป็นทั้งหมดเดียวกันกับหลักธรรมต่างๆ ของพระองค์และทำหน้าที่ตรงกับกฎทั้งหลายของพระองค์ พระบาฮาอุลลาห์ในพระคัมภีร์อัคคัส และต่อมาพระอับดุลบาฮาในพระประสงค์ของพระองค์ซึ่งเป็นเอกสารที่ยืนยัน เสริมและเกี่ยวพันกับบทบัญญัติทั้งหลายของพระคัมภีร์อัคดัสได้ทรงประกาศโดยครบถ้วนถึงองค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหลายในการสถาปนาสหพันธรัฐบาไฮแห่งโลกซึ่งไม่มีใครที่ได้อ่านแล้วจะปฏิเสธ ตามหลักการบริหารเหล่านี้ที่บัญญัติโดยพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ซึ่งเป็นเรือแห่งความรอดพ้นของมนุษย์จำเป็นต้องได้รับการจำลองขึ้น จากหลักการเหล่านี้พระพรในอนาคตทั้งหมดจะต้องหลั่งไหลออกมาและอำนาจอันมิอาจละเมิดได้ของศาสนาจะต้องขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ในท้ายที่สุด
เราควรยอมรับได้แล้วว่าพระบาฮาอุลลาห์มิได้ทรงเพียงอาบพลังที่ให้ชีวิตใหม่แก่มนุษยชาติ พระองค์มิได้ทรงแถลงหลักการสากลทั้งหลายจำนวนหนึ่งหรือ เพียงแต่เสนอปรัชญาเฉพาะอันหนึ่งไม่ว่าจะมีอำนาจชอบด้วยเหตุผลและเป็นสากลเพียงใดก็ตาม นอกจากสิ่งเหล่านี้พระองค์เช่นเดียวกับพระอับดุลบาฮาถัดจากพระองค์ ไม่เหมือนศาสนาทั้งหลายในอดีต อย่างชัดเจนและอย่างเจาะจงได้ ทรงวางกฎชุดหนึ่ง สถาปนาสถาบันทั้งหลายที่แน่นอน และจัดเตรียมสำหรับองค์ประกอบมูลฐานของระบบเศรษฐกิจของพระผู้เป็นเจ้า เหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นแบบแผนหนึ่งสำหรับสังคมในอนาคตเป็นเครื่องมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการสถาปนาสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นการปฏิบัติการหนึ่งเดียวในการประสานสามัคคีโลก และเป็นการประกาศถึงรัชสมัยแห่งธรรมและความยุติธรรมบนโลก…..
ผู้นำศาสนาทั้งหลาย ผู้อธิบายทฤษฎีทางการเมืองทั้งหลาย ผู้ปกครองสถาบันทั้งหลายของมนุษย์ ผู้ซึ่งในปัจจุบันกำลังเป็นพยานด้วยความงงงวยและความท้อแท้ต่อการล้มละลายของความคิดทั้งหลายของพวกเขาและต่อการแตกสลายของงานหัตถกรรมของพวกเขา ควรจะหันสายตาของพวกเขามายังการเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์และคิดคำนึงถึงระบบแห่งโลกอันเป็นที่เทิดทูน ในคำสั่งสอนของพระองค์ซึ่งกำลังผุดขึ้นมาอย่างช้าๆ อย่างมิอาจแลเห็นได้ท่ามกลางความโกลาหลและความไม่มีระเบียบของอารยธรรมในปัจจุบัน พวกเขาต้องไม่มีข้อสงสัยหรือความกังวลเมื่อพิจารณาถึงคุณลักษณะจุดกำเนิดหรือหลักเหตุผลของสถาบันทั้งหลายที่บรรดาผู้สนับสนุนศาสนาบาไฮกำลังก่อสร้างขึ้นทั่วโลก เพราะสิ่งเหล่านี้ตรึงอยู่ในคำสั่งสอนโดยตัวเองซึ่งมิได้ถูกเจือปนและบดบังโดยการอนุมานอย่างไม่สมเหตุหรือการตีความหมายพระวจนะของพระองค์โดยมิได้รับอำนาจ…..
พลังที่กำลังพุ่งอย่างแรงซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาอย่างอัศจรรย์โดยการปฏิบัติการของสองพระศาสดาอิสระและรับช่วงจากกันอย่างฉับพลัน กำลังปรากฏต่อสายตาเราในปัจจุบัน และโดยการดูแลของผู้พิทักษ์ที่รับเลือกทั้งหลายของศาสนาที่แผ่ไฟศาล กำลังก่อร่างอย่างช้าๆ ขึ้นเป็นสถาบันทั้งหลายซึ่งจะได้รับการพิจารณาเป็นดั่งเครื่องหมายและความรุ่งโรจน์ของยุคที่พวกเราได้รับการเรียกร้องให้สถาปนาขึ้นและโดยการกระทำของพวกเราจะคงอยู่ตลอดกาล…..
เป็นการทำให้เข้าใจผิดอย่างยิ่งที่จะพยายามเปรียบเทียบระบบอันพิเศษและคิดขึ้นโดยพระผู้เป็นเจ้านี้กับระบบนานาใดๆ ที่มนุษย์ได้คิดขึ้นในสมัยต่างๆ ในประวัติศาสตร์เพื่อการปกครองสถาบันทั้งหลายของมนุษย์ความพยายามดังกล่าวจะเผยตัวมันเองถึงความขาดการเห็นคุณค่าอย่างสมบูรณ์ในความเลิศของหัตถกรรมของผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นอื่นใดได้เมื่อเราระลึกได้ว่าระบบอันนี้เป็นเช่นแบบแผนของอารยธรรมสวรรค์ซึ่งกฎอันทรงอำนาจของพระบาฮาอุลลาห์ได้รับการมุ่งหมายให้สถาปนาบนโลก ระบบมากมายและเปลี่ยนอยู่ตลอดของวิธีการปกครองของมนุษย์ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน ไม่ว่ากำเนิดมาจากโลกตะวันออกหรือโลกตะวันตก ไม่มีบรรทัดฐานเพียงพอที่จะประเมินอำนาจของความชะงัดที่ซ่อนเร้นอยู่หรือที่จะประเมินความมั่นคงของรากฐาน
สหพันธรัฐบาไฮในอนาคตซึ่งมีระบบบริหารอันไพศาลนี้เป็นโครงร่างเดียว ในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติมิใช่เป็นเพียงสิ่งพิเศษในประวัติศาสตร์ของสถาบันการปกครองทั้งหลายที่ไม่สามารถหาที่เปรียบได้ในประวัติการณ์ของระบบใดๆ ของศาสนาของโลก ไม่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยหรือสาธารณรัฐ ไม่มีแผนคนกลางของระบบชนชั้นสูง ไม่มีแม้แต่แบบอันเป็นที่ยอมรับใดๆ ของการปกครองโดยพระไม่ว่าจะเป็นสหพันธรัฐของฮิบรู คณะนักบวช ต่างๆ ของคริสเตียน ตำแหน่งอิหม่านหรือกาหลิบของอิสลาม สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถแสดงหรือกล่าวได้ว่าตรงกับระบบบริหารของศาสนาบาไฮซึ่งได้รับการออกแบบด้วยความชำนาญของพระผู้ทรงเป็นสถาปนิกที่สมบูรณ์เลิศ
ระบบบริหารที่เกิดใหม่นี้ภายในโครงสร้างนี้ได้รวมองค์ประกอบจำนวนหนึ่งซึ่งพบได้ในแต่ละระบอบการปกครองทางโลกสามระบอบอันเป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าในความหมายใดมิใช่เป็นเพียงรูปจำลองของระบอบใดๆ เหล่านั้น และมิได้นำลักษณะที่คัดค้านได้ใดๆ ที่มีอยู่ในระบอบเหล่านั้นเข้ามาในกลไก อย่างไม่มีการปกครองใดที่ออกแบบโดยมนุษย์ได้เคยบรรลุความสำเร็จตราบจนบัดนี้ ได้ผสมผสานและกลมกลืนสัจจะที่เป็นข้อดีที่มีอยู่ในแต่ละระบบเหล่านี้โดยมิได้ทำให้เสียบูรณภาพของหลักธรรมที่ประทานมาโดยพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นที่ตั้งในท้ายที่สุด
ระบบบริหารของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์มิอาจพิจารณาเป็นดั่งประชาธิปไตยแท้ในลักษณะของมันเนื่องด้วยข้อสมมุติมูลฐานที่ทำให้ประชาธิปไตยทั้งหมดต้องขึ้นกับการได้รับมอบอำนาจจากประชาชนนั้น ไม่มีอยู่ในศาสนานี้ ในการดำเนินธุรกิจบริหารของศาสนาในการออกกฎหมายที่จำเป็นเพื่อเสริมกับกฎทั้งหลายในพระคัมภีร์คีตาบี-อัคดัส ควรระลึกไว้ว่าตามดำรัสของพระบาฮาอุลลาห์ซึ่งแสดงนัยอย่างชัดเจน สมาชิกของสภายุติธรรมสากลมิต้องแสดงเหตุผลต่อบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นตัวแทนอยู่ พวกเขามิได้ถูกครอบงำโดยความรู้สึก โดยความคิดเห็นทั่วไป และแม้โดยความเชื่อมั่นของผู้ที่ซื่อสัตย์จำนวนมากหรือของบรรดาผู้ที่เลือกพวกเขาขึ้นมาโดยตรง พวกเขาต้องปฏิบัติด้วยเจคติแห่งการอธิษฐานตามคำบัญชาและการ กระตุ้นจากมโนธรรมของพวกเขา แท้จริงแล้วพวกเขาต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพทั้งหลายในชุมชน ต้องชั่งใจอย่างเที่ยงธรรมต่อความถูกผิดของเรื่องต่างๆ ที่เสนอมาเพื่อพิจารณา แต่ต้องรักษาสิทธิของพวกเขาเองในการตัดสินใจอย่างอิสระ ?โดยแท้จริงแล้วพระผู้เป็นเจ้าจะทรงดลใจพวกเขาในสิ่งที่พระองค์ปรารถนา? คือคำยืนยันอันมิอาจโต้แย้งได้ของพระบาฮาอุลลาห์ ด้วยประการฉะนี้สมาชิกของสภายุติธรรมสากล มิใช่บรรดาผู้ที่เลือกตั้งพวกเขาโดยทางตรงหรือทางอ้อม ถูกสร้างให้เป็นผู้รับการนำทางจากสวรรค์ซึ่งในเวลาเดียวกันเป็นโลหิตแห่งชีวิตและเป็นเครื่องปกป้องท้ายที่สุดของการเปิดเผยศาสนานี้…..
ระบบบริหารของศาสนาบาไฮมิอาจถูกเลิกไปดั่งระบบที่แข็งและไม่ยืดหยุ่นของเอกาธิปไตยโดยสมบูรณ์หรือดั่งการเลียนแบบอันไร้ค่าของระบอบใดๆ ของการปกครองโดยนักบวชอย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นระบบการปกครองของสันตะปาปา ของอิหม่านหรือสถาบันอื่นที่คล้ายกัน เพราะเหตุผลอันแจ่มชัดว่าผู้แทนที่ได้รับเลือกตั้งระดับนานานชาติของสาวกทั้งหลายของพระบาฮาอุลลาห์ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการออกกฎหมายในเรื่องต่างๆ ที่มิได้เปิดเผยไว้อย่างชัดแจ้งในธรรมนิพนธ์ทั้งหลายของศาสนาบาไฮ ไม่ว่าท่านศาสนภิบาลของศาสนาบาไฮหรือสถาบันอื่นใดที่นอกเหนือไปจากสภายุติธรรมนานาชาติก็มิอาจแย่งชิงอำนาจอันสำคัญและสูงสุดนี้หรือรุกล้ำสิทธิที่ต้องเคารพดังกล่าว การเลิกล้มวิชาชีพการเป็นพระกับการประกอบพิธีรับเข้าเป็นศาสนิกชน การเลิกล้มพิธีศีลมหาสนิทและการสารภาพบาป กฎทั้งหลายที่กำหนด การเลือกตั้งสภายุติธรรมทั้งหมดระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติจากคะแนนเสียงเป็นสากล การปราศจากโดยเด็ดขาดของอำนาจมิชอบพร้อมกับอภิสิทธิ์ การทุจริต และความโน้มเอียงไปทางพิธีรีตองที่ติดมาด้วยกัน-เหล่านี้คือหลักฐานเพิ่มเติมของลักษณะที่มิใช่เอกาธิปไตยของระบบบริหารของศาสนาบาไฮและความโน้มเอียงไปในวิธีทางประชาธิปไตยในการบริหารธุรกิจทั้งหลาย
ระบบที่เป็นอันเดียวกันกับพระนามของพระบาฮาอุลลาห์นี้ต้องไม่เป็นที่สับสนกับระบบใดๆ ของการปกครองโดยชนชั้นสูงในแง่ความจริงที่ว่าในด้านหนึ่งสนับสนุนหลักการสืบทอดจากบรรพบุรุษและมอบหมายหน้าที่ให้แก่ท่านศาสนภิบาลในการตีความหมายของคำสั่งสอนทั้งหลาย และในอีกด้านหนึ่งจัดให้มีการเลือกตั้งอย่างอิสระและโดยตรงจากบรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์ทั้งหลายให้เป็นสภาที่เป็นเช่นองค์นิติบัญญัติสูงสุด
ด้วยเหตุที่ระบบบริหารนี้มิอาจกล่าวได้ว่าได้จำลองมาจากระบบการปกครองใดๆ อันเป็นที่ยอมรับทั้งหลายกระนั้นได้รวมความปรองดองและดูดซึมองค์ประกอบที่เป็นประโยชน์ทั้งหลายที่พบได้ในแต่ละระบบเหล่านั้นเข้าไว้ในโครงร่างของระบบ อำนาจสืบทอดจากบรรพบุรุษที่ท่านศานภิบาลถูกเรียกให้ใช้ หน้าที่ทั้งหลายอันสำคัญและสูงสุดที่สภายุติธรรมสากลปฏิบัติ บทบัญญัติทั้งหลายที่เจาะจงการเลือกตั้งอย่างประชาธิปไตยโดยผู้แทนทั้งหลายที่เจาะจงการเลือกตั้งอย่างประชาธิปไตยโดยผู้แทนทั้งหลายของบรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์-เหล่านี้ร่วมกันสาธิตถึงสัจธรรมที่ระบบที่เปิดเผยจากสวรรค์นี้ได้รวมและผสมผสานเข้ากับหลักธรรมของศาสนาซึ่งเป็นฐานที่ตั้งขององค์ประกอบเกื้อกูลทั้งหลายที่พบได้ในแต่ละระบบเหล่านี้ ซึ่งมิอาจถือได้ว่าเป็นอันเดียวกันกับแบบมาตรฐานใดๆ ของการปกครองที่พาดพิงถึงโดยอริสโตเติ้ลในผลงานของเขา ความชั่วร้ายทั้งหลายที่ยอมรับว่ามีอยู่ในแต่ละระบบเหล่านี้ถูกกันออกไปอย่างเคร่งครัดและถาวร ระบบอันพิเศษนี้ไม่ว่าจะยืนยงอยู่นานเท่าไรหรือแผ่กิ่งก้านกว้างขวางเพียงใดก็ไม่มีวันเสื่อมทรามลงไปเป็นระบอบใดๆ ของการปกครองที่กดขี่ ของคณาธิปไตย หรือการปลุกปั่นประชาชนซึ่งในไม่ช้าก็เร็วต้องสร้างความเสื่อมให้กับกลไกของสถาบันการปกครองทั้งหมดที่บกพร่องมาแต่เดิมที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น….
สำคัญดั่งจุดกำเนิดทั้งหลายของโครงสร้างบริหารอันทรงอำนาจนี้และไม่ว่าลักษณะจะพิเศษเพียงไร เหตุการณ์ทั้งหลายที่อาจกล่าวได้ว่าได้ประกาศถึงการใกล้เข้ามาของการกำเนิดและเป็นสัญญาณบอกถึงระยะเริ่มแรกของการวิวัฒนาการดูเหมือนจะน่าสังเกตไม่น้อยไปกว่ากัน ช่างสะดุดตาและสอนใจเพียงไรในความแตกต่างอันตรงข้ามระหว่าง ขบวนการการสร้างความมั่นคงอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอที่เป็นลักษณะเฉพาะของการเติบโตของความแข็งแรงของวัยทารกกับการพุ่งอย่างแรงอย่างทำลายล้างของพลังการแตกสลายที่กำลังโจมตีสถาบันที่พ้นสมัยทั้งหลายทั้งทางศาสนาและทางโลกในสังคมปัจจุบัน
พลังชีวิตที่สถาบันทั้งหลายของระบบอันยิ่งใหญ่ที่ขยายออกอยู่ตลอดนี้ได้แสดงอย่างแข็งขัน อุปสรรคทั้งหลายที่ความกล้าหาญอย่างสูงและความตั้งใจอย่างไม่เกรงกลัวของผู้บริหารทั้งหลายได้เอาชนะไฟของความกระตือรืนร้นอันมิอาจดับได้ที่คุด้วยความเร่าร้อนอันมิลดถอยในหัวใจของครูเดินทางสอนศาสนาทั้งหลาย ระดับสูงสุดของการเสียสละที่ผู้สนับสนุนทั้งหลายกำลังบรรลุสู่ ?ความกว้างของทรรศนะ ความหวังอันมั่นใจ ความร่าเริงอันสร้างสรรค์ ความสงบภายใน บูรณภาพอันเด็ดเดี่ยว วินัยอันเป็นเยี่ยงอย่าง ความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นอันแข็งแกร่งที่ผู้พิทักษ์ทั้งหลายแสดงออก ระดับที่พระวิญญาณที่ปลุกเร้าแสดงออก ระดับที่พระวิญญาณที่ปลุกเร้าได้แสดงความสามารถในการดูดซึมองค์ประกอบอันแตกต่างทั้งหลายเข้าไว้ในขอบเขต ในการชะล้างองค์ประกอบเหล่านี้เข้ามาในโครงสร้างเอง- เหล่านี้คือหลักฐานทั้งหลายของอำนาจอันหนึ่งซึ่งสังคมที่หลุดพ้นจากความเชื่อผิดๆ และระส่ำระสายอย่างน่าเศร้าไม่สามารถละเลยได้โดยง่าย
จงเปรียบเทียบการแสดงอันงดงามทั้งหลายของพลังที่กระตุ้นสภาที่เต็มไปด้วยชีวิตนี้ของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์กับเสียงร้องไห้และความเจ็บปวด ความโง่เขลาและความไร้สาระ ความขมขื่นและอคติทั้งหลาย ความแตกแยกของโลกที่กำลังเจ็บป่วยและไม่มีระเบียบ จงเป็นพยานต่อความกลัวที่ทรมานผู้นำทั้งหลายของโลกและชะงักการกระทำของรัฐบุรุษที่ตาบอดและงงงวยทั้งหลาย ความเกลียดชังอันดุร้าย ความทะเยอทะยานอันไม่ถูกต้อง การแสวงหาอันน่าสังเวช ความสงสัยอันฝังรากลึกเพียงใดของประชาชนทั้งหลาย เป็นความไม่สงบเพียงใดของการไม่รักษากฎหมาย ความทุจริต ความไม่ศรัทธาศาสนา ที่กำลังกินลึกเข้าไปถึงอวัยวะสำคัญของอารยธรรมที่โอนเอน
ขบวนการของความเสื่อมอันไม่ลดละนี้ซึ่งกำลังบุกรุกอย่างลับๆ เข้าไปแผนกต่างๆ มากมายของกิจกรรมและความคิดของมนุษย์ จะไม่ดั้บการพิจารณาเป็นดั่งสิ่งจำเป็นที่ต้องคู่ไปกับการผุดขึ้นของกองทัพอันทรงอำนาจนี้ของพระบาฮาอุลลาห์หรือ เราจะไม่พิจารณาหรือว่าเหตุการณ์สำคัญทั้งหลายที่ได้ก่อกวนอย่างรุนแรงในทุกทวีปของโลกนั้นเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่เป็นลางที่ประกาศในเวลาเดียวกันถึงความเจ็บปวดของอารยธรรมที่กำลังแตกสลาย และ การคลอดอันเจ็บปวดของระบบแห่งโลกซึ่งเป็นเรือแห่งความรอดพ้นของมนุษยชาติที่จำเป็นต้องผุดขึ้นมาบนความพังทลาย
บทที่ 4
สหพันธรัฐแห่งโลก
ความแตกต่างอันตรงกันข้ามระหว่าง หลักฐานที่สะสมมากขึ้นของการสร้างความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอที่ไปด้วยกันกับการผุดขึ้นของระบบบริหารศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า กับพลังการแตกสลายที่กระหน่ำตีอย่างหนักที่โครงร่างของสังคมที่เหนื่อยยาก เป็นสิ่งที่ชัดเจนและสะดุดตา ทั้งภายในและภายนอกของโลกบาไฮ สัญลักษณ์ทั้งหลายที่กำลังประกาศอย่างลึกลับถึงการใกล้เข้ามาของการกำเนิดของระบบแห่งโลกนี้ซึ่งการสถาปนาจะเป็นสัญญาณบอกถึงยุคทองของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า กำลังทวีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ไม่มีผู้สังเกตการณ์ที่เที่ยงธรรมคนใดอีกต่อไปที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ เขาไม่มีทางถูกหลอกลวงโดยความเชื่องช้าอันเจ็บปวดที่เป็นลักษณะของการคลี่ออกของอารยธรรมที่สาวกทั้งหลายของพระบาฮาอุลลาห์กำลังกตรากตรำสถาปนา เขาไม่มีทางถูกหลอกลวงโดยการแสดงปรากฏเพียงชั่วคราวของความสำเร็จของการเลือกตั้งซึ่งบางครั้งบางคราวดูเหมือนจะสามารถรั้งอำนาจทำลายล้างของความยุ่งยากเรื้อรังที่สร้างความลำบากให้กับสถาบันทั้งหลายของยุคที่กำลังเสื่อมโทรม สัญลักษณ์ทั้งหลายของยุคมีมากมายและมีกำลังผลักดันเกินกว่าที่จะยอมให้เขาเข้าใจผิดหรือดูแคลนความสำคัญ ถ้าเขามีความเที่ยงธรรมในดุลพินิจเขาจะสามารถตระหนักในลูกโซ่ของเหตุการณ์ทั้งหลายซึ่งในด้านหนึ่งประกาศถึงความก้าวหน้าอันมิอาจต้านทานได้ของสถาบันทั้งหลายที่ร่วมสัมพันธ์โดยตรงกับการเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ และในอีกด้านหนึ่งเป็นลางของการล้มทลายของรัฐและประเทศต่างๆ ที่ได้ละเลยหรือต่อต้านศาสนาของพระองค์-เขาจะสามารถตระหนักในเหตุการณ์เหล่านี้ถึงหลักฐานทั้งหมดของการปฏิบัติการของพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่แผ่ซ่านไปทั่วซึ่งเป็นการวางแผนผังของระบบอันสมบูรณ์และครอบคลุมทั่วทั้งโลกของพระองค์
วจนะของพระบาฮาอุลลาห์ประกาศว่า ?ในไม่ช้าระบบปัจจุบันจะถูกม้วนเก็บและระบบใหม่จะแผ่เข้ามาแทนที่ ?โดยแท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าทรงตรัสความจริงและเป็นผู้ทรงรอบรู้ในสรรพสิ่งที่มองไม่เห็นทั้งหลาย? ?พระองค์ทรงยืนยันอย่างแข็งขันว่า ?สมดุลของโลกได้ถูกรบกวนโดยอำนาจสั่นสะเทือนของระบบโลกใหม่และยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ แบบแผนชีวิตของมนุษยชาติได้ถูกปฏิบัติโดยการปฏิบัติการของระบบพิเศษและอัศจรรย์นี้อย่างที่มนุษย์ไม่เคยเป็นพยานมาก่อน? พระองค์ทรงเตือนประชาชนทั้งหลายของโลกว่า ??สัญลักษณ์ทั้งหลายของความโกลาหลอันรุนแรงและความไม่มีระเบียบที่ใกล้จะเกิดขึ้นนั้นสามารถเห็นได้ในปัจจุบันเนื่องด้วยระบบที่มีอยู่ทั่วไปดูเหมือนเป็นสิ่งที่บกพร่องอย่างน่าเศร้า?
ไม่มีกลไกใดที่ปราศจากมาตรฐานที่พร่ำสอนโดยศาสนาบาไฮ และที่ไม่ลงรอยกันแบบแผนอันเลิศที่สุดที่บัญญิติไว้ในคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งถึงแม้ความพยายามร่วมกันของมนุษยชาติจะคิดขึ้นก็ไม่สามารถหวังที่จะบรรลุในสิ่งใดได้เกินไปกว่าสันติภาพรองที่ผู้ก่อตั้งศาสนาของเราได้ทรงพาดพิงถึงในธรรมนิพนธ์ทั้งหลายของพระองค์ พระองค์ได้ทรงจารึกเป็นการกล่าวตักเตือนกษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายของโลกว่า ?บัดนี้เจ้าได้ปฏิเสธสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้าจงยึดมั่นอยู่กับสันติภาพรองนี้เพื่อว่าบางทีเจ้าอาจจะปรับปรุงฐานะของเจ้าเองและผู้ที่ขึ้นอยู่กับเจ้าให้ดีขึ้นมาบ้าง? ?เป็นการสาถกเกี่ยวกับสันติภาพรองนี้พระองค์ได้ทรงดำรัสในธรรมจารึกเดียวกันต่อผู้ปกครองทั้งหลายของโลกว่า ?จงปรองดองกันในหมู่พวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจะไม่ต้องสะสมอาวุธอีกต่อไปเว้นแต่มีไว้เพียงจำนวนหนึ่งเพื่อปกป้องดินแดนและอาณาจักรของเจ้า…ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายของโลก จงสามัคคีกันเพราะด้วยความสามัคคีนั้นจะทำให้พายุแห่งความบาดหมางในหมู่พวกเจ้าสงบลงและประชาชนของเจ้าจะได้พักผ่อนถ้าเจ้าเป็นผู้ที่เข้าใจ หากใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าเตรียมพร้อมจะเข้าปะทะอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเจ้าทั้งหมดจงลุกขึ้นต่อต้านเขาเพราะนี่มิใช่อื่นใดแต่คือความยุติธรรมอันชัดแจ้ง?
ในด้านหนึ่งตามที่วาดไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นสันติภาพที่ต้องเกิดขึ้นต่อมาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เป็นดั่งผลปฏิบัติที่เนื่องมาจากการเสริมสร้างศีลธรรมของโลกและการหลอมเข้าด้วยกันของทุกเชื้อชาติ ทุกหลักความเชื่อ ทุกชนชั้นและทุกชาติ ไม่สามารถตั้งอยู่บนรากฐานอื่นใดได้และไม่สามารถธำรงรักษาไว้ได้โดยการปฏิบัติการใดๆ นอกจากบัญญัติทั้งหลายที่กำหนดโดยพระผู้เป็นเจ้าที่ปรากฏอยู่ในระบบแห่งโลกที่ร่วมสัมพันธ์กับพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในธรรมจารึกของพระองค์ที่เปิดเผยไว้เกือบ 70 ปี ก่อนต่อพระราชินีวิคตอเรีย พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงประกาศเป็นการพาดพิงถึงสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ว่า ?สิ่งที่พระผู้เป็นนายได้ทรงบัญญัติไว้ให้เป็นดั่งการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเครื่องมืออันทรงอำนาจสูงสุดสำหรับการรักษาทั่วทั้งโลกคือการประสานสามัคคีประชาชนทั้งหมดในความมุ่งหมายสากลและในศาสนาเดียวกัน สิ่งนี้ไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้เว้นแต่โดยอำนาจของนายแพทย์ผู้ชำนาญ ผู้ทรงพลานุภาพและผู้ทรงได้รับการดลใจ โดยแท้จริงแล้วนี้คือสัจธรรมและทั้งหมดที่นอกเหนือไปจากนี้มิใช่อื่นใดแต่เป็นความผิดพลาด?? ในอีกธรรมจารึกหนึ่งพระองค์ทรงยืนยันว่า ?เป็นสิ่งเหมาะสมสำหรับมนุษย์ทุกคนในยุคนี้ที่จะยึดมั่นอยู่กับพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุดและสถาปนาเอกภาพของมวลมนุษยชาติ ไม่มีสถานที่ใดที่จะหนีไป ไม่มีที่พึ่งใดที่จะแสวงหาได้นอกจากพระองค์?
การเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ซึ่งภาระหน้าที่อันสูงสุดมิใช่อื่นใดแต่เป็นการบรรลุความสำเร็จในเอกภาพของระบบและศีลธรรมของชาติทั้งหมด หากเราซื่อสัตย์ต่อความหมายของสิ่งนี้ควรได้รับการพิจารณาเป็นดั่งสัญญาณบอกการมาถึงของยุคของมวลมนุษยชาติทั้งหมด ควรได้รับการพิจารณามิเป็นดั่งเพียงการฟื้นฟูศีลธรรมอีกครั้งหนึ่งในโชคชะตาที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดของมนุษยชาติ มิเป็นดั่งเพียงขั้นต่อไปขั้นหนึ่งในลูกโซ่ของการก้าวหน้าสืบเนื่องของการเปิดเผยศาสนา มิเป็นดั่งเพียงการบรรลุสู่จุดสูงสุดของลำดับหนึ่งในอานุกรมของการหวนกลับมาของวัฏจักรทั้งหลายของพระศาสดา แต่เป็นดั่งการบ่งบอกถึงขั้นสุดท้ายและสูงสุดในวิวัฒนาการอันมโหฬารของชีวิตโดยส่วนรวมของมนุษยชาติบนดาวนพเคราะห์นี้ การเผยโฉมออกมาของชุมชนแห่งโลกอันหนึ่ง ความสำนึกในความเป็นพลเมืองของโลก การก่อตั้งอารยธรรมและวัฒนธรรมอันหนึ่งของโลก-ทั้งหมดนี้ต้องเกิดขึ้นพร้อมกับขั้นตอนเริ่มแรกทั้งหลายของการคลี่ออกมาของยุคทองของศาสนาบาไฮ-ซึ่งโดยคุณลักษณะแล้ว ควรได้รับการกพิจารณาเท่าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตบนดาวนพเคราะห์นี้ เป็นดั่งขีดสูงสุดในการจัดระเบียบของสังคมมนุษย์ ถึงแม้ว่ามนุษย์ในส่วนบุคคลแท้จริงแล้วเป็นดั่งผลอันหนึ่งของการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ดังกล่าวจะต้องก้าวหน้าและพัฒนาต่อไปโดยไม่มีกำหนด
การเปลี่ยนแปลงอันลึกลับที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งหมดกระนั้นก็ตามมิอาจนิยามได้ซึ่งเราสัมพันธ์เข้ากับระยะของการพัฒนาเต็มที่อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตส่วนบุคคลและในการพัฒนาของผล ซึ่งถ้าเราเข้าใจวจนะทั้งหลายของพระบาฮาอุลลาห์อย่างถูกต้อง จะต้องมีสิ่งคู่ไปในการวิวัฒนาการของการจัดระเบียบของสังคมมนุษย์ ระยะที่คล้ายกันอันหนึ่งในไม่ช้าก็เร็วต้องบรรลุในชีวิตโดยส่วนรวมของมนุษยชาติซึ่งจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ ที่น่าตะลึงยิ่งกว่าในความสัมพันธ์ทั้งหลายของโลก และประสิทธิ์ประสาทมนุษยชาติทั้งหมดดัวยศักยภาพของความผาสุกอย่างที่จะจัดหาสิ่งกระตุ้นอันสำคัญที่สุดที่จำเป็นให้ไว้ตลอดทุกยุคที่จะสืบต่อมาสำหรับการบรรลุในที่สุดในจุดหมายอันยิ่งใหญ่…..
เฉพาะผู้เต็มใจที่จะสัมพันธ์การเปิดเผยศาสนาที่ประกาศโดยพระบาฮาอุลลาห์กับการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของการวิวัฒนาการอันมโหฬารยิ่งในชีวิตโดยส่วนรวมของมนุษยชาติทั้งหมด ที่จะสามารถเข้าใจความหมายของวจนะทั้งหลายที่พระองค์ขณะที่พาดพึงถึงความรุ่งโรจน์ของยุคแห่งพันธะสัญญานี้และระยะเวลาของยุคของศาสนาบาไฮ ได้ทรงถือวาเป็นการเหมาะสมที่จะกล่าว พระองค์ทรงอุทานว่า ?นี้คือกษัตริย์แห่งยุคทั้งหลาย เป็นยุคที่ได้เห็นการเสด็จมาของพระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง พระผู้ทรงได้รับการโห่ร้องต้อนรับชั่วนิรันดร์เป็นพระผู้ทรงเป็นที่ปรารถนาของโลก? พระองค์ทรงยืนยันต่อไปอีกว่า ?พระคัมภีร์ของศาสนาทั้งหลายในอดีตได้ฉลองวาระแห่งความปีติอันยิ่งใหญ่ซึ่งจำเป็นต้องทักทายยุคอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ของพระผู้เป็นเจ้า ขอความดีจงมีแด่ผู้ที่ได้มีชีวิตอยู่เห็นยุคนี้และได้ยอมรับฐานะนี้?…..
ถึงแม้การเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ได้คลอดออกมาแล้ว ระบบแห่งโลกซึ่งการเปิดเผยศาสนานี้จำเป็นต้องก่อให้เกิดนั้นยังมิได้กำเนิดตราบจนบัดนี้ ถึงแม้ยุคแห่งวีรกรรมของศาสนาของพระองค์ได้ผ่านไปแล้ว พลังงานแห่งการสร้างสรรค์ที่ยุคนี้ได้ปลดปล่อยยังมิได้ก่อรูปตราบจนบัดนี้ขึ้นเป็นสังคมแห่งโลกซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาจะสะท้อนออกมาซึ่งความสว่างไสวของความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ถึงแม้โครงร่างของระบบบริหารของพระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นแล้วและช่วงเวลาแห่งการก่อสร้างระบบของยุคของศาสนาบาไฮได้เริ่มแล้ว กระนั้นอาณาจักรตามพันธะสัญญาซึ่งเมล็ดของสถาบันทั้งหลายของพระองค์จะเติบโตขึ้นนั้น ยังมิได้รับการสถาปนาตราบจนบัดนี้ ถึงแม้เสียงร้องของพระองค์ได้รับการเปล่งขึ้นและธงทั้งหลายของศาสนาของพระองค์ได้รับการชูขึ้นในไม่น้อยกว่า 40 ประเทศทั้งในโลกตะวันออกและโลกตะวันตก กระนั้นความเป็นทั้งหมดเดียวกันของมนุษยชาติยังมิได้รับการยอมรับ เอกภาพยังมิได้รับการประกาศ และธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดยังมิได้รับการชักขึ้นตราบจนบัดนี้…
สำหรับการเปิดเผยความกรุณาอันยิ่งใหญ่ ช่วงเวลาหนึ่งของความยุ่งเหยิงอันรุนแรงและความทุกข์ทรมานที่แผ่อย่างกว้างขวางดูเหมือนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สว่างไสวดั่งยุคที่ได้เป็นพยานต่อการเริ่มต้นภาระหน้าที่ที่พระบาฮาอุลลาห์ได้รับมอบหมาย เวลาที่ต้องล่วงไปก่อนที่ยุคนี้จะออกผลอันเลิศที่สุดจะต้องถูกบังโดยความมืดมนทางศีลธรรมและทางสังคมซึ่งกำลังปรากฏชัดเจนมากขึ้นอย่างที่โดยลำพังจะสามารถเตรียมมนุษยชาติผู้ไม่สำนึกผิดให้พร้อมสำหรับสิ่งมีค่าที่เขาถูกกำหนดให้รับช่วงต่อไป
ปัจจุบันเรากำลังเคลื่อนเข้าสู่ช่วงเวลาดังกล่าวอย่างมั่นคงและอย่างมิอาจต้านทานได้ ท่ามกลางเงามืดทั้งหลายที่รวมกันมากขึ้นรอบๆ เรา เราสามารถมองเห็นแสงอันริบหรี่อย่างเลือนๆ ของอำนาจทางธรรมอันยิ่งใหญ่ของพระบาฮาอุลลาห์ปรากฏขึ้นเป็นพักๆ บนขอบฟ้าของประวัติศาสตร์ สำหรับเรา ประชาชนในยุคของตะวันครึ่งดวงกำลังดำรงชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่อาจได้รับการระบุเป็นดั่งช่วงของการฟักตัวของสหพันธรัฐแห่งโลกที่วาดไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ ได้รับมอบหมายงานซึ่งอภิสิทธิ์อันยิ่งใหญ่นั้นเราไม่สามารถเห็นคุณค่าได้อย่างเพียงพอและความยากลำบากนั้นตราบจนบัดนี้เราสามารถมองเห็นเพียงสลัวๆ ?เราผู้ซึ่งถูกเรียกให้ประสบกับการปฏิบัติการของอำนาจมืดที่ถูกกำหนดให้ปลดปล่อยอุทกภัยแห่งความทุกข์ทรมานอันเจ็บปวด สมควรเชื่อว่าชั่วโมงอันมืดที่สุดที่ต้องนำมาก่อนรุ่งอรุณของยุคทองของศาสนาของเรานั้นยังมาไม่ถึง เข้มดั่งความมืดมนที่ได้ล้อมรอบโลกอยู่ การทดสอบอันทรมานที่โลกต้องได้รับนั้นยังคงอยู่ในระหว่างเตรียมตัวและตราบจนบัดนี้ความมืดก็มิอาจจินตนาการได้ เราอยู่ที่จุดเริ่มต้นของยุคหนึ่งซึ่งความโกลาหลอันรุนแรงประกาศถึงความตายอันเจ็บปวดของระบบเก่าและการคลอดอันเจ็บปวดของระบบใหม่เช่นกัน โดยอำนาจการก่อกำเนิดของศาสนาที่ประกาศโดยพระบาฮาอุลลาห์ อาจกล่าวได้ว่าระบบโลกใหม่นี้ได้ถูกวาดไว้แล้ว ในชั่วขณะนี้เราสามารถประสบกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ของยุคแห่งความเหนื่อยยากอันเป็นยุคที่กำลังรอคอยชั่วโมงที่กำหนดไว้ซึ่งจะสามารถปลดเปลื้องภาระที่แบกอยู่และออกผลอันสวยงามที่สุด
พระบาฮาอุลลาห์ทรงจารึกว่า ?โลกทั้งหมดขณะนี้อยู่ในระยะของการตั้งครรภ์ วันนั้นกำลังใกล้เข้ามาคือวันที่จะออกผลอันประเสริฐสุด วันที่ต้นไม้อันสง่าที่สุดทั้งหลาย ดอกไม้อันมีเสน่ห์ที่สุดทั้งหลาย พระพรอันประเสริฐสุดทั้งหลายจากสวรรค์ จะผลิออกมา?…..
พระอับดุลบาฮาทรงจารึกว่า ?เสียงเรียกร้องของพระผู้เป็นเจ้าเมื่อได้รับการเปล่งขึ้น ได้หายใจชีวิตใหม่เข้าไปในหมู่มนุษยชาติและเติมพลังใหม่เข้าไปในสรรพสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ทั้งหมด เป็นเพราะเหตุนี้โลกจึงได้ถูกไหวความรู้สึกไปถึงส่วนลึกของมัน และหัวใจและมโนธรรมของมนุษย์ทั้งหลายจึงได้รับการกระตุ้น ในไม่ช้าหลักฐานทั้งหลายของการให้ชีวิตใหม่นี้จะถูกเปิดเผยและผู้ที่หลับสนิทจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น?…..
การประสานสามัคคีมนุษยชาติทั้งหมด คือสัญลักษณ์ของระยะที่สังคมมนุษย์กำลังใกล้เข้าไปสู่ในขณะนี้ ความสามัคคีของครอบครัว ของเผ่าพันธุ์ ของนครรัฐ และของชาติได้พยายามจนบรรลุผลสำเร็จและได้รับการสถาปนาโดยบริบูรณ์แล้ว ความสามัคคีของโลกคือเป้าหมายที่มนุษยชาติที่ถูกรังควาญกำลังพยายามมุ่งไปสู่ การสร้างชาติได้สิ้นสุดลงแล้ว อนาธิปไตยที่มีอยู่ในอำนาจสูงสุดของรัฐกำลังเคลื่อนไปสู่จุดสูงสุดอันหนึ่ง โลกที่กำลังเติบโตไปสู่ความสมบูรณ์ต้องละทิ้งความหลงใหลนี้ ยอมรับความเป็นอันหนึ่งเดียวกันและความเป็นทั้งหมดเดียวกันของความสัมพันธ์ทั้งหลายของมนุษย์ และสถาปนา-ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว-กลไกที่สามารถก่อร่างหลักการมูลฐานนี้ของชีวิตได้ดีที่สุด
พระบาฮาอุลลาห์ทรงประกาศว่า ?ชีวิตใหม่อันหนึ่งในยุคนี้กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในประชาชนทั้งหมดของโลก กระนั้นไม่มีใครพบเหตุหรือแลเห็นสิ่งจูงใจ? ดังนี้พระองค์ทรงดำรัสต่อประชาชนในสมัยของพระองค์ว่า ?ดูกร เด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์ จุดประสงค์มูลฐานที่ให้ชีวิตแก่ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าคือการปกป้องผลประโยชน์และส่งเสริมเอกภาพของมนุษยชาติ…นี้คือหนทางตรง คือรากฐานอันไม่เปลี่ยนแปลงและมั่นคง อะไรก็ตามที่ก่อบนรากฐานนี้ การเปลี่ยนแปลงของศตวรรษอันนับไม่ถ้วนก็ไม่สามารถบ่อนทำลายโครงสร้างของมัน? พระองค์ทรงประกาศว่า ?ความผาสุกของมนุษยชาติ สันติภาพ และความปลอดภัยจะไม่สามารถบรรลุได้นอกจากและจนกว่าความสามัคคีจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง? ?ประทีปแห่งเอกภาพ? คือคำประกาศเพิ่มเติมของพระองค์ ?มีอำนาจยิ่งอย่างที่สามารถส่องสว่างได้ทั่วทั้งโลก พระผู้เป็นเจ้าแท้จริงพระองค์เดียว พระผู้ทรงรอบรู้ในสรรพสิ่งทั้งปวง ได้ทรงเป็นพยานต่อสัจธรรมของวจนะเหล่านี้…เป้าหมายนี้เลิศกว่าเป้าหมายอื่นใดทั้งหมดและความใฝ่ฝันนี้คือกษัตริย์แห่งความใฝ่ฝันทั้งปวง? ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ได้ทรงจารึกว่า ??พระผู้ทรงเป็นพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงเมตตา ทรงยึดมั่นความปรารถนาในหัวใจของพระองค์ที่จะเห็นมวลมนุษยชาติทั้งหมดเป็นดั่งวิญญาณและร่างกายเดียวกัน ?เจ้าจงรีบบรรลุให้ได้ส่วนแบ่งในความกรุณาและความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ซึ่งบดบังรัศมีของยุคอื่นๆ ทั้งหมด?
เอกภาพของมนุษยชาติตามที่วาดไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์นั้นแสดงนัยถึงการสถาปนาสหพันธรัฐแห่งโลกอันหนึ่งซึ่งทุกชาติ ทุกเชื้อชาติ ทุกหลักความเชื่อและทุกชนชั้น ถูกประสานเข้าด้วยกันอย่างแน่นแฟ้นและถาวรซึ่งเอกราชของรัฐที่เป็นสมาชิกทั้งหลาย อิสรภาพและการริเริ่มของแต่ละบุคคลที่ประกอบเป็นรัฐเหล่านี้ ได้รับการปกป้องอย่างแน่นอนและสมบูรณ์ เท่าที่เราสามารถมองเห็นได้ สหพันธรัฐนี้ต้องประกอบด้วยสภานิติบัญญัติแห่งโลกอันหนึ่งซึ่งสมาชิกทั้งหลายของสภานิติบัญญัติแห่งโลกอันหนึ่งซึ่งสมาชิกทั้งหลายของสภานี้ในฐานะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากมนุษยชาติทั้งหมดจะควบคุมทรัพยากรทั้งหมดของทุกชาติในที่สุดและออกกฎหมายต่างๆ ที่จำเป็นต่อการควบคุมชีวิต สนองความต้องการและปรับความสัมพันธ์ของเชื้อชาติและประชาชนทั้งหมด คณะบริหารแห่งโลกซึ่งได้รับการหนุนโดยกองกำลังนานาชาติจะดำเนินการตามคำตัดสินทั้งหลายและใช้กฎหมายต่างๆ ที่กำหนดโดยสภานิติบัญญัติแห่งโลกนี้ และจะปกป้องเอกภาพของระบบของสหพันธรัฐทั้งหมด ศาลแห่งโลกอันหนึ่งจะพิจารณาและส่งมอบคำตัดสินสุดท้ายซึ่งมีผลบังคับต่อข้อโต้แย้งทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างองค์ประกอบทั้งหลายของระบบสากลนี้ กลไกอันหนึ่งของการคมนาคมจะได้รับการประดิษฐ์ขึ้นครอบคลุมทั่วโลกซึ่งเป็นอิสระจากอุปสรรคและข้อจำกัดทั้งหลายระหว่างชาติ และทำหน้าที่ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าพิศวงและด้วยความสมบูรณ์ นครหลวงแห่งโลกอันหนึ่งจะปฏิบัติเป็นดั่งศูนย์ควบคุมอารยธรรมของโลกซึ่งเป็นจุดรวมที่พลังสามัคคีทั้งหลายของชีวิตจะมาบรรจบกัน และจากจุดนี้อำนาจกระตุ้นทั้งหลายจะแผ่ออกไป ภาษาแห่งโลกภาษาหนึ่งจะได้รับการประดิษฐ์ขึ้นหรือเลือกจากภาษาที่มีอยู่แล้ว และนำไปสอนในโรงเรียนของชาติทั้งหมดในสหพันธ์เป็นดั่งภาษาเสริมรองจากภาษาเดิมของแต่ละชาติ แบบเขียนแห่งโลก อักษรศาสตร์แห่งโลก แบบเดียวกันและระบบสากลของเงินตราของหน่วยน้ำหนัก ของหน่วยการวัด จะทำให้ง่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่การติดต่อและความเข้าใจในหมู่ชาติและเชื้อชาติทั้งหลาย ในสังคมแห่งโลกดังกล่าววิทยาศาสตร์และศาสนาซึ่งเป็นสองพลังที่มีอำนาจสูงสุดในชีวิตมนุษย์จะปรองดองและร่วมมือและจะพัฒนากลมกลืนไปด้วยกัน ภายใต้ระบบดังกล่าว หนังสือพิมพ์ ขณะที่ให้ขอบเขตอย่างเต็มที่สำหรับการแสดงความเห็นและความเชื่อมั่นทั้งหลายที่แตกต่างกันของมนุษยชาติจะสิ้นสุดการถูกใช้ไปในทางร้ายโดยเล่ห์กลของกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าเป็นของเอกชนหรือสาธารณชนและจะเป็นอิสระจากอิทธิพลของรัฐบาลและประชาชนทั้งหลายที่ต่อสู้โต้เถียงกัน ทรัพยากรทางเศรษฐกิจของโลกจะถูกจัดเป็นระบบ แหล่งวัตถุดิบทั้งหลายจะถูกสูบและนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ตลาดทั้งหลายจะได้รับการประสานและพัฒนา และการกระจายผลผลิตจะได้รับการควบคุมอย่างยุติธรรม
การแข่งขันชิงดี ความเกลียดชัง และกลอุบายทั้งหลายระหว่างชาติจะสิ้นสุดลง ความเป็นปรปักษ์และอคติระหว่างเชื้อชาติจะสิ้นสุดลง ความเป็นปรปักษ์และอคติระหว่างเชื้อชาติจะถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพ ความเข้าใจและการร่วมมือกัน สาเหตุทั้งหลายของการทะเลาะวิวาททางศาสนาจะถูกกำจัดไปอย่างถาวร เครื่องกีดกั้นและข้อจำกัดทางเศรษฐกิจจะถูกเลิกล้มไปโดยสมบูรณ์ ความแตกตางอันเกินควรระหว่างชนชั้นทั้งหลายจะถูกลบไป ความอดอยากในด้านหนึ่งและการสะสมกรรมสิทธิ์อย่างล้นเหลือในอีกด้านหนึ่งจะสาบสูญไป พลังงานมหาศาลที่สิ้นเปลืองไปอย่างโง่เขลาในสงครามไม่ว่าสงครามทางเศรษฐกิจหรือสงครามทางการเมืองจะถูกเก็บไว้เพื่อขยายขอบเขตการประดิษฐ์ของมนุษย์และการพัฒนาทางวิชาการ เพื่อเพิ่มอำนาจการผลิตของมนุษยชาติ เพื่อกำจัดโรค เพื่อขยายการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยกมาตรฐานของสุขภาพ เพื่อฝึกฝนสติปัญญาและขัดเกลาสมองให้บริสุทธิ์ เพื่อทำประโยชน์จากทรัพยากรของโลกที่ไม่ได้ใช้และไม่เคยคาดคิดมาก่อนเพื่อยืดชีวิตมนุษย์ และเพื่อความก้าวหน้าของการปฏิบัติการอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นปัญญา ศีลธรรม และจิตใจของชีวิตของมวลมนุษยชาติทั้งหมด
ระบบสหพันธรัฐแห่งโลกซึ่งปกครองโลกทั้งหมดและใช้อำนาจอันมิอาจทักท้วงได้ต่อทรัพยากรอันไพศาลที่มิอาจจินตนาการได้ ผสมผสานและรวมอุดมคติทั้งหลายของทั้งโลกตะวันออกและโลกตะวันตก เป็นอิสระจากภัยพิบัติของสงครามและความทุกข์ยากทั้งหลาย มุ่งทำประโยชน์จากแหล่งพลังงานที่หาได้ทั้งหมดบนผืนผิวโลก เป็นระบบซึ่งอำนาจถูกทำให้เป็นผู้รับใช้ความยุติธรรม ชีวิตของมันได้รับการค้ำจุนโดยการยอมรับอย่างเป็นสากลในพระผู้เป็นเจ้าเดียวกันและโดยความจงรักภักดีต่อการเปิดเผยศาสนาเดียวกัน-ดังกล่าวนี้คือเป้าหมายที่มนุษยชาติผู้ถูกผลักดันโดยพลังสามัคคีทั้งหลายของชีวิตกำลังเคลื่อนไปสู่
บทที่ 5
ชะตาของมนุษยชาติ
เมื่อเรามองย้อนถอยไกลเข้าไปกว่าอดีตที่พึ่งผ่านมาและสำรวจด้วยวิธีการหยาบเพียงไรก็ตามถึงการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความยุ่งยากให้กับสังคมที่ถูกทรมานเพิ่มมากขึ้น และรำลึกถึงความเครียดทั้งหลายซึ่งโครงร่างของระบบที่กำลังตายอันหนึ่งได้โน้มเอียงไปสู่และมากขึ้นตลอดมา เราได้แต่ประหลาดใจต่อความแตกต่างอันตรงข้ามอย่างชัดเจนที่แสดงออกในด้านหนึ่งโดยหลักฐานที่สะสมมากขึ้นของการคลี่ออกอย่างมีระเบียบและการทวีจำนวนอย่างไม่ขาดสายของการปฏิบัติการต่างๆ ของระบบบริหารที่ได้รับการมุ่งหมายให้เป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าถึงการมาของอารยธรรมของโลก และในอีกด้านหนึ่งโดยการปรากฏทั้งหลายที่เป็นลางแห่งความขัดแย้งทางการเมืองอันรุนแรง แห่งความไม่สงบของสังคม แห่งความเป็นปรปักษ์ระหว่างเชื้อชาติ แห่งความเป็นปรปักษ์ระหว่างชนชั้น แห่งความไม่มีศีลธรรมและไม่มีศาสนา ที่ประกาศอย่างไม่คลุมเครือถึงความผุพังและความพ้นสมัยของสถาบันทั้งหลายของระบบที่ล้มละลาย…..
ตามที่พระบาฮาอุลลาห์ทรงสำรวจชะตาของมนุษยชาติในปัจจุบัน พระองค์ทรงจารึกว่า ?อนิจจา กระแสลมแห่งความสิ้นหวังกำลังพัดมาจากทุกทิศทาง และการทะเลาะวิวาทที่สร้างความแตกแยกและความยุ่งยากให้แก่มนุษยชาติกำลังทวีขึ้นทุกวัน…? ในอีกตอนหนึ่งพระองค์ทรงประกาศว่า ?ชะตาของมันจะเป็นดังกล่าวซึ่งไม่เหมาะสมและบังควรที่จะเปิดเผยในตอนนี้? ในอีกด้านหนึ่งเป็นการเพ่งพิจารณาถึงอนาคตของมนุษยชาติพระองค์ได้ทรงเน้นทำนายในการสัมภาษณ์อันน่าทรงจำของพระองค์กับนายเอ็ดเวิร์ด จี บราวน์ นักวิชาการทางโลกตะวันออกเกี่ยวกับประเทศเปอร์เซียว่า ?การทะเลาะวิวาทอันไร้ประโยชน์และสงครามอันทำลายล้างเหล่านี้จะผ่านพ้นไปและสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดจะบังเกิดขึ้น… การทะเลาะวิวาทเหล่านี้ การหลั่งเลือดและความบาดหมางนี้ต้องสิ้นสุดและมนุษย์ทั้งหมดจะเป็นดั่งวงศ์ตระกูลและครอบครัวเดียวกัน?
ในทำนองเดียวกันพระอับดุลบาฮาได้ทรงจารึกว่า ?ชาติและวงศ์ตระกูลทั้งหมด…จะกลายเป็นชาติหนึ่งเดียว ความเป็นปรปักษ์ทางศาสนาและทางนิกาย ความเป็นศัตรูของเชื้อชาติและประชาชนทั้งหลาย ความแตกแยกในหมู่ชาติต่างๆ จะถูกขจัดไป มนุษย์ทั้งหมดจะยึดมั่นในศาสนาเดียวกัน จะมีความศรัทธาเดียวกัน จะผสมผสานเข้าเป็นเชื้อชาติเดียวกัน และจะกลายเป็นประชาชนหนึ่งเดียว ทั้งหมดจะอาศัยอยู่ในปิติภูมิเดียวกันนั่นคือดาวนพเคราะห์นี้เอง?
สิ่งที่เราเป็นพยานในปัจจุบันในระหว่าง ?วิกฤตการณ์อันร้ายแรงที่สุดนี้ในประวัติศาสตร์ของอารยธรรม? ได้รำลึกถึงสมัยที่ ?ศาสนาทั้งหลายได้ตายและกำเนิด? คือระยะวัยรุ่นของการวิวัฒนาการอย่างช้าๆ และเจ็บปวดของมนุษยชาติเป็นการเตรียมตัวบรรลุสู่วัยผู้ใหญ่อันเป็นวัยของการพัฒนาเต็มที่ซึ่งเป็นพันธะสัญญาที่อยู่ในคำสั่งสอนและเป็นที่เทิดทูนอยู่ในคำทำนายทั้งหลายของพระบาฮาอุลลาห์ ความโกลาหลของยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นลักษณะของความหุนหันพลันแล่นและสัญชาตญาณที่ปราศจากเหตุผลของเยาวชน ของความโง่เขลา ความสุรุ่ยสุร่าย ความหยิ่ง ความเชื่อมั่นในตนเอง ความดื้อดึง และความไม่เคารพต่อวินัยของเยาวชน
ยุคของวัยทารกและวัยเด็กของมนุษยชาติได้ผ่านไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมาอีก ส่วนยุคอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของทุกยุคซึ่งต้องเป็นสัญญาณบอกถึงการมาของยุคของมวลมนุษยชาติทั้งหมดนั้น จะต้องมาถึง ความโกลาหลของช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอันรุนแรงที่สุดในประวัติการณ์ของมนุษยชาตินี้จำเป็นต้องนำมาก่อน และประกาศถึงการใกล้เข้ามาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ของยุคแห่งยุคทั้งหลาย เป็น ?เวลาของการสิ้นสุด? ซึ่งความโง่เขลาและความโกลาหลของการทะเลาะวิวาทซึ่งตั้งแต่รุ่งอรุณของประวัติศาสตร์ได้สร้างความมืดมนให้กับประวัติการณ์ของมนุษยชาติ จะถูกเปลี่ยนสภาพในที่สุดเป็นความสุขุมและความสงบของสันติภาพสากลที่ยั่งยืนและไม่ถูกรบกวน ซึ่งความบาดหมางและการแยกจากกันของเด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์จะเปิดทางไปสู่การปรองดองที่แผ่ไปทั่วโลกและการประสานสามัคคีอย่างสมบูรณ์ขององค์ประกอบมากมายของสังคมมนุษย์
แท้จริงแล้วนี้จะเป็นจุดสูงสุดอันเหมาะสมของขบวนการร่วมประสานที่เริ่มต้นด้วยครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดของการรวบรวมมนุษย์ และหลังจากที่ได้ก่อสร้างเผ่าพันธุ์ นครรัฐและชาติสืบเนื่องกันมา ต้องปฏิบัติการต่อไปจนกว่าจะถึงจุดสูงสุดในการประสานสามัคคีโลกทั้งหมดซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายและเป็นความรุ่งโรจน์ยอดสุดของการวิวัฒนาการของมนุษยชาติบนดาวนพเคราะห์นี้ คือระยะนี้ซึ่งมนุษยชาติจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจกำลังใกล้เข้าไปสู่อย่างมิอาจต้านทานได้ คือเพื่อระยะนี้ซึ่งการทดสอบอันไพศาลและร้อนแรงที่มนุษยชาติกำลังประสบอยู่กำลังเตรียมหนทางไว้ให้อย่างลึกลับ คือระยะนี้ซึ่งโชคชะตาและจุดประสงค์ของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์เชื่อมโยงอยู่อย่างมิอาจสลายออกได้ คือพลังงานแห่งการสร้างสรรค์ที่การเปิดเผยศาสนาของพระองค์ได้ปลดปล่อย… ที่ได้ใส่เข้าไปในมนุษยชาติทีละน้อยด้วยความสามารถที่จะบรรลุถึงระยะสุดท้ายนี้ในการวิวัฒนาการทางระบบร่วมกัน คือยุคทองของศาสนาของพระองค์ซึ่งการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของขบวนการนี้จะร่วมสัมพันธ์ตลอดไป คือโครงสร้างของระบบโลกใหม่ของพระองค์ที่กำลังเคลื่อนไหวในปัจจุบันอยู่ในครรภ์ของสถาบันบริหารทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้น ซึ่งจะใช้เป็นดั่งแบบแผนและศูนย์กลางของสหพันธรัฐแห่งโลกดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งแน่นอนและเป็นชะตาอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ของประชาชนและชาติทั้งหลายของโลก
ดั่งการวิวัฒนาการทางระบบของมนุษยชาติที่ได้เป็นไปอย่างช้าๆ และทีละน้อยและนำไปสู่การประสานสามัคคีสืบเนื่องกันมาของครอบครัว เผ่าพันธุ์ นครรัฐ และชาติ เช่นเดียวกัน แสงสว่างที่ประทานโดยการเปิดเผยศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าในระยะต่างๆ ?ของวิวัฒนาการของศาสนา และที่สะท้อนอยู่ในศาสนาทั้งหลายในอดีตที่สืบเนื่องกันมา ก็ก้าวหน้าไปอย่างช้าๆ แท้จริงแล้วระดับของการเปิดเผยศาสนาของพระผู้เป็นจ้าในทุกยุค ได้ถูกปรับและเป็นสัดส่วนเหมาะสมกับระดับของความก้าวหน้าทางสังคมที่บรรลุถึงในยุคนั้นโดยมนุษยชาติที่วิวัฒน์อยู่เสมอ
พระบาฮาอุลลาห์ทรงอธิบายว่า ??เป็นการบัญชาโดยเราว่าพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าและศักยภาพทั้งหมด จะถูกแสดงต่อมนุษย์ตรงกันอย่างแท้จริงกับสภาพทั้งหลายดังที่ได้บัญญัติไว้ก่อนแล้วโดยพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงปรีชาญาณ…หากพระวจนะได้รับอนุญาตให้ปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดที่แฝงอยู่โดยทันที จะไม่มีใครสามารถทานต่อน้ำหนักการเปิดเผยศาสนาอันทรงอำนาจยิ่ง? พระอับดุลบาฮาได้ทรงยืนยันเป็นการชี้แจงสัจธรรมนี้ว่า ?สรรพสิ่งทั้งหมดที่ถูกสร้างสรรค์ระดับหรือขั้นของการพัฒนาเต็มที่ ระยะของการพัฒนาเต็มที่ของต้นไม้คือเวลาของการออกผล…สัตว์บรรลุสู่ระยะหนึ่งของการเติบโตเต็มที่และในอาณาจักรมนุษย์ มนุษย์บรรลุสู่การพัฒนาเต็มที่เมื่อแสงสว่างแห่งปัญญาของเขาบรรลุถึงความสามารถและการพัฒนาอันยิ่งใหญ่ที่สุด…ในทำนองเดียวกันมีระยะและขั้นต่างๆ ของชีวิตโดยส่วนรวมของมนุษยชาติ ?ในเวลาหนึ่งกำลังผ่านระยะของวัยเด็ก ในอีกเวลาหนึ่งระยะของเยาวชน และปัจจุบันได้เข้ามาสู่ระยะของการพัฒนาเต็มที่ที่ได้ทำนายไว้นานแล้วซึ่งหลักฐานทั้งหลายปรากฏชัดอยู่ทุกแห่งหน…สิ่งที่นำมาใช้ได้กับความต้องการทั้งหลายของมนุษย์ในช่วงประวัติศาสตร์ตอนต้นของเชื้อชาติ ไม่สามารถสนองความต้องการทั้งหลายในปัจจุบันนี้ได้ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความใหม่และการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ มนุษยชาติได้โผล่ขึ้นมาจากสภาพแต่ก่อนของความจำกัดและการฝึกหัดเบื้องต้น ?บัดนี้มนุษย์ต้องเปี่ยมไปด้วยคุณความดีและความสามารถใหม่ มาตรฐานของศีลธรรมใหม่ สมรรถภาพใหม่ พระกรุณาใหม่และอภินันท์อันสมบูรณ์กำลังคอยและได้โจมตีเขาแล้ว พรสวรรค์หรือพระพรของระยะของเยาวชนถึงแม้เคยเหมาะกับเวลาและเพียงพอในช่วงวัยรุ่นของมนุษยชาติ มาบัดนี้ไม่สามารถสนองสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาเต็มที่?…
นี่คือระยะซึ่งโลกกำลังใกล้เข้าไปในปัจจุบัน เป็นระยะของเอกภาพของโลกซึ่งตามที่พระอับดุลบาฮาทรงยืนยันแก่เรา จะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคงในศตวรรษนี้ พระบาฮาอุลลาห์เองทรงยืนยันว่า ?ภาษาของพระผู้ทรงความสง่างาม…ในยุคของการแสดงปรากฏของพระองค์ได้ ประกาศว่า: เขาไม่ควรโอ้อวดว่าเขารักประเทศของตนแต่เขาควรที่จะรักโลก? พระองค์ทรงเพิ่มเติมว่า ?โดยอำนาจที่ปลดปล่อยโดยวจนะอันสูงส่งเหล่านี้พระองค์ได้ทรงให้แรงกระตุ้นใหม่และจัดทิศทางใหม่เพื่อช่วยเหลือวิหคของหัวใจทั้งหลายของมนุษย์ และได้ทรงลบร่องรอยทั้งหมดของข้อจำกัดและการจำกัดออกจากพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า?
อย่างไรก็ตามถ้อยคำหนึ่งแห่งการเตือนควรได้รับการกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความรักในประเทศของตนซึ่งได้รับการปลูกฝังและเน้นโดยคำสั่งสอนของศาสนาอิสลามเป็นดั่ง ?ลักษณะเด่นของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า? โดยการประกาศนี้โดยเสียงเรียกร้องนี้ของพระบาฮาอุลลาห์ มิได้ถูกตำหนิหรือดูหมิ่น แท้จริงแล้วไม่สามารถถือได้ว่าเป็นดั่งการปฏิเสธหรือได้รับการพิจารณาในแง่การติเตียนที่ประกาศต่อต้านความรักชาติอย่างมีสติและฉลาด มิได้พยายามจะบั่นทอนความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ของบุคคลใดที่มีต่อประเทศของเขา มิได้ขัดแย้งกับความใฝ่ฝัน สิทธิ และหน้าที่อันถูกต้องสมควรของรัฐหรือชาติใด ทั้งหมดที่แสดงนัยและประกาศคือความไม่เพียงพอของความรักชาติในแง่ของการเปลี่ยนแปลงมูลฐานทั้งหลายที่เกิดขึ้นในชีวิตทางเศรษฐกิจของสังคมและการพึ่งพาอาศัยกันของชาติทั้งหลาย และเป็นดั่งผลของการหดเข้ามาของโลกโดยการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของวิธีการขนส่งและการคมนาคม ซึ่งเป็นสภาพที่มิได้มีอยู่และไม่สามารถอยู่ในสมัยของพระเยซูคริสต์หรือพระโมฮัมหมัด เรียกร้องให้มีความจงรักภักดีที่กว้างขวางกว่าซึ่งแท้จริงแล้ว มิได้ขัดแย้งกับความจงรักภักดีเดิมทั้งหลาย ปลูกฝังความรักซึ่งในแง่ขอบเขต ต้องรวมความรักในประเทศของตนเข้าไว้และต้องไม่กันความรักประเทศของตน โดยความจงรักภักดีนี้ที่สูดเข้าไปและโดยความรักนี้ที่ซึมซาบ วางรากฐานเพียงอันเดียวที่ความคิดแห่งความเป็นพลเมืองของโลกสามารถตั้งอยู่ได้ อย่างไรก็ตามยืนกรานในความเป็นรองของความสำคัญของชาติและผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ต่อการเรียกร้องจำเป็นและสำคัญที่สุดของมนุษยชาติโดยทั้งหมด เนื่องด้วยในโลกแห่งการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างชาติและประชาชนทั้งหลายโดยวิธีดีที่สุดผลประโยชน์ของกลุ่มหนึ่งต้องได้มาจากผลประโยชน์ร่วมของทั้งหมด
ในความเป็นจริงแล้วโลกกำลังเคลื่อนไปสู่จุดหมายของมัน ไม่ว่าสิ่งใดที่ผู้นำทั้งหลายของกองกำลังที่สร้างความแตกแยกของโลกอาจพูดหรือกระทำ การพึ่งพาอาศัยกันระหว่างประชาชนและชาติทั้งหลายของโลก เป็นความจริงที่บรรลุความสำเร็จแล้ว เอกภาพในวงเศรษฐกิจเป็นที่เข้าใจและยอมรับในปัจจุบัน ความผาสุกของกลุ่มหนึ่งหมายถึงความผาสุกของทั้งหมด และความทุกข์ของกลุ่มหนึ่งนำความทุกข์มาสู่ทั้งหมด ในวจนะของพระบาฮาอุลลาห์เอง การเปิดเผยศาสนาของพระองค์ได้ ?ให้แรงกระตุ้นใหม่และจัดทิศทางใหม่? ?เพื่อช่วยเหลือขบวนการอันไพศาลที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในโลกปัจจุบัน ?ไฟเผาผลาญที่จุดขึ้นโดยการทดสอบอันยิ่งใหญ่นี้เป็นผลมาจากความล้มเหลวของมนุษย์ทั้งหลายที่มองไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้นไฟเหล่านี้กำลังเร่งการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ ความเป็นปรปักษ์ที่ต่อเนื่องกันมานานที่แผ่ไปทั่วโลก ที่สร้างความยุ่งยาก ที่เกี่ยวดองกับความไม่มีระเบียบและการทำลายล้างทั่วทุกแห่ง จำเป็นต้องสร้างความโกลาหลอันรุนแรงให้กับชาติทั้งหลาย กระตุ้นมโนธรรมของโลก ปลดเปลื้องความเชื่อผิดๆ ของประชาชน เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงรากในความคิดของสังคมและในท้ายที่สุดเชื่อมแขนขาทั้งหลายของมนุษยชาติที่หลุดจากข้อและตกเลือดเข้าเป็นร่างกายเดียวกันซึ่งเป็นหนึ่งเดียว ประสานกันอย่างเป็นระบบ และมิอาจแบ่งแยกได้
ต่อลักษณะทั่วไป ต่อความหมายและลักษณะเด่นของสหพันธรัฐแห่งโลกนี้ซึ่งถูกกำหนดในไม่ช้าก็เร็วให้เผยออกมาจากการสังหารผลาญชีวิตมากมาย จากความเจ็บปวด และจากความพินาศพังทลายของความโกลาหลของโลกอันยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งเราได้พาดพิงถึงไว้แล้วในจดหมายฉบับก่อนๆ เพียงพอที่จะกล่าวได้ว่าการบรรลุสู่จุดสมบูรณ์นี้โดยคุณลักษณะของมันจะเป็นขบวนการที่ดำเนินไปทีละน้อยและตามที่พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงคาดการณ์ไว้ ต้องนำไปสู่การสถาปนาสันติภาพรองดังกล่าวก่อนซึ่งชาติทั้งหลายของโลกจะยังไม่ทราบถึงการเปิดเผยศาสนาของพระองค์และโดยไม่เจตนาจะบังคับใช้หลักการทั่วไปทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงแถลงไว้ และจะสถาปนาขึ้นโดยพวกเขาเอง ขั้นตอนสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งจะนำไปสู่การผดุงขึ้นใหม่ของมนุษยชาติเป็นดั่งผลของการยอมรับอย่างเป็นสากลในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความเป็นทั้งหมดเดียวกันของมนุษยชาติ จะนำมากับระลอกของมันคือการเสริมสร้างศีลธรรมของประชาชนอันเป็นผลมาจากการยอมรับลักษณะและคำกล่าวอ้างของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขอันจำเป็นต่อการหลอมเข้าด้วยกันในท้ายที่สุดของทุกเชื้อชาติ ทุกหลักความเชื่อ ทุกชนชั้น และทุกชาติ ซึ่งต้องเป็นสัญญาณบอกถึงการเผยออกมาของระบบโลกใหม่ของพระองค์
เมื่อนั้นการมาถึงของยุคของมวลมนุษยชาติทั้งหมดจะได้รักการประกาศและเฉลิมฉลองโดยประชาชนและชาติทั้งหมดของโลก เมื่อนั้นธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดจะได้รับการชักขึ้น เมื่อนั้นอำนาจสูงสุดที่แผ่ไปทั่วโลกของพระบาฮาอุลลาห์ ผู้สถาปนาอาณาจักรของพระบิดาที่ทำนายไว้โดยพระบุตรและคาดการณ์ไว้โดยศาสนทูตทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าที่เสด็จมาก่อนและหลังพระองค์จะได้รับการยอมรับ โห่ร้องต้อนรับ และสถาปนาอย่างมั่นคง ?เมื่อนั้นอารยธรรมของโลกจะกำเนิดเจริญขึ้นและคงอยู่ตลอดกาล ซึ่งเป็นอารยธรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตอย่างที่โลกไม่เคยเห็นหรือสามารถจินตนาการได้ตราบจนบัดนี้ เมื่อนั้นพระปฏิญญาอันเป็นอมตะจะบรรลุในความสมบูรณ์ เมื่อนั้นพันธะสัญญาอันเป็นที่เทิดทูนอยู่ในพระคัมภีร์ทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการปฏิบัติตาม คำทำนายทั้งหมดที่กล่าวไว้โดยศาสนทูตทั้งหลายในอดีตจะบังเกิดขึ้น นิมิตของผู้เห็นการณ์ไกลและกวีทั้งหลายจะเป็นจริง เมื่อนั้นดาวนพเคราะห์ที่ได้รับการกระตุ้นโดยความเชื่อสากลของบรรดาผู้อาศัยอยู่ในพระผู้เป็นเจ้าเดียวกัน และโดยความจงรักภักดีของพวกเขาต่อการเปิดเผยศาสนาเดียวกันจะสะท้อนภายในขีดที่ถูกกำหนดถึงความรุ่งโรจน์อันสว่างไสวของอำนาจสูงสุดของพระบาฮาอุลลาห์ที่ส่องแสงแห่งความงดงามอย่างเต็มที่ในสวรรค์อับฮา และจะถูกสร้างให้เป็นม้าสำหรับรองเท้าของบัลลังก์สวรรค์ของพระองค์ และจะได้รับการโห่ร้องต้อนรับเป็นดั่งสวรรค์บนโลกซึ่งสามารถบรรลุจุดหมายอันยิ่งใหญ่อย่างเหลือที่จะพรรณนาที่กำหนดไว้ตั้งแต่บรมโบราณโดยความรักและความปรีชาญาณของพระผู้สร้าง
มิใช่เรา มนุษย์ผู้อ่อนแอ ที่จะพยายามในระยะวิกฤติยิ่งของประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติอันยาวนานและเต็มไปด้วยโชคชะตาที่ขึ้นๆ ลงๆ ที่จะเข้าใจอย่างถูกต้องและน่าพอใจในขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องนำทางสืบเนื่องกันไปให้กับมนุษยชาติ-ที่กำลังตกเลือด ลืมพระผู้เป็นเจ้าอย่างน่าสังเวช และไม่ใส่ใจต่อพระบาฮาอุลลาห์-จากสถานที่ตรึงไม้กางเขนไปถึงการฟื้นคืนชีพในท้ายที่สุด มิใช่เราผู้เป็นพยานต่ออำนาจที่เหนือทุกสรรพสิ่งของศาสนาของพระองค์ที่จะสงสัย-แม้ชั่วขณะหนึ่งและแม้ความทุกข์ยากอันมืดมนเพียงไรได้ปกคลุมโลก-ในความสามารถของพระบาฮาอุลลาห์ที่จะตีชิ้นส่วนเหล่านี้ของโลกอันวิปริตซึ่งกระจัดกระจายและทำลายซึ่งกันและกันบนทั่งตีเหล็กแห่งยุคอันเหนื่อยยากนี้ ด้วยค้อนแห่งพระประสงค์ของพระองค์และโดยไฟแห่งความทุกข์ยากและในรูปเฉพาะที่พระองค์ได้ทรงคิดไว้ ให้เป็นหน่วยหนึ่งเดียวกัน มั่นคงและมิอาจแบ่งแยกได้ และสามารถปฏิบัติตามความมุ่งหมายของพระองค์ต่อเด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์
ไม่ว่าภาพเหตุการณ์จะสับสนเพียงไร ไม่ว่าภาพของปัจจุบันจะน่าสลดเพียงไร ไม่ว่าหนทางที่เรามีอยู่จะถูกจำกัดเพียงไร เป็นหน้าที่ของเราที่จะตรากตรำอย่างสงบ อย่างมั่นใจ และอย่างไม่หยุดหย่อน ที่จะมีส่วนร่วมในหนทางใดก็ตามที่สภาพแวดล้อมจะอำนวยในการช่วยเหลือการปฏิบัติการของพลังทั้งหลาย ซึ่งตามที่จัดลำดับและบัญชาการโดยพระบาฮาอุลลาห์ กำลังนำมนุษยชาติออกจากหุบเขาแห่งความทุกข์ยากและความละอายไปสู่ยอดเขาอันสูงส่งแห่งอำนาจและความรุ่งโรจน์